The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 557
The Dark King – Chapter 557 กำแพงน้ำแข็ง
หลังจากขึ้นมาบนฝั่งเทียนก็หันไปมองรอบๆ มันเป็นชั้นใต้ดินของอาคารที่ถูกล้อมรอบด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กที่ถล่มลงมา แต่ไม่ได้ทับถมชั้นใต้ดินไปจนหมดทำให้เกิดพื้นที่โล่งขนาดสิบตารางเมตรและมีความสูงประมาณสองเมตร
ถัดไปจากคอนกรีตที่ถล่มกระจัดกระจายมีรถยนต์ที่จมอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ก่อนที่จะเข้ามาเขาสังเกตเห็นว่าช่องทางระบายน้ำนั้นเชื่อมต่อกับชั้นใต้ดินของอาคารที่ถล่ม จากโครงสร้างของอาคารมีเพียงส่วนรากฐานเท่านั้นที่ยังมีสภาพที่สมบูรณ์ ถัดจากสิ่งก่อสร้างแห่งนี้มีเศษซากคอนกรีตที่ทับถมกันจนกบายเป็นภูเขาขนาดเล็ก ที่นี่เป็นที่ซ่อนที่ดีที่สุดเท่าที่เขาสามารถหาได้ในตอนนี้
เทียนละสายตากลับมาจากนั้นเขาก็วางร่างของไอช่าลงบนพื้นและตรวจดูบาดแผลบริเวณหลังของเธอ ผ้าพันแผลถูกย้อมไปด้วยเลือดเกือบทั้งหมดเนื่องจากแผลถูกแช่ในน้ำที่เต็มไปด้วยรังสี
เทียนเปิดกระเป๋าเป้ของเขาออกในทันที หยิบโพแทสเซียมไนเตรตและผ้าพันแผลออกมาจากข้างล่างสุดของกระเป๋าเป้ เขาถอดชุดเกราะของเธอออกและพันผ้าพันแผลให้หลังจากที่เช็ดน้ำออกจากบริเวณบาดแผลของเธอเรียบร้อยแล้ว
หลังจากพันแผลให้เธอเรียบร้อยแล้ว เทียนก็เททุกอย่างที่อยู่ในกระเป๋าเป้ของเขาออกมาทั้งหมด จากนั้นเขาก็ใช้กระเป๋าเป้ตักน้ำขึ้นมาจากช่องระบายน้ำ
กระเป๋าเป้สะพายหลังของเขาสามารถกันน้ำได้ เทียนใช้กระเป๋าเป้ตักน้ำขึ้นมาจนเต็มและสาดน้ำลงไปบนบล็อคคอนกรีตบริเวณรอบๆ บล็อกคอนกรีตเหล่านี้กลายเป็นโคลนเมื่อเขาสาดน้ำใส่ มีแท่งเหล็กโผล่ออกมาจากบล็อกคอนกรีตมันสึกกร่อนและเต็มไปด้วยสนิม
“น่าจะเพียงพอแล้ว” เทียนวางมือจากการตักน้ำและเริ่มใช้ความคิด เขาวางกระเป๋าเป้สะพายหลังจากนั้นหยิบโพแทสเซียมไนเตรตขึ้นมา 2 ก้อน หลังจากบดมันให้เป็นผงเรียบร้อยแล้วเขาก็ค่อยๆเทมันลงไปในกระเป๋าเป้สะพายหลังที่ภายในเต็มไปด้วยน้ำและเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลงของน้ำภายในกระเป๋า
เมื่อโพแทสเซียมไนเตรทสัมผัสกับผิวน้ำก็เกิดปฏิกิริยาดูดความร้อนขึ้นมาในทันที น้ำในกระเป๋าเป้สะพายหลังค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวและแข็งตัวในเวลาต่อมา
เทียนคว่ำกระเป๋าลงจากนั้นน้ำแข็งรูปทรงกระเป๋าเป้สะพายหลังก็ร่วงหล่นลงมา
“ใช้โพแทสเซียมไนเตรตมากเกินไป” เขาสังเกตน้ำแข็งก้อนนั้นและวางมันลงบนพื้น จากนั้นก็ใช้กระเป๋าเป้ตักน้ำขึ้นมาและทำการบดโพแทสเซียมไนเตรตอีกครั้ง ในครั้งนี้เทียนเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลงของน้ำเมื่อเขาผสมโปแตสเซียมไนเตรตลงไปทีละเล็กน้อยเพื่อป้องกันการสูญเสียมันโดยเปล่าประโยชน์
หลังจากเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง เขาสร้างก้อนน้ำแข็งขึ้นมามากกว่า 50 ก้อนซ้อนกันสูงตั้งอยู่รอบๆตัวเขา เทียนหยุดทำน้ำแข็งและย้ายพวกมันไปไว้ที่บริเวณซากคอนกรีตที่พังทลายลงมา เขาใช้น้ำแข็งแทนก้อนอิฐสร้างกำแพงที่มีรูปทรงคล้ายไข่ตามขอบของซากคอนกรีตแห่งนี้
เมื่อเทียนเห็นว่ากำแพงที่เขาสร้างขึ้นมาไม่สามารถปิดพอดีกับคอนกรีตที่พังทลายลงมา เขาวัดช่องว่างที่เกิดขึ้นและทำน้ำแข็งที่มีขนาดและลักษณะพอดีกับช่องว่างขึ้นมา จากนั้นก็สอดมันเข้าไปเพื่อปิดช่องว่างนั้น
เมื่อปริมาณ 2 ใน 3 ของโพแทสเซียมไนเตรทถูกนำมาใช้ กำแพงน้ำแข็งก็เสร็จสมบูรณ์ในที่สุด
จากนั้นเขาก็ใช้กระเป๋าเป้สะพายหลังตักน้ำขึ้นมาอีกครั้งและเทน้ำลงไปบนกำแพงน้ำแข็งจากข้างบนให้ไหลลงไปข้างล่าง น้ำที่ไหลลงมาค่อยๆแข็งตัวและปิดผนึกช่องว่างระหว่างก้อนน้ำแข็งได้อย่างสมบูรณ์เพื่อป้องกันไม่ให้ลมสามารถพัดเข้าไปข้างในได้
เทียนรู้สึกเหนื่อยมากจึงนั่งลงบนพื้นแต่เขาไม่รู้สึกร้อนหรือมีเหงื่อออกมาเลย ร่างกายของเขากลับรู้สึกหนาวเหน็บและมือของก็รู้สึกชาจากการจับน้ำแข็ง เขาหันไปมองไอช่าที่ยังคงนอนไม่ได้สติอยู่บนพื้น
ใบหน้าของเธอซีดราวกับไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยงและคิ้วของเธอก็ขมวดขึ้นดูเหมือนว่าเธอจะอึดอัดและทรมาณอย่างมาก
เขาพยุงร่างที่อ่อนล้าของเธอขึ้นมาและตรวจดูบาดแผล บนผ้าพันแผลมีเลือดไม่มากนักดูเหมือนว่าบาดแผลจะมีอาการที่ดีขึ้นเล็กน้อย
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้ว่าอาการของเธอจะอยู่ตัวแต่เขาไม่สามารถรักษาพิษที่แพร่กระจายภายในร่างกายของเธอได้ เขาทำได้เพียงเฝ้าดูโดยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
ในเวลาเดียวกันร่างกายของเขาก็สั่นเทาจากอากาศหนาวเย็นที่มาจากกำแพงน้ำแข็ง เขาไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ถูฝ่ามือตัวเองเพื่อบรรเทาความหนาวแม้ช่วยได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เทียนรู้สึกตกใจขึ้นมาในทันทีเมื่อมือขวาของเขาสัมผัสกับมือซ้าย เขารู้สึกราวกับว่ากำลังสัมผัสกับน้ำแข็งก้อนหนึ่งและดูเหมือนว่าอุณหภูมิจะต่ำกว่าน้ำแข็งเสียอีก เขามองไปที่มือซ้ายและสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย สีผิวบริเวณมือซ้ายของเขาดูซีดผิดปกติและผิวสีขาวซีดนี้แตกต่างจากผิวขาวธรรมดามากมันขาวราวกับหิมะ
“ฉันอยู่ที่นี่ได้อีกไม่นาน” เขาหันไปมองไอช่าที่ยังไม่ได้สติ “ผมทำได้แค่ลองเสี่ยงดูเท่านั้นและหวังว่าคุณจะสามารถทนต่อความหนาวเย็นนี้ได้”
เขาเติมน้ำและเริ่มทำก้อนน้ำแข็งขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากทำน้ำแข็งขึ้นมา 6 ก้อนเขาวัดความยาวความกว้างและประกอบมันเข้าด้วยกัน จากนั้นเขาก็เทน้ำลงมาจากด้านบนเพื่อให้ก้อนน้ำแข็งประสานติดกัน ในไม่ช้าน้ำแข็งหนาประมาณ 30 เซนติเมตรก็ถูกสร้างขึ้นมา
เขาวางเตียงน้ำแข็งไว้ตรงกลางภายในกำแพงจากนั้นก็อุ้มไอช่าขึ้นไปบนเตียงปล่อยให้ร่างของเธอนอนราบ เพื่อให้แน่ใจว่าการไหลเวียนเลือดของเธอไม่หยุดชะงัก
“ผมหวังว่าอุณหภูมิที่หนาวเย็นนี้จะช่วยชะลอการแพร่กระจายของพิษได้ … ” เขามองไอช่าอย่างลึกซึ้งและถอนหายใจออกมา เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อและเธออาจหนาวตายได้ แต่เทียนไม่ละทิ้งความหวังเขาหวังเพียงว่าร่างกายอันทรงพลังของเธอจะสามารถต้านทานอุณหภูมิที่หนาวเหน็บนี้ได้
เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะอยู่กับเธอที่นี่เพราะที่แห่งนี้เขาไม่สามารถอาศัยอยู่เป็นระยะเวลานานได้ โรคเกล็ดเลือดน้ำแข็งในร่างกายของเขาเริ่มมีอาการกำเริบออกมา หากเขายังคงอยู่ที่นี่ต่อไปเขาอาจจะแข็งตายได้
เมื่อเทียนหันหลังกลับไปก็พบกับริมฝีปากของไอช่าที่กำลังขยับเล็กน้อยราวกับเธอกำลังพูดอยู่ เขาตกใจและหมอบลงบริเวณหน้าเตียงน้ำแข็งทันทีและถามออกมาว่า “คุณพูดว่าอะไรครับ?”
ริมฝีปากของเธอขยับเล็กน้อยและมีเสียงกระซิบเบาๆออกมา
เทียนเอาหูแนบชิดกับริมฝีปากของเธอและได้ยินคำพูดคำหนึ่ง – แม่
เขาคิดว่าไอช่ายังไม่ได้สติและกระซิบออกมาโดยไม่รู้ตัว
เขาถอนหายใจแล้วส่ายหัวเล็กน้อย เขาลุกขึ้นเดินไปที่ช่องระบายน้ำใต้ดินเพื่อที่จะกระโดดลงไปและออกไปจากที่นี่แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ข้างหน้าโดยจากการตรวจจับความร้อน เขาก็หยุดชะงัก หนึ่งไมล์ข้างหน้ามีจุดความร้อนยาว 7-8 เมตรเคลื่อนที่มายังทิศทางของเขา จากการเคลื่อนไหวดูเหมือนว่าจะเป็นสัตว์ร้ายที่อยู่ใต้น้ำ!
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเลือดของไอช่าที่กระจายไปในน้ำก่อนหน้านี้และใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาไม่ได้คิดว่าจะมีสัตว์ร้ายใต้น้ำขนาดใหญ่อยู่ในช่องระบายน้ำใต้ดินใกล้ๆกับที่แห่งนี้