The Divine doctor : ชายาข้าคือแพทย์เทวะ - ตอนที่ 1028 เขาไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ทั้งชีวิตเพราะเจ้า
- Home
- The Divine doctor : ชายาข้าคือแพทย์เทวะ
- ตอนที่ 1028 เขาไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ทั้งชีวิตเพราะเจ้า
การเยาะเย้ยของพระชายาหยุนทำให้ความตึงเครียดของเฟิงเซียงหรูผ่อนคลายทันทีสิ่งเหล่านี้คืออะไร ทำไมมันรู้สึกเหมือนนางถูกซวนเทียนยี่ครอบครอง เมื่อผู้ชายคนนั้นเห็นตัวอย่างการเย็บปักเหล่านี้เป็นครั้งแรก เขาก็พูดอย่างนี้
ดังนั้นเฟิงเซียงหรูจึงริเริ่มที่จะอธิบายนางบอกกับพระชายาหยุน“สิ่งที่ปักเป็นอาคารชนบทในยุโรป อาคารเหล่านี้แตกต่างจากของเราไม่ได้สร้างจากไม้ แต่สร้างจากหิน และภาพด้านล่างมีคนเย็บมัน นางชื่อคือโมนา ลิซ่า ชาวต่างชาติเจ้าค่ะ”
“ชาวต่างชาติ”พระชายาหยุนคิดอยู่พักหนึ่ง “เฉียนโจว? กูซู ชาวต่างชาติเหล่านั้นหรือ ? ”
เฟิงเซียงหรูส่ายหัวของนาง“พวกเขาเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ห่างไกลจากเรามากในอีกด้านหนึ่งของมหาสมุทร” หลังจากพูดแบบนี้นางมองไปที่เฟิงหยูเฮง และพูดว่า “พี่รอง ทุกรูปเหล่านี้ นางอาจเห็นพวกมันจากอาจารย์ชาวเปอร์เซียคนนั้นใช่หรือไม่เจ้าคะ ? ”
”ใช่!ข้าเห็นจากอาจารย์ชาวเปอร์เซีย” นี่คือคำอธิบายที่เฟิงหยูเฮงให้กับทุกคน “ในอีกด้านหนึ่งของมหาสมุทร ผู้คนที่นั่นดูแตกต่างจากเรา สถาปัตยกรรมของพวกเขาก็แตกต่างจากเราและพูดภาษาที่แตกต่างกัน ข้าไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนนี่คือสิ่งที่อาจารย์ของข้าบอก แม้แต่ภาพเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้ข้าในเวลานั้น ข้าบอกว่าข้าต้องการพาเฟิงเซียงหรูมาพบเสด็จแม่ และคิดว่าเฟิงเซียงหรูไม่สามารถนำสิ่งของใด ๆ มาเป็นของกำนัลได้ ดังนั้นลูกสะใภ้จึงตัดสินใจให้นางเอางานปักเหล่านี้มา เพื่อบรรเทาความเบื่อหน่ายของเสด็จแม่และให้เสด็จแม่ได้ดูสิ่งใหม่ ๆ เจ้าค่ะ”
“หืม? ” พระชายาหยุนพยักหน้า “มันค่อนข้างแปลกใหม่” หลังจากพูดแบบนี้นางเงยหน้าขึ้นมองจ้องที่เฟิงเซียงหรูเป็นเวลานาน และจู่ ๆ ก็มีประโยคหนึ่งกล่าวว่า“เจ้าเป็นเด็กดี แต่เด็กดีไม่เพียงแต่ซ่อนอยู่หลังคนอื่นเท่านั้น ถ้าเจ้าชอบฮั่วเอ๋อของเรา ก็ให้ติดตามเขา ! บางครั้งไม่มีอะไรผิดปกติกับเด็กผู้หญิงที่ใช้ความคิดริเริ่มบางอย่าง ไม่ทำตัวเป็นหมอนปักลายที่มีแต่แกลบ ดูพี่รองของเจ้า เมื่อนางอยู่กับหมิงเอ๋อ นางไม่ใช่เป็นฝ่ายเริ่มก่อนหรอกหรือ ? ”
(T/ N: หมอนปักลายที่มีแต่แกลบหมายถึงคนที่ดูดีแต่เปลือกนอก)
เป็นอย่างนั้นหรือ? เฟิงหยูเฮงเอามือตบหน้าผาก มันเป็นผู้ชายคนนั้นที่เริ่มก่อนใช่หรือไม่ ? อย่างมากนางได้รับการพิจารณาว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวเกินไป แต่ดูเหมือนจะไม่ตรงกับคำจำกัดความของฝ่ายเริ่มต้น ! อย่างไรก็ตามนางอยากรู้จริง ๆ “เสด็จแม่ทราบได้อย่างไรว่าเซียงหรูชอบพี่เจ็ดเจ้าคะ ? ”
“คนโง่เท่านั้นที่จะไม่สามารถบอกได้”พระชายาหยุนเริ่มแสดงท่าทีไร้ความกังวลของ “พี่เทียน” และแม้กระทั่งก้าวขาของนางอย่างผู้ชาย นางชี้ไปที่เฟิงเซียงหรู และบอกเฟิงหยูเฮง “ดูนาง ดูนางแสดงใบหน้าที่หลงรักตั้งแต่นางเดินเข้ามา แก้มของนางเป็นสีแดง ใบหน้าของนางสดใส ดวงตาของนางเปล่งประกายทั้งหมด ดูเหมือนผู้หญิงในตกอยู่ในความรักที่จะได้พบกับผู้ชายที่นางใฝ่ฝัน ความรักนั้นไม่ได้พุ่งตรงมาที่ข้าใช่หรือไม่ ? และไม่ใช่เจ้าแน่นอน ! จากนั้นความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือนางได้มุ่งตรงไปที่ฮั่วเอ๋อ”
“โอ้”เฟิงหยูเฮงพยักหน้า “การสังเกตของเสด็จแม่มีรายละเอียดมากจริง ๆ ”
เฟิงเซียงหรูฟังคนสองคนนี้พูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อที่น่าอับอายเช่นนี้นางอยากหารูเพื่อมุดหนี ! ในขณะเดียวกันนางก็เริ่มทำความเข้าใจนิสัยของพระชายาหยุน นางเป็นพระชายาของฮ่องเต้จากพระราชวังหรือไม่ ? ทำไมนางถึงรู้สึกเหมือนอยู่กับซวนเทียนเก้อและคนอื่น ๆ แทน ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนที่เกี่ยวข้องกับพี่สาวคนที่สองของนางมีนิสัยแบบนั้น ?
“เฮ้อ! ” ขณะที่นางกำลังคิด นางได้ยินเสียงพระชายาหยุนถอนหายใจและพูดเบา ๆ “มีหลายสิ่งเกิดขึ้นในเมืองหลวงเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฮั่วเอ๋อกินไม่ค่อยได้ คุณหนูสาม เนื่องจากเจ้าอยู่ที่นี่ อย่าทำให้การมาที่นี่เสียเปล่า การมอบของกำนัลให้ข้านั้นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดคือเจ้าต้องเข้าหาคนที่เจ้าชอบ เจ้าทำของหวานได้หรือไม่ ? ”
เฟิงเซียงหรูพยักหน้าด้วยความงุนงงและได้ยินพระชายาหยุนพูดอีกครั้ง “แล้วทำไมเจ้าถึงยังนั่งอยู่ที่นี่ ? ข้าเป็นมารดาของเขา แต่สำหรับเรื่องเหล่านี้ ข้าจะไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้แม้ว่าข้าเป็นมารดาของเขา เขาก็ต้องเต็มใจที่จะทำ ดังนั้นมันไร้ประโยชน์แม้ว่าเจ้าจะใช้เวลากับข้าที่นี่ ถ้าเจ้ามีทักษะไปที่ห้องครัวและลงมือ ทำขนมแสนอร่อยให้กับฮั่วเอ๋อ ใช้เสน่ห์ปลายจวักมัดใจเขา ! เข้าใจหรือไม่ ? ”
มุมปากของเฟิงเซียงหรูบิดเบี้ยวเมื่อนางได้ยินสิ่งนี้ทำไมมันถึงรู้สึกเหมือนมารดาคนนี้ขายบุตรของนาง ? พระชายาหยุนขายองค์ชายเจ็ดเช่นนั้น เฟิงเซียงหรูถอนหายใจเต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึกกลยุทธ์ของหวานค่อนข้างหยาบเกินไป แต่อย่างน้อย…… อย่างน้อยมารดาของเขาก็ไม่ปฏิเสธนาง ! นางรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว และโค้งคำนับโดยกล่าวว่า “ขอบคุณพระชายาหยุนเจ้าค่ะ” จากนั้นนางก็หันหลังกลับและออกไปข้างนอก
เฟิงหยูเฮงตกใจกลัวสงสัยว่านิสัยของพระชายาหยุนนั้นเหมาะต่อการโน้มน้าวผู้อื่นหรือไม่ภายใต้การส่งเสริมที่เข้มแข็งของพระชายาหยุน เฟิงเซียงหรูหวนกลับคืนสู่พฤติกรรมของนางเมื่อนางอยู่กับซวนเทียนยี่ ในเวลานี้พระชายาหยุนได้กล่าวเพิ่ม “อย่าทำหวานมากเกินไป ! ฮั่วเอ๋อไม่ชอบกินของหวาน ข้าก็ไม่ชอบกินของหวาน ! ”
เฟิงหยูเฮงเผชิญหน้าอีกครั้ง“เสด็จแม่ เสด็จแม่หรือพี่เจ็ดเป็นคนที่อยากกินเจ้าคะ ? ”.Aileen-novel.
“พวกเราทุกคนต้องกิน! ” พระชายาหยุนตบหลังมือของนาง “ยังมีเวลาค่อนข้างก่อนอาหารเย็น เจ้าต้องกินบางอย่างเพื่อรองท้องเล็กน้อย ข้าเห็นว่าน้องสามของเจ้าค่อนข้างดี เปลือกนอกนางดูค่อนข้างขี้อาย แต่ในความเป็นจริงนางมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ค่อนข้างมาก ด้วยบุคลิกของฮั่วเอ๋อ เขาต้องการใครสักคนที่อยู่ข้างเขาที่จะมีอิทธิพลต่อเขามากขึ้น และทำให้เขาเหมือนมนุษย์มากขึ้น”
“แต่เมื่อเฟิงเซียงหรูพบพี่เจ็ดนางก็จะประหม่าเจ้าค่ะ” เฟิงหยูเฮงพูดอย่างตรงไปตรงมา “แต่เมื่อนางอยู่กับองค์ชายสี่ นางก็จะร่าเริงขึ้น” ในท้ายที่สุดนางยังรู้สึกว่าเฟิงเซียงหรูเหมาะกับซวนเทียนยี่มากขึ้น ซึ่งบุคคลใดสามารถทำให้น้องสาวของนางมีความสุข ในฐานะพี่สาวนางสามารถเห็นสิ่งนี้ได้อย่างชัดเจน
แต่พระชายาหยุนไม่ได้คิดอย่างนั้นนางพูดว่า“เหตุผลที่นางประหม่าเมื่อเห็นฮั่วเอ๋อ เป็นเพราะนางไม่ได้พบฮั่วเอ๋อบ่อยนัก หลังจากที่ไม่ได้เจอกันบ่อย นางจะรู้สึกประหม่าเมื่อพบกันทันที ! หากพวกเขาพบกันทุกวัน นางจะคุ้นเคยเอง” เมื่อพูดแบบนี้นางเหลือบไปที่เฟิงหยูเฮงแล้วหัวเราะคิกคัก “อย่างไรก็ตามเจ้าและหมิงเอ๋อไม่ได้เจอกันบ่อยในตอนแรก แต่ข้าไม่เคยเห็นท่าทางขี้อายจากเจ้าเลย ! ”
เฟิงหยูเฮงกลอกตาและร้องออกมาด้วยความโมโห “เสด็จแม่”
“เอาล่ะข้าเข้าใจเจ้าออกสังคมมากว่าคุณหนูสาม และบุตรชายของข้าเป็นคนเฉยเมย เขาทั้งคู่เป็นคู่ที่เหมาะสม ! สำหรับคนอย่างฮั่วเอ๋อ ถ้าข้าไม่ช่วยเขาจัดการ ข้ากังวลจริง ๆ ว่าเขาจะเป็นโสดทั้งชีวิตของเขา เขาคงมีชีวิตที่ลำบากเช่นนี้”
เฟิงหยูเฮงคิดออกแล้ว?เพียงแค่บอกว่านางเป็นคนเฉยชา ! แต่นางไม่ต้องการโต้เถียงกับพระชายาหยุน นางรู้อยู่แล้วว่าพระชายาหยุนเป็นใคร เหมือนกับฮ่องเต้ นางทำตัวเหมือนพระสนมของฮ่องเต้ในพระราชวังฮ่องเต้ แต่เมื่อนางออกจากพระราชวัง นางจะแสดงนิสัยที่แท้จริงของนางและพูดสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุด และทำสิ่งที่ชั่วร้ายที่สุด ดังนั้นเฟิงหยูเฮงจึงไม่แปลกใจอีกต่อไป คิดอีกครั้ง ตามที่มีแม่สามีเช่นพระชายาหยุนกล่าวเกี่ยวกับเฟิงเซียงหรู การแต่งงานกับองค์ชายเจ็ดเป็นสิ่งที่ดีจริง ๆ อย่างน้อยความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้จะสนิทสนมกัน
ความเป็นจริงพิสูจน์แล้วว่าพระชายาหยุนมีจินตนาการที่กระตือรือร้นเช่นเดียวกับเฟิงหยูเฮง ในความสับสน นางก็พูดว่า “โอ้ ! ถ้านางกับฮั่วเอ๋อมารวมกันแล้วในอนาคต นางควรจะเรียกเจ้าว่าท่านพี่ หรือเจ้าควรเรียกนางในฐานะพี่สะใภ้ ? ”
“เสด็จแม่เราเปลี่ยนหัวข้อได้หรือไม่เจ้าคะ ? ” เฟิงหยูเฮงตกใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินเรื่องนี้ นางไม่ได้คิดไกลเกินไปใช่ไหม อย่างไรก็ตามนางก็พยายามจินตนาการ และคิด แม้ว่าเฟิงเซียงหรูไม่ได้ลงเอยกับซวนเทียนฮั่วและได้หมั้นกับพี่สี่ ปัญหานี้ก็ยังคงมีอยู่……
พระชายาหยุนก็รู้สึกว่านางดูเหมือนจะคิดไกลเกินไปนางจึงโบกมือ “ลืมมันไปเถิด มาดูกันว่าพวกเขาทำอะไร ! ข้าแค่หวังว่าจะมีคนรอบตัวข้ามากขึ้น ด้วยความที่มันมีชีวิตชีวา ข้าไม่จำเป็นต้องคิดถึงสิ่งที่ไม่จำเป็นตลอดทั้งวัน มารดาผู้ให้กำเนิดของฮั่วเอ๋อเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก ในเวลานั้นข้ารำคาญผู้หญิงและซวนจ้านจริง ๆ แต่ฮั่วเอ๋อให้ความรู้สึกที่ทำให้คนอื่นไม่สามารถหงุดหงิดกับเขาได้ และปฏิเสธเขา ตั้งแต่ครั้งแรกที่ข้าจับตาดูเขา มันเป็นโชคชะตาที่ข้าจะเลี้ยงเขาเหมือนบุตรชายของตัวเอง อย่างไรก็ตามข้าจบลงด้วยการเลี้ยงเทพเซียน หากเขาลงเอยด้วยการไม่แต่งงานตลอดชีวิตของเขา ข้าก็รู้สึกไม่สบายใจ”
“ที่จริงแล้วการอยู่คนเดียวค่อนข้างดีเจ้าค่ะ”เฟิงหยูเฮงแนะนำพระชายาหยุน “ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการคู่ครองเจ้าค่ะ”
พระชายาหยุนส่ายหัว“แตกต่าง” เมื่อพูดแบบนี้นางมองไปที่เฟิงหยูเฮงและทำหน้าจริงจัง “ถ้าฮั่วเอ๋อไม่ดึงดูดใครเลย และปรารถนาที่จะรักษากลิ่นอายเทพเซียนเอาไว้จนกว่าเขาจะตาย ข้าจะไม่สนใจเขาเลย แต่เขาชื่นชอบใครบางคนอย่างชัดเจน ข้าไม่สามารถดูเขาอยู่คนเดียวตลอดชีวิตเพราะคนผู้นี้ เมื่อข้าพูดแบบนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? ”
เฟิงหยูเฮงสั่นข้างในและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว“อาเฮงเข้าใจทุกอย่าง แต่หัวใจของอาเฮงมีผู้ครอบครองได้เพียงคนเดียว นั่นคือทั้งหมดที่มี” นี่เป็นครั้งแรกที่พระชายาหยุนพูดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง นางทราบความรู้สึกที่ซวนเทียนฮั่วมีต่อนาง และพระชายาหยุนไม่ใช่คนโง่ นางสามารถเห็นได้ตามธรรมชาติ มันเป็นเพียงการที่พระชายาหยุนไม่เคยพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจังและพูดติดตลกเป็นส่วนใหญ่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าหัวใจของนางไม่สนใจ
เฟิงหยูเฮงรู้สึกโชคดีที่ตำแหน่งของนางมั่นคงด้วยแม่สามีที่ฉลาดเช่นนี้ หากนางลังเลเล็กน้อย นางก็จะทำในสิ่งที่อีกฝ่ายคิดว่าเป็นข้อห้าม ? แน่นอนเมื่อนางลังเลซวนเทียนหมิงจะไม่อนุญาต
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้ต่อเลย”พระชายาหยุนเปลี่ยนหัวข้อ แต่สีหน้าของนางไม่ได้ผ่อนคลาย แต่นางนำหัวข้อของกู่ขึ้นมา นางพูดว่า “เร็ว ๆ นี้ข้าจำได้ คนจากเผ่ากู่มาที่หมู่บ้านของข้าในอดีต ตอนนั้นข้ายังเด็กอยู่อายุประมาณ 7 หรือ 8 ขวบ ข้าจำได้ว่าเป็นผู้หญิง แต่ไม่จำลักษณะที่ปรากฏของนางอย่างชัดเจน ข้าจำได้แค่ว่านางสวมเครื่องประดับเงินจำนวนมากและสวมกระดิ่งที่ขาของนาง เสียงกระดิ่งดังขึ้นเมื่อนางเดิน พวกมันฟังดูเพราะมาก ข้าไม่แน่ใจว่านางมาถึงหมู่บ้านได้อย่างไร แต่หมู่บ้านยอมให้นางอยู่ที่นี่และนางก็ตกหลุมรักชายหนุ่มในหมู่บ้าน พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน จากนั้นข้าได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นต้องการให้ชายหนุ่มออกไปกับนางเพื่อกลับไปที่หมู่บ้านแม้ว ชายหนุ่มไม่เห็นด้วย ทั้งสองมีการต่อสู้และชายหนุ่มเสนอให้หย่ากัน หญิงสาวไม่ได้พูดอะไรมาก นางฆ่าตัวตายในคืนนั้น วันรุ่งขึ้นชายหนุ่มคนนั้นก็ตายอย่างทรมาน ท้องของเขาป่องและมันก็ระเบิดทันที จากข้างในท้องมีแมลงมากมายคลานออกมา”
พระชายาหยุนพยายามที่จะจำได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้“เแมลงเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่เมื่อพวกมันคลานออกมา ไม่นานพวกมันก็ตายอย่างรวดเร็วและยังพบแมลงเหล่านี้ในร่างกายของผู้หญิง แต่พวกมันไม่ได้คลานออกมาจากท้องของนาง แต่ออกมาปากของนาง ข้ากลัวมากในเวลานั้นและรู้สึกรังเกียจ ผู้คนในหมู่บ้านบอกว่าทั้งสองอาจเข้าไปในป่าลึกและถูกแมลงพิษกัดให้เป็นเช่นนั้น แต่มีคนที่บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะถูกกัดจากแมลงมีพิษเพราะทุกคนที่มาที่หมู่บ้านของเราไม่กลัวแมลงบนภูเขา เมื่อเราเกิดมา สมุนไพรจะถูกเผาไหม้รอบตัวเราตลอดทั้งวัน และเมื่อเราเป็นผู้ใหญ่ เราจะมีกลิ่นนั้นในร่างกายของเราและไม่มีแมลงจะกัดเรา สำหรับเหตุผลที่ทำให้ทั้งคู่เสียชีวิต….”