The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1062 - สู้กับหมาดำ
ทุกการโจมตีของพวกเขาสลายไปในพริบตานี่คือพลังของไม้เท้าเซียนมณี สมบัติศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิ ใครกันจะอยากสู้กับผู้ที่มีอาวุธเช่นนี้?
“เจ้าหนูถึงตาข้าบ้าง!”
หมาดำใช้ปากปักไม้เท้าเซียนมณีลงบนพื้นซือหยูรู้สึกว่าถูกปกคลุมด้วยพลังที่มองไม่เห็น
ซือหยูสร้างลูกไฟเล็กๆ อย่างใจเย็น แต่เมื่อสร้างได้ครึ่งส่วน วิชาของเขาก็หยุดลง เมื่อลองอีกก็ได้ผลแบบเดิม
“พวกเราใช้วิชาไม่ได้อีกแล้ว!”
ฮั่นเฟยเริ่มหน้าเสียสีหน้านางเยือกเย็นดั่งน้ำแข็งพร้อมกันหนีอย่างไม่ลังเล นางออกจากพื้นที่ของสวนสุสานไป แต่เมื่อถึงสวนวิชา นางก็ยังมิอาจรอดการชำระล้างจากไม้เท้าเซียนมณีได้ “ฮ่าๆไม่ได้ผลหรอก! พลังชำระล้างของไม้เท้าเซียนมณีมีผลทั่วทั้งแดนมณี! นอกจากเจ้าจะฉีกมิติหนีออกจากแดนมณี เจ้าก็ไม่มีทางรอดพ้นไปได้! พวกเจ้าก็แค่คนธรรมดาที่มีสมบัติวิเศษเท่านั้น!”
หมาดำแยกเขี้ยวพร้อมเปล่งลแสงมรกตจากดวงตาร่างดำสนิทของมันแบ่งแยกออกเป็นร่างปลอมห้าร่างที่พยายามไปสังหารแต่ละคนพร้อมกัน ร่างทั้งห้ามีพลังเท่ากับร่างต้น ไม่มีทางแยกออกได้เลย
ซือหยูกับคนอื่นๆ ในเวลานี้เหลือแต่พลังกาย พลังส่วนใหญ่ถูกผนึกไป พวกเขาจะกล้าต่อสู้ตรง ๆ กับหมาดำหรือ?
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเมื่ออุ้งเท้าของมันซัดใส่ลำตัวตงฟางเถียนเฟิงกรงเล็บคมกริบของมันทิ้งรอยข่วนใหญ่ ถ้าหากไม่ใช่เพราะสมบัติป้องกันที่ตงฟางเถียนเฟิงมี แรงปะทะที่เหลือคงจะเอาชีวิตนางไปแล้ว
“ไอ้หมาบัดซบ!”
เสื้อผ้าตงฟางเถียนเฟิงชุ่มโชกไปด้วยเลือดนางวิเคราะห์สมดุลของพลังในทันทีด้วยความแค้น นางยืนบนปลายเท้าและบินไปข้างหลัง นางเลือกที่จะหนี
ขณะหนีนางเริ่มดึงยันต์หลายชิ้นที่มีพลังมหาศาลข้วางออกไป แต่นางก็ต้องตาค้างเมื่อยันต์นั้นถูกผลของการชำระล้างสลายพลังไป พลังในยันต์หายไปสิ้น
ต่อมากรงเล็บหมาดำได้ฉีกกระจากยันต์เป็นเสี่ยง ๆ และเล็งไปที่คอของตงฟางเถียนเฟิง ตงฟางเถียนเฟิงชักสีหน้า นางดึงสมบัติป้องกันออกมาอีก นางพยายามอย่างมากเพื่อที่จะรับพลังเก้าในสิบส่วนให้ได้แบบเดิม
ถึงอย่างนั้นไหล่ของนางก็ถูกซัดจนเหวอะ โลหิตสด ๆ ไหลออกมาจากปากแผล ความเจ็บปวดยิ่งทำให้นางตอบสนองเร็วขึ้น นางเปิดแหวนมิติเรียกโอสถออกมารักษาบาดแผล แต่นางก็หน้าซีดเมื่อแหววนมิติเปิดได้เพียงครึ่งทางก่อนจะปิดตัวลง!
ตงฟางเถียนเฟิงมีร่างกายของจ้าวเทวะระดับเก้านางมีพลังฟื้นฟูที่เหนือกว่าคนทั่วไป แต่ในเวลานี้ นางมิอาจหยุดเลือดตัวเองให้หยุดไหลได้ ซ้ำร้ายยังรักษาบาดแผลด้วยโอสถไม่ได้อีก
“เจ้าเห็นรึยัง?โศกเศร้ารึยัง? ที่นี่ พวกเจ้าก็แค่มดปลวกที่มีร่างกายแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเท่านั้น ตายซะเถอะ!”
หมาดำยกกรงเล็บตะปบ
ตงฟางเถียนเฟิงป้องกันด้วยแขนสองข้างข้อมือเปลือยเปล่าถูกกรงเล็บเฉือนเลือดสาดกระเซ็น พลังสองส่วนไหลผ่านสู่ร่างกาย
ตงฟางเถียนเฟิงกระเด็นไปหลายร้อยศอกนางกำลังจะตกลงไปที่กลางสวนสุสานที่เต็มไปด้วยเสี้ยววิญญาณเซียน
นภาจรัสลงเอยในสภาพสาหัสคนอื่น ๆ ย่อมไม่ดีไปกว่ากัน
มีเพียงซือหยูที่ยังรับมือได้ดีอยู่เขารับมืออย่างไม่ยากเย็น ไม่มีแม้แต่รอยข่วนบนตัวเขา
“เจ้าหนูเจ้าจะเลิกเล่นเข็มได้หรือยัง?” มุมปากหมาดำบิดเบี้ยวราวกับหมาป่ามันไม่กล้าจะจู่โจมต่อไป ดวงตามันจ้องมองเข็มทมิฬในมือซือหยู
แม้ว่าจะไร้พิษเซียนพ่ายบนเข็มและเข็มก็เสียพลังทะลุมิติไปเข็มนี้ก็ยังสร้างความเสียหายกับดวงวิญญาณได้หากถูกแทง
หมาดำพยายามจะใช้กรงเล็บซัดซือหยูหลายครั้งแต่มันก็ถูกเข็มทิ่มแทงอุ้งเท้าจนร้องครางด้วยความเจ็บปวด หลังจากพยายามอีกหลายครั้ง มันก็ยิ่งระวังตัวและไม่กล้าลงมืออย่างประมาทอีก
“เจ้าคิดว่าข้าควรจะเลิกเล่นเข็มแล้วปล่อยให้เจ้ารังแกสินะ?”
ซือหยูตะคอก
หมาดำรู้สึกเหมือนได้กัดตัวเม่นมันคิดอย่างหนักว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ จากนั้นมันก็เงยขึ้นฟ้า
“อ๊ะ!ดูสิ มีซาลาเปาเนื้อบนฟ้าด้วย!”
ซือหยูเงยหน้าขึ้นฟ้าแต่ไม่หยุดชี้เข็มไปข้างหน้า
โอ้ย!
เอ๋ง!เอ๋ง เอ๋ง! เอ๋ง เอ๋ง เอ๋ง!
คนอื่นๆ ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของสุนัขและเห็นว่ามันปิดปากที่ถูกแทงด้วยเข็ม มันเจ็บจนกลิ้งลงกับพื้นและเห่าไม่หยุด
ซือหยูตาลุกวาวเขาขยับตัวเผยลูกแก้วครามอำพันขนาดเท่าดัชนี เขาขว้างมันใส่หมาดำ
แม้จะเจ็บปวดหมาดำก็ยังเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของซือหยู มันกระโดดขึ้นโดยไม่คิดและเริ่มเยาะเย้ยซือหยู
“วิชากับสมบัติวิเศษมันไม่ได้ผล!”
เมื่อพูดจบหมาดำตะปบมาข้างหน้า
แต่เมื่ออุ้งเท้ามันได้แตะมุกบาดาลใบหน้ามันก็แข็งทื่อ มันเห่าหอนโหยหวนอย่างทุกข์ทรมาน มุกบาดาลทับมันลงบนมีเพียงเท้าทั้งสี่ที่กระดิกได้บ้าง ฟองขาวออกมาจากปากของมัน
“ข้ายังอ่อนด้อยนักที่คิดว่ามันเป็นสมบัติวิเศษ…”
โฮ่ง!
หมาดำกลายเป็นเมฆควัน
ซือหยูจับตาดูมุกบาดาลด้วยใบหน้าไร้อารมณ์เขาได้เจอกับสถานการณ์ที่เขาใช้แหวนมิติไม่ได้มาบ้าง เขาจึงต้องแบกสมบัติน้ำหนักเบาเอาไว้กับตัว พฤติกรรมนี้เป็นประโยชน์กับเขาแล้ว
เข็มเหล็กมีพลังต่อดวงวิญญาณและน้ำหนักของมุกบาดาลก็เป็นคุณสมบัติทั่วไปของมัน พวกมันไม่ได้รับผลการชำระล้างของไม้เท้าเซียนมณี เช่นเดียวกับมีดคมที่ไม่มีทางชำระล้างให้เป็นแผ่นเหล็กได้
“บางทีการเข้ามาในแดนมณีเองก็เป็นความผิดพลาดอยู่แล้ว”
ซือหยูถอนหายใจเบาๆ เขาหันไปมองคนที่เหลือ คนที่เจ็บปวดที่สุดคือตงฟางเถียนเฟิงยากที่จะเข้าใจว่าเหตุใดหมาดำจึงป่าเถื่อนกับนางกว่าคนอื่น ราวกับว่ามันมีเรื่องคับคาใจกับตงฟางเถียนเฟิงมาก่อน
“น้องซือช่วยพวกเราด้วย!”
ปี้หลิงเทียนสีหน้าดีขึ้นเมื่อเห็นว่าซือหยูเอาชนะหมาดำได้
ซือหยูทำเป็นไม่ได้ยินเขายักไหล่และบินไปหาตงฟางเถียนเฟิง หมาดำตัวสั่นและถอยทิ้งระยะตั้งแต่ก่อนที่เขาจะดึงเข็มออกมา
เข็มนี้คือความทรงจำที่มิอาจอภัยได้แม้จะเป็นร่างปลอม พวกมันก็มีความทรงจำเดียวกัน
“เจ้าหนูอย่ามายุ่งเรื่องของข้า!”
หมาดำเห่าหอนอย่างดุร้ายหลายครั้ง
ซือหยูไม่ได้คิดจะช่วยตงฟางเถียนเฟิงเขาแค่ไม่คิดจะให้หมาดำได้สิ่งที่มันต้องการ
ฮั่นเฟยกับกู้ไทซูได้เห็นสถานการณ์ก่อนจะขยับตัวมาทางซือหยูพวกเขาแพ้ต่อหมาดำอยู่ตลอดเวลา
ขณะนี้ซือหยูคือคนเดียวที่สามารถกำราบหมาดำได้
และก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากซือหยูสามสิบศอก หมาดำอีกสี่ตัวที่เหลือก็หยุดพร้อมกันและเริ่มทิ้งวงโจมตีอย่างระมัดระวังสูงสุด
แต่จู่ๆ พวกมันก็จู่โจมจากสี่ทิศทางพร้อมกันในเป้าหมายที่ต่างกัน
ซือหยูดึงเข็มมุกบาดาล และเส้นไหมจากแขนเสื้อทั้งสองข้าง เขาใช้แต่ละอย่างปกป้องฮั่นเฟย ปี้หลิงเทียน และตงฟางเถียนเฟิง
หมาดำสามตัวหยุดลงและถอยออกไปอย่างไม่เต็มใจ
มีเพียงกู้ไทซูที่ร้องครางอย่างเจ็บปวดเมื่อแขนถูกหมาดำตะปบเลือดไหลออกมาไม่หยุด
เมื่อเห็นว่าซือหยูปกป้องทุกคนและมีเขาคนเดียวที่ถูกปล่อยให้รับการโจมตีกู้ไทซูอดถอนหายใจแรงไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าซือหยูจงใจให้เขาตาย
หมาดำทั้งสี่ตาลุกวาวและตระหนักว่าไม่มีคนปกป้องกู้ไทซูมันหัวเราะอย่างชั่วร้ายใส่กู้ไทซู
“ฮ่าๆๆๆเจ้าคนน่าสงสาร เจ้าถูกทิ้งอย่างนั้นเรอะ? ถ้าเช่นนั้น ข้าจะไม่ปรานีล่ะ!”
เสียงเห่าดังพร้อมกันสี่เสียงหมาสี่ตัวกระโจนเข้ากัดกู้ไทซู กู้ไทซูมีพลังมากมายก็จริง แต่ด้วยการจำกัดพลังของไม้เท้าเซียนมณี เขาสิ้นหวัง
แต่ในตอนที่เขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ จากหมาดำสี่ตัว เส้นไหมที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็แล่นผ่านหมาทั้งสี่
บ๊อก!บ๊อก! บ๊อก! บ๊อก!
หมาร้องด้วยความตกใจหมาทั้งสี่ถูกบั่นเป็นสองท่อนพร้อมกัน
ณจุดที่วางไม้เท้าเซียนมณี เสียงคนโมโหดังมาจากใต้ดิน “ไอ้เด็กเวรเจ้าหลอกข้า!”
เห็นได้ชัดว่ากู้ไทซูเพิ่งจะถูกใช้เป็นเหยื่อล่อหมาทั้งสี่เพื่อให้ซือหยูฆ่าหมาสี่ตัวพร้อมกัน
การฆ่าทีละตัวเป็นเรื่องที่ยากมากหมาแต่ละตัวมีพลังที่ใช้หนีได้ กลุ่มคนที่เสียพลังมิอาจตามได้ทัน
ซือหยูกับกู้ไทซูมีความบาดหมางระหว่างกันอยู่แล้วมันเห็นได้ชัดจากที่หอคอยและหมาดำก็จำเอาไว้ในใจ มีเหตุผลที่ซือหยูปล่อยให้หมาดำกำจัดกู้ไทซู ดังนั้นหมาดำจึงถูกหลอก เพราะถ้าหากจงใจปล่อยฮั่นเฟยหรือตงฟางเถียนเฟิงหรือแม้กระทั่งปี้หลิงเทียนให้เป็นอันตราย หมาดำอาจจะสงสัยได้
แม้กู้ไทซูจะรอดตายซือหยูก็ไม่รีบร้อนที่จะฆ่าเขา เขามีโอกาสมากมายหากได้กลับไปยังจิวโจว
เมื่อเห็นว่าตัวเองถูกซือหยูใช้เป็นเหยื่อล่อใบหน้าของกู้ไทซูก็แผ่รังสีความแค้นออกมา ในขณะนี้ควันดำเริ่มพวยพุ่งก่อตัวเป็นรูปร่างหมาดำ มันคือหมาดำตัวแรกที่หนีไปซ่อนตอนที่สร้างร่างปลอมของตัวเอง
หมาดำทั้งห้าถูกกำจัดจนหมดแต่พวกมันไม่เคยถูกฆ่าไปจริง ๆ แม้มันจะน่าผิดหวัง มันก็เป็นอย่างที่คิด เพราะถ้าหมาดำถูกฆ่าง่าย ๆ มันก็คงทำให้พวกเขาลำบากไม่ได้จนถึงตอนนี้
หมาดำที่โกรธแค้นจ้องมองพวกเขาทั้งหกคนอย่างเอาเป็นเอาตายมันพูดด้วยจิตสังหาร
“อย่าคิดว่าพวกเจ้าจะปลอดภัยแค่เพราะมีไอ้เวรนั่น!ข้าเป็นอมตะในแดนมณี พวกเจ้าฆ่าข้าได้เป็นพันครั้ง แต่มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันจะปกป้องเจ้าไปได้ตลอดชีวิตเรอะ? ยอมจำนนในโชคชะตาพวกเจ้าได้แล้ว เลิกขัดขืน ข้าจะให้พวกเจ้าตายอย่างไม่ทรมาน!”
ใบหน้าคนอื่นๆ เปลี่ยนไป แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่ซือหยูจะปกป้องพวกเขาเป็นเวลานาน
เมื่อเห็”นว่าหลายคนครุ่นคิดหมาดำหันไปมองซือหยู
“หึหึไอ้เด็กบ้า หากข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้ และเจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ทำไมเราไม่ตกลงกันเล่า? เจ้ากับข้าร่วมมือกันกำจัดพวกมันสี่คน และข้าจะเปิดสวนที่หกให้เจ้า เจ้าจะได้เป็นเพียงคนเดียวที่เข้าไปเอาสมบัติทั้งหมดของเซียนมณีออกมาเป็นของเจ้าเอง เจ้าจะว่ายังไง?”
ฮั่นเฟยตากระตุกดูเหมือนว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจะเลี่ยงไม่ได้แล้ว หมาดำเดินหมากที่นางคิด มันเดินหมากได้ถูกเวลาพอดี ถ้าหากใครก็ตามอยู่ในตำแหน่งของซือหยู คนผู้นั้นย่อมเก็บคำสัญญาของหมาดำไปคิด
ความสัมพันธ์ของซือหยูกับพวกนางไม่นับว่าเป็นสหายการปกป้องพวกนางไม่ได้ให้ผลประโยชน์อันใดกับเขาแต่เป็นสิ่งฉุดรั้ง เทียบกับแล้ว ถ้าเขาร่วมมือกับหมาดำ เขาจะได้ประโยชน์กว่ามาก
ทุกคนรู้คำตอบของซือหยูอยู่แล้ว ฟึ่บ!
กลุ่มที่อยู่ใกล้ชิดกระจัดกระจายในทันทีสายตาสี่คู่จ้องมองซือหยูด้วยความระแวง ถ้าซือหยูสามารถฆ่าหมาดำได้ การฆ่าพวกเขาก็เป็นเรื่องง่ายดั่งปอกกล้วย
“เป็นความคิดที่ดี…”
ซือหยูหัวเราะเขาเล่นกับเข็มในมือ
“แต่เจ้าคิดจริงๆ รึว่าข้าจะหลงกล?”
หมาดำหลบตาพร้อมกับหัวเราะ
“เจ้ากลัวว่าข้าจะไม่รักษาสัญญาหรือ?พวกเราใช้ปฏิญาณสัตย์ดวงใจกันก็ได้”
แต่ซือหยูส่ายหน้า
“หลงกลที่ข้าหมายถึงไม่ได้หมายถึงเจ้าผิดสัญญาแต่พลังเจ้าลดลงไปมากแล้ว แต่เจ้ายังพยายามจะหลอกข้าให้กำจัดหนามยอกของเจ้า! เจ้าคิดว่าข้าโง่เรอะ?”
พลังลดลงไปมากแล้วหรือ?สีหน้าของฮั่นเฟยและคนอื่น ๆ แข็งทื่อ พวกนางหันไปมองหมาดำ ไม่ว่าพวกนางจะมองอย่างไร มันก็ไม่เห็นสัญญาณของความอ่อนแอลงเลย
“เจ้าหนูถึงตาข้าบ้าง!”
หมาดำใช้ปากปักไม้เท้าเซียนมณีลงบนพื้นซือหยูรู้สึกว่าถูกปกคลุมด้วยพลังที่มองไม่เห็น
ซือหยูสร้างลูกไฟเล็กๆ อย่างใจเย็น แต่เมื่อสร้างได้ครึ่งส่วน วิชาของเขาก็หยุดลง เมื่อลองอีกก็ได้ผลแบบเดิม
“พวกเราใช้วิชาไม่ได้อีกแล้ว!”
ฮั่นเฟยเริ่มหน้าเสียสีหน้านางเยือกเย็นดั่งน้ำแข็งพร้อมกันหนีอย่างไม่ลังเล นางออกจากพื้นที่ของสวนสุสานไป แต่เมื่อถึงสวนวิชา นางก็ยังมิอาจรอดการชำระล้างจากไม้เท้าเซียนมณีได้ “ฮ่าๆไม่ได้ผลหรอก! พลังชำระล้างของไม้เท้าเซียนมณีมีผลทั่วทั้งแดนมณี! นอกจากเจ้าจะฉีกมิติหนีออกจากแดนมณี เจ้าก็ไม่มีทางรอดพ้นไปได้! พวกเจ้าก็แค่คนธรรมดาที่มีสมบัติวิเศษเท่านั้น!”
หมาดำแยกเขี้ยวพร้อมเปล่งลแสงมรกตจากดวงตาร่างดำสนิทของมันแบ่งแยกออกเป็นร่างปลอมห้าร่างที่พยายามไปสังหารแต่ละคนพร้อมกัน ร่างทั้งห้ามีพลังเท่ากับร่างต้น ไม่มีทางแยกออกได้เลย
ซือหยูกับคนอื่นๆ ในเวลานี้เหลือแต่พลังกาย พลังส่วนใหญ่ถูกผนึกไป พวกเขาจะกล้าต่อสู้ตรง ๆ กับหมาดำหรือ?
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเมื่ออุ้งเท้าของมันซัดใส่ลำตัวตงฟางเถียนเฟิงกรงเล็บคมกริบของมันทิ้งรอยข่วนใหญ่ ถ้าหากไม่ใช่เพราะสมบัติป้องกันที่ตงฟางเถียนเฟิงมี แรงปะทะที่เหลือคงจะเอาชีวิตนางไปแล้ว
“ไอ้หมาบัดซบ!”
เสื้อผ้าตงฟางเถียนเฟิงชุ่มโชกไปด้วยเลือดนางวิเคราะห์สมดุลของพลังในทันทีด้วยความแค้น นางยืนบนปลายเท้าและบินไปข้างหลัง นางเลือกที่จะหนี
ขณะหนีนางเริ่มดึงยันต์หลายชิ้นที่มีพลังมหาศาลข้วางออกไป แต่นางก็ต้องตาค้างเมื่อยันต์นั้นถูกผลของการชำระล้างสลายพลังไป พลังในยันต์หายไปสิ้น
ต่อมากรงเล็บหมาดำได้ฉีกกระจากยันต์เป็นเสี่ยง ๆ และเล็งไปที่คอของตงฟางเถียนเฟิง ตงฟางเถียนเฟิงชักสีหน้า นางดึงสมบัติป้องกันออกมาอีก นางพยายามอย่างมากเพื่อที่จะรับพลังเก้าในสิบส่วนให้ได้แบบเดิม
ถึงอย่างนั้นไหล่ของนางก็ถูกซัดจนเหวอะ โลหิตสด ๆ ไหลออกมาจากปากแผล ความเจ็บปวดยิ่งทำให้นางตอบสนองเร็วขึ้น นางเปิดแหวนมิติเรียกโอสถออกมารักษาบาดแผล แต่นางก็หน้าซีดเมื่อแหววนมิติเปิดได้เพียงครึ่งทางก่อนจะปิดตัวลง!
ตงฟางเถียนเฟิงมีร่างกายของจ้าวเทวะระดับเก้านางมีพลังฟื้นฟูที่เหนือกว่าคนทั่วไป แต่ในเวลานี้ นางมิอาจหยุดเลือดตัวเองให้หยุดไหลได้ ซ้ำร้ายยังรักษาบาดแผลด้วยโอสถไม่ได้อีก
“เจ้าเห็นรึยัง?โศกเศร้ารึยัง? ที่นี่ พวกเจ้าก็แค่มดปลวกที่มีร่างกายแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปเท่านั้น ตายซะเถอะ!”
หมาดำยกกรงเล็บตะปบ
ตงฟางเถียนเฟิงป้องกันด้วยแขนสองข้างข้อมือเปลือยเปล่าถูกกรงเล็บเฉือนเลือดสาดกระเซ็น พลังสองส่วนไหลผ่านสู่ร่างกาย
ตงฟางเถียนเฟิงกระเด็นไปหลายร้อยศอกนางกำลังจะตกลงไปที่กลางสวนสุสานที่เต็มไปด้วยเสี้ยววิญญาณเซียน
นภาจรัสลงเอยในสภาพสาหัสคนอื่น ๆ ย่อมไม่ดีไปกว่ากัน
มีเพียงซือหยูที่ยังรับมือได้ดีอยู่เขารับมืออย่างไม่ยากเย็น ไม่มีแม้แต่รอยข่วนบนตัวเขา
“เจ้าหนูเจ้าจะเลิกเล่นเข็มได้หรือยัง?” มุมปากหมาดำบิดเบี้ยวราวกับหมาป่ามันไม่กล้าจะจู่โจมต่อไป ดวงตามันจ้องมองเข็มทมิฬในมือซือหยู
แม้ว่าจะไร้พิษเซียนพ่ายบนเข็มและเข็มก็เสียพลังทะลุมิติไปเข็มนี้ก็ยังสร้างความเสียหายกับดวงวิญญาณได้หากถูกแทง
หมาดำพยายามจะใช้กรงเล็บซัดซือหยูหลายครั้งแต่มันก็ถูกเข็มทิ่มแทงอุ้งเท้าจนร้องครางด้วยความเจ็บปวด หลังจากพยายามอีกหลายครั้ง มันก็ยิ่งระวังตัวและไม่กล้าลงมืออย่างประมาทอีก
“เจ้าคิดว่าข้าควรจะเลิกเล่นเข็มแล้วปล่อยให้เจ้ารังแกสินะ?”
ซือหยูตะคอก
หมาดำรู้สึกเหมือนได้กัดตัวเม่นมันคิดอย่างหนักว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ จากนั้นมันก็เงยขึ้นฟ้า
“อ๊ะ!ดูสิ มีซาลาเปาเนื้อบนฟ้าด้วย!”
ซือหยูเงยหน้าขึ้นฟ้าแต่ไม่หยุดชี้เข็มไปข้างหน้า
โอ้ย!
เอ๋ง!เอ๋ง เอ๋ง! เอ๋ง เอ๋ง เอ๋ง!
คนอื่นๆ ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของสุนัขและเห็นว่ามันปิดปากที่ถูกแทงด้วยเข็ม มันเจ็บจนกลิ้งลงกับพื้นและเห่าไม่หยุด
ซือหยูตาลุกวาวเขาขยับตัวเผยลูกแก้วครามอำพันขนาดเท่าดัชนี เขาขว้างมันใส่หมาดำ
แม้จะเจ็บปวดหมาดำก็ยังเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของซือหยู มันกระโดดขึ้นโดยไม่คิดและเริ่มเยาะเย้ยซือหยู
“วิชากับสมบัติวิเศษมันไม่ได้ผล!”
เมื่อพูดจบหมาดำตะปบมาข้างหน้า
แต่เมื่ออุ้งเท้ามันได้แตะมุกบาดาลใบหน้ามันก็แข็งทื่อ มันเห่าหอนโหยหวนอย่างทุกข์ทรมาน มุกบาดาลทับมันลงบนมีเพียงเท้าทั้งสี่ที่กระดิกได้บ้าง ฟองขาวออกมาจากปากของมัน
“ข้ายังอ่อนด้อยนักที่คิดว่ามันเป็นสมบัติวิเศษ…”
โฮ่ง!
หมาดำกลายเป็นเมฆควัน
ซือหยูจับตาดูมุกบาดาลด้วยใบหน้าไร้อารมณ์เขาได้เจอกับสถานการณ์ที่เขาใช้แหวนมิติไม่ได้มาบ้าง เขาจึงต้องแบกสมบัติน้ำหนักเบาเอาไว้กับตัว พฤติกรรมนี้เป็นประโยชน์กับเขาแล้ว
เข็มเหล็กมีพลังต่อดวงวิญญาณและน้ำหนักของมุกบาดาลก็เป็นคุณสมบัติทั่วไปของมัน พวกมันไม่ได้รับผลการชำระล้างของไม้เท้าเซียนมณี เช่นเดียวกับมีดคมที่ไม่มีทางชำระล้างให้เป็นแผ่นเหล็กได้
“บางทีการเข้ามาในแดนมณีเองก็เป็นความผิดพลาดอยู่แล้ว”
ซือหยูถอนหายใจเบาๆ เขาหันไปมองคนที่เหลือ คนที่เจ็บปวดที่สุดคือตงฟางเถียนเฟิงยากที่จะเข้าใจว่าเหตุใดหมาดำจึงป่าเถื่อนกับนางกว่าคนอื่น ราวกับว่ามันมีเรื่องคับคาใจกับตงฟางเถียนเฟิงมาก่อน
“น้องซือช่วยพวกเราด้วย!”
ปี้หลิงเทียนสีหน้าดีขึ้นเมื่อเห็นว่าซือหยูเอาชนะหมาดำได้
ซือหยูทำเป็นไม่ได้ยินเขายักไหล่และบินไปหาตงฟางเถียนเฟิง หมาดำตัวสั่นและถอยทิ้งระยะตั้งแต่ก่อนที่เขาจะดึงเข็มออกมา
เข็มนี้คือความทรงจำที่มิอาจอภัยได้แม้จะเป็นร่างปลอม พวกมันก็มีความทรงจำเดียวกัน
“เจ้าหนูอย่ามายุ่งเรื่องของข้า!”
หมาดำเห่าหอนอย่างดุร้ายหลายครั้ง
ซือหยูไม่ได้คิดจะช่วยตงฟางเถียนเฟิงเขาแค่ไม่คิดจะให้หมาดำได้สิ่งที่มันต้องการ
ฮั่นเฟยกับกู้ไทซูได้เห็นสถานการณ์ก่อนจะขยับตัวมาทางซือหยูพวกเขาแพ้ต่อหมาดำอยู่ตลอดเวลา
ขณะนี้ซือหยูคือคนเดียวที่สามารถกำราบหมาดำได้
และก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากซือหยูสามสิบศอก หมาดำอีกสี่ตัวที่เหลือก็หยุดพร้อมกันและเริ่มทิ้งวงโจมตีอย่างระมัดระวังสูงสุด
แต่จู่ๆ พวกมันก็จู่โจมจากสี่ทิศทางพร้อมกันในเป้าหมายที่ต่างกัน
ซือหยูดึงเข็มมุกบาดาล และเส้นไหมจากแขนเสื้อทั้งสองข้าง เขาใช้แต่ละอย่างปกป้องฮั่นเฟย ปี้หลิงเทียน และตงฟางเถียนเฟิง
หมาดำสามตัวหยุดลงและถอยออกไปอย่างไม่เต็มใจ
มีเพียงกู้ไทซูที่ร้องครางอย่างเจ็บปวดเมื่อแขนถูกหมาดำตะปบเลือดไหลออกมาไม่หยุด
เมื่อเห็นว่าซือหยูปกป้องทุกคนและมีเขาคนเดียวที่ถูกปล่อยให้รับการโจมตีกู้ไทซูอดถอนหายใจแรงไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าซือหยูจงใจให้เขาตาย
หมาดำทั้งสี่ตาลุกวาวและตระหนักว่าไม่มีคนปกป้องกู้ไทซูมันหัวเราะอย่างชั่วร้ายใส่กู้ไทซู
“ฮ่าๆๆๆเจ้าคนน่าสงสาร เจ้าถูกทิ้งอย่างนั้นเรอะ? ถ้าเช่นนั้น ข้าจะไม่ปรานีล่ะ!”
เสียงเห่าดังพร้อมกันสี่เสียงหมาสี่ตัวกระโจนเข้ากัดกู้ไทซู กู้ไทซูมีพลังมากมายก็จริง แต่ด้วยการจำกัดพลังของไม้เท้าเซียนมณี เขาสิ้นหวัง
แต่ในตอนที่เขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ จากหมาดำสี่ตัว เส้นไหมที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็แล่นผ่านหมาทั้งสี่
บ๊อก!บ๊อก! บ๊อก! บ๊อก!
หมาร้องด้วยความตกใจหมาทั้งสี่ถูกบั่นเป็นสองท่อนพร้อมกัน
ณจุดที่วางไม้เท้าเซียนมณี เสียงคนโมโหดังมาจากใต้ดิน “ไอ้เด็กเวรเจ้าหลอกข้า!”
เห็นได้ชัดว่ากู้ไทซูเพิ่งจะถูกใช้เป็นเหยื่อล่อหมาทั้งสี่เพื่อให้ซือหยูฆ่าหมาสี่ตัวพร้อมกัน
การฆ่าทีละตัวเป็นเรื่องที่ยากมากหมาแต่ละตัวมีพลังที่ใช้หนีได้ กลุ่มคนที่เสียพลังมิอาจตามได้ทัน
ซือหยูกับกู้ไทซูมีความบาดหมางระหว่างกันอยู่แล้วมันเห็นได้ชัดจากที่หอคอยและหมาดำก็จำเอาไว้ในใจ มีเหตุผลที่ซือหยูปล่อยให้หมาดำกำจัดกู้ไทซู ดังนั้นหมาดำจึงถูกหลอก เพราะถ้าหากจงใจปล่อยฮั่นเฟยหรือตงฟางเถียนเฟิงหรือแม้กระทั่งปี้หลิงเทียนให้เป็นอันตราย หมาดำอาจจะสงสัยได้
แม้กู้ไทซูจะรอดตายซือหยูก็ไม่รีบร้อนที่จะฆ่าเขา เขามีโอกาสมากมายหากได้กลับไปยังจิวโจว
เมื่อเห็นว่าตัวเองถูกซือหยูใช้เป็นเหยื่อล่อใบหน้าของกู้ไทซูก็แผ่รังสีความแค้นออกมา ในขณะนี้ควันดำเริ่มพวยพุ่งก่อตัวเป็นรูปร่างหมาดำ มันคือหมาดำตัวแรกที่หนีไปซ่อนตอนที่สร้างร่างปลอมของตัวเอง
หมาดำทั้งห้าถูกกำจัดจนหมดแต่พวกมันไม่เคยถูกฆ่าไปจริง ๆ แม้มันจะน่าผิดหวัง มันก็เป็นอย่างที่คิด เพราะถ้าหมาดำถูกฆ่าง่าย ๆ มันก็คงทำให้พวกเขาลำบากไม่ได้จนถึงตอนนี้
หมาดำที่โกรธแค้นจ้องมองพวกเขาทั้งหกคนอย่างเอาเป็นเอาตายมันพูดด้วยจิตสังหาร
“อย่าคิดว่าพวกเจ้าจะปลอดภัยแค่เพราะมีไอ้เวรนั่น!ข้าเป็นอมตะในแดนมณี พวกเจ้าฆ่าข้าได้เป็นพันครั้ง แต่มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันจะปกป้องเจ้าไปได้ตลอดชีวิตเรอะ? ยอมจำนนในโชคชะตาพวกเจ้าได้แล้ว เลิกขัดขืน ข้าจะให้พวกเจ้าตายอย่างไม่ทรมาน!”
ใบหน้าคนอื่นๆ เปลี่ยนไป แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่ซือหยูจะปกป้องพวกเขาเป็นเวลานาน
เมื่อเห็”นว่าหลายคนครุ่นคิดหมาดำหันไปมองซือหยู
“หึหึไอ้เด็กบ้า หากข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้ และเจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ทำไมเราไม่ตกลงกันเล่า? เจ้ากับข้าร่วมมือกันกำจัดพวกมันสี่คน และข้าจะเปิดสวนที่หกให้เจ้า เจ้าจะได้เป็นเพียงคนเดียวที่เข้าไปเอาสมบัติทั้งหมดของเซียนมณีออกมาเป็นของเจ้าเอง เจ้าจะว่ายังไง?”
ฮั่นเฟยตากระตุกดูเหมือนว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจะเลี่ยงไม่ได้แล้ว หมาดำเดินหมากที่นางคิด มันเดินหมากได้ถูกเวลาพอดี ถ้าหากใครก็ตามอยู่ในตำแหน่งของซือหยู คนผู้นั้นย่อมเก็บคำสัญญาของหมาดำไปคิด
ความสัมพันธ์ของซือหยูกับพวกนางไม่นับว่าเป็นสหายการปกป้องพวกนางไม่ได้ให้ผลประโยชน์อันใดกับเขาแต่เป็นสิ่งฉุดรั้ง เทียบกับแล้ว ถ้าเขาร่วมมือกับหมาดำ เขาจะได้ประโยชน์กว่ามาก
ทุกคนรู้คำตอบของซือหยูอยู่แล้ว ฟึ่บ!
กลุ่มที่อยู่ใกล้ชิดกระจัดกระจายในทันทีสายตาสี่คู่จ้องมองซือหยูด้วยความระแวง ถ้าซือหยูสามารถฆ่าหมาดำได้ การฆ่าพวกเขาก็เป็นเรื่องง่ายดั่งปอกกล้วย
“เป็นความคิดที่ดี…”
ซือหยูหัวเราะเขาเล่นกับเข็มในมือ
“แต่เจ้าคิดจริงๆ รึว่าข้าจะหลงกล?”
หมาดำหลบตาพร้อมกับหัวเราะ
“เจ้ากลัวว่าข้าจะไม่รักษาสัญญาหรือ?พวกเราใช้ปฏิญาณสัตย์ดวงใจกันก็ได้”
แต่ซือหยูส่ายหน้า
“หลงกลที่ข้าหมายถึงไม่ได้หมายถึงเจ้าผิดสัญญาแต่พลังเจ้าลดลงไปมากแล้ว แต่เจ้ายังพยายามจะหลอกข้าให้กำจัดหนามยอกของเจ้า! เจ้าคิดว่าข้าโง่เรอะ?”
พลังลดลงไปมากแล้วหรือ?สีหน้าของฮั่นเฟยและคนอื่น ๆ แข็งทื่อ พวกนางหันไปมองหมาดำ ไม่ว่าพวกนางจะมองอย่างไร มันก็ไม่เห็นสัญญาณของความอ่อนแอลงเลย