The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1134 - ไม่เหลือที่ซ่อน
ราชาเขตกลางก้าวไปถึงถ้ำในก้าวเดียว
แต่เขาก็ออกมาอีกครั้งในไม่นานด้วยสีหน้าเย็นชา
“กล้าดียังไงมาหลอกข้า!”
เซียนขาวดำผงะเล็กน้อยพวกนางพูดพร้อมกัน
“เขาอยู่ในนั้นข้าจะหลอกเจ้าไปทำไม?”
“หึหึมันจะเข้าไปยังส่วนลึกที่สุดได้รึ? ที่นั่นข้ายังเข้าไปไม่ได้เลย! บอกมาว่าซ๋อนมันไว้ที่ไหน?”
ราชาเขตกลางถามอีกครั้ง
เซียนขาวดำผงะนางเหลือบมองเรือนตระกูลและสุดท้ายก็มองไปยังสตรีนางหนึ่ง
“อวี่เอ๋อซือหยูอยู่ไหน? พวกเราให้เจ้าอยู่ด้านนอกถ้ำเพื่อคุ้มกันเขาไม่ใช่รึ?”
เซียนดำรีบพูด ตงฟางอวี่มองราชาเขตกลางราวกับดูถูกผืนโลกดูถูกราชาเขตกลาง และดูถูกทั้งตระกูลบูรพา นางหน้าซีด
“เขาเขาไปแล้ว”
“อะไรนะ?ไปแล้วรึ?”
เซียนขาวชักสีหน้าอย่างรุนแรงเขาห้าธาตุมีทางออกเพียงทางเดียว และตงฟางอวี่ก็เฝ้าทางออกเอาไว้ นางไม่ได้ตั้งใจจับตาดูซือหยู
จนสุดท้ายเขาก็หายตัวไปอย่างไร้วี่แววรึ?
ไม่สิตงฟางอวี่ปล่อยเขาไป!
“เจ้า…”
เซียนดำโกรธเกรี้ยวนางกำลังทำให้ตระกูลบูรพาตกที่นั่งลำบาก!
“พอได้แล้ว”
ราชาเขตกลางไม่สนใจนัก
“ไม่ต้องเสแสร้งอีกแล้วข้าให้โอกาสพวกเจ้าไปแล้ว”
แสงสีทองปะทุออกมาจากร่างแต่มีแค่ส่วนเดียวที่เล็ดรอดออกมา
แสงสีทองกำลังจะระเบิดพลังออกมา
“ช้าก่อนเราไม่ได้คุ้มครองซือหยูเอาไว้จริง ๆ เขาหนีไปแล้ว…”
เซียนขาวรีบตอบนางมองแสงสีทองที่กำลังขยาย นางหัวใจเต้นเร็ว
ราชาเขตกลางไม่สนใจ
“ข้ารู้!”
“อ๊ะ!”
เซียนขาวดำพูด
“ถ้าเจ้ารู้อยู่แล้วว่าพวกเราไม่มีซือหยูทำไมเจ้ายังต้องทำแบบนี้? ได้โปรดเถอะ หยุดซะ…”
“ฮื่ม!ข้าจะมอบบทเรียนเลือดให้ทุกคนในจิวโจวได้รู้ จะได้ไม่มีใครกล้าปกป้องซือหยู!”
ราชาเขตกลางพูดอย่างเย็นชา ขณะนี้ราชาเขตกลางพร้อมจะระเบิดพลังทุกเมื่อ
เพลิงไร้จุดจบแผ่กระจายทั่วนภามันปกคลุมเหนือใต้
หากสัมผัสกับเพลิงเทวะทุกอย่างจะกลายเป็นเถ้าถ่าน
เซียนขาวดำสายตาสิ้นหวังพวกนางเริ่มตะโกน
“ปลุกเขาห้าธาตุ!”
นางทั้งสองบินลงไปยังเขาห้าธาตุนางซัดพื้นด้วยขาหนึ่งข้างและเผยพลังห้าธาตุภายใต้ภูเขาออกมา
พวกนางอัดพลังอสูรลงในผนึกผนึกถูกทำงานและปลดปล่อยพลังห้าธาตุทั้งหมดจากภูเขาออกมา
พลังอันยิ่งใหญ่ของธาตุทั้งห้าทะลวงไปยังท้องนภามันป้องกันเพลิงที่พุ่งลงมาได้พอดี
แต่เพลิงเทวะนั้นก็ค่อยๆ ตกลงมาอีก หากผนึกสิ้นพลังเมื่อใด ทั้งเมืองจะแตกดับวิญญาณของคนนับพันล้านจะถูกลบหายเป็นฝุ่นผง
“คนบูรพาจงทำตามคำสั่ง!ลูกหลานเทพอสูรทุกคน เผาเลือดของเจ้าซะ ใช้พลังอสูรลงในผนึก!”
มีเพียงพลังของอสูรเท่านั้นที่จะต้านทานเพลิงระดับนี้ได้
เหล่าคนตระกูลบูรพาเริ่มปล่อยพลังอสูรออกมา
เทียบกับผนึกแล้วพลังของราชาเขตกลางแข็งแกร่งเกินไป เมื่อเหล่าคนตระกูลบูรพาสละชีพเผาเลือด พวกเขาไม่ต่างจากแมงเม่าที่บินเข้ากองไฟ พวกเขาตรงเข้าไปตายทีละคน
ราชาเขตกลางตกใจเขาอยากจะสร้างเหตุการณ์นองเลือดที่ทำให้ตั้งจิวโจวหวาดหวั่น
“แบบนี้ก็ไม่เป็นไร”
ราเชากขตกลางหันไปคิด “ปล่อยให้มันตายทีละคนช้าๆ จะรุนแรงกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่มากกว่า”
ราชากลางมองคนตายเบื้องล่าง
ชายคนหนึ่งปรากฏตัวณ จุดที่ไม่มีใครอยู่เลย
แม้จะไกลจากทวีปบูรพาเขาก็มองเห็นภาพเหตุการณ์นองเลือด ณ ขณะนี้
เสียงอันยิ่งใหญ่ดังทั่วทั้งจิวโจวเสียงของราชาเขตกลางดังก้องไปทุกทิศทาง
“ใครก็ตามที่ปกป้องซือหยูใครก็ตามที่ขวางทาง ทุกคนต้องตาย!”
ซือหยูใจสั่นเขาไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย
“มันมาแล้ว!”
ซือหยูไม่ลังเลที่จะหยิบเอาค่ายกลจากตงฟางอวี่เขาใช้มันทันที
ค่ายกลนี้ใช้งานได้ดีมากมันใช้เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจก่อนจะทำงาน ซือหยูถูกย้ายตัวออกไปด้วยพลังมิติ
แทบจะทันทีหลังจากที่เขาหนีไปรอยแยกมิติก็เปิดขึ้นที่น่านฟ้าเหนือจุดเดิมของเขา
ราชาเขตกลางออกมาเห็นพอดิบพอดี
เขามองค่ายกลที่แตกสลายบนพื้นราชาเขตกลางมองรอบ ๆ อย่างเย็นชา
“เจ้าจะหนีข้าไปได้สักเท่าไหร่!”
ฟึ่บ!
ครึ่งชั่วยามต่อมาซือหยูปรากฎตัวเหนือประตูมิติเทวะที่เขตเทียนหนิว นี่น่าจะเป็นความตั้งใจของเซียนขาวดำ
เกิดรอยแยกมิติขนาดใหญ่ด้านในเมือง พลังเซียนเข้ามาปกคลุมซือหยู
ชายวัยกลาวคนที่สวมชุดเกราะก้าวพริบตามาหาซือหยู
“เจ้าคือซือหยูรึ?”
เขาสามารถจำหน้าซือหยูได้และแสดงความชื่นชม
ซือหยูรีบตอบ
“ใช่แล้วข้าขอยืมประตูมิติจะได้หรือไม่?”
ราชาเขตยิ้ม
“ใยรีบร้อนนักเล่า?มีเรื่องสำคัญที่ข้าอยากหารือกับเจ้า”
แต่ทันทีที่เขาพูดคลื่นลมก็ได้พาคลื่นเสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหารของราชาเขตกลางออกมา
“ใครก็ตามที่ปกป้องซือหยูใครก็ตามที่ขวางทาง ทุกคนต้องตาย!”
ราชาเขตหน้านิ่งงั้น
“ราชาเขตกลางช่างกล้านักกล้าดียังไงมาสั่งข้า?”
ในตอนนั้นเองหลายคนหน้าซีดและยื่นหยกสื่อสารให้ราชาเทียนหนิว
ราชาเหลือบมองความโกรธของเขาหายไปสิ้นแทนที่ด้วยความสะพรึงกลัว เขาเห็นภาพสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองทวีปบูรพา
เขาเห็นว่าทั้งเมืองลุกโชนไปด้วยเพลิงเทวะ
แม้แต่เซียนขาวดำทั้งสองก็มิอาจหยุดเพลิงนี้ได้!
ตระกูลตงฟางเข้าไปตายทีละคนใช้หยดเลือดของตัวเองเพื่อฟื้นพลังให้ผนึก
แต่สุดท้ายต่อให้สละชีวิตไป เพลิงเทวะก็ยังคงมอดไหม้ลุกลาม ในไม่ถึงสองวัน ตระกูลบูรพาจะถูกทำลายสิ้นซาก!
ตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปกำลังจะถูกลบหายไปจากโลก
พร้อมกันนั้นวิญญาณนับพันล้านดวงจะแตกดับไปด้วย!
พลังมหาศาลเช่นนี้ทำให้ราชาเทียนหนิวหน้าซีด
ราชาเขตกลางมีพลังมากเกินไปเกินกว่าพลังที่เขามี เขาไม่อยากจะให้เขตของเขาลงเอยอย่างตระกูลบูรพา!
เขาหันไปจ้องซือหยูและกัดฟันผลักเขา
“ออกไปจากเขตนี้เดี๋ยวนี้!และเจ้าจะต้องไม่ใช้ประตูมิติเทวะ!”
ซือหยูตกใจเขาเห็นอะไรในหยกสื่อสารกัน?
ซือหยูลำบากใจเป็นอย่างมาก
มันรวดเร็วมากแต่ราชาเขตกลางก็ตามเขาทัน!
ซือหยูไม่ลังเลที่จะใช้ค่ายกลหนีไปอีกครั้ง
ไม่นานหลังจากหนีไปราชาเขตกลางก็มาถึง เขาเหลือบมองราชาเทียนหนิว
“ดีอย่างน้อยเจ้าก็รู้ว่าควรทำอะไร!”
หลังจากนั้นราชาเขตกลางก็หายตัวไปอีก
ราชาเทียนหนิวไม่แม้แต่โต้แย้งเมื่อได้เข้าใกล้ราชาเขตกลาง เขารู้สึกถึงความกลัวตายที่อยู่ลึกข้างใน
ด้านหลังเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ
ในเวลาที่ซือหยูปรากฏตัวอีกครั้งเขาได้ไปอยู่ในเขตใกล้เคียง นั่นคือเขตทรายขาว
ราชาทรายขาวตกตะลึงกับมิติที่ปั่นป่วนตลอดทาง
เมื่อเขาเห็นว่าซือหยูมาเขาก็ชักสีหน้าด้วยความกลัว เขาตะโกน
“ออกไปจากเขตทรายขาวซะ!”
เขาไม่กล้าจะให้ซือหยูอยู่แม้แต่ครู่เดียว!
ซือหยูไม่คิดจะหยุดเขาหนีไปอีกครั้งด้วยค่ายกล
ทันทีที่เขาหนีไปราชาเขตกลางก็มาถึงทันทีในจุดเดิมของซือหยู
ซือหยูหนีไปอีกเขตอีกครั้ง
ทั้งสองไล่ล่ากันไปทั่วจิวโจว
ราชาเขตกลางอดทนฝึกฝนมาหลายร้อยปีพลังของเขาไม่อ่อนแอไปกว่าเซียนขาวดำที่ไร้เทียมทาน ไม่มีใครสามารถทำอะไรตระกูลบูรพาได้เพราะนางทั้งสอง
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรราชาเขตกลางก็มีพลังเหนือกว่าพวกนางไปแล้ว
และไม่ว่าซือหยูจะไปที่ใดราชาเขตเหล่านั้นก็จะลำบากใจในทันที
ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วจิวโจวในเวลาเพียงครึ่งวัน
ทุกคนรู้ว่าซือหยูได้ตกเป็นเป้าหมายของราชาเขตกลางที่มุ่งหมายจะเอาชีวิตเขา!
ตลดทางคนที่ไม่รู้และพยายามจะช่วยซือหยูได้พบเจอกับสิ่งเดียวกับตระกูลบูรพา พวกเขาถูกฆ่าตายหมดด้วยเพลิงเทวะ!
วิธีการบ้าเลือดเช่นนี้ทำให้ทุกกองกำลังในจิวโจวหวาดกลัว
หลังจากหนีมาทั่วทั้งเก้าเขตราชาเขตกลางไล่ตามซือหยูมาถึงเขตกระบี่ไร้ใจ เขามองค่ายกลที่ซือหยูทิ้งเอาไว้อีกครั้ง เขาแสยะยิ้ม
“แม้โลกจะกว้างใหญ่มันก็ไม่มีที่ให้เจ้าหลบหนี! เจ้าเหลือค่ายกลอีกแค่ไหนกัน!”
ซือหยูปราฏกายครั้งนี้เขามาถึงเขตหุยเทียน เขตที่หลายคนตายเพราะช่วยเซียนขาวดำต่อสู้
เขตนี้ไร้ซึ่งราชาจึงไม่มีใครมาไล่ซือหยูออกไป
แต่ซือหยูก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่
เหล่าราชาเขตและอีกหลายเขตไม่ได้คิดจะช่วยเขาและซือหยูก็ไม่คิดจะทำให้พวกเขาลำบากโดยการหนีไปก่อน เช่นเดียวกับเขตกระบี่ไร้ใจ
เขามองดูค่ายกลสุดท้ายในมือด้วยความขมขื่น
เขาหนีมาทั่วจิวโจวแต่ก็ไม่มีที่ให้เขาหลบซ่อน
นี่คือสิ่งที่ราชาเขตกลางอยากเห็น
ด้วยค่ายกลสุดท้ายเขาจะหนีไปไหนได้อีก?
ซือหยูคิด
ท้องนภาเกิดหมอกเมฆาสะท้อนภาพที่เกิดในเมืองบูรพา
ท่ามกลางเพลิงเทวะไม่ขาดสายเซียนขาวดำพยายามอย่างหนักเพื่อต้านทานเพลิงเทวะที่เข้าใกล้ คนตระกูลบูรพาตายไปทีละคนในกองเพลิง พวกเขายินดีสละชีวิตเพื่อให้ตระกูลรอด
ตระกูลบูรพาประกอบด้วยตระกูลนับแสนตระกูลแต่เวลานี้กลับเหลือเพียงสองหมื่น!
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้มันเป็นระยะเวลาเพียงแค่ไม่ถึงครึ่งวัน
ซือหยูตกตะลึงเมื่อมองดวงวิญญาณนับพันล้านดวงที่กำลังจะถูกทำลาย
ทั้งหมดเป็นเพราะเขา!
ซือหยูเหลือบมองในเงาผู้คนเขาเห็นสตรีนางหนึ่งเดินไปยังผนึก ใต้กองเพลิงเทวะนางลุกโชนราวกับบุพผาเพลิง ชุดขาวและสีเพลิงประกอบกันดูงดงาม
แต่ใบหน้านางเด็ดเดี่ยวนางบุกเข้าไปยังผนึกและกรีดโลหิตของตัวเองให้กับมัน
ซือหยูร้องคำรามอยู่ในใจ
ไม่แปลกใจเลยที่ราชาทุกเขตเลี่ยงเขา!
เขามองเหตุการณ์นองเลือดอย่างหวาดหวั่น
ในชีวิตนี้เขาไม่เคยอยากติดหนี้ผู้ใดที่มีน้ำใจให้กับเขา เขาไม่อยากทำใครเดือดร้อน
แต่ตระกูลบูรพา…ตงฟางอวี่…
“ถ้าข้าไม่เหลือที่ให้ซ่อนแล้วใยยังต้องซ่อนอีกเล่า?”
ซือหยูมองกลับไปยังขอบนภาอันว่างเปล่า
“บูรพารอข้าอยู่!”
ฟึ่บ! ซือหยูใช้ค่ายกลสุดท้ายย้ายตัวเองกลับมายังทวีปบูรพาเมื่อไปถึงแล้ว เขาตั้งใจจะปะทะกับศัตรูของเขาที่นั่น!
แต่เขาก็ออกมาอีกครั้งในไม่นานด้วยสีหน้าเย็นชา
“กล้าดียังไงมาหลอกข้า!”
เซียนขาวดำผงะเล็กน้อยพวกนางพูดพร้อมกัน
“เขาอยู่ในนั้นข้าจะหลอกเจ้าไปทำไม?”
“หึหึมันจะเข้าไปยังส่วนลึกที่สุดได้รึ? ที่นั่นข้ายังเข้าไปไม่ได้เลย! บอกมาว่าซ๋อนมันไว้ที่ไหน?”
ราชาเขตกลางถามอีกครั้ง
เซียนขาวดำผงะนางเหลือบมองเรือนตระกูลและสุดท้ายก็มองไปยังสตรีนางหนึ่ง
“อวี่เอ๋อซือหยูอยู่ไหน? พวกเราให้เจ้าอยู่ด้านนอกถ้ำเพื่อคุ้มกันเขาไม่ใช่รึ?”
เซียนดำรีบพูด ตงฟางอวี่มองราชาเขตกลางราวกับดูถูกผืนโลกดูถูกราชาเขตกลาง และดูถูกทั้งตระกูลบูรพา นางหน้าซีด
“เขาเขาไปแล้ว”
“อะไรนะ?ไปแล้วรึ?”
เซียนขาวชักสีหน้าอย่างรุนแรงเขาห้าธาตุมีทางออกเพียงทางเดียว และตงฟางอวี่ก็เฝ้าทางออกเอาไว้ นางไม่ได้ตั้งใจจับตาดูซือหยู
จนสุดท้ายเขาก็หายตัวไปอย่างไร้วี่แววรึ?
ไม่สิตงฟางอวี่ปล่อยเขาไป!
“เจ้า…”
เซียนดำโกรธเกรี้ยวนางกำลังทำให้ตระกูลบูรพาตกที่นั่งลำบาก!
“พอได้แล้ว”
ราชาเขตกลางไม่สนใจนัก
“ไม่ต้องเสแสร้งอีกแล้วข้าให้โอกาสพวกเจ้าไปแล้ว”
แสงสีทองปะทุออกมาจากร่างแต่มีแค่ส่วนเดียวที่เล็ดรอดออกมา
แสงสีทองกำลังจะระเบิดพลังออกมา
“ช้าก่อนเราไม่ได้คุ้มครองซือหยูเอาไว้จริง ๆ เขาหนีไปแล้ว…”
เซียนขาวรีบตอบนางมองแสงสีทองที่กำลังขยาย นางหัวใจเต้นเร็ว
ราชาเขตกลางไม่สนใจ
“ข้ารู้!”
“อ๊ะ!”
เซียนขาวดำพูด
“ถ้าเจ้ารู้อยู่แล้วว่าพวกเราไม่มีซือหยูทำไมเจ้ายังต้องทำแบบนี้? ได้โปรดเถอะ หยุดซะ…”
“ฮื่ม!ข้าจะมอบบทเรียนเลือดให้ทุกคนในจิวโจวได้รู้ จะได้ไม่มีใครกล้าปกป้องซือหยู!”
ราชาเขตกลางพูดอย่างเย็นชา ขณะนี้ราชาเขตกลางพร้อมจะระเบิดพลังทุกเมื่อ
เพลิงไร้จุดจบแผ่กระจายทั่วนภามันปกคลุมเหนือใต้
หากสัมผัสกับเพลิงเทวะทุกอย่างจะกลายเป็นเถ้าถ่าน
เซียนขาวดำสายตาสิ้นหวังพวกนางเริ่มตะโกน
“ปลุกเขาห้าธาตุ!”
นางทั้งสองบินลงไปยังเขาห้าธาตุนางซัดพื้นด้วยขาหนึ่งข้างและเผยพลังห้าธาตุภายใต้ภูเขาออกมา
พวกนางอัดพลังอสูรลงในผนึกผนึกถูกทำงานและปลดปล่อยพลังห้าธาตุทั้งหมดจากภูเขาออกมา
พลังอันยิ่งใหญ่ของธาตุทั้งห้าทะลวงไปยังท้องนภามันป้องกันเพลิงที่พุ่งลงมาได้พอดี
แต่เพลิงเทวะนั้นก็ค่อยๆ ตกลงมาอีก หากผนึกสิ้นพลังเมื่อใด ทั้งเมืองจะแตกดับวิญญาณของคนนับพันล้านจะถูกลบหายเป็นฝุ่นผง
“คนบูรพาจงทำตามคำสั่ง!ลูกหลานเทพอสูรทุกคน เผาเลือดของเจ้าซะ ใช้พลังอสูรลงในผนึก!”
มีเพียงพลังของอสูรเท่านั้นที่จะต้านทานเพลิงระดับนี้ได้
เหล่าคนตระกูลบูรพาเริ่มปล่อยพลังอสูรออกมา
เทียบกับผนึกแล้วพลังของราชาเขตกลางแข็งแกร่งเกินไป เมื่อเหล่าคนตระกูลบูรพาสละชีพเผาเลือด พวกเขาไม่ต่างจากแมงเม่าที่บินเข้ากองไฟ พวกเขาตรงเข้าไปตายทีละคน
ราชาเขตกลางตกใจเขาอยากจะสร้างเหตุการณ์นองเลือดที่ทำให้ตั้งจิวโจวหวาดหวั่น
“แบบนี้ก็ไม่เป็นไร”
ราเชากขตกลางหันไปคิด “ปล่อยให้มันตายทีละคนช้าๆ จะรุนแรงกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่มากกว่า”
ราชากลางมองคนตายเบื้องล่าง
ชายคนหนึ่งปรากฏตัวณ จุดที่ไม่มีใครอยู่เลย
แม้จะไกลจากทวีปบูรพาเขาก็มองเห็นภาพเหตุการณ์นองเลือด ณ ขณะนี้
เสียงอันยิ่งใหญ่ดังทั่วทั้งจิวโจวเสียงของราชาเขตกลางดังก้องไปทุกทิศทาง
“ใครก็ตามที่ปกป้องซือหยูใครก็ตามที่ขวางทาง ทุกคนต้องตาย!”
ซือหยูใจสั่นเขาไม่สบายใจเลยแม้แต่น้อย
“มันมาแล้ว!”
ซือหยูไม่ลังเลที่จะหยิบเอาค่ายกลจากตงฟางอวี่เขาใช้มันทันที
ค่ายกลนี้ใช้งานได้ดีมากมันใช้เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจก่อนจะทำงาน ซือหยูถูกย้ายตัวออกไปด้วยพลังมิติ
แทบจะทันทีหลังจากที่เขาหนีไปรอยแยกมิติก็เปิดขึ้นที่น่านฟ้าเหนือจุดเดิมของเขา
ราชาเขตกลางออกมาเห็นพอดิบพอดี
เขามองค่ายกลที่แตกสลายบนพื้นราชาเขตกลางมองรอบ ๆ อย่างเย็นชา
“เจ้าจะหนีข้าไปได้สักเท่าไหร่!”
ฟึ่บ!
ครึ่งชั่วยามต่อมาซือหยูปรากฎตัวเหนือประตูมิติเทวะที่เขตเทียนหนิว นี่น่าจะเป็นความตั้งใจของเซียนขาวดำ
เกิดรอยแยกมิติขนาดใหญ่ด้านในเมือง พลังเซียนเข้ามาปกคลุมซือหยู
ชายวัยกลาวคนที่สวมชุดเกราะก้าวพริบตามาหาซือหยู
“เจ้าคือซือหยูรึ?”
เขาสามารถจำหน้าซือหยูได้และแสดงความชื่นชม
ซือหยูรีบตอบ
“ใช่แล้วข้าขอยืมประตูมิติจะได้หรือไม่?”
ราชาเขตยิ้ม
“ใยรีบร้อนนักเล่า?มีเรื่องสำคัญที่ข้าอยากหารือกับเจ้า”
แต่ทันทีที่เขาพูดคลื่นลมก็ได้พาคลื่นเสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหารของราชาเขตกลางออกมา
“ใครก็ตามที่ปกป้องซือหยูใครก็ตามที่ขวางทาง ทุกคนต้องตาย!”
ราชาเขตหน้านิ่งงั้น
“ราชาเขตกลางช่างกล้านักกล้าดียังไงมาสั่งข้า?”
ในตอนนั้นเองหลายคนหน้าซีดและยื่นหยกสื่อสารให้ราชาเทียนหนิว
ราชาเหลือบมองความโกรธของเขาหายไปสิ้นแทนที่ด้วยความสะพรึงกลัว เขาเห็นภาพสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองทวีปบูรพา
เขาเห็นว่าทั้งเมืองลุกโชนไปด้วยเพลิงเทวะ
แม้แต่เซียนขาวดำทั้งสองก็มิอาจหยุดเพลิงนี้ได้!
ตระกูลตงฟางเข้าไปตายทีละคนใช้หยดเลือดของตัวเองเพื่อฟื้นพลังให้ผนึก
แต่สุดท้ายต่อให้สละชีวิตไป เพลิงเทวะก็ยังคงมอดไหม้ลุกลาม ในไม่ถึงสองวัน ตระกูลบูรพาจะถูกทำลายสิ้นซาก!
ตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปกำลังจะถูกลบหายไปจากโลก
พร้อมกันนั้นวิญญาณนับพันล้านดวงจะแตกดับไปด้วย!
พลังมหาศาลเช่นนี้ทำให้ราชาเทียนหนิวหน้าซีด
ราชาเขตกลางมีพลังมากเกินไปเกินกว่าพลังที่เขามี เขาไม่อยากจะให้เขตของเขาลงเอยอย่างตระกูลบูรพา!
เขาหันไปจ้องซือหยูและกัดฟันผลักเขา
“ออกไปจากเขตนี้เดี๋ยวนี้!และเจ้าจะต้องไม่ใช้ประตูมิติเทวะ!”
ซือหยูตกใจเขาเห็นอะไรในหยกสื่อสารกัน?
ซือหยูลำบากใจเป็นอย่างมาก
มันรวดเร็วมากแต่ราชาเขตกลางก็ตามเขาทัน!
ซือหยูไม่ลังเลที่จะใช้ค่ายกลหนีไปอีกครั้ง
ไม่นานหลังจากหนีไปราชาเขตกลางก็มาถึง เขาเหลือบมองราชาเทียนหนิว
“ดีอย่างน้อยเจ้าก็รู้ว่าควรทำอะไร!”
หลังจากนั้นราชาเขตกลางก็หายตัวไปอีก
ราชาเทียนหนิวไม่แม้แต่โต้แย้งเมื่อได้เข้าใกล้ราชาเขตกลาง เขารู้สึกถึงความกลัวตายที่อยู่ลึกข้างใน
ด้านหลังเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ
ในเวลาที่ซือหยูปรากฏตัวอีกครั้งเขาได้ไปอยู่ในเขตใกล้เคียง นั่นคือเขตทรายขาว
ราชาทรายขาวตกตะลึงกับมิติที่ปั่นป่วนตลอดทาง
เมื่อเขาเห็นว่าซือหยูมาเขาก็ชักสีหน้าด้วยความกลัว เขาตะโกน
“ออกไปจากเขตทรายขาวซะ!”
เขาไม่กล้าจะให้ซือหยูอยู่แม้แต่ครู่เดียว!
ซือหยูไม่คิดจะหยุดเขาหนีไปอีกครั้งด้วยค่ายกล
ทันทีที่เขาหนีไปราชาเขตกลางก็มาถึงทันทีในจุดเดิมของซือหยู
ซือหยูหนีไปอีกเขตอีกครั้ง
ทั้งสองไล่ล่ากันไปทั่วจิวโจว
ราชาเขตกลางอดทนฝึกฝนมาหลายร้อยปีพลังของเขาไม่อ่อนแอไปกว่าเซียนขาวดำที่ไร้เทียมทาน ไม่มีใครสามารถทำอะไรตระกูลบูรพาได้เพราะนางทั้งสอง
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรราชาเขตกลางก็มีพลังเหนือกว่าพวกนางไปแล้ว
และไม่ว่าซือหยูจะไปที่ใดราชาเขตเหล่านั้นก็จะลำบากใจในทันที
ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วจิวโจวในเวลาเพียงครึ่งวัน
ทุกคนรู้ว่าซือหยูได้ตกเป็นเป้าหมายของราชาเขตกลางที่มุ่งหมายจะเอาชีวิตเขา!
ตลดทางคนที่ไม่รู้และพยายามจะช่วยซือหยูได้พบเจอกับสิ่งเดียวกับตระกูลบูรพา พวกเขาถูกฆ่าตายหมดด้วยเพลิงเทวะ!
วิธีการบ้าเลือดเช่นนี้ทำให้ทุกกองกำลังในจิวโจวหวาดกลัว
หลังจากหนีมาทั่วทั้งเก้าเขตราชาเขตกลางไล่ตามซือหยูมาถึงเขตกระบี่ไร้ใจ เขามองค่ายกลที่ซือหยูทิ้งเอาไว้อีกครั้ง เขาแสยะยิ้ม
“แม้โลกจะกว้างใหญ่มันก็ไม่มีที่ให้เจ้าหลบหนี! เจ้าเหลือค่ายกลอีกแค่ไหนกัน!”
ซือหยูปราฏกายครั้งนี้เขามาถึงเขตหุยเทียน เขตที่หลายคนตายเพราะช่วยเซียนขาวดำต่อสู้
เขตนี้ไร้ซึ่งราชาจึงไม่มีใครมาไล่ซือหยูออกไป
แต่ซือหยูก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่
เหล่าราชาเขตและอีกหลายเขตไม่ได้คิดจะช่วยเขาและซือหยูก็ไม่คิดจะทำให้พวกเขาลำบากโดยการหนีไปก่อน เช่นเดียวกับเขตกระบี่ไร้ใจ
เขามองดูค่ายกลสุดท้ายในมือด้วยความขมขื่น
เขาหนีมาทั่วจิวโจวแต่ก็ไม่มีที่ให้เขาหลบซ่อน
นี่คือสิ่งที่ราชาเขตกลางอยากเห็น
ด้วยค่ายกลสุดท้ายเขาจะหนีไปไหนได้อีก?
ซือหยูคิด
ท้องนภาเกิดหมอกเมฆาสะท้อนภาพที่เกิดในเมืองบูรพา
ท่ามกลางเพลิงเทวะไม่ขาดสายเซียนขาวดำพยายามอย่างหนักเพื่อต้านทานเพลิงเทวะที่เข้าใกล้ คนตระกูลบูรพาตายไปทีละคนในกองเพลิง พวกเขายินดีสละชีวิตเพื่อให้ตระกูลรอด
ตระกูลบูรพาประกอบด้วยตระกูลนับแสนตระกูลแต่เวลานี้กลับเหลือเพียงสองหมื่น!
ตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้มันเป็นระยะเวลาเพียงแค่ไม่ถึงครึ่งวัน
ซือหยูตกตะลึงเมื่อมองดวงวิญญาณนับพันล้านดวงที่กำลังจะถูกทำลาย
ทั้งหมดเป็นเพราะเขา!
ซือหยูเหลือบมองในเงาผู้คนเขาเห็นสตรีนางหนึ่งเดินไปยังผนึก ใต้กองเพลิงเทวะนางลุกโชนราวกับบุพผาเพลิง ชุดขาวและสีเพลิงประกอบกันดูงดงาม
แต่ใบหน้านางเด็ดเดี่ยวนางบุกเข้าไปยังผนึกและกรีดโลหิตของตัวเองให้กับมัน
ซือหยูร้องคำรามอยู่ในใจ
ไม่แปลกใจเลยที่ราชาทุกเขตเลี่ยงเขา!
เขามองเหตุการณ์นองเลือดอย่างหวาดหวั่น
ในชีวิตนี้เขาไม่เคยอยากติดหนี้ผู้ใดที่มีน้ำใจให้กับเขา เขาไม่อยากทำใครเดือดร้อน
แต่ตระกูลบูรพา…ตงฟางอวี่…
“ถ้าข้าไม่เหลือที่ให้ซ่อนแล้วใยยังต้องซ่อนอีกเล่า?”
ซือหยูมองกลับไปยังขอบนภาอันว่างเปล่า
“บูรพารอข้าอยู่!”
ฟึ่บ! ซือหยูใช้ค่ายกลสุดท้ายย้ายตัวเองกลับมายังทวีปบูรพาเมื่อไปถึงแล้ว เขาตั้งใจจะปะทะกับศัตรูของเขาที่นั่น!