The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1143 - จักรพรรดิผี
ซือหยูถึงกับได้ยินเสียงเพราะความไม่สบายใจข้างในเขาใจเต้นแรงมาก
ราชาเขตกลางอยู่ไม่ห่างจากที่นี่เลย!
ซือหยูกัดฟันแน่นเขาต้องใช้พลังของเทพปีศาจเพื่อดูดซับให้สำเร็จ
โชคดีที่ขอบเขตพลังของเขามาถึงจุดสำคัญของขั้นสามมันกำลังมุ่งหน้าไปถึงขั้นที่สี่
เมื่อไปถึงขั้นนั้นเขาจะใช้ศรทลายฟ้าได้!
แต่ในเวลานี้เงาสองร่างปรากฏในห้องลับใต้ดิน!
หนึ่งบรุษหนึ่งสตรีที่ห้อมล้อมไปด้วยพลังภูติผีเดินเข้าหาซือหยู
เมื่อเห็นใบหน้าของทั้งสองซือหยูก็มองกลับไปอย่างดุร้าย
“เทียนเหรินเหยาเทียนหยู! จะเป็นใครถ้าไม่ใช่พวกเจ้า?” ซือหยูกลัวทั้งสองปรากฏตัวอย่างเงียบเชียบโดยไร้ซึ่งรอยแยกมิติ ทั้งสองมีระดับพลังเท่าใดกัน?
เทียนเหรินเหยายิ้มเล็กน้อย
เทียนหยูไม่พอใจนักที่ได้เห็นซือหยู
“น้องซือเจ้าเป็นเช่นใดบ้าง”
เทียนเหรินเหยายังคงยิ้มและพูดถึงเรื่องอดีต
“หลังพวกเราออกจากดินแดนมีดสวรรค์เจ้าจำคำพูดข้าได้หรือไม่?”
เขาจำได้แน่นอนหากได้พบกันอีกครั้ง พวกเขาคือศัตรู
ซือหยูใจหายในทันทีเขาจะลืมได้อย่างไรว่าเขตกลางในเวลานี้คือจุดที่ทัพผีประจำการอยู่?
เผ่าผีคือพันธมิตรของราชาเขตกลาง!
ร้อยปีก่อนพวกเขาแอบวางอุบายเพื่อใช้กับเฉินอี้เจิง ร้อยปีต่อมาพวกเขากลับมาเพื่อต่อกรกับจิวโจวอีกครั้ง
“เจ้าถึงกับไม่ทักทายข้าก่อนและคิดบ่มเพาะพลังในที่ของข้าน้องซือ เจ้ากำลังดูถูกข้าอยู่หรือ?”
เทียนเหรินเหยายิ้มเบาแต่สายตาเริ่มอันตรายขึ้น
เทียนหยูเยือกเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ จิตสังหารปะทุจากดวงวิญญาณ
“ถ้าจะแตะต้องพี่ซือหยูเจ้าก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน”
เซี่ยนเอ๋อพูดเบาๆ นางไปยืนขวางซือหยู
ในเวลาเช่นนี้ทั้งสองไม่ควรจะเจอศัตรูเลย
พลังจากทั้งสองคนนั้นสามารถทำให้คนตัวสั่นไปถึงกระดูกได้
มันไม่ใช่พลังของอสูรเนรมิตรแต่เป็นบางอย่างที่แข็งแกร่งกว่านั้น
“เซี่ยนเอ๋อเจ้าหลบไปก่อน เจ้าไม่ใช่คู่มือของพวกมัน”
ซือหยูถอนหายใจถ้าหากเขามีเวลามากกว่านี้เขาจะสามารถดูดซับพลังทั้งหมดมาได้ เขาจะได้เป็นเซียนขั้นสี่
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องหยุดลง
“เพราะว่าพวกมันคือ…จักรพรรดิผี!”
ซือหยูพูดอย่างเย็นชา
เทียนหยูผงะสายตามีจิตสังหารที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
เทียนเหรินเหยาดูไม่ตกอกตกใจนักสายตาเพียงแค่แสดงความแปลกใจ
“โอ้น้องซือเดาออกแล้วรึ?”
เซี่ยนเอ๋อเบิกตากว้าง
“จักรพรรดิผีรึ?”
นางอยู่ในจิวโจวมานานนางจะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของจักรพรรดิผีหรือ? ในร้อยปีที่แล้ว จักรพรรดิผีเป็นรองเพียงแค่เฉินอี้เจิงเท่านั้น เทียนเหรินเหยากับเทียนหยูยิ้มพร้อมกันทั้งสองเข้าใกล้ ร่างกายผสานเป็นหนึ่ง
ด้านหน้าเป็นเทียนเหรินเหยาด้านหลังเป็นเทียนหยู
ทั้งสองผสานกันเป็นร่างกายเดียว!
“ข้าสงสัยเจ้าเดาตัวตนของข้าได้อย่างไร?”
เทียนเหรินเหยากับเทียนหยูพูดพร้อมกันเสียงของทั้งสองผสมกันปนเป เขาบอกไม่ได้ว่าเป็นเสียงของบุรุษหรือสตรี
ซือหยูใช้เวลาขณะนี้ดูดซับพลัง
“มันเดายากมากนักหรือ?คนอย่างปี้หลิงเทียนฟังเจ้า ทั้งทัพผีในจิวโจวรับบัญชาจากพวกเจ้า นอกจากจักรพรรดิผีแล้วเจ้าจะเป็นใครไปได้อีก? ประการที่สอง เจ้าเป็นชาย แต่เจ้าก็ชอบบุรุษ เทียนหยูเป็นหญิงกลับชอบสตรี หยินหยางในตัวของพวกเจ้าปั่นป่วน ยากที่จะบอกว่าเป็นเพศใด ข้าอ่านตำราโบราณมามากจนได้รู้ว่าจักรพรรดิผีพูดออกมาเป็นเสียงบุรุษและสตรีพร้อมกัน ดังนั้นข้าเลยคิดว่าจะต้องเป็นแบบนี้”
“ครั้งนี้พวกเจ้ามาได้โดยที่ข้าไม่รู้ตัว พลังของพวกเจ้าเหนือกว่าโลกใบนี้ไปแล้ว ข้าก็ยิ่งยืนยันสิ่งที่คิดได้มั่นใจกว่าเดิม”
ซูม…
เกิดเสียงมิติฉีกขาด
ร่างมนุษย์ที่มีแสงสีทองปรากฏตัวขึ้นมา
“เจ้ามดปลวกข้าต้องยอมรับว่าเจ้าฉลาดมาก”
ราชาเขตกลางมาถึงแล้ว
ซือหยูเหลือเพียงแค่ขั้นสุดท้ายเท่านั้นแต่ราชาเขตกลางก็มาเสียก่อน
จะอย่างไร…เขาก็พ่ายแพ้
“แม้แต่เรื่องนี้เจ้ายังเดาได้ข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้าจะไม่รู้อะไรอีกบ้าง”
ราชาเขตกลางดูเหมือนชมซือหยูแต่ดูเหมือนจะเป็นการเย้ยหยันมากกว่า ยิ่งคนที่กำลังจะตายรู้มากเท่าใดมันก็ยิ่งลักลั่นมากเท่านั้น
ราชาเขตกลางเหลือบมองจักรพรรดิผี
“ดีมากถ้าหากมันได้เป็นเซียนขั้นสี่ก็คงจะเกิดเรื่องใหญ่”
แต่จักรพรรดิผีไม่สนใจอะไรนัก
“ถ้าเจ้าตายมันก็ไม่มีประโยชน์กับข้า”
เขายิ้มจ้องมองซือหยู
“เจ้าเดาเก่งนักไม่ใช่รึ…คิดว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้าต่อไปล่ะ?”
จักรพรรดิผีเคลื่อนไหวมาอยู่หน้าซือหยูอย่างรวดเร็วฝ่ามือที่มีพลังเซียนซัดไปที่หน้าผากของเขา
ราชาเขตกลางขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้เข้าไปหยุดเพราะซือหยูกำลังจะตาย ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นคนฆ่าตราบเท่าที่เรื่องหม้อเก้ามังกรยังไม่ถูกเปิดเผย
แต่เขาก็พบว่าไม่เพียงซือหยูจะไม่ตอบโต้ซือหยูยังยิ้มออกมาที่มุมปาก “ข้าเดาว่า…เจ้าจะต้องช่วยข้า”
“ฮ่าๆๆๆๆ…เจ้าพูดถูกเผง!”
จักรพรรดิผีเปลี่ยนจิตสังหารเป็นเสียงหัวเราะพลังเซียนในฝ่ามือเปลี่ยนแปลงเป็นกลุ่มพลังเทพเข้าสู่ร่างของซือหยู
“นี่คือสายโลหิตหลังจากที่ข้าได้ตำแหน่งรับไปซะ!”
จักรพรรดิผีมิได้เป็นเพียงแค่เทพแต่ยังเป็นลูกหลานของภูติผีอีกด้วย!
ด้วยสายโลหิตของจักรพรรดิผีความเร็วในการดูดซับพลังของซือหยูทะยานขึ้นอย่างก้าวกระโดด พลังหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเหนือการคาดเดาไม่เพียงแต่เซี่ยนเอ๋อจะตกใจ แต่ราชาเขตกลางเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อใจเย็นลงราชาเขตกลางพุ่งเข้ามาซัดศีรษะซือหยูด้วยฝ่ามือขณะที่ตะโกน
“จักรพรรดิผี!เจ้าบ้าไปแล้ว!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อหักหลังเขาเขาเข้าใจได้ แต่ถ้าจักรพรรดิผีจะหักหลังเขาด้วยเขาก็มิอาจเข้าใจได้เลย
จักรพรรดิผีจะได้อะไรถ้าช่วยให้ซือหยูฆ่าเขา?มีแต่เรื่องเลวร้ายเท่านั้น!
เผ่าผีมาล้างบางจิวโจวเมื่อร้อยปีก่อนหลังซือหยูฆ่าราชาเขตกลางได้ เขาจะปล่อยให้จักรพรรดิผีหลุดมือไปรึ?
ไม่ว่าจะอย่างไรราชาเขตกลางก็มิอาจเดาความตั้งใจของจักรพรรดิผีได้เลย
“ฮ่าๆๆๆๆ…”
จักรพรรดิผียิ้มเขายกมือ ลูกแก้วสีอำพันแปดลูกเรียงตัวกลายเป็นวงแหวน
นี่คือมุกบาดาล!มันคือสิ่งที่ทำให้จักรพรรดิผีมีชื่อเสียง!
ราชาเขตกลางซัดมุกบาดาลด้วยฝ่ามือมุกบาดาลหมุนควงต้านพลังเอาไว้จำนวนมาก แขนราชาเขตกลางขาดด้วยการหมุนอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นกระดูกและเลือดจากแขน
ซือหยูตกใจมุกบาดาลใช้งานเช่นนี้ได้ด้วยหรือ?
“น้องซือตอนที่ข้ารู้ว่าเจ้าโยนอาวุธวิเศษข้าราวกับก้อนหิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าความรู้สึกข้าเป็นเช่นใด?”
จักรพรรดิผีหัวเราะขณะที่ควบคุมมุกบาดาลให้หมุน
ซือหยูหน้าแดงด้วยความอับอายเขากลอกตาไม่สนคำยั่วยุ เขารีบดูดซับพลังสายโลหิตขั้นสุดท้าย
แขนที่ขาดของราชาเขตกลางฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าเขาร้อนรน
“จักรพรรดิผี!เจ้ากำลังจะทำลายแผนใหญ่ของข้าเรอะ?”
“แผนใหญ่?ฮ่าๆๆๆๆ ยึดครองจิวโจว ชำระล้างมันและขายให้กับเทพเพื่อแลกกับต้นกำเนิดพลังเทพรึ?”
จักรพรรดิผีหัวเราะเยาะและบอกความตั้งใจจริงของราชาเขตกลาง เพื่อที่จะเป็นจักรพรรดิจิวโจวราชาเขตกลางได้ทำทั้งหมดลงไป ตั้งแต่ร้อยปีก่อน หลังการจากไปของเฉินอี้เจิง เขาคือผู้ไร้เทียมทาน
แต่การเป็นราชาแล้วจะอย่างไรเล่า?เขามีเหตุผลที่ลึกล้ำกว่านั้น นั่นก็คือการขายจิวโจว!
มันฟังดูไม่น่าเชื่อ
“โลกว่างเปล่าใบนี้ที่ไร้การปกป้องจากเทพย่อมเป็นดั่งชิ้นเนื้อโอชะต่อสายตาของทุกคน”
จักรพรรดิผีไม่สนใจใบหน้าซับซ้อนของราชาเขตกลาง
“เจ้าอยากตายเรอะ!”
ราชาเขตกลางตะโกน
“ไปให้พ้นหน้าข้า!”
ราชาเขตกลางใช้พลังทั้งหมดเพื่อที่จะฆ่าจักรพรรดิผีและซือหยูไปพร้อมกันเขาอัดพลังทั้งหมดในหมัดเดียว จักรพรรดิผีใบหน้าจริงจังเขาควบคุมมุกบาดาลเพื่อขัดขวางพลังของราชาเขตกลาง
โชคดีที่ราชาเขตกลางบาดเจ็บก่อนที่จะรวบรวมพลังทั้งหมดได้
ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของมุกบาดาลจักรพรรดิผีสามารถป้องกันตัวได้
“ร้อยปีก่อนเจ้าปกปิดพลังที่เทียบเท่ากับเฉินอี้เจิงเอาไว้ อีกร้อยปีให้หลัง พลังแบบเดียวกันก็กำลังจะทำกับเจ้า”
ราชาเขตกลางไม่มีเวลาฟังคำพูดของจักรพรรดิผีถ้าซือหยูไม่ถูกพาออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาก็เกรงว่าตัวเขาจะเป็นฝ่ายถูกลบหายไปเสียเอง
“เจ้าบังคับข้าเองนะข้าไม่อยากฆ่าเจ้าเพราะเห็นแก่การร่วมมือกันเมื่อร้อยปีก่อน แต่ตอนนี้…ฮื่ม ต่อให้เทพอสูรกล่าวโทษข้า ข้าก็ไม่กลัวแล้ว!”
ใบหน้าราชาเขตกลางเปลี่ยนไปเขาหายใจเข้าลึก พลังอสูรเอ่อออกมาจากร่าง สุดท้ายจักรพรรดิผีก็ชักสีหน้า
“พลังเทพอสูร…เจ้าเจ้าไม่ใช่มนุษย์งั้นรึ?”
ต่อให้ร่วมมือกันมาเป็นร้อยปีเขาก็ไม่รู้ราชาของฝ่ายมนุษย์อย่างราชาเขตกลางกลับไม่ใช่มนุษย์ ไม่สิ เขาไม่ใช่มนุษย์ที่บริสุทธิ์
“ระวัง!มันเป็นลูกหลานของเทพมนุษย์กับเทพอสูร มันแปลงร่างเป็นอสูรได้!”
ซือหยูเองเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว
ดูจากพลังราชาเขตกลางคือผู้ที่ไร้เทียมทานที่สุดในโลก และด้วยวิชาแปลงกาย เขานั้นน่ากลัวยิ่งกว่าเซียนมณี
แม้ว่าจะรวบรวมราชาเขตอื่นอีกแปดคนมาเขาก็เกรงว่าราชาเหล่านั้นจะทำอะไรราชาเขตกลางไม่ได้เลย
ลูกหลานของมนุษย์และอสูรมีพลังพิเศษที่จะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์และอสูรได้มันจะทำให้ได้พลังที่เหนือกว่าเดิมอีกระดับ
ราชาเขตกลางในเวลานี้เป็นจุดสุดยอดของเซียนถ้าหากเพิ่มพลังขึ้นอีก เขาจะไม่ได้มีพลังเท่ากับเทพหรือ?
“ตายซะ!”
ราชาเขตกลางที่แปลงร่างเป็นอสูรสูงร้อยศอกร้องคำราม
จักรพรรดิผีกัดฟันเขาไม่คิดจะยอมแพ้ ร่างกายได้ขยายขึ้นเป็นร้อยเท่าในทันทีสู่ความสูงร้อยศอก
มุกบาดาลเองก็ขยายขนาดขึ้นมุกบาดาลหนาสิบศอกพุ่งใส่ฝ่ามือราชาเขตกลาง
มุกบาดาลแตกสลายพลังฝ่ามือที่เหลือปะทะกับร่างจักรพรรดิผี
จักรพรรดิผีกัดฟันฝ่ามือได้กลายเป็นกรงเล็บขนาดสิบศอกพยายามที่จะต้านทานพลังที่เหลือของราชาเขตกลาง
การปะทะของทั้งสองทำให้จักรพรรดิผีต้องถอยหลายครั้งร่างกายขนาดใหญ่ทำให้ห้องลับใต้ดินพังทลาย คนหลายคนได้เห็นสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ต่อสู้กัน ผู้คนที่กำลังเก็บกวาดซากเมืองต่างตกอกตกใจพวกเขารีบถอยหนีมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง
ราชาเขตกลางอยู่ไม่ห่างจากที่นี่เลย!
ซือหยูกัดฟันแน่นเขาต้องใช้พลังของเทพปีศาจเพื่อดูดซับให้สำเร็จ
โชคดีที่ขอบเขตพลังของเขามาถึงจุดสำคัญของขั้นสามมันกำลังมุ่งหน้าไปถึงขั้นที่สี่
เมื่อไปถึงขั้นนั้นเขาจะใช้ศรทลายฟ้าได้!
แต่ในเวลานี้เงาสองร่างปรากฏในห้องลับใต้ดิน!
หนึ่งบรุษหนึ่งสตรีที่ห้อมล้อมไปด้วยพลังภูติผีเดินเข้าหาซือหยู
เมื่อเห็นใบหน้าของทั้งสองซือหยูก็มองกลับไปอย่างดุร้าย
“เทียนเหรินเหยาเทียนหยู! จะเป็นใครถ้าไม่ใช่พวกเจ้า?” ซือหยูกลัวทั้งสองปรากฏตัวอย่างเงียบเชียบโดยไร้ซึ่งรอยแยกมิติ ทั้งสองมีระดับพลังเท่าใดกัน?
เทียนเหรินเหยายิ้มเล็กน้อย
เทียนหยูไม่พอใจนักที่ได้เห็นซือหยู
“น้องซือเจ้าเป็นเช่นใดบ้าง”
เทียนเหรินเหยายังคงยิ้มและพูดถึงเรื่องอดีต
“หลังพวกเราออกจากดินแดนมีดสวรรค์เจ้าจำคำพูดข้าได้หรือไม่?”
เขาจำได้แน่นอนหากได้พบกันอีกครั้ง พวกเขาคือศัตรู
ซือหยูใจหายในทันทีเขาจะลืมได้อย่างไรว่าเขตกลางในเวลานี้คือจุดที่ทัพผีประจำการอยู่?
เผ่าผีคือพันธมิตรของราชาเขตกลาง!
ร้อยปีก่อนพวกเขาแอบวางอุบายเพื่อใช้กับเฉินอี้เจิง ร้อยปีต่อมาพวกเขากลับมาเพื่อต่อกรกับจิวโจวอีกครั้ง
“เจ้าถึงกับไม่ทักทายข้าก่อนและคิดบ่มเพาะพลังในที่ของข้าน้องซือ เจ้ากำลังดูถูกข้าอยู่หรือ?”
เทียนเหรินเหยายิ้มเบาแต่สายตาเริ่มอันตรายขึ้น
เทียนหยูเยือกเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ จิตสังหารปะทุจากดวงวิญญาณ
“ถ้าจะแตะต้องพี่ซือหยูเจ้าก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน”
เซี่ยนเอ๋อพูดเบาๆ นางไปยืนขวางซือหยู
ในเวลาเช่นนี้ทั้งสองไม่ควรจะเจอศัตรูเลย
พลังจากทั้งสองคนนั้นสามารถทำให้คนตัวสั่นไปถึงกระดูกได้
มันไม่ใช่พลังของอสูรเนรมิตรแต่เป็นบางอย่างที่แข็งแกร่งกว่านั้น
“เซี่ยนเอ๋อเจ้าหลบไปก่อน เจ้าไม่ใช่คู่มือของพวกมัน”
ซือหยูถอนหายใจถ้าหากเขามีเวลามากกว่านี้เขาจะสามารถดูดซับพลังทั้งหมดมาได้ เขาจะได้เป็นเซียนขั้นสี่
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องหยุดลง
“เพราะว่าพวกมันคือ…จักรพรรดิผี!”
ซือหยูพูดอย่างเย็นชา
เทียนหยูผงะสายตามีจิตสังหารที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
เทียนเหรินเหยาดูไม่ตกอกตกใจนักสายตาเพียงแค่แสดงความแปลกใจ
“โอ้น้องซือเดาออกแล้วรึ?”
เซี่ยนเอ๋อเบิกตากว้าง
“จักรพรรดิผีรึ?”
นางอยู่ในจิวโจวมานานนางจะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของจักรพรรดิผีหรือ? ในร้อยปีที่แล้ว จักรพรรดิผีเป็นรองเพียงแค่เฉินอี้เจิงเท่านั้น เทียนเหรินเหยากับเทียนหยูยิ้มพร้อมกันทั้งสองเข้าใกล้ ร่างกายผสานเป็นหนึ่ง
ด้านหน้าเป็นเทียนเหรินเหยาด้านหลังเป็นเทียนหยู
ทั้งสองผสานกันเป็นร่างกายเดียว!
“ข้าสงสัยเจ้าเดาตัวตนของข้าได้อย่างไร?”
เทียนเหรินเหยากับเทียนหยูพูดพร้อมกันเสียงของทั้งสองผสมกันปนเป เขาบอกไม่ได้ว่าเป็นเสียงของบุรุษหรือสตรี
ซือหยูใช้เวลาขณะนี้ดูดซับพลัง
“มันเดายากมากนักหรือ?คนอย่างปี้หลิงเทียนฟังเจ้า ทั้งทัพผีในจิวโจวรับบัญชาจากพวกเจ้า นอกจากจักรพรรดิผีแล้วเจ้าจะเป็นใครไปได้อีก? ประการที่สอง เจ้าเป็นชาย แต่เจ้าก็ชอบบุรุษ เทียนหยูเป็นหญิงกลับชอบสตรี หยินหยางในตัวของพวกเจ้าปั่นป่วน ยากที่จะบอกว่าเป็นเพศใด ข้าอ่านตำราโบราณมามากจนได้รู้ว่าจักรพรรดิผีพูดออกมาเป็นเสียงบุรุษและสตรีพร้อมกัน ดังนั้นข้าเลยคิดว่าจะต้องเป็นแบบนี้”
“ครั้งนี้พวกเจ้ามาได้โดยที่ข้าไม่รู้ตัว พลังของพวกเจ้าเหนือกว่าโลกใบนี้ไปแล้ว ข้าก็ยิ่งยืนยันสิ่งที่คิดได้มั่นใจกว่าเดิม”
ซูม…
เกิดเสียงมิติฉีกขาด
ร่างมนุษย์ที่มีแสงสีทองปรากฏตัวขึ้นมา
“เจ้ามดปลวกข้าต้องยอมรับว่าเจ้าฉลาดมาก”
ราชาเขตกลางมาถึงแล้ว
ซือหยูเหลือเพียงแค่ขั้นสุดท้ายเท่านั้นแต่ราชาเขตกลางก็มาเสียก่อน
จะอย่างไร…เขาก็พ่ายแพ้
“แม้แต่เรื่องนี้เจ้ายังเดาได้ข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้าจะไม่รู้อะไรอีกบ้าง”
ราชาเขตกลางดูเหมือนชมซือหยูแต่ดูเหมือนจะเป็นการเย้ยหยันมากกว่า ยิ่งคนที่กำลังจะตายรู้มากเท่าใดมันก็ยิ่งลักลั่นมากเท่านั้น
ราชาเขตกลางเหลือบมองจักรพรรดิผี
“ดีมากถ้าหากมันได้เป็นเซียนขั้นสี่ก็คงจะเกิดเรื่องใหญ่”
แต่จักรพรรดิผีไม่สนใจอะไรนัก
“ถ้าเจ้าตายมันก็ไม่มีประโยชน์กับข้า”
เขายิ้มจ้องมองซือหยู
“เจ้าเดาเก่งนักไม่ใช่รึ…คิดว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้าต่อไปล่ะ?”
จักรพรรดิผีเคลื่อนไหวมาอยู่หน้าซือหยูอย่างรวดเร็วฝ่ามือที่มีพลังเซียนซัดไปที่หน้าผากของเขา
ราชาเขตกลางขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้เข้าไปหยุดเพราะซือหยูกำลังจะตาย ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นคนฆ่าตราบเท่าที่เรื่องหม้อเก้ามังกรยังไม่ถูกเปิดเผย
แต่เขาก็พบว่าไม่เพียงซือหยูจะไม่ตอบโต้ซือหยูยังยิ้มออกมาที่มุมปาก “ข้าเดาว่า…เจ้าจะต้องช่วยข้า”
“ฮ่าๆๆๆๆ…เจ้าพูดถูกเผง!”
จักรพรรดิผีเปลี่ยนจิตสังหารเป็นเสียงหัวเราะพลังเซียนในฝ่ามือเปลี่ยนแปลงเป็นกลุ่มพลังเทพเข้าสู่ร่างของซือหยู
“นี่คือสายโลหิตหลังจากที่ข้าได้ตำแหน่งรับไปซะ!”
จักรพรรดิผีมิได้เป็นเพียงแค่เทพแต่ยังเป็นลูกหลานของภูติผีอีกด้วย!
ด้วยสายโลหิตของจักรพรรดิผีความเร็วในการดูดซับพลังของซือหยูทะยานขึ้นอย่างก้าวกระโดด พลังหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเหนือการคาดเดาไม่เพียงแต่เซี่ยนเอ๋อจะตกใจ แต่ราชาเขตกลางเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อใจเย็นลงราชาเขตกลางพุ่งเข้ามาซัดศีรษะซือหยูด้วยฝ่ามือขณะที่ตะโกน
“จักรพรรดิผี!เจ้าบ้าไปแล้ว!”
ฉินเซี่ยนเอ๋อหักหลังเขาเขาเข้าใจได้ แต่ถ้าจักรพรรดิผีจะหักหลังเขาด้วยเขาก็มิอาจเข้าใจได้เลย
จักรพรรดิผีจะได้อะไรถ้าช่วยให้ซือหยูฆ่าเขา?มีแต่เรื่องเลวร้ายเท่านั้น!
เผ่าผีมาล้างบางจิวโจวเมื่อร้อยปีก่อนหลังซือหยูฆ่าราชาเขตกลางได้ เขาจะปล่อยให้จักรพรรดิผีหลุดมือไปรึ?
ไม่ว่าจะอย่างไรราชาเขตกลางก็มิอาจเดาความตั้งใจของจักรพรรดิผีได้เลย
“ฮ่าๆๆๆๆ…”
จักรพรรดิผียิ้มเขายกมือ ลูกแก้วสีอำพันแปดลูกเรียงตัวกลายเป็นวงแหวน
นี่คือมุกบาดาล!มันคือสิ่งที่ทำให้จักรพรรดิผีมีชื่อเสียง!
ราชาเขตกลางซัดมุกบาดาลด้วยฝ่ามือมุกบาดาลหมุนควงต้านพลังเอาไว้จำนวนมาก แขนราชาเขตกลางขาดด้วยการหมุนอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นกระดูกและเลือดจากแขน
ซือหยูตกใจมุกบาดาลใช้งานเช่นนี้ได้ด้วยหรือ?
“น้องซือตอนที่ข้ารู้ว่าเจ้าโยนอาวุธวิเศษข้าราวกับก้อนหิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าความรู้สึกข้าเป็นเช่นใด?”
จักรพรรดิผีหัวเราะขณะที่ควบคุมมุกบาดาลให้หมุน
ซือหยูหน้าแดงด้วยความอับอายเขากลอกตาไม่สนคำยั่วยุ เขารีบดูดซับพลังสายโลหิตขั้นสุดท้าย
แขนที่ขาดของราชาเขตกลางฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าเขาร้อนรน
“จักรพรรดิผี!เจ้ากำลังจะทำลายแผนใหญ่ของข้าเรอะ?”
“แผนใหญ่?ฮ่าๆๆๆๆ ยึดครองจิวโจว ชำระล้างมันและขายให้กับเทพเพื่อแลกกับต้นกำเนิดพลังเทพรึ?”
จักรพรรดิผีหัวเราะเยาะและบอกความตั้งใจจริงของราชาเขตกลาง เพื่อที่จะเป็นจักรพรรดิจิวโจวราชาเขตกลางได้ทำทั้งหมดลงไป ตั้งแต่ร้อยปีก่อน หลังการจากไปของเฉินอี้เจิง เขาคือผู้ไร้เทียมทาน
แต่การเป็นราชาแล้วจะอย่างไรเล่า?เขามีเหตุผลที่ลึกล้ำกว่านั้น นั่นก็คือการขายจิวโจว!
มันฟังดูไม่น่าเชื่อ
“โลกว่างเปล่าใบนี้ที่ไร้การปกป้องจากเทพย่อมเป็นดั่งชิ้นเนื้อโอชะต่อสายตาของทุกคน”
จักรพรรดิผีไม่สนใจใบหน้าซับซ้อนของราชาเขตกลาง
“เจ้าอยากตายเรอะ!”
ราชาเขตกลางตะโกน
“ไปให้พ้นหน้าข้า!”
ราชาเขตกลางใช้พลังทั้งหมดเพื่อที่จะฆ่าจักรพรรดิผีและซือหยูไปพร้อมกันเขาอัดพลังทั้งหมดในหมัดเดียว จักรพรรดิผีใบหน้าจริงจังเขาควบคุมมุกบาดาลเพื่อขัดขวางพลังของราชาเขตกลาง
โชคดีที่ราชาเขตกลางบาดเจ็บก่อนที่จะรวบรวมพลังทั้งหมดได้
ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของมุกบาดาลจักรพรรดิผีสามารถป้องกันตัวได้
“ร้อยปีก่อนเจ้าปกปิดพลังที่เทียบเท่ากับเฉินอี้เจิงเอาไว้ อีกร้อยปีให้หลัง พลังแบบเดียวกันก็กำลังจะทำกับเจ้า”
ราชาเขตกลางไม่มีเวลาฟังคำพูดของจักรพรรดิผีถ้าซือหยูไม่ถูกพาออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาก็เกรงว่าตัวเขาจะเป็นฝ่ายถูกลบหายไปเสียเอง
“เจ้าบังคับข้าเองนะข้าไม่อยากฆ่าเจ้าเพราะเห็นแก่การร่วมมือกันเมื่อร้อยปีก่อน แต่ตอนนี้…ฮื่ม ต่อให้เทพอสูรกล่าวโทษข้า ข้าก็ไม่กลัวแล้ว!”
ใบหน้าราชาเขตกลางเปลี่ยนไปเขาหายใจเข้าลึก พลังอสูรเอ่อออกมาจากร่าง สุดท้ายจักรพรรดิผีก็ชักสีหน้า
“พลังเทพอสูร…เจ้าเจ้าไม่ใช่มนุษย์งั้นรึ?”
ต่อให้ร่วมมือกันมาเป็นร้อยปีเขาก็ไม่รู้ราชาของฝ่ายมนุษย์อย่างราชาเขตกลางกลับไม่ใช่มนุษย์ ไม่สิ เขาไม่ใช่มนุษย์ที่บริสุทธิ์
“ระวัง!มันเป็นลูกหลานของเทพมนุษย์กับเทพอสูร มันแปลงร่างเป็นอสูรได้!”
ซือหยูเองเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว
ดูจากพลังราชาเขตกลางคือผู้ที่ไร้เทียมทานที่สุดในโลก และด้วยวิชาแปลงกาย เขานั้นน่ากลัวยิ่งกว่าเซียนมณี
แม้ว่าจะรวบรวมราชาเขตอื่นอีกแปดคนมาเขาก็เกรงว่าราชาเหล่านั้นจะทำอะไรราชาเขตกลางไม่ได้เลย
ลูกหลานของมนุษย์และอสูรมีพลังพิเศษที่จะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์และอสูรได้มันจะทำให้ได้พลังที่เหนือกว่าเดิมอีกระดับ
ราชาเขตกลางในเวลานี้เป็นจุดสุดยอดของเซียนถ้าหากเพิ่มพลังขึ้นอีก เขาจะไม่ได้มีพลังเท่ากับเทพหรือ?
“ตายซะ!”
ราชาเขตกลางที่แปลงร่างเป็นอสูรสูงร้อยศอกร้องคำราม
จักรพรรดิผีกัดฟันเขาไม่คิดจะยอมแพ้ ร่างกายได้ขยายขึ้นเป็นร้อยเท่าในทันทีสู่ความสูงร้อยศอก
มุกบาดาลเองก็ขยายขนาดขึ้นมุกบาดาลหนาสิบศอกพุ่งใส่ฝ่ามือราชาเขตกลาง
มุกบาดาลแตกสลายพลังฝ่ามือที่เหลือปะทะกับร่างจักรพรรดิผี
จักรพรรดิผีกัดฟันฝ่ามือได้กลายเป็นกรงเล็บขนาดสิบศอกพยายามที่จะต้านทานพลังที่เหลือของราชาเขตกลาง
การปะทะของทั้งสองทำให้จักรพรรดิผีต้องถอยหลายครั้งร่างกายขนาดใหญ่ทำให้ห้องลับใต้ดินพังทลาย คนหลายคนได้เห็นสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ต่อสู้กัน ผู้คนที่กำลังเก็บกวาดซากเมืองต่างตกอกตกใจพวกเขารีบถอยหนีมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง