The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1289 - สะสางคนทรยศ
ตอนที่ 1289 – สะสางคนทรยศ
องค์หญิงสองงุนงง
พี่ใหญ่น้องหก พวกเจ้าคิดจะทำอะไร? พวกเจ้าบ้าไปแล้วเรอะ? พวกเจ้าทำกับพันธมิตรเราเช่นนี้ได้ยังไง?
องค์หญิงหกส่ายหน้าถอนหายใจ
ท่านพี่พวกเรามีเป้าหมายเดียวกันในโลกอสูร พวกเราเป็นพันธมิตร แต่ถ้าหากมองรอบกายเราตอนนี้…พวกเราอยู่ที่ไหนกันหรือ?
ธารดารา!
ธารดาราและแดนอสูรเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานานมิอาจยอมรับความแตกต่างของกันและกันได้
หลังจากกลับมายังธารดาราซือหยูคืนสภาพร่างเดิม กลายเป็นเทพแห่งพันธมิตรบูรพา
ในขณะเดียวกันพวกรัชทายาทก็ยังคงเป็นอสูรจากแดนอสูร
พวกเขามิอาจผูกมิตรกันได้
สิ่งที่ซือหยูทำมาตลอดเวลาคือสิ่งที่พวกเขามิอาจทำนายได้เลยว่าเขาจะทำอะไรต่อไป
แม้จะเป็นมิตรสิ่งที่เห็นมาตลอดก็ทำให้ทั้งสองสะพรึงกลัวในตัวซือหยู
องค์ชายหนึ่งตอบ
ซือหยูอันตรายเกินไปเราต้องระวังเขา!
ไม่คิดเลยว่าองค์ชายหนึ่งกับองค์หญิงหกจะหักหลังรวดเร็วราวกับพลิกหน้ากระดาษเช่นนี้
แต่ซือหยูกับเทพอสูรเนตรม่วงไม่ได้ตกใจราวกับว่าทั้งสองคาดเดาไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
ฮ่าๆๆๆพวกเจ้าสมควรจะได้เป็นลูกหลานตระกูลราชวงศ์ที่ดีที่สุดแห่งโลกอสูรแล้วล่ะ พวกเจ้าเลือกทำลายทุกความสัมพันธ์เมื่องานสำเร็จ ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าก็คงจะทำแบบเดียวกัน
ซือหยูหัวเราะ
องค์ชายหนึ่งและองค์หญิงหกหรี่ตาอย่างรวดเร็ว
เจ้าคิดไว้แล้วรึ?
แน่นอน!
ข้าไม่เชื่อหรอก!
องค์หญิงหกมองรอบๆ ด้วยความสงสัย นางไม่เชื่อว่าตั้งแต่ก่อนออกจากแดนอสูร ซือหยูจะวิเคราะห์สถานการณ์ได้ถึงขั้นทำนายเรื่องที่พวกนางจะหักหลัง
ในขณะเดียวกันนั้นเองสายลมเยือกเย็นเริ่มพัดที่ด้านหลังองค์ชายหนึ่งและองค์หญิงหก
องค์ชายหนึ่งบาดเจ็บหนักอยู่แล้วเลือดยักษ์ทะเลขมยังคงอยู่ในกาย ดังนั้นเขาจึงมิอาจต้านพลังที่เข้ามาได้และถูกสายลมเย็นซัดใส่ เขากระอักเลือดและเกือบสลบในพริบตา องค์หญิงหกไร้บาดแผลนางหันไปด้วยความไม่พอใจ
เจ้ากล้าทรยศพวกข้าเรอะ!
ผู้ที่ลงมือคือหกเทพที่ควรจะภักดีต่อองค์ชายหนึ่งและองค์หญิงหก!
พวกข้าไม่เคยทรยศพวกเจ้าเพราะข้าไม่เคยภักดีต่อเจ้า พวกเราภักดีต่อเจ้าเมืองชมทะเลมาโดยตลอด!
องค์หญิงหกรู้สึกราวกับเดินลงสู่กับดัก
มันเป็นไปได้ยังไง?
ทำไมพวกเราจึงภักดีต่อเขาน่ะรึ?ง่ายดายนัก เขาพาเราออกจากแดนอสูรได้! ส่วนเจ้า พวกเจ้าก็แค่พวกรัชทายาทที่ยังปกป้องตัวเองไม่ได้ พวกเจ้ามีค่าอันใดให้เป็นพันธมิตรด้วยหรือ?
องค์หญิงหกตัวแข็งทื่อการหักหลังของเหล่าเทพนี้ไม่ต่างกับสายฟ้าในวันฟ้าโปร่ง
ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
นางกัดฟันถามด้วยความแค้น หนึ่งเดือนก่อนก่อกบฏ…
หกเทพยิ้มตอบ
ว่าที่เทพที่เขาส่งมาเกลี้ยกล่อมพวกเรา
พวกเจ้าคล้อยตามง่ายๆ ได้ยังไง? ถ้าพวกเจ้าไม่เลือกก่อกบฏตั้งแต่แรก พวกเจ้าอยู่ในแดนอสูรต่อไปไม่ดีกว่าเรอะ?
องค์หญิงหกถาม
ใบหน้าหกเทพจริงจังขึ้นและถอนหายใจแรง
เจ้ายังแกล้งทำเป็นไม่รู้อีกเรอะ?ศาลอสูรที่เคยอ่อนแอจะมาแข็งแกร่งจนถึงวันนี้ได้ยังไง? พวกเรารู้ดี!
ใบหน้าองค์หญิงหกหม่นหมองยิ่งกว่าเดิมตั้งแต่แรก มีเทพเพียงหกคนในศาลอสูร จนถึงวันนี้ ศาลอสูรมีเทพมากกว่าร้อยคน พวกมันมาจากที่ใดรึ?
แน่นอนว่าพวกมันไม่ได้มาจากความว่างเปล่าแต่เป็นเจ้าเมืองที่แปรพักต์ไปทีละคน การเปลี่ยนแปลงของเมฆาอสูรอธิบายทุกอย่าง
นี่คือความลับที่ใครๆ ก็รู้ เทพในเมืองต่าง ๆ รับรู้มาโดยตลอด
หากเข้าร่วมกับศาลอสูรเมื่อใดอิสระของพวกเราจะถูกยึดเอาไปด้วย สุดท้ายเราจะกลายเป็นสัตว์ประหลาด! พวกเราหกคนต้องการหนีจากแดนอสูรมานานแล้ว แต่ไม่มีทางให้พวกข้าได้ออกไปเลย สุดท้ายวันหนึ่งพวกเราจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดรับใช้ศาลอสูร! ตัวแทนเจ้าเมืองชมทะเลมอบโอกาสให้พวกข้าได้ออกจากแดนอสูร ดังนั้นพวกข้าจึงภักดีต่อเขา!
องค์หญิงหกหมดคำพูด
กลายเป็นว่าตั้งแต่แรกเริ่มเหล่ารัชทายาทเป็นเพียงเบี้ยหมากในแผนการที่ใหญ่กว่าของซือหยู!
พวกเขาคิดว่าเหล่าเจ้าเมืองภักดีต่อรัชทายาทแต่กลายเป็นว่าเหล่าเจ้าเมืองอยู่ฝ่ายเดียวกับซือหยูมาโดยตลอด! แต่พวกเจ้าออกจากแดนอสูรมาแล้วธารดารากว้างใหญ่ เจ้าจะไปที่ใดก็ได้ตามต้องการ เจ้าจะยังรับใช้มันต่อไปเพื่ออะไร?
องค์หญิงหกหันไปถาม
โอ้ฝ่าบาท เจ้าไม่จำเป็นต้องมาคิดแทนเรา พวกเราคิดอ่านได้ชัดเจนกว่าพวกเจ้า! ที่นี่คือธารดารา ดินแดนของทุกสิ่งมีชีวิต หากอสูรปรากฏตัวเมื่อใด ย่อมเกิดการรวมกลุ่มเพื่อจัดการพวกเราอยู่แล้ว เราจะอยู่ในธารดาราได้นานเท่าใดกัน? เจ้าเมืองชมทะเลสัญญากับเราว่าตราบเท่าที่พวกเราอยู่ใต้อำนาจเขาและไม่ทำอันตรายต่อธารดารา เขาจะให้ตำแหน่งเทพกับพวกเราในธารดาราโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกโจมตี
องค์หญิงหกกัดฟันแน่นมองซือหยูอย่างเกรี้ยวกราด
ไอ้บัดซบเจ้าคิดมาหมดแล้ว!
แต่เจ้าคิดรึว่าพวกเจ้าแค่หกคนจะหยุดข้าได้? เจ้าเมืองทั้งหกเริ่มหัวเราะและแสยะยิ้ม
พวกข้าเอาชนะเจ้าในการต่อสู่ตรงๆ ไม่ได้ แต่เจ้าเมืองชมทะเลเตรียมของขวัญไว้ให้พวกเจ้าแล้ว!
ฟึ่บ!
เทพทั้งหกเรียกตะขาบแดงออกมาพร้อมกันพวกมันปล่อยลมหายใจกรดออกมา ถ้าหากไม่ใช่เลือดยักษ์ทะเลขมแล้วจะเป็นสิ่งใดไปได้?
นี่เจ้า!พวกเจ้าเอามันมาจากไหน?
องค์หญิงหกเบิกตากว้างด้วยความกลัว
นางจำได้ลางๆ ว่าองค์ชายเจ็ดตายอย่างทุกข์ทรมานเพราะเลือดยักษ์ทะเลขม
ถึงอย่างนั้นนางก็จดจำได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าเมืองเหล่านี้ไม่ได้นำตะขาบแดงติดตัวมามันควรจะอยู่กับพวกศาลอสูร
เจ้าเมืองชมทะเลแอบสั่งพวกข้าให้ค้นหามันมีเทพอีกสามคนที่อยู่ในแผนเดียวกับเรา แต่พวกมันตายเพราะพวกรัชทายาทหน้าโง่ที่หนีไม่รอด
อะไรนะ!องค์หญิงหกสะพรึงกลัวในอุบายของซือหยู นางรู้สึกว่างเปล่า
นางอ้างว่าตนเฉลียวฉลาดแต่นางเป็นเพียงเบี้ยในมือซือหยู
ฝ่าบาทเอ๋ยไม่ง่ายที่จะหนีออกจากแดนอสูร ข้าขอให้เจ้าจำนนต่อเจ้าเมืองชมทะเลเพื่อรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ ยังดีกว่าตกไปอยู่ในมือยักษ์
นางมองตะขาบแดงและแสยะยิ้มมองซือหยู
เจ้าคิดจะควบคุมรัชทายาทอย่างนี้ตั้งแต่แรกรึ?
ไม่ใช่…
ซือหยูยักไหล่
ข้าก็แค่ป้องกันตัวจากพวกเจ้าล่วงหน้าถ้าหากพวกเจ้าตามส่วนของเจ้า ข้าจะขจัดปราณราชวงศ์ให้แล้วแยกย้ายจากกัน แต่ถ้าพวกเจ้ายังอยากจะเอาศอก แผนสำรองนี้ก็ต้องมีเผื่อเอาไว้!
องค์หญิงหกตกตะลึง
เป็นความจริงรึ?
ข้าไม่จำเป็นต้องโกหกเจ้าอีกแล้ว
องค์หญิงหกยิ้มอย่างขมขื่นองค์ชายหนึ่งและนางคิดว่าตนเองหลักแหลม แต่สุดท้ายก็กลายเป็นคนโง่ที่ถูกหลอก!
นางขัดขืนในใจอยู่นาน
เจ้าคิดจะทำอะไรกับพวกข้า?
เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยพวกเจ้าไปพวกเจ้าสองคนแข็งแกร่งมาก ถ้าข้าไม่ใช้วิชาสูงสุดก็ยากที่จะจัดการกับพวกเจ้า ดังนั้นข้าจะควบคุมพวกเจ้าไว้ในกำมือ
ถ้าหากจะโทษใครก็ต้องโทษทางเลือกที่ทั้งสองเลือก ซือหยูไม่มีทางเลือกนอกจากจับตาดูทั้งสอง
เจ้าจะใช้วิธีอะไรควบคุมพวกข้า?
องค์หญิงหกถาม หกเทพมองหน้ากันและยิ้มเทพคนหนึ่งนำผนึกหกสีออกมา
พวกเราเตรียมไว้ให้เจ้านานแล้ว
ไอ้สารเลวเอ้ย!
องค์หญิงหกโกรธแค้นแม้แต่ผนึกหกเทพยังถูกเตรียมไว้ล่วงหน้า!
ฝ่าบาทเอ๋ยให้ข้าย้ำอีกสักครั้งว่านี่คือผนึกหกเทพ หากพวกเราไม่สลายมันพร้อมกัน ต่อให้เจ้าหาเทพได้ร้อยคน มันก็สลายไปไม่ได้ และถ้าหากไม่ระวัง ผนึกอาจจะทำงาน และเจ้าก็จะตาย
องค์หยิงหกหัวเราะอย่างขมขื่นช่องโหว่สุดท้ายถูกปิดตายลง