The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1225 - หวังดี
ต่อมาอาซันก็ได้ถูกเทพโจรสลัดจับมาในภายหลังและอยู่ในโลกเสี้ยววิญญาณมาโดยตลอด
ที่อาต้ากับอาเอ้อไม่พอใจมากก็คือแม้พวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์อันเคร่งเครียดอาซันก็เพียงอยากแต่จะเล่นสนุกกับสตรีโดยไม่ทำอะไรเลย
ลืมๆ ไปเถอะ ต่อให้อาซันหายดี หน้าที่หลักของพวกเราก็คือการดูแลหน้าไม้สังหารเทพ อาซันไม่ได้ช่วยอะไรมากอยู่แล้ว ปล่อยมันไปเถอะ ตราบเท่าที่มันไม่เสียหน้าไม้สังหารเทพไปก็ไม่มีปัญหา
อาต้าถอนหายใจด้วยความเย็นชา
ในห้องลับที่สามสตรีงามสองคนที่สวมชุดอันสวยงามได้ปรากฏตัว พวกนางเหมือนกับเทพเจิ้งอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งสองคุกเข่าต่อหน้าอาซัน อืม…ถ้าพวกเจ้าเป็นเทพเจิ้งจริงๆ มันก็คงจะดีกว่านี้
แม้จะได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของเทพเจิ้งอาซันก็ยังคิดถึงนาง เขาถึงกับตามหาสตรีที่ดูเหมือนกับนางมาโดยเฉพาะ ซึ่งทำให้คนอื่น ๆ ขยะแขยงเขา
ถ้าเจ้าอยากได้นางนักใยไม่หาโอกาสซะเล่า?
หา?อาซันเบิกตากว้าง เขาผลักผู้หญิงที่พูดลงกับพื้นและพูดอย่างเย็นชา
เจ้าเป็นใคร?
หึหึพวกเราก็คือคนที่จะช่วยเจ้ายังไงล่ะ!
ผู้หญิงอีกคนหัวเราะ
อาซันปล่อยจิตสังหารออกมา
เทพคนไหนส่งเจ้ามา?ยากที่จะรู้ความปรารถนาในตัวเทพเจิ้งของข้า พวกเจ้าต้องสืบล่วงหน้ามาก่อน! ข้าจะส่งพวกเจ้าให้เทพโจรสลัด กล้าดียังไงถึงมาใช้ความงามทำให้ข้าหักหลังเทพโจรสลัดและทำงานให้เจ้า? บังอาจนัก!
สตรีทั้งสองดูไม่ร้อนรน
ใยเจ้าเสียงดังนักล่ะ?ดูนี่ก่อนสิ
หยกสื่อสารปรากฏในมือนาง
จากใคร?
อาซันกระพริบตาถาม
เทพหมาป่า!
เขาลังเลไปครู่หนึ่งเทพโจรสลัดเชื่อใจเขามาก ของสำคัญอย่างหน้าไม้สังหารเทพยังถูกส่งให้เขาดูแล
แต่มันก็ชัดเจนว่าเขาต้องอยู่ภายใต้อำนาจของเทพโจรสลัด
หลังจากคิดอยู่นานอาซันกัดฟัน มันไม่สำคัญว่าเขาจะต้องฟังเสียงหัวใจตัวเองหรือไม่ ถ้าเขารู้แผนของอีกฝ่าย เขาจะได้ความดีความชอบกับเทพโจรสลัด
อาซันเปิดหยกสื่อสารและไม่พูดอะไรเมื่อได้ยินเสียงของเทพหมาป่า
อาซันถ้าเจ้าช่วยพวกเรา เราจะสังหารเทพโจรสลัดที่ทรยศได้ และทุกสิ่งทุกอย่างจะกลายเป็นของเจ้า! หากว่าที่เทพอย่างเจ้าได้กลืนกินแหล่งพลังเทพของเขา เจ้าจะกลายเป็นเทพได้เร็วขึ้น โลกเทพโจรสลัดก็จะเป็นของเจ้าด้วย! เจ้าจะกลายเป็นเทพโจรสลัดคนใหม่ในโลกเสี้ยววิญญาณ!
อาซันอยากจะทำแต่เขาก็ยังลังเล
สบายใจได้ข้าเป็นตัวแทนเทพอื่นอีกหกคน ข้าไม่ได้หลอกลวงเจ้า ถ้าเจ้าทำได้ ใยพวกเราจะไม่สนับสนุนเจ้าให้เป็นเทพคนใหม่เล่า?
นี่คือคำสัญญาจากเทพรึ?
อาซันคิดหนักมันล่อตาล่อใจมากเกินไป!
ใครกันจะไม่อยากเป็นเทพ?
เจ้าฆ่าเทพโจรสลัดได้จริงๆ รึ? เขากลายเป็นเทพโลกพันธมิตรบูรพาไปแล้ว มีเทพอีกเก้าคนเป็นกำลังเสริม พวกเจ้าไม่มีทางเทียบได้!
อาซันกล่าว
เราจะใช้เครื่องจักรสังหารแห่งโลกเสี้ยววิญญาณตราบเท่าที่เจ้าช่วยเราขโมยหน้าไม้สังหารเทพได้ เราก็ฆ่าพวกมันได้ไม่ยาก!
เครื่องจักรสังหาร!อาซันตกตะลึง เขาเคยได้ยินจากเทพโจรสลัดว่าโลกเสี้ยววิญญาณมีอาวุธชิ้นหนึ่งที่ทำให้สองพันธมิตรอิจฉา เมื่อใช้แล้วทั้งสองพันธมิตรจะต้องลุกเป็นไฟ
อาซันทำใจหลังจากคิดอยู่นาน
ก็ได้!ข้าสัญญา!
เวลาผ่านไปช้าๆ สิ่งต่าง ๆ เริ่มรับรู้แล้วว่าโลกของเทพโจรดสลัดกับเทพอื่นอีกหกคนห่างไกลกันออกไป
…
มันคือควันที่มิอาจมองเห็น
เทพเจิ้งเรารอไม่ได้อีกแล้ว โลกทั้งหกรวมตัวกันแล้ว พวกมันกำลังจะเริ่มทำสงคราม!
เหล่าเทพมิอาจสงบใจลงได้
เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มแล้วที่พวกเขาสังหารเทพกาลกิณีไป
พวกเขาควรจะได้ลงมือต่อแต่พวกเขากลับถูกสั่งให้อยู่เฉย ๆ!
นั่นทำให้เหล่าเทพไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาถึงกับเริ่มสงสัยความตั้งใจของซือหยู พวกเขากังขาในตัวซือหยูยิ่งขึ้น
แม้แต่เทพเจิ้งเองก็ร้อนใจซือหยูยังคงไม่พูดเรื่องแผนโต้กลับเมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้นเลย นางมิอาจแน่ใจได้ว่าจะไม่มีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น
เทพพ่อค้าเองก็กังวลใจเขาฝืนทนความกลัวในใจและพยายามปลอบเทพอื่น
ทุกท่านอดทนไว้ก่อน
ข้าทนไม่ไหวอีกแล้ว!
เทพอารมณ์ร้อนคนหนึ่งพูดสวน เขาจะหยุดบ่มเพาะพลังเมื่อใดกัน?ท่านรู้ไหมว่าสถานการณ์ในวันนี้อันตรายกับพวกเราในระดับใดแล้ว?
เทพคนนั้นมองรอบๆ และถอนหายใจแรง
ถ้าได้รู้ว่าเทพโจรสลัดซ่อนตัวจากฝ่ายเรามาแล้วครึ่งเดือนเขาจะยังบ่มเพาะพลังอย่างสงบเช่นนั้นได้เรอะ!
เหล่าเทพเงียบ
สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่พวกเขาคาดคิดสถานการณ์เปลี่ยนไปมากแล้ว!
ในครึ่งเดือนแรกเทพหกคนในโลกเสี้ยววิญญาณกำลังเตรียมทำสงคราม ในครึ่งเดือนหลัง กำลังทหารรุดหน้าเข้าใกล้ สงครามพร้อมจะปะทุขึ้นในทุกเมื่อ
ที่ทำให้เทพหลายคนทนไม่ไหวก็คือการไม่ตอบสนองอะไรของซือหยูความคิดของเทพโจรสลัดอาจจะเปลี่ยนไปแล้ว!
เพราะเทพโจรสลัดได้ถูกรับเข้าเป็นพวกเขาโดยยอมใจอ่อนว่าซือหยูจะให้ความปลอดภัยแต่ในตอนนี้เทพโจรสลัดคงจะมีคนติดตามมาหลายคนและไม่ได้มาหาพวกเขาเพียงคนเดียว
แต่ตอนนี้ซือหยูยังไม่เคลื่อนไหวเลยดูเหมือนว่าเขาจะไม่ให้เทพโจรสลัดได้หนีไปด้วยกันด้วยซ้ำ
ซ้ำร้ายเทพอีกหกคนยังเตรียมจู่โจมเสร็จแล้วเทพทั้งหกคนนั้นมุ่งมั่นที่จะเริ่มสงครามกับพวกเขา
เทพโจรสลัดจะกลายเป็นเป้าหมายของเทพเหล่านั้นหากพวกเขาเป็นเทพโจรสลัดก็คงจะคิดดูใหม่ว่าคุ้มหรือไม่ในการเข้าร่วมกับพันธมิตรบูรพา
ผ่านมาแล้วครึ่งเดือนเทพโจรสลัดยังไม่กลับมาหาพวกเขา เห็นได้ชัดว่าเขามีความคิดที่เปลี่ยนไป
หากเกิดสงครามระหว่างสองฝ่ายฝั่งของพันธมิตรบูรพาที่มีคนเยอะกว่ายอมได้เปรียบ เทพโจรสลัดจะยังคงช่วยพวกเขา แต่เทพหมาป่าและเทพอื่นๆ ก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน พวกเขากลัวว่าเทพโจรสลัดจะมีอันตรายที่ซ่อนอยู่และแทงพวกเขาจากข้างหลัง
ความตึงเครียดทั้งหมดเกิดขึ้นก็เพราะซือหยูที่ไม่ทำตามแผนพวกเขาได้เปรียบในทีแรก แต่ซือหยูกำลังทำให้ทุกคนสับสน
ต่อหน้าความโมโหของเทพทุกคนเทพพ่อค้ามิอาจใจเย็นได้ เรื่องนี้ร้ายแรงเกิดไป เขาได้แต่พูด
มาทำกันเถอะเทพลั่ว เจ้าไปที่ท่าเรือ เตรียมเรือรบให้พร้อมรบทุกเมื่อ หากเทพโจรสลัดก่อกบฏ เราจะหนีได้โดยไม่โดนขวางทาง
เทพเจิ้งกับข้าจะบุกเข้าไปดูว่าซือหยูทำอะไรอยู่ส่วนที่เหลืออีกหกคน จงจับตาดูสงครามที่ชายแดนให้ดี
เมื่อเทพพ่อค้าเริ่มลงมือเทพอื่น ๆ จึงสบายใจลงบ้าง เอาล่ะ!มาเริ่มกันเลย!
เราต้องทำตามความคิดตัวเองแล้วหากฟังแต่ซือหยู เราจะเสียทุกสิ่งที่เราได้มา!
เทพพ่อค้าเทพเจิ้ง มิใช่ว่าพวกเรามีอคติกับซือหยู แต่พวกท่านควรคิดเสียใหม่ว่าซือหยูยังสมควรได้รับความเชื่อใจอยู่หรือไม่ ไม่มีเหตุผลเลยที่เขาจะทิ้งทุกสิ่งไว้ข้างหลังและบ่มเพาะพลังในเวลาสำคัญเช่นนี้!
เหล่าเทพระบายความในใจออกมาก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
เทพพ่อค้าและเทพเจิ้งมองหน้ากันพร้อมกับยิ้มด้วยความขมขื่น
เทพเจิ้งที่เทพพวกนั้นพูดก็มีเหตุผล เราพึ่งพาซือหยูมากเกินไป แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเลิก พวกเราได้แต่รอ มันไม่ใช่เรื่องดีเลย
เทพเจิ้งรู้สึกไม่ต่างกันนางถอนหายใจ
หยุดพูดเถอะสงครามใกล้เข้ามาแล้ว ซือหยูจะบ่มเพาะพลังไม่ได้อีกแล้ว เราต้องไปหาเขาเดี๋ยวนี้! เทพทั้งสองเหลือบมองประตูศิลาที่ปิดสนิทการห้ามเขาดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเทพทั้งสอง ทั้งสองผ่านประตูได้ในพริบตา
วิหคเพลิงทมิฬถอนหายใจ
คนธรรมดาอย่างพวกเจ้าจะรู้ความหวังดีของนายท่านได้อย่างไร?
นางไม่หยุดและปล่อยให้เทพทั้งสองผ่านไป
ในห้องเทพพ่อค้าและเทพเจิ้งได้เห็นซือหยูที่พักมาเกินหนึ่งเดือน
เทียบกับอดีตซือหยูในตอนนี้ได้กลายเป็นอสูรเนรมิตรขั้นสูงสุด เขาพร้อมที่จะเป็นเซียนได้ทุกเมื่อ
ที่ผิวกายเขามีพลังวิเศษสีดำปรากฏจางๆ พลังสายโลหิตของเทพกาลกิณีไหลเวียนในร่างกายของเขา มันยังมีพลังอสูรอีกด้วย
ที่น่าตกใจกว่าก็คือได้มีเขางอกออกมาจากศีรษะของซือหยูหนึ่งคู่เขามีลักษณะของอสูร เพียงเหลือบมองครั้งเดียวเทพพ่อค้ากับเทพเจิ้งก็ตกใจ จิตสังหารพวยพุ่งออกมาทันที
อสูร!
โชคดีที่ซือหยูตื่นขึ้นทันภาพลวงบนผิวกายของเขาหายไป
เขามองเทพทั้งสองตรงหน้าด้วยดวงตาสดใสก่อนที่ทั้งสองจะได้พูดอะไร ซือหยูเป็นฝ่ายพูดก่อน
เทพทั้งหกในโลกเสี้ยววิญญาณรวมตัวกันแล้วสินะ?เทพโจรสลัดเองก็แสดงท่าทีกบฏแล้วสินะ?
หา?เทพพ่อค้ากับเทพเจิ้งตกตะลึง
เจ้ารู้ทุกอย่างเรอะ?
ซือหยูบ่มเพาะพลังมาโดยตลอดแม้แต่วิหคเพลิงทมิฬก็ไม่ได้เข้ามายังห้องนี้ เขาจะรู้ได้อย่างไรว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่โลกภายนอก? เขาถึงกับรู้ว่าเทพโจรสลัดกำลังจะหักหลังด้วยรึ?
ทุกเรื่องล้วนคาดเดาได้ไม่มีอะไรให้ตกใจหรอก…
ซือหยูพูดด้วยความใจเย็น
อะไรนะ?เทพเจิ้งถามกลับ
เจ้าจงใจปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้รึ?
ซือหยูหัวเราะโดยไม่พูดอะไรซึ่งก็เป็นการยอมรับนั่นเอง
ซือหยูเจ้าคิดจะทำอะไร? เจ้าไม่อยากจะเสียเทพในโลกเสี้ยววิญญาณไปไม่ใช่รึ?
เทพเจิ้งอยากจะตบซือหยูลงกับพื้นและค้นวิญญาณเขาดูเสียเดี๋ยวนี้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่
โอ้ข้าอยากจะทำอะไรน่ะรึ? ไม่ใช่ว่าท่านรู้อยู่แล้วหรือ?
ซือหยูยิ้ม
เทพพ่อค้าแปลกใจ
เจ้าไม่ได้คิดจะปล่อยให้พวกมันเข้าร่วมกับพันธมิตรบูรพาอยู่แล้ว!แม้แต่กับเทพโจรสลัด…
ซือหยูยิ้มเยาะ
ให้พวกมันรวมกลุ่มกับเรารึ?หา! ขอข้าถามพวกท่าน เทพในโลกเสี้ยววิญญาณ มีผู้ใดบ้างที่มือสะอาดมีคุณธรรม?
เทพพ่อค้ากับเทพเจิ้งตกใจพวกในโลกเสี้ยววิญญาณเลวร้ายเพียงใดน่ะหรือ? มันอธิบายจากจิตใจอันเป็นบาปของทุกสิ่งในโลกของพวกเขา เทพทั้งเก้าคือราชาแห่งบาป
จำนวนคนที่ตายด้วยมือของพวกมันนั้นมิอาจบ่งบอกจำนวนได้ด้วยตัวเลข!
แม้แต่เทพโจรสลัดที่พวกเขาเชื่อใจก็ปล้นธารดารามาโดยตลอดเขาสังหารคนไปมากเท่าใดกัน? มือของเทพโจรสลัดมีโลหิตของตระกูลกว่าครึ่งในพันธมิตรบูรพาอาบอยู่
ต้อนรับมันเข้าสู่พันธมิตรร้อยเทพหมายถึงการอภัยให้บาปพวกมันไม่ใช่รึ?แต่เหล่าคนที่ตายด้วยน้ำมือพวกมันเล่า ตระกูลของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเล่า? พวกเรามีสิทธิ์อะไรไปคิดแทนคนที่เจ็บแค้น? ทั้งพันธมิตรบูรพาจะให้อภัยพวกมันหรือ?
คำตอบก็คือไม่!
อ๊ะ…
เทพพ่อค้ามองซือหยูเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลย ซือหยูเหมือนจะทำทุกสิ่งตามใจตัวเอง แต่เทพพ่อค้าต้องตกใจเมื่อได้ยินเช่นนี้
แท้จริงพวกเขาเองก็สับสนใจในที่ปล่อยให้เทพโลกเสี้ยววิญญาณมาเป็นพวกพวกเขาเป็นศัตรูกันมานาน มันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ
แต่เพื่อที่จะชิงความได้เปรียบพวกเขาเองต้องอดทนตามแผนแรกของซือหยู