The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1032 - กระบี่ไร้วันสลาย
เทียนหยูถือกรรไกรด้วยมือทั้งสองข้างนางเหยียดหยาม
“สามกระบวนท่าเรอะ?เจ้าจะอวดดีมากไปแล้ว! กรรไกรมังกรทองของข้าตัดได้ทุกสิ่ง ตั้งแต่วิญญาณสัมผัสไม่ได้ไปจนถึงสมบัติภูติ เจ้าจะเอาชนะข้าในสามกระบวนท่าได้ยังไง!”
ฉับ!
กรรไกรมังกรทองหุบลงอย่างแรงลำแสงสีทองไขว้เฉือนตัดนภาราวกับผ้าบาง เกิดเป็นรอยแยกมิติตำสนิทในทุกที่ที่พลังสัมผัส
กระบี่ของปิงหวูชิงขาดท่อน!
“สมบัติกึ่งภูติรึ?”
เฉียนเฟิงหน้าหมองตอนที่ต่อสู้กับนางเมื่อครู่ เทียนหยูไม่ได้ใช้สมบัตินี้เลย!
หลายคนร้องตะโกนด้วยความตกใจคนที่มองดูการต่อสู้ทั้งริษยาและอยากได้อาวุธของนาง ในสำนักใหญ่แห่งดินแดนพรสวรรค์อย่างตำหนักโลหิตมีเพียงศิษย์สามอันดับแรกเท่านั้นที่จะได้รับสมบัติกึ่งภูติมาเป็นของป้องกันตัว หลายคนอดอิจฉาเทียนหยูไม่ได้
แต่ปิงหวูชิงนั้นสุขุมเยือกเย็นนางขยับมือและถาม
“กระบี่ข้าถูกตัดง่ายดายเช่นนั้นเชียวหรือ?”
เพล้ง!
กระบี่ที่ขาดสองท่อนเลือนหายกลายเป็นแสงเผยให้เห็นตัวจริงมันมิใช่สมบัติที่จับต้องได้ พวกมันคือสิ่งกลวงเปล่าสองชิ้นที่ไร้สถานะ!
เมื่อถูกตัดลำแสงกระบี่ทั้งสองหลอมรวมเป็นหนึ่ง มันกลายเป็นกระบี่เล่มเดิมและเข้าฟาดฟันเทียนหยูต่อไป
เทียนหยูไม่ทันระวังนางตกใจมาก
“นี่มัน…นี่มันวิถีกระบี่ขั้นกลางกระบี่ไร้วันสลาย!” “อะไรนะ?ระดับสองของวิถีกระบี่เรอะ?”
เหล่าผู้คนสูดหายใจเข้าลึก
ในทุกวิถีของการบ่มเบาะพลังอุปสรรคที่มิอาจก้าวข้ามได้จะเกิดขึ้นในสุดสายปลายทางของการบ่มเพาะ เมื่ออุปสรรคนั้นถูกก้าวข้าม คนผู้นั้นจะได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตอันน่าอัศจรรย์ที่เรียกว่าวิถีบ่มเพาะเนื้อแท้ วิถีบ่มเพาะเนื้อแท้แบ่งเป็นสามระดับ เป็นระดับแรก ระดับกลาง และระดับขั้นสูง
ส่วนสามระดับอันยิ่งใหญ่ของวิถีกระบี่ระดับแรกนั้นคือกระบี่ผสานใจ และระดับกลางคือกระบี่ไร้วันสลาย!
ยอดฝีมือส่วนใหญ่มิอาจก้าวไกลไปกว่าวิถีบ่มเพาะเปลือกนอกมิอาจไปสู่วิถีบ่มเพาะเนื้อแท้ได้ มีเพียงส่วนน้อยที่มีความตั้งใจสูงส่ง ผู้ที่เข้าใจกฎเกณฑ์ของโลกที่สามารถกำจัดสิ่งกีดขวางและก้าวเข้าสู่วิถีเนื้อแท้
ในระดับที่สองมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าถึง ผู้ที่ฝึกฝนวิถีจนถึงระดับเนื้อแท้ที่สองในเขตกลางนั้นมีอยู่ไม่กี่คนปิงหวูชิงคือหนึ่งในนั้น!
ปี้หลิงเทียนมองนางด้วยความยอมรับเนตรบุพผาสีมรกตของเขาก็ชั่วร้าย
ขณะนี้กรรไกรมังกรทองของเทียนหยูได้หมุนวนที่เบื้องหน้า มันกลายเป็นเกราะป้องกันสีทอง
กระบี่ที่มิอาจจับต้องซัดเข้าใส่เกราะทองตรงๆ เกิดเสียงแหลมแสบแก้วหูของโลหะกระทบดังลั่น แสงกระบี่ปะทะกรรไกรมังกรทองทำให้เกิดมังกรเพลิงตัวยาว มันเป็นภาพอันตระการตา!
เทียนหยูโล่งอกเมื่อพบว่านางรับมือได้
“กระบี่ไร้วันสลายก็มาได้แค่นี้แหละ!ดูกรรไกรมังกรทองของข้าซะ!”
ปั้ง!
กรรไกรมังกรทองที่หมุนวนเริ่งความเร็วขึ้นเสียงเสียดสีแหลมจนน่ากลัว กระบี่ที่จับต้องไม่ได้ของปิงหวูชิงกระเด็นกลับอย่างแรงไปทางปิงหวูชิง
กรรไกรมังกรทองได้แบ่งเป็นสองท่อนกลายเป็นกระบี่สองชิ้นที่แยกออกจากกัน
แต่ละชิ้นพุ่งเข้าใส่ปิงหวูชิงด้วยความเร็วอันบ้าคลั่งราวกับทะเลมังกรทอง!
“สมบัติกึ่งภูติที่เปลี่ยนรูปแบบได้!”
มีคนอุทานด้วยความตกใจสมบัติกึ่งภูติตามปกตินั้นมักจะมีพลังมากกว่าหนึ่งเดียว ยิ่งมีพลังซ่อนเอาไว้เท่าใด มันก็ยิ่งน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น
“มันคือจิตวิญญาณมังกรทองมันมีพลังของกึ่งอสูรเนรมิตรอยู่ด้วย จ้าวเทวะระดับเก้าป้องกันไม่ไหวแน่ แม่คนสวยนั่นกำลังจะตาย”
คนแปลกหน้าที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ใดบ่งบอกพลังของกรรไกรมังกรทอง
หลายคนกระวนกระวายใจเมื่อมองปิงหวูชิง
“กระบี่ไร้วันสลายจะพ่ายแพ้เจ้าง่ายๆแบบนั้นได้ยังไง?”
ปิงหวูชิงยังคงเย็นชานางขยับมือเดียว
กระบี่ที่กระเด็นกลับไปราวกับถูกแช่แข็งมันหายไปและปรากฏตัวอีกครั้งที่สามศอกหน้าปิงหวูชิงและไม่ขยับเขยื้อน
ดัชนีราวหยกของปิงหวูชิงสัมผัสตัวกระบี่
แสงกระบี่สลายกลายเป็นแสงประกายงดงามแสงเหล่านั้นรวมตัวอีกครั้งเป็นกระบี่นับไม่ถ้วนทั้งสนามรบ มีกระบี่อย่างน้อยพันเล่ม!
แต่ละเล่มมีพลังอันดุร้ายพลังกระบี่แผ่ออกมามหาศาล
พลังกระบี่สั่นคลอนทุกคนไปจนถึงกระดูกมันเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสะพรึง
“นี่คือกระบี่ไร้วันสลาย”
ปิงหวูชิงพูดอย่างไร้อารมณ์
เมื่อนางพูดทุกมุมโลกตึงแน่นขึ้น กระบี่พันเล่มสั่นอย่างรุนแรง มันกลายเป็นเสียงกระบี่ที่กรีดร้อง ปิงหวูชิงกำลังควบคุมกระบี่พันเล่มในคราเดียวนางไม่ต่างกับเซียนกระบี่!
ฟึ่บ!ฟึ่บ! ฟึ่บ!
กระบี่พันเล่มพุ่งออกไปดั่งเมฆาทมิฬ ไอลีนโนเวล
“น่าสนุกนี่!กระบี่ไร้วันวลาย กระบี่ที่เหมือนกับหัวใจข้า ไม่มีวันสลาย ทะลวงเมฆาเข้าคร่าทรชน!”
ปี้หลิงเทียนประทับใจ
วิชานี้แข็งแกร่งเกินกว่าวิชาก่อนหน้าของปิงหวูชิงไปมาก
ซือหยูแอบทึ่งเมื่อมองดูการต่อสู้ผ่านไปเพียงไม่นานแต่ปิงหวูชิงก็ได้เข้าถึงวิถีกระบี่ที่เกินกว่ากระบี่ผสานใจไปแล้ว และนางได้ทะลวงเข้ามาถึงขั้นนี้ กระบี่ไร้วันสลาย!
“อะไรน่ะ?อ๊าาาา!”
เทียนหยูทำได้แค่ร้องด้วยความตกใจก่อนจะจมลงสู่คลื่นกระบี่พันเล่ม
กรรไกรมังกรทองทั้งสองเล่มลอยกลับไปที่เทียนหยูนางพยายามจะป้องกันคลื่นกระบี่เหล่านั้น
กึด!กึด!
เสียงแตกดังมาจากส่วนในของกรรไกรมังกรทองมันมิอาจรับมือกับกระบี่ไหวและเริ่มพัง
เทียนหยูหวาดกลัวมากนางไม่คิดว่าพลังของปิงหวูชิงจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ มันเทียบได้กับปิงหวูชิงอีกคน!
“ถังหลิง!รออะไรอยู่? จับซือหยูเซี่ยนเร็ว!!”
เทียนหยูรีบร้องตะโกน
นางลืมเป้าหมายแรกที่คิดลงโทษซือหยูไปแล้วตอนนี้นางแค่อยากจะมีชีวิตรอด
ถังหลิงตัวสั่นเขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เขาได้แค่ยอมรับในพลังของปิงหวูชิง
เมื่อได้ยินเทียนหยูเขาจะกล้าลังเลหรือ? สายฟ้าปะทุออกจากดวงตาเมื่อเขามองซือหยู เขาพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ปิงหวูชิงใจหายนางต้องหันไปสนใจถังหลิงแทน
“หวูชิงไม่ต้องสนใจมัน ข้าจัดการเอง”
ซือหยูก้าวไปข้างหน้าอย่างใจเย็น
ปิงหวูชิงถามอย่างเคร่งเครียด
“เจ้าจะรับมือได้นานเท่าไหร่กัน?”
ซือหยูคิดเพียงวินาทีเดียวก่อนจะตอบ
“กระบวนท่าเดียวล่ะมั้ง?”
“กระบวนท่าเดียวรึ?”
ปิงหวูชิงพยักหน้าเบาๆ
“กระบี่ท่าเดียวก็พอแล้วอดทนไว้! ข้าจะไปช่วยเจ้าในลมหายใจเดียว!”
ท่ามกลางคนดูเซียนหลิงถอนหายใจ นางเรียกหน้าไม้ออกมา
“ยังไงข้าก็ต้องยื่นมือไปอยู่ดี!”
ถังหลิงบินไปด้วยความเร็วของสายฟ้าและร่อนลงมาถึงสิบศอกห่างจากซือหยูมือของเขากลายเป็นกรงเล็บเข้าคว้าไหล่ซือหยู
เขายิ้มอย่างดุร้ายเยือกเย็น “เจ้ารู้ตัวดีนี่!ข้าใช้แค่กระบวนท่าเดียวก็กำจัดเจ้าได้แล้ว!!”
ถังหลิงกำลังจะคว้าไหล่ของซือหยูแต่เขาก็ได้ยินรอยยิ้มชั่วร้ายที่มุมปากซือหยูพลังอสูรพุ่งออกมาจากร่างของเขา มังกรอสูรหกตัวพุ่งออกมาตาม ๆ กัน พลังอสูรอันบริสุทธิ์ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ หวาดกลัว
“พลังบริสุทธิ์ยิ่งนัก!ข้าไม่เคยเห็นพลังอสูรแบบนี้จากยอดฝีมืออสูรมาก่อนเลย!”
“มันไม่ใช่พลังอสูรทั่วไปมันคือพลังของเผ่าอสูรที่มาจิวโจวเมื่อร้อยปีก่อน!”
“อะไรนะ?มันคือพลังอสูรจากต่างโลกเรอะ?”
ถังหลิงงุนงงไปชั่วครู่กว่าจะได้สติ มังกรอสูรทั้งหกก็ทะลวงร่างเขาไปแล้ว
วิชามังกรเก้าอสูรได้ปลดปล่อยวิชาในขั้นที่หกออกมาเป็นครั้งแรก
ถังหลิงมองร่างตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตาร่างกายของเขาพังทลายจากภายในสู่ภายนอก เพลิงดำสนิทกำลังลุกไหม้
“นี่เจ้า…”
ถังหลิงมิอาจเชื่อในสิ่งที่เห็น
ซือหยูตอบกลับราวไม่สนใจ
“เจ้าเข้าใจผิดแล้วตอนที่ข้าพูดว่ากระบวนท่าเดียว ข้าน่ะหมายถึงตัวเจ้า”
เขาโบกมือทั้งร่างของถังหลิงกลายเป็นเถ้าถ่านทมิฬที่ถูกสายลมพัดหายไป
ถังหลิงอยากจะให้เขาตายหลายต่อหลายครั้งและนี่ก็คงเป็นวิธีแก้ไขปัญหา
ทุกคนเงียบกริบทุกคนมิอาจกระพริบตา พวกเขามองซือหยูราวกับมองสัตว์ประหลาด