The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1116 - ฝ่าคลื่นศัตรู
ความเงียบถูกทำลายโดยเสียงกรีดกรายนภาของอาวุธที่ปะทะกับประตูมิติอย่างแรง
ประตูมิติถูกหยุดทำงานอีกครั้ง
แม้จะเป็นประตูมิติเทวะมันก็มิอาจทนรับการแทรกแทรงจากพลังภายนอกได้
การเคลื่อนย้ายล้มเหลวอีกครั้งซือหยูผิดหวังเป็นอย่างมาก
ความกลัวของเขากำลังจะเป็นจริง!
เขาใช้ไพ่ตายไปแล้วแต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกลับทำให้ศัตรูที่แข็งแกร่งตกใจและพุ่งเข้ามาล้อมเขา
จิตสังหารเอ่อล้นในแววตาซือหยูเขาไม่อยากจะแก้ปัญหาด้วยกำลัง แต่ในเวลานี้ เรื่องราวกำลังดำเนินไปในทิศทางตรงกันข้ามกับความปรารถนา
“พวกเจ้ากำลังหาที่ตาย!”
ซือหยูตะโกนอย่างเย็นชาเมื่อมองคนที่พุ่งมาทางเขาเขาขยับมืออัญเชิญสายธารพลังอสูรขนาดใหญ่มาที่ใต้เท้า จากนั้นมังกรอสูรร่างยักษ์ก็ได้กระโดดออกมาพร้อมกับร้องคำรามเสียงดังลั่น
คนที่พุ่งเข้ามาหาซือหยูเป็นแค่อสูรเนรมิตรขั้นหนึ่งเขาถูกพลังมังกรอสูรบดขยี้ในพริบตาเดียว ทุกอย่างจบลงก่อนที่เขาจะได้กรีดร้องด้วยซ้ำ
การโจมตีของซือหยูทำให้ยอดฝีมือมากมายตกตะลึงแต่อสูรเนรมิตรที่มีชื่อเสียงบางคนก็อย่างจะลองเสี่ยงโชคดู
“ฮื่ม!ข้าขอจัดการเจ้าเอง!”
อสูรเนรมิตรระดับสองคนหนึ่งตะโกนและปล่อยลำแสงบางๆ สิบสายออกมาจากนิ้วชี้ ลำแสงเล็ก ๆ เหล่านั้นทะลวงร่างมังกรอสูรราวกับพลังกระบี่
มังกรอสูรต่อสู้ขัดขืนแต่ก็มิอาจเป็นอิสระจากลำแสงพลังกระบี่ได้พลังอสูรเริ่มที่จะสลายไป มังกรอสูรร้องคำรามด้วยความแค้นยิ่งกว่าเดิมก่อนจะระเบิด แรงระเบิดทำให้ทั้งหอเคลื่อนย้ายกลายเป็นซาก
ซือหยูค่อนข้างใจเย็นเขายกมือขวาเรียกพลังกระบี่สีเงินมาที่มือ จากนั้นเขาก็ใช้คลื่นพลังกระบี่นั้นซัดออกไป
อสูรเนรมิตรระดับสองที่เพิ่งจะทำลบายมังกรอสูรสัมได้ถึงพลังสีเงินที่พุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะมีเวลาได้ฉลองในชัยชนะ
“หายไปซะ!”
อสูรเนรมิตรระดับสองที่ไม่รู้เลยว่ากำลังเผชิญหน้ากับอะไรได้ใช้พลังของตัวเองในการต้านรับพลังกระบี่สีเงินของซือหยู
แต่เมื่อแสงสีเงินกระทบพลังของเขาลำแสงทั้งสิบก็แตกสลายราวกับฟองน้ำ
ร่างกายของเขาถูกแสงสีเงินทะลวงพร้อมขาดเป็นสองท่อนตั้งแต่เอว!
อสูรเนรมิตรระดับสองถูกฆ่าตายไปทั้งอย่างนั้นแม้แต่ดวงวิญญาณของเขาก็สลายหายไป หลังจากฆ่าไปสองซือหยูได้ข่มขวัญยอดฝีมือกลุ่มแรกไปหลายคน
สุดท้ายคนเหล่านี้ก็นึกขึ้นได้ว่าซือหยูคือคนแข็งแกร่งที่เคยต่อสู้กับเซียนมณีและสังหารจักรพรรดิกลืนอสูรที่เป็นนภาจรัสอันดับสอง!
ไม่มีใครสามารถประมาทกำลังของเขาได้!
ทุกคนต่างหวาดกลัวไม่มีใครกล้าก้าวเข้าหาเขาอีก!
“เจ้าพวกขี้ขลาด!มันจะเอาชนะยอดฝีมือจากทั้งเขตกลางได้ด้วยตัวคนเดียวเรอะ?”
บางคนเริ่มกล่าวปลุกใจ
ความโลภปรากฏในดวงตาของพวกเขาอีกครั้ง
ใครก็ตามที่ได้ฆ่าซือหยูจะสามารถเสนอตัวต่อหน้าราชาเขตกลางและบอกความปรารถนาของตนเองได้!นี่คือโอกาสสำหรับทุกคน ซือหยูอันตรายถึงขีดสุดแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาชนะทุกคนที่นี่
ถ้าหากพวกเขาทุกคนลงมือจู่โจมซือหยูพร้อมกันเขาจะต้องหมดพลังในอีกไม่นาน
และคนที่โชคดีที่สุดในหมู่พวกเขาจะได้เป็นคนปิดฉาก
เทียบกับความเสี่ยงแล้วผลตอบแทนนั้นสูงจนยอดเยี่ยม!
“ใครจะเป็นใหญ่ในใต้หล้าขึ้นอยู่กับวันนี้!จัดการมันพร้อมกันเลย!”
เสียงอันโหดร้ายพยายามจะปลุกปั่นผู้คนอีกครั้ง
ยอดฝีมือเขตกลางที่เลือดร้อนเริ่มเข้าใกล้ซือหยูพวกเขากัดฟันแน่น ดวงตาร้อนดั่งเพลิง
หนึ่งสอง สาม…
หลายร้อยคนต่างพุ่งเข้าใส่ซือหยูจำนวนคนเหล่านี้มีทั้งจ้าวเทวะและอสูรเนรมิตรหลายสิบคน ในสายตาพวกเขาซือหยูมีค่าหัวอยู่มากมาย
ขณะนี้ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนเองก็กำลังพุ่งตรงมายังหอเคลื่อนย้าย พวกเขาล้อมรอบซือหยูเป็นวงกลม
ในคนเหล่านี้ซือหยูสัมผัสพลังอันน่ากลัวได้มากมาย
ซือหยูยืนอยู่ที่ซากหอเคลื่อนย้ายและเหลือบมองยอดฝีมือมากมายที่พุ่งมาหาเขาด้วยดวงตาเฉียบคมดั่งมีด
ซือหยูหายใจเข้าลึกเขาเงยหน้าและวิ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างไร้ความกลัว!
มังกรอสูรร่างยักษ์บินอยู่ด้านหลังพลังกระบี่ในมือขวาเริ่มแล่นผ่านพื้นที่
ยอดฝีมือจำนวนมากจากเขตกลางที่พุ่งเข้าใส่ซือหยูถูกฆ่าราวกับแมงเม่าที่บินเข้ากองเพลิง
แต่เมื่อความสูญเสียเกิดขึ้นมากขึ้นเพลิงความโลภของพวกเขาก็ยิ่งร้อนระอุขึ้น “เจ้าฆาตกรชั่วการฆ่าคนเขตกลางมากมายนับว่าอภัยให้ไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิ์ฆ่ามัน! จะรออะไรกันอยู่? ฆ่ามัน!”
“คนที่ท่านราชาต้องการตัวย่อมเป็นคนชั่วช้าไม่ผิดแน่!ในฐานะบุรุษผู้เที่ยงธรรมแห่งเขตกลาง เราต้องฆ่ามันตามบัญชาแห่งเทพเพื่อช่วยคนบนโลกใบนี้!”
การจู่โจมของซือหยูไม่ได้ทำให้พวกเขาถอดใจแต่มันยังทำให้พวกเขามีจิตสังหารที่เร่าร้อนขึ้น พวกเขาพุ่งเข้าใส่ซือหยูต่อไปด้วยเหตุผลอันลักลั่นของตัวเอง
กลุ่มคนเหลวแหลกไร้หลักการเช่นนี้เรียกตัวเองว่ามีคุณธรรม!
ซือหยูแววตาเยือกเย็นเขามิได้สนใจความบ้าคลั่งของศัตรู เขาเพียงแค่สังหารต่อไป
เหล่าจ้าวเทวะและอสูรเนรมิตรมากมายถูกซือหยูสังหารด้วยพลังกระบี่บางคนโดนฆ่าและเสียแม้กระทั่งดวงวิญญาณ ไม่นานซากหอเคลื่อนย้ายก็ชุ่มโชกไปด้วยโลหิต มีคนเกินร้อยคนที่ถูกฆ่า ซากศพนอนเกลื่อนกลาด
คนเขตกลางไม่ได้เห็นการนองเลือดที่ต้องสูญเสียมากมายเช่นนี้มาหลายปีแล้ว
แม้กระนั้นศัตรูที่มากยิ่งกว่าก็ยังพุ่งตรงเข้าใส่ซือหยู!
มีคนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่มิอาจทนแรงยั่วยวนต่อรางวัลและเข้าร่วมการนองเลือดนี้
ซือหยูกำลังจะถูกศัตรูเข้ากลืนกินราวกับเรือลำน้อยท่ามกลางคลื่นกระหน่ำ
ฉั่วะ!
เสียงดังลั่นมิติฉีกเหนือศีรษะพวกเขา พลังแข็งแกร่งมากมายเล็ดรอดออกมาจากรอยแยกมิตินั้น!
หนึ่งพลังมาจากจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ที่กลับมามีชายแก่ผมขาวสามคนยืนอยู่ข้างกายเขา
เหล่าผู้คนตกใจเมื่อเห็นชายแก่ที่มีพลังมากมายและแข็งแกร่งพอๆ กับจ้าวดินแดน!
เมื่อเห็นสภาพของซือหยูตอนนี้จ้าวดินแดนมีดสวรรค์นั้นแปลกใจแต่ก็ยินดี
สุริยาทมิฬที่ซือหยูเคยใช้สู้กับเขานั้นน่ากลัวมากความกลัวยังอยู่ในใจเขาอยู่เลย
เมื่อเห็นว่าซือหยูกำลังจะหมดพลังเขาอดยิ้มอย่างน่าสยดสยองไม่ได้ ซือหยู ซือหยู! เจ้ากล้าเข้ามาในเขตกลางอย่างที่ราชาเขตกลางคิดว่าเจ้าจะมารึ? ครั้งนี้ เจ้าจะต้องตายอย่างไม่มีหลุมฝังศพ!
“เหล่าจ้าวดินแดนเอ๋ยใจเย็นลงก่อน รอดูการแสดงของมันเสียก่อน พอมันใกล้หมดแรงเท่าใด เราจะได้กำจัดมัน!”
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์พูดพร้อมผายมือไปทางเหล่าชายแก่
ดูเหมือนว่าชายแก่ผมขาวทั้งสามจะเคยเป็นจ้าวดินแดนจากเขตกลางมาก่อนเมื่อพวกเขาออกจากตำแหน่ง บางคนเลือกที่จะออกจากเขตกลางและพยายามหาโอกาสปลดขีดจำกัดเพื่อกลายเป็นเซียน บางคนเลือกที่จะอยู่และกลายเป็นองครักษ์ประจำเมืองเขตกลาง
แน่นอนว่าจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ไม่มีพลังเทียบกับพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย!
“มันแข็งแกร่งอย่างที่เจ้าพูดรึ?”
ผู้เฒ่าผิวคล้ำที่ยืนอยู่ด้านซ้ายถามและมองซือหยูหัวจรดเท้าอย่างละเอียดด้วยดวงตาเล็กเมื่อเขาเห็นบรรดาซากศพ เขาก็พูดไม่ออก
แววตาของพวกเขาเฉียบคมเสี้ยวพลังอัสนีขนวิหคที่เหลือยู่บนซากศพทำให้พวกเขาตกใจ
ชายแก่ทั้งสามเริ่มเคร่งเครียดเมื่อจ้องมองการต่อสู้ข้างล่าง
“ปล่อยให้พวกนั้นจู่โจมซือหยูต่อไป!จะปลอดภัยกว่าถ้าลงมือกับมันตอนที่มันหมดแรง”
“ต้านมันเอาไว้!มันกำลังจะหมดแรงแล้ว!”
คนที่ปลุกใจผู้คนตะโกนเสียงดังอีกครั้ง
ในเวลานี้ซือหยูหน้าซีดราวกับผี เขาฆ่ามากกว่าสามร้อยคนไปแล้ว
แต่ซือหยูก็เกือบจะใช้พลังทั้งหมดไปตอนนี้พวกเขาเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของซือหยู
“ไอ้ฆาตกรตายไปซะ!”
สตรีอสูรเนรมิตรขั้นสามจู่โจมซือหยูเมื่อเขาฆ่าอสูรเนรมิตรขั้นสองคนหนึ่งไป
นางถอดปิ่นปักผมออกมาและลูบด้วยมือกระบี่ขนนกมากมายบินออกมาจากปิ่น
กระบี่ขนนกแต่ละเล่มเต็มไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวของอสูรเนรมิตรขั้นสี่มีพลังนั้นมากกว่าหนึ่งร้อยพลังกำลังพุ่งเข้าหาซือหยู เขาไม่มีที่ให้หลบซ่อน
ในเวลานี้ทุกคนพยายามต่อสู้อย่างสุดความสามารถ!
ประตูมิติถูกหยุดทำงานอีกครั้ง
แม้จะเป็นประตูมิติเทวะมันก็มิอาจทนรับการแทรกแทรงจากพลังภายนอกได้
การเคลื่อนย้ายล้มเหลวอีกครั้งซือหยูผิดหวังเป็นอย่างมาก
ความกลัวของเขากำลังจะเป็นจริง!
เขาใช้ไพ่ตายไปแล้วแต่ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกลับทำให้ศัตรูที่แข็งแกร่งตกใจและพุ่งเข้ามาล้อมเขา
จิตสังหารเอ่อล้นในแววตาซือหยูเขาไม่อยากจะแก้ปัญหาด้วยกำลัง แต่ในเวลานี้ เรื่องราวกำลังดำเนินไปในทิศทางตรงกันข้ามกับความปรารถนา
“พวกเจ้ากำลังหาที่ตาย!”
ซือหยูตะโกนอย่างเย็นชาเมื่อมองคนที่พุ่งมาทางเขาเขาขยับมืออัญเชิญสายธารพลังอสูรขนาดใหญ่มาที่ใต้เท้า จากนั้นมังกรอสูรร่างยักษ์ก็ได้กระโดดออกมาพร้อมกับร้องคำรามเสียงดังลั่น
คนที่พุ่งเข้ามาหาซือหยูเป็นแค่อสูรเนรมิตรขั้นหนึ่งเขาถูกพลังมังกรอสูรบดขยี้ในพริบตาเดียว ทุกอย่างจบลงก่อนที่เขาจะได้กรีดร้องด้วยซ้ำ
การโจมตีของซือหยูทำให้ยอดฝีมือมากมายตกตะลึงแต่อสูรเนรมิตรที่มีชื่อเสียงบางคนก็อย่างจะลองเสี่ยงโชคดู
“ฮื่ม!ข้าขอจัดการเจ้าเอง!”
อสูรเนรมิตรระดับสองคนหนึ่งตะโกนและปล่อยลำแสงบางๆ สิบสายออกมาจากนิ้วชี้ ลำแสงเล็ก ๆ เหล่านั้นทะลวงร่างมังกรอสูรราวกับพลังกระบี่
มังกรอสูรต่อสู้ขัดขืนแต่ก็มิอาจเป็นอิสระจากลำแสงพลังกระบี่ได้พลังอสูรเริ่มที่จะสลายไป มังกรอสูรร้องคำรามด้วยความแค้นยิ่งกว่าเดิมก่อนจะระเบิด แรงระเบิดทำให้ทั้งหอเคลื่อนย้ายกลายเป็นซาก
ซือหยูค่อนข้างใจเย็นเขายกมือขวาเรียกพลังกระบี่สีเงินมาที่มือ จากนั้นเขาก็ใช้คลื่นพลังกระบี่นั้นซัดออกไป
อสูรเนรมิตรระดับสองที่เพิ่งจะทำลบายมังกรอสูรสัมได้ถึงพลังสีเงินที่พุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะมีเวลาได้ฉลองในชัยชนะ
“หายไปซะ!”
อสูรเนรมิตรระดับสองที่ไม่รู้เลยว่ากำลังเผชิญหน้ากับอะไรได้ใช้พลังของตัวเองในการต้านรับพลังกระบี่สีเงินของซือหยู
แต่เมื่อแสงสีเงินกระทบพลังของเขาลำแสงทั้งสิบก็แตกสลายราวกับฟองน้ำ
ร่างกายของเขาถูกแสงสีเงินทะลวงพร้อมขาดเป็นสองท่อนตั้งแต่เอว!
อสูรเนรมิตรระดับสองถูกฆ่าตายไปทั้งอย่างนั้นแม้แต่ดวงวิญญาณของเขาก็สลายหายไป หลังจากฆ่าไปสองซือหยูได้ข่มขวัญยอดฝีมือกลุ่มแรกไปหลายคน
สุดท้ายคนเหล่านี้ก็นึกขึ้นได้ว่าซือหยูคือคนแข็งแกร่งที่เคยต่อสู้กับเซียนมณีและสังหารจักรพรรดิกลืนอสูรที่เป็นนภาจรัสอันดับสอง!
ไม่มีใครสามารถประมาทกำลังของเขาได้!
ทุกคนต่างหวาดกลัวไม่มีใครกล้าก้าวเข้าหาเขาอีก!
“เจ้าพวกขี้ขลาด!มันจะเอาชนะยอดฝีมือจากทั้งเขตกลางได้ด้วยตัวคนเดียวเรอะ?”
บางคนเริ่มกล่าวปลุกใจ
ความโลภปรากฏในดวงตาของพวกเขาอีกครั้ง
ใครก็ตามที่ได้ฆ่าซือหยูจะสามารถเสนอตัวต่อหน้าราชาเขตกลางและบอกความปรารถนาของตนเองได้!นี่คือโอกาสสำหรับทุกคน ซือหยูอันตรายถึงขีดสุดแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาชนะทุกคนที่นี่
ถ้าหากพวกเขาทุกคนลงมือจู่โจมซือหยูพร้อมกันเขาจะต้องหมดพลังในอีกไม่นาน
และคนที่โชคดีที่สุดในหมู่พวกเขาจะได้เป็นคนปิดฉาก
เทียบกับความเสี่ยงแล้วผลตอบแทนนั้นสูงจนยอดเยี่ยม!
“ใครจะเป็นใหญ่ในใต้หล้าขึ้นอยู่กับวันนี้!จัดการมันพร้อมกันเลย!”
เสียงอันโหดร้ายพยายามจะปลุกปั่นผู้คนอีกครั้ง
ยอดฝีมือเขตกลางที่เลือดร้อนเริ่มเข้าใกล้ซือหยูพวกเขากัดฟันแน่น ดวงตาร้อนดั่งเพลิง
หนึ่งสอง สาม…
หลายร้อยคนต่างพุ่งเข้าใส่ซือหยูจำนวนคนเหล่านี้มีทั้งจ้าวเทวะและอสูรเนรมิตรหลายสิบคน ในสายตาพวกเขาซือหยูมีค่าหัวอยู่มากมาย
ขณะนี้ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนเองก็กำลังพุ่งตรงมายังหอเคลื่อนย้าย พวกเขาล้อมรอบซือหยูเป็นวงกลม
ในคนเหล่านี้ซือหยูสัมผัสพลังอันน่ากลัวได้มากมาย
ซือหยูยืนอยู่ที่ซากหอเคลื่อนย้ายและเหลือบมองยอดฝีมือมากมายที่พุ่งมาหาเขาด้วยดวงตาเฉียบคมดั่งมีด
ซือหยูหายใจเข้าลึกเขาเงยหน้าและวิ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างไร้ความกลัว!
มังกรอสูรร่างยักษ์บินอยู่ด้านหลังพลังกระบี่ในมือขวาเริ่มแล่นผ่านพื้นที่
ยอดฝีมือจำนวนมากจากเขตกลางที่พุ่งเข้าใส่ซือหยูถูกฆ่าราวกับแมงเม่าที่บินเข้ากองเพลิง
แต่เมื่อความสูญเสียเกิดขึ้นมากขึ้นเพลิงความโลภของพวกเขาก็ยิ่งร้อนระอุขึ้น “เจ้าฆาตกรชั่วการฆ่าคนเขตกลางมากมายนับว่าอภัยให้ไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิ์ฆ่ามัน! จะรออะไรกันอยู่? ฆ่ามัน!”
“คนที่ท่านราชาต้องการตัวย่อมเป็นคนชั่วช้าไม่ผิดแน่!ในฐานะบุรุษผู้เที่ยงธรรมแห่งเขตกลาง เราต้องฆ่ามันตามบัญชาแห่งเทพเพื่อช่วยคนบนโลกใบนี้!”
การจู่โจมของซือหยูไม่ได้ทำให้พวกเขาถอดใจแต่มันยังทำให้พวกเขามีจิตสังหารที่เร่าร้อนขึ้น พวกเขาพุ่งเข้าใส่ซือหยูต่อไปด้วยเหตุผลอันลักลั่นของตัวเอง
กลุ่มคนเหลวแหลกไร้หลักการเช่นนี้เรียกตัวเองว่ามีคุณธรรม!
ซือหยูแววตาเยือกเย็นเขามิได้สนใจความบ้าคลั่งของศัตรู เขาเพียงแค่สังหารต่อไป
เหล่าจ้าวเทวะและอสูรเนรมิตรมากมายถูกซือหยูสังหารด้วยพลังกระบี่บางคนโดนฆ่าและเสียแม้กระทั่งดวงวิญญาณ ไม่นานซากหอเคลื่อนย้ายก็ชุ่มโชกไปด้วยโลหิต มีคนเกินร้อยคนที่ถูกฆ่า ซากศพนอนเกลื่อนกลาด
คนเขตกลางไม่ได้เห็นการนองเลือดที่ต้องสูญเสียมากมายเช่นนี้มาหลายปีแล้ว
แม้กระนั้นศัตรูที่มากยิ่งกว่าก็ยังพุ่งตรงเข้าใส่ซือหยู!
มีคนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่มิอาจทนแรงยั่วยวนต่อรางวัลและเข้าร่วมการนองเลือดนี้
ซือหยูกำลังจะถูกศัตรูเข้ากลืนกินราวกับเรือลำน้อยท่ามกลางคลื่นกระหน่ำ
ฉั่วะ!
เสียงดังลั่นมิติฉีกเหนือศีรษะพวกเขา พลังแข็งแกร่งมากมายเล็ดรอดออกมาจากรอยแยกมิตินั้น!
หนึ่งพลังมาจากจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ที่กลับมามีชายแก่ผมขาวสามคนยืนอยู่ข้างกายเขา
เหล่าผู้คนตกใจเมื่อเห็นชายแก่ที่มีพลังมากมายและแข็งแกร่งพอๆ กับจ้าวดินแดน!
เมื่อเห็นสภาพของซือหยูตอนนี้จ้าวดินแดนมีดสวรรค์นั้นแปลกใจแต่ก็ยินดี
สุริยาทมิฬที่ซือหยูเคยใช้สู้กับเขานั้นน่ากลัวมากความกลัวยังอยู่ในใจเขาอยู่เลย
เมื่อเห็นว่าซือหยูกำลังจะหมดพลังเขาอดยิ้มอย่างน่าสยดสยองไม่ได้ ซือหยู ซือหยู! เจ้ากล้าเข้ามาในเขตกลางอย่างที่ราชาเขตกลางคิดว่าเจ้าจะมารึ? ครั้งนี้ เจ้าจะต้องตายอย่างไม่มีหลุมฝังศพ!
“เหล่าจ้าวดินแดนเอ๋ยใจเย็นลงก่อน รอดูการแสดงของมันเสียก่อน พอมันใกล้หมดแรงเท่าใด เราจะได้กำจัดมัน!”
จ้าวดินแดนมีดสวรรค์พูดพร้อมผายมือไปทางเหล่าชายแก่
ดูเหมือนว่าชายแก่ผมขาวทั้งสามจะเคยเป็นจ้าวดินแดนจากเขตกลางมาก่อนเมื่อพวกเขาออกจากตำแหน่ง บางคนเลือกที่จะออกจากเขตกลางและพยายามหาโอกาสปลดขีดจำกัดเพื่อกลายเป็นเซียน บางคนเลือกที่จะอยู่และกลายเป็นองครักษ์ประจำเมืองเขตกลาง
แน่นอนว่าจ้าวดินแดนมีดสวรรค์ไม่มีพลังเทียบกับพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย!
“มันแข็งแกร่งอย่างที่เจ้าพูดรึ?”
ผู้เฒ่าผิวคล้ำที่ยืนอยู่ด้านซ้ายถามและมองซือหยูหัวจรดเท้าอย่างละเอียดด้วยดวงตาเล็กเมื่อเขาเห็นบรรดาซากศพ เขาก็พูดไม่ออก
แววตาของพวกเขาเฉียบคมเสี้ยวพลังอัสนีขนวิหคที่เหลือยู่บนซากศพทำให้พวกเขาตกใจ
ชายแก่ทั้งสามเริ่มเคร่งเครียดเมื่อจ้องมองการต่อสู้ข้างล่าง
“ปล่อยให้พวกนั้นจู่โจมซือหยูต่อไป!จะปลอดภัยกว่าถ้าลงมือกับมันตอนที่มันหมดแรง”
“ต้านมันเอาไว้!มันกำลังจะหมดแรงแล้ว!”
คนที่ปลุกใจผู้คนตะโกนเสียงดังอีกครั้ง
ในเวลานี้ซือหยูหน้าซีดราวกับผี เขาฆ่ามากกว่าสามร้อยคนไปแล้ว
แต่ซือหยูก็เกือบจะใช้พลังทั้งหมดไปตอนนี้พวกเขาเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของซือหยู
“ไอ้ฆาตกรตายไปซะ!”
สตรีอสูรเนรมิตรขั้นสามจู่โจมซือหยูเมื่อเขาฆ่าอสูรเนรมิตรขั้นสองคนหนึ่งไป
นางถอดปิ่นปักผมออกมาและลูบด้วยมือกระบี่ขนนกมากมายบินออกมาจากปิ่น
กระบี่ขนนกแต่ละเล่มเต็มไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวของอสูรเนรมิตรขั้นสี่มีพลังนั้นมากกว่าหนึ่งร้อยพลังกำลังพุ่งเข้าหาซือหยู เขาไม่มีที่ให้หลบซ่อน
ในเวลานี้ทุกคนพยายามต่อสู้อย่างสุดความสามารถ!