The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 575
The Dark King – Chapter 575 บินกลับ
เมื่อเห็นเทียนเก็บเสื้อคลุมขนสัตว์เข้าไปในกระเป๋าไอช่าก็กระพริบตาแต่ไม่ได้พูดอะไร เมื่อเทียนเดินเข้ามาใกล้เธอก็พูดออกมาเบาๆว่า “เกาะฉันเอาไว้ให้แน่น พวกเราจะบินกลับไป”
“บินหรอครับ?” เทียนรู้สึกเป็นกังวล “คุณแน่ใจเหรอครับ? มันน่าจะไกลมากเลยนะแล้วคุณก็เพิ่งจะหายดี”
“ฉันไม่เป็นไร” ไอช่าแบกดาบยักษ์สีแดงเอาไว้บนหลังของเธอ เธอค่อยๆหมุนมือจากนั้นก็มีแสงสีแดงกระจายออกมา ดาบเล่มใหญ่ค่อยๆกลืนหายไปกับผ้าพันแผลและติดอยู่บนหลังของเธอทันที ในตอนนี้มีปีกสีแดงเลือดคู่ใหญ่กางออกมาจากหลังของเธอ มันดูเหมือนกับปีกของจอมมารหรืออะไรอย่างนั้น
ฟึบ!
เมื่อแสงสีแดงจางหายไปก็เผยให้เห็นปีกสีแดงเข้มที่มีขนาดใหญ่มากกว่า 10 เมตร ปีกของเธอกางออกและเริ่มกระพือพัดเอาเศษฝุ่นและทรายที่อยู่ที่นี่ให้กระจายไปทั่ว
เทียนตกตะลึงทันที นี่คืออาวุธเวทมนต์ในตำนานอย่างนั้นหรอ? มันเชื่อมโยงกับระบบประสาทของเธอและขยายใหญ่ออกมาอย่างน่าเหลือเชื่อ
“พร้อมหรือยัง? “ไอช่าหันไปถามเทียน
เทียนกำลังจะเอื้อมมือออกไปจับเธอเอาไว้ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขาควรจับตรงไหนดี
ไอช่ารู้สึกประทับใจเมื่อเธอเห็นเทียนดูเขินอายและทำอะไรไม่ถูกก่อนที่เธอจะกลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิมอีกครั้ง เธอจับมือของเขาให้มาเกาะที่เอวของเธอและพูดว่า “ไปกันเถอะ”
ฟึบ!
ก่อนเทียนจะได้ตอบอะไรกลับมาปีกสีแดงเลือดขนาดใหญ่ก็กระพืออย่างรวดเร็วและลมที่พัดออกมานั้นรุนแรงราวกับพายุ ขณะที่ไอช่าและเทียนเริ่มบินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า
เทียนรู้สึกได้ถึงเสียงลมที่พัดผ่านหูของเขาไป เพียงพริบตาเขาก็ได้บินขึ้นไปบนท้องฟ้าหลายร้อยเมตรและสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ที่นี่รวมไปถึงซากปรักหักพังของเมืองนี้ทั้งหมด
“เร็วมาก!” เทียนพูดกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ
ความเร็วในการบินของเธอนั้นมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ซะอีก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเธอถึงสามารถปีนกำแพงยักษ์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
กลิ่นหอมอ่อนๆเข้ามาในการรับรู้ของของเทียนทันที ตอนนี้หัวใจของเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้นมาเพราะพวกเขาทั้งสองคนใกล้ชิดกันเกินไป ร่างกายของเขาแทบจะแนบชิดอยู่กับไอช่า มือทั้งสองข้างของเขาเกาะเอวของเธอเอาไว้แน่น เขารู้สึกได้ถึงร่างกายที่อ่อนนุ่มและน่าหลงใหลของเธอได้แม้ว่าเธอจะสวมเสื้อผ้าและชุดเกาะอยู่ก็ตาม
เรือนร่างของเธอเป็นรูปนาฬิกาทรายที่สมบูรณ์แบบ
และศีรษะของเขาอยู่ต่ำกว่าไหล่ของเธอทำให้เขาสามารถเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างเต็มที่
เขารู้สึกได้ว่าเลือดของตนเองกำลังสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง หัวใจของเขาเต้นระรัวจนเขาควบคุมไม่ได้แม้ว่าเขาจะคิดเสมอว่าเธอเป็นผู้มีพระคุณของเขา เขายังไม่สามารถตอบแทนบุญคุณของเธอได้เลย
หลังจากที่สงบจิตใจได้เขาก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันทีและรีบหันมองไปทางอื่น เขารู้สึกประหลาดใจทันทีเมื่อมองไปยังด้านล่างและพบว่ามันเป็นเหมือนกับภาพที่พร่ามัว ถ้าหากพวกเขาสามารถวิ่งบนพื้นด้วยความเร็วแบบนี้คงจะเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์แน่นอน
ความแข็งแกร่งของเธออยู่ในระดับไหนกัน?
เทียนเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าของไอช่าที่ดูสงบนิ่งตลอดเวลา
ไอช่าก็หันมามองเธอใช้มือข้างหนึ่งของตนเองจับเทียนเอาไว้ราวกับว่ากลัวว่าเขาจะตกลงไป จริงๆแล้วเธอก็กังวลเล็กน้อย ตั้งแต่ตอนที่เทียนจับเอวของเธอเอาไว้มันก็ทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองคนกอดกันเพื่อความอบอุ่นในถ้ำน้ำแข็งอันมืดมิด
ภาพความทรงจำสะท้อนในจิตใจของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอรู้สึกได้ว่าแก้มของตนเองเริ่มแดงขึ้นมาทันที เทียนอาจจะสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอได้ดังนั้นเธอจึงรีบควบคุมจิตใจของตนเองและลดความเร็วของการสูบฉีดเลือดทันที นั่นทำให้เธอดูสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลา
เมื่อเธอเห็นเทียนเงยหน้าขึ้นมามองที่ตนเองหัวใจของเธอก็เริ่มเต้นเร็วอีกครั้ง เธอก้มลงไปพร้อมกับถามว่า “มีอะไรหรือเปล่า?”
เทียนพยายามที่จะทำตัวให้สงบนิ่งมากที่สุดแต่ในใจของเขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาหัวเราะกับตัวเองในใจ “เทียน แกมันคนน่ารังเกียจชะมัด เธอไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ ไม่มีอะไรเลยที่แกจะเหมาะสมกับเธอ”
เมื่อเขาคิดแบบนี้จิตใจของเขาก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้งและตอบกลับไปว่า “ไม่มีอะไรครับ”
ไอช่าสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของเทียน เธอรู้สึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
ฟู่ว!
นอกจากเสียงลมที่พัดผ่านหูของพวกเขาไปแล้วก็มีเพียงความเงียบเท่านั้นในตอนนี้
เมื่อมองไปข้างล่างก็จะเห็นถนนที่พังทลาย ซากปรักหักพังของเมือง ต้นไม้ และภูเขาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นเพียงเงา และเมื่อมองขึ้นไปเหนือศีรษะก็จะเห็นท้องฟ้าและก้อนเมฆที่กว้างใหญ่จนไม่มีที่สิ้นสุด
“พวกเรากำลังจะเข้าสู่พื้นที่เขตสีแดงของแดนรกร้าง” หลังจากบินมาประมาณครึ่งชั่วโมงไอช่าก็พูดออกมา
เทียนยังคงเงียบและหันไปมองรอบๆ เขาตกตะลึงขึ้นมาทันที แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินจากเรียนว่าพื้นที่เขตสีแดงและเขตสีส้มของแดนรกร้างนั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก แต่ตอนนี้เขาสามารถเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนด้วยตาของเขาเอง
ในพื้นที่เขตสีส้มนั้นยังมีซากปรักหักพังของเมือง ซากยานพาหนะ ถนนที่พังทลาย ให้เห็นจำนวนมาก
แต่ตรงหน้าของเขานั้นมีหลุมขนาดใหญ่หลายหลุมที่มีความกว้างประมาณ 2-3 พันเมตร ราวกับว่ามันถูกอุกกาบาตพุ่งชน ซากปรักหักพังของเมืองต่างก็จมอยู่ใต้ดินทั้งหมด!
ฟึบ!
ปีกสีแดงเลือดขนาดใหญ่ของเธอยังคงกระพือไปอย่างต่อเนื่อง ไอช่าและเทียนบินข้ามพื้นที่นี้ไปอย่างรวดเร็ว เทียนสามารถมองเห็นได้ว่าด้านหน้าของพวกเขานั้นเป็นพื้นดินที่มีรอยแตกขนาดใหญ่และเกิดเป็นช่องว่างที่มีความลึกมาก ไม่มีต้นไม้หรือเถาวัลย์ขนาดใหญ่บนพื้นดินซึ่งหมายความว่าเป็นเวลานานแล้วที่สิ่งมีชีวิตต่างๆไม่สามารถเติบโตขึ้นบนพื้นดินที่นี่ได้
ที่นี่แทบจะไม่มีร่องรอยของเมืองเลย มีเพียงเศษกองหินเท่านั้นที่บ่งบอกว่าที่นี่เคยมีอาคารบ้านเรือนอยู่มังกร
ไอช่ามองลงไปข้างล่างและขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
10 นาทีหลังจากที่พวกเขาได้บินเข้ามายังพื้นที่เขตสีแดงของแดนรกร้างก็มีเงาของอะไรบางอย่างที่กระโดดออกมาจากรอยแยกของพื้นดินและวิ่งตามไอช่ามาอย่างรวดเร็ว
โฮก!
มันเป็นสัตว์ร้ายที่มีรูปร่างเหมือนแมงมุมและมีปากขนาดใหญ่อยู่บนหลังของมัน ความสามารถในการกระโดดของมันน่าทึ่งมาก มันสามารถกระโดดสูงได้ถึง 200-300 เมตร มันพ่นใยแมงมุมสีเขียวออกมาจากปากที่อยู่บนหลังของมัน