The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 581
The Dark King – Chapter 581 ไกลที่สุด
“อสูรมฤตยู?” เทียนตกตะลึงทันที “คุณหมายถึงอสูรมฤตยูที่อยู่อันดับที่ 2 ของการจัดอันดับสัตว์ร้ายในตํานานหรอครับ!”
“นายก็รู้จักอันดับของสัตว์ร้ายในตํานานด้วยหรอ?” ยูเรก้ารู้สึกประหลาดใจและยิ้มออกมา “ใช่ มันคืออสูรมฤตยูตัวนั้นแหละ พวกเราพบมันอยู่ที่แดนรกร้าง คนของเรากําลังออกไปสํารวจในตอนนี้ ถ้าเราหาที่อยู่ของมันได้ ตระกูลดราก้อนของเราก็อาจจะมีผู้ที่แข็งแกร่งที่มีสัญลักษณ์เวทมนตร์ของอสูรมฤตยูได้!”
เมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มตรงหน้าพูดเทียนก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที ตามที่ไอช่าเคยบอกไว้ เขารู้ว่าสัตว์ร้ายระดับตํานาน 3 อันดับแรกนั้นแตกต่างจากสัตว์ร้ายระดับตํานานตัวอื่นๆ อสูรกลืนกินความฝัน ที่อยู่ในอันดับ 1 นั้นแข็งแกร่งพอที่จะสามารถเอาชนะสัตว์ร้ายระดับตํานานทั้ง 7 ตัวที่เหลือพร้อมๆกันได้!
แม้ว่าอสูรมฤตยูจะไม่ได้ทรงพลังเทียบเท่าอสูรกลืนกินความฝัน แต่มันก็สามารถฆ่าสัตว์ร้ายระดับตํานานตัวอื่นๆได้อย่างง่ายดาย
เห็นได้ชัดว่าอสูรมฤตยูเป็นสัตว์ร้ายระดับตํานานที่ผู้บุกเบิกทั่วไปไม่สามารถต่อกรได้
นี้หมายความว่าเมื่อพวกเขาหาตําแหน่งของมันพบมีเพียงไอช่าเท่านั้นที่ทรงพลังมากพอจนสามารถจับมันได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็เริ่มเป็นห่วงไอช่าขึ้นมาทันทีเพราะเธอเพิ่งจะหายดีจากการบาดเจ็บหนัก แม้ว่าพลังของเธอจะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติแล้วแต่การต่อสู้กับอสูรมฤตยูก็ยังถือว่าอันตรายมากอยู่
” ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์จะออกไปสํารวจด้วยตัวเอง เธอบอกว่าจะตามร่องรอยของอสูรมฤตยู่ไป มีโอกาสมากที่เธอจะต้องปะทะกับอสูรมฤตยู ดังนั้นจึงไม่สะดวกที่จะพานายไปด้วย” ยูเรก้าคิดว่าเทียนกําลังกังวลเรื่องความปลอดภัยของตนเอง จึงเดินเข้ามาตบไหล่และพูดว่า “อย่ากังวลไปเลย เธอจะส่งนายไปที่ที่ไกลที่สุดในตอนที่อสูรมฤตยูปรากฏตัวขึ้นมา”
“เธอส่งฉันมาที่นี่เพื่อปกป้องนายให้ปลอดภัย”
เทียนกําหมัดของตนเองและพูดออกมาว่า “ผมขอตัวไปเปลี่ยนชุดเกราะก่อน”
“ได้สิ”
เทียนเดินกลับเข้าไปในอาคาร และเปลี่ยนชุดเกราะที่ยูเรก้าได้เตรียมไว้ให้กับเขา พร้อมกับหยิบกระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำและอาหารอยู่ภายในนั้นขึ้นมาส่วนอาวุธต่างๆทั้งธนู ลูกธนู และมีดสั้นเขาได้เตรียมพร้อมเอาไว้อยู่แล้ว
“บางที นี้อาจจะเป็นโอกาสที่เราจะออกจากที่นี้ไปได้” เทียนคิดกับตัวเอง เมื่อเขาคิดว่าไอช่าต้องอยู่ที่นี่อย่างโดดเดี่ยวเขาก็รู้สึกปวดใจเล็กน้อย ถ้าหากเขาช่วยอะไรเธอได้บ้างเขาจะทําแน่นอน
แต่มันไม่มีนิทานอย่าง “ผู้กล้าและเจ้าหญิง” ในชีวิตจริง
และเขาก็ไม่ใช่ผู้กล้า
การที่เขาออกจากที่นี่ไปคงเป็นการช่วยเหลือเธอได้มากที่สุด
แม้ว่าเขาจะรู้สึกผิดหวังแต่เขาก็รู้ดีว่าตนเองต้องทําแบบนี้ เทียนสูดหายใจเข้าลึกๆกัดฟันของ ตนเองและออกจากที่นี้ไปทันที
“ไปกันเถอะ”
“ได้เลย”
พวกเขาเดินออกมาจากคฤหาสน์ของยูเรก้าแล้วตรงไปยังปราสาทของไอช่า
ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้มาถึงปราสาทขนาดใหญ่
ไอช่ากําลังยืนอยู่บนปราสาทและมองออกไปยังด้านนอกของป้อมปราการ เธอก้มลงมาและได้เห็นเทียนและยูเรก้าที่สวมชุดเกราะเต็มตัว สายตาที่ดูเหม่อลอยและเย็นชาของเธอก็หายไปทันที “นายมาแล้ว ยูเรก้าได้บอกนายหรือยัง?” เธอถามขึ้นมา
เขาจ้องมองไปที่เธอด้วยความรู้สึกที่อยากปกป้องเธอ แต่เขาคงพูดแบบนั้นไม่ได้และทําได้เพียงตอบกลับมาว่า “เขาบอกผมแล้วครับ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงฉันไม่เป็นไร นายอยู่กับยูเรก้าเขาจะปกป้องนายเอง ถ้าฉันออกจากที่นี่ไป ป้อมปราการแห่งนี้จะอันตรายมาก ฉันจะไปหานายหลังจากที่ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว” ไอช่ารู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่ซับซ้อนในสายตาของเทียน
พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าและแสงแดดตกกระทบลงมาบริเวณแก้มของเธอ เส้นผมของเธอโบกพริ้วไปตามสายลม เธอใช้มือของตนเองเกี่ยวทัดเส้นผมไปไว้ด้านหลังหูอย่างงดงาม
เทียนจ้องมองไปที่เธอด้วยความตกตะลึง แสงแดดที่อบอุ่นในตอนนี้เป็นเหมือนไฟที่ลุกโชนในใจของเขา เขารู้สึกขึ้นมาทันทีว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาจะสามารถเทียบเคียงได้
เขาอ่อนแอเกินไป
“ผมทราบแล้วครับ” เขาก้มหน้าลงไปทันที เมื่อแสงแดดส่องลงมาบนเส้นผมของเขา ใบหน้าของเขามากกว่าครึ่งก็อยู่ภายใต้เงา “สิ่งที่คุณต้องระวังไม่ใช่แค่พวกสัตว์ร้ายแต่รวมถึงคนที่อยู่กับคุณด้วย”
ไอช่ายิ้มเล็กน้อยและพูดออกมาว่า “ฉันจะระวังตัวให้ดี”
ในตอนนี้มีเสียงเท้าวิ่งเข้ามาที่ปราสาทหลังนี้
ไอช่าหันไปพูดกับยูเรก้าว่า “พูดหน่อยควรออกไปได้แล้ว”
” ครับ” ยูเรก้าพูดพร้อมกับก้มศีรษะของเขาลงทันที
เขาหันหลังแล้วเดินออกไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
เทียนจ้องมองมาที่ไอช่า ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกราวกับว่านี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้พบกับเธอ เธอยังคงยืนอยู่บนปราสาทเงียบๆดวงตาของเธอช่างดูงดงามเหลือเกินราวกับว่ามีดวงดาวนับร้อยพันดวงอยู่ภายในนั้น
เขาก้มหน้าของตนเองลงและเดินตามหลังยูเรก้าไปทันที
สิ่งที่เหลืออยู่ในตอนนี้มีเพียงความเงียบเท่านั้น
ในตอนที่เขาเดินออกไปก็มีเสียงเท้าวิ่งเข้ามาในปราสาทหลังนี้ เป็นพวกผู้พิทักษ์ของตระกูลดราก้อนที่มาส่งข่าว
เทียนและยูเรก้าเดินไปตามถนนห่างจากประสาทมากขึ้นเรื่อยๆ
ประตูป้อมปราการทางทิศตะวันออก
ยูเรก้าและเทียนบินไปตามถนนอย่างรวดเร็ว พวกเขามาถึงประตูป้อมปราการทางทิศตะวันออก มีชายหนุ่ม 2 คนและหญิงสาวอีก 1 คนประจําอยู่ที่ประตูแห่งนี้ ทุกๆ คนต่างก็สวมชุดของผู้พิทักษ์ตระกูลดราก้อนและมีสีหน้าที่ดูเบื่อหน่ายอย่างยิ่ง
เมื่อพวกเขาเห็นว่ามีคนกําลังมาที่นี่และได้เห็นชัดๆว่าเป็นยูเรก้า พวกเขาก็ต้องตกตะลึงและประหลาดใจทันที
“ท่านนายพลยูเรก้า!” พวกเขาทําความเคารพพร้อมๆกัน
ยูเรก้าและเทียนหยุดตรงหน้าพวกเขา ยูเรก้าวพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า “พวกเรากําลังจะไปที่พื้นที่หมายเลข 2 และฉันเป็นผู้นําทาง พวกนายพร้อมกันหรือเปล่า?”
“รับทราบครับท่านนายพล” ชายหนุ่มที่มีผมสีเทากล่าวออกมาทันที เขามีใบหน้าที่หล่อเหลาแต่ที่ด้านหลังลําคอของเขานั้นมีกระดูกที่ยื่นออกมา
ยูเรก้าพยักหน้าเบาๆและพูดขึ้นมาว่า “เขาคือสมาชิกคนใหม่ของทีมเรา เทียนไปกันเถอะ”
พวกเขาต่างก็มองมาที่เรียนและเห็นว่าชายหนุ่มคนนี้ยังดูเด็กจนทุกคนต้องตกตะลึง พวกเขาต่างก็หันมาพยักหน้าทักทายเทียนขณะที่เดินตามหลังยูเรก้าออกจากประตูป้อมปราการไป
ยูเรก้าเป็นนาทุกๆคนออกไปทางประตูทิศตะวันออก
“อสูรมฤตยูถูกพบที่พื้นที่หมายเลข 7 ซึ่งอยู่ไกลมากจากพื้นที่หมายเลข 2 ที่พวกเรากําลังจะ ไป” ยูเรก้าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ” แต่อย่าเพิ่งวางใจไป แม้ว่าเราจะไม่ได้เจอกับอสูรมฤตยูแต่ก็อาจมีสัตว์ร้ายตัวอื่นที่สามารถฆ่าพวกเราได้ พวกนายเข้าใจใช่ไหม?”
“รับทราบครับ!” พวกผู้พิทักษ์ทั้ง 3 คนต่างก็ตะโกนออกมาพร้อมเพียงกัน