The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1290 - พันธมิตรประจิม
ตอนที่ 1290 – พันธมิตรประจิม
แต่ทั้งหกเคยคิดที่จะคลายผนึกหรือ?
ว่ากันว่าองค์หญิงหกมักจะโหดเหี้ยมต่อคนทรยศและจนถึงวันนี้ ผู้ที่ให้ผลประโยชน์แก่หกเทพก็คือซือหยูมิใช่พี่น้องราชวงศ์ ใครกันจะคิดเรื่องคลายผนึกให้นาง?
องค์หญิงหกก้มหน้า
นางกับองค์ชายหนึ่งที่หมดสติถูกวางผนึกหกเทพ
ผนึกอีกแห่งอยู่กับตัวซือหยูเพียงประสงค์เดียวเขาก็สังหารทั้งคู่ได้ทันที
ไม่ว่าทั้งสองจะแข็งแกร่งเพียงใดในตอนนี้ชีวิตทั้งสองก็ตกอยู่ในกำมือซือหยูแล้ว
โดยเฉพาะองค์ชายหนึ่ง!
เขามีพลังสุดยอดทั้งธารดาราแห่งนี้เว้นแต่จักรพรรดิอสูร เทพแห่งความตาย และเทพอสูรหกวิถี ใครกันจะมีพลังเทียบเขาได้?
อย่างน้อยก็ไม่มีใครในสองพันธมิตรที่ต่อกรได้
และพลังขององค์หญิงหกยังเทียบได้กับฑากิณีประกอบกับเจ้าเมืองที่เป็นเทพหกคนนี้ กำลังของซือหยูแข็งแกร่งจนน่าสะพรึงกลัว!
ฮ่าๆๆๆๆ…
เสียงหัวเราะดังเบาๆ เจ้าหมากระโดดออกมาจากมุกวิญญาณเก้าหยก นางยื่นอุ้งเท้าลูบหัวองค์หญิงหก
ยินดีด้วยนะท่านพี่ท่านพี่กำลังจะได้เป็นหมาแล้ว ฮ่าๆๆๆ…ทำไมข้าถึงดีใจกันล่ะ? ฮ่าๆๆๆๆ…
องค์หญิงหกหน้าซีด
มะ…หมารึ?
ใช่แล้วท่านพี่เป็นหมาที่อยากจะอุ่นเตียง!
ตู้ม!
องค์หญิงหกตัวแข็งทื่อราวกับถูกสายฟ้าฟาด ฮ่าๆๆๆๆๆสุดท้ายพี่น้องข้าก็กลายเป็นหมาได้เหมือนกัน ว้าว ฮ่าๆๆๆ…ทำไมข้าหยุดหัวเราะไม่ได้กัน? ฮ่าๆๆๆๆ….
เจ้าหมาหัวเราะจนตัวโยน
แม้ว่าจะเริ่มเจ็บท้องนางก็หยุดหัวเราะไม่ได้
ทุกคนขมวดคิ้วจ้องนาง
องค์หญิงเก้าเป็นบ้าไปแล้ว
แล้วข้าล่ะ?ซือหยู เจ้าคิดจะทำอะไรกับข้า?
องค์หญิงสองพูดเสียงดัง
ซือหยูเหลือบมองนาง
เจ้ารึ?พลังเจ้าอยู่ในระดับทั่วไป เก็บเจ้าไว้ก็ช่วยอะไรข้าไม่ได้มาก เจ้าดูแลตัวเองให้ได้ก็พอ ข้าจะไม่ยุ่งกับเจ้า
เจ้าว่าไงนะ?เจ้าพูดคำดูหมิ่นข้าได้อย่างไม่อายเลยเรอะ?
เช่นนั้นข้าจะพูดให้อ่อนโยนขึ้นเจ้ามันธรรมดา
ฟังดูดีขึ้น…เดี๋ยวก่อนเจ้าหมายความว่ายังไง? ข้าไม่สน เจ้าพาข้าออกมาจากโลกอสูร เจ้าต้องรับผิดชอบข้า!
แม้นางจะตรงไปตรงมานางก็ไม่โง่ นางกำลังคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับลูกสาวจักรพรรดิอสูรที่ปรากฏตัวในธารดารา หากข่าวกระจายออกไป เทพในธารดาราจะทำอะไรกับนางกันหรือ?
แน่นอนว่าเทพทั้งหมดในธารดาราจะหาทางจับตัวนางนำนางมาศึกษาทดลอง นางนั้นก็จะนำนางเดินทางเพื่อจัดงานแสดง
การติดตามซือหยูคือหนทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับนาง
ได้ยินนางเช่นนั้นซือหยูโล่งใจ
ตั้งแต่เข้าสู่โลกอสูรมาจนถึงตอนนี้ซือหยูมักจะกังวลและไม่ได้พักผ่อนเต็มตื่นเลย
พวกเราอยู่ตรงไหนในธารดารากันแน่?
ซือหยูถาม หนึ่งในหกเทพตอบ
ข้ามีแผนที่ธารดาราที่เตรียมมาหลายปีเผื่อว่าจะหลบหนีได้ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์อันใดแล้ว ข้าจะให้มันกับท่าน
ซือหยูรับมันมาดูและยืนยันตำแหน่งทันทีเขาพูดด้วยความทึ่ง
เอ๋?เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
ตามแผนที่เขาอยู่ไกลมากจากพันธมิตรบูรพา แต่เขาห่างจากพันธมิตรประจิมเพียงเดือนเดียว
แดนอสูรใกล้กับพันธมิตรประจิมขนาดนี้เชียวรึ?ข้าไม่คิดมาก่อนเลย
เทพอสูรที่ให้แผนที่กล่าว
พันธมิตรประจิมใกล้กับแดนอสูรและถูกจู่โจมตีมาหลายปีด้วยเหตุนี้จึงมีคนแข็งแกร่งมากมายที่ต่อสู้กับอสูรและมีวิธีที่ดีในการจัดการกับอสูร
เทพในพันธมิตรบูรพาจะต่างออกไปพันธมิตรประจิมนั้นมีความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวเทพทุกคนฟังคำสั่งผู้นำ เทพแต่ละคนจะก่อตั้งหน่วยปราบอสูรขึ้นมา ทุกคนจะฟังคำสั่งผู้นำตลอดเวลาเพื่อรวมตัวต่อสู้กับอสูร
ซือหยูจำได้ว่าเซียนมณีนั้นมาจากตระกูลปราบอสูรลือชื่อ
นางมาจากพันธมิตรประจิมรึ?
โชคร้ายที่ซือหยูไม่พบนางในแดนอสูรถ้าหานางเจอ เขาจะพานางกลับมาได้
องค์หญิงหกมองไปยังที่หนึ่งและเห็นอะไรบางอย่าง
มีอะไรบางอย่างกำลังมา
เทพที่เหลือไม่รู้ตัวจนมันเข้าใกล้
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าองค์หญิงหกแข็งแกร่งกว่าหกเทพหลายขั้น
มันเป็นใครมันแข็งแกร่งแค่ไหน?
ซือหยูถาม
จะต้องเป็นคนพันธมิตรประจิมพวกมันมีหน่วยลาดตระเวนที่ออกมาที่นี่เพื่อสืบแดนอสูร
องค์หญิงหกกล่าว
ส่วนพลังส่วนมากไม่แข็งแกร่งนัก
หน่วยนี้ไม่ได้แข็งแกร่งในด้านพลังที่มีพลังสูงสุดเป็นเซียนขั้นสามเห็นจะได้ มีกลุ่มอสูรกำลังเข้าใกล้ แต่พวกมันก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
องค์หญิงหกมองซือหยู
จะไปช่วยพวกอสูรฆ่าพวกมันให้หมดหรือไม่?
นางยังไม่เปลี่ยนข้างในการยืนอยู่ฝั่งอสูรนางย่อมเลือกข้างอสูรตามสัญชาตญาณ
ไม่ต้องไปดูกันก่อน
หกเทพเคลื่อนไหว
เรือรบขนาดกลางแล่นผ่านโลกอสูรสู่ธารดารา
มีคนแข็งแกร่งที่อายุต่างกันบนเรือ
เรือนำโดยชายแก่แขนหักลำตัวโค้งงอใบหน้าเต็มไปด้วยจิตสังหาร
คนที่เหลือบนเรือเองก็มีใบหน้าดุดัน
ท่ามกลางคนเหล่านั้นมีเด็กสาวอายุราวสิบปีที่ประทินโฉมราวกับผิวเครื่องเคลือบนางดวงตาสดใสราวตุ๊กตาหยด นางดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับคนบนเรือ
หัวหน้าอู๋ข้าคิดว่าเรามาไกลพอแล้ว เข้าใกล้อีกพวกทหารอสูรจะเจอเรา!
เซียนขั้นสองเตือนอย่างระมัดระวัง
ชายแก่แขนหักคือหัวหน้าอู๋
เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากถอยรึ?
หัวหน้าอู๋อารมณ์ไม่ดีนัก
ไอ้หน่วยปราบอสูรบัดซบทิ้งผนึกไว้บนเรือเราถ้าเราไม่เข้าระยะล้านลี้เพื่อสืบข่าว มันจะถูกบันทึกเอาไว้ในผนึก ที่เราพยายามทำมาปีที่แล้วจะสูญเปล่า!
มีคนหน้าดุดันมากมายบนเรือพวกเขาไม่พอใจนัก ไอ้พวกหน่วยปราบอสูรบัดซบเอ้ย!พวกมันไม่อยากเข้าใกล้โลกอสูรแต่ต้องการให้พวกเรามา พวกมันบังคับเราไปตาย!
พวกมันมีผนึกอยู่กับเราอีกเราต้องทำตามที่มันพูด ถ้าไม่ทำ เราก็ต้องตาย!
ในตอนนั้นเองหัวหน้าอู๋หน้าซีด
เงียบซะ!มีบางอย่างอยู่ใกล้ ๆ!
เรือรบเงียบกริบทุกคนหรี่ตามองในความมืดเพื่อมองหาความเคลื่อนไหว
ในตอนนั้นพวกขเาก็ได้เห็นเรือรบที่สร้างจากกระดูกพุ่งเข้ามา
บนเรือกระดูกขาวมีอสูรหลายสิบคนที่เป็นเซียนเช่นเดียวกันที่แข็งแกร่งที่สุดคือว่าที่เทพขั้นต้น!
อ๊ะ!!!!นั่นมัน ว่าที่เทพ!
หัวหน้าอู๋หวาดผวาเขาไม่กล้าที่จะแล่นเรือต่อไป เขากรีดร้อง
หันหางเสือ!ถอย! พวกเขารีบหันทิศเรือหนีออกไปทันที
เหล่าทหารอสูรพบตัวพวกเขาและรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
เทียบกันแล้วเรือกระดูกขาวของเหล่าทหารอสูรนั้นเร็วกว่าและตามทันในเวลาไม่นาน
เรือเล็กสิบลำออกมาจากเรือกระดูกขาวและเข้าล้อมเรือของพันธมิตรประจิม
เฮ้ยพันธมิตรประจิมส่งของขวัญมาให้พวกเราอีกแล้ว! กินมันให้หมด!
ว่าที่เทพฉีกยิ้มอย่างเยือกเย็นมันยืนกอดอกที่หัวเรืออย่างสบายใจเมื่อเห็นลูกเรือของงอีกฝ่ายตื่นตระหนก
คนบนเรือต่างโศกเศร้า
มันจบแล้ว!
เรากลับไปไม่ได้อีกแล้ว!
หัวหน้าอู๋ผ่านประสบการณ์มามากมายในชีวิตเขายังใจเย็นอยู่ได้ แววตาเขาดุร้ายเขาใช้มือขวาที่ยังเหลืออยู่ซัดไปราวกับกรงเล็บอินทรี เขาคว้าตัวลูกเรือคนหนึ่งโยนออกไปนอกเรือ ลูกเรือผู้นั้นตกลงสู่ธารดารา
หัวหน้าทำอะไร…อ๊ากกกก!
ก่อนที่จะได้ขัดขืนเขาก็ถูกล้อมโดยเรือมากมาย เขาถูกกัดกินทันที!
โลหิตที่สาดกระเซ็นทำให้ลูกเรือที่เหลือปลุกสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดออกมา
พวกเขาเห็นความตั้งใจของหัวหน้าอู๋และเริ่มโยนลูกเรือออกจากเรือต้องทำเช่นนี้เพื่อดึงความสนใจเรืออสูรออกไปและหนี!
ไม่ว่าจะพยายามหนีเท่าใดนี่ก็มากสุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้
หัวหน้าอู๋โยนลูกเรืออีกคนอกจากเรือ
เหล่าอสูรบุกเข้าไปตามลูกเรือที่ถูกโยน
ตอนนี้ไม่มีใครกล้ายืนข้างหัวหน้าอู๋อีกแล้ว
หัวหน้าอู๋รีบพุ่งเข้าไปหาลูกเรืออย่างรวดเร็วปานสายฟ้าและคว้าใครก็ตามที่เขาเอื้อมถึง
ลูกเรือหวาดกลัวจนพยายามสุดความสามารถเพื่อที่จะหนี
หัวหน้าอู๋เอื้อมมือต่อไปแต่ก็คว้าได้เพียงความว่างเปล่าเขากระโดดจับตัวลูกเรือที่หนีไม่ทันได้อีกคน
หัวหน้าอู๋เหลือบมองลูกเรือและโยนออกจากเรือโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว
ลูกเรือที่ถูกโยนนั้นเป็นเด็กสาวสิบขวบนางกรีดร้องเสียงแหลม
เด็กสาวคนนั้นคือเด็กที่งดงามราวตุ๊กตานั่นเอง
นางเบิกตากว้างนางทั้งหวาดกลัวและโกรธเกรี้ยว แต่ร่างนางมิอาจควบคุมได้ นางจึงถูกขว้างออกมาจากเรือ
อสูรใต้เรือกรีดร้องราวกับคนบ้าพวกมันอ้าปากที่มีกลิ่นเลือดและหิวกระหาย มันตั้งหน้าตั้งตารอเนื้อนุ่มอมชมพูของเด็กสาว เมื่ออสูรใกล้เข้ามาเด็กสาวกรีดร้องด้วยความกลัวและสลบคาที่
อสูรมากมายพุ่งเข้าใส่นางพวกมันอยากจะกินนางทั้งเป็น
แต่ขณะที่พวกมันจะได้เริ่มงานเลี้ยงพลังเทพไร้ขอบเขตก็แผ่ออกมาจากธารดารา มันเจาะทะลุม่านพลังเรืออสูรกระดูกขาว
ว่าที่เทพบนเรือสีหน้าทรมานแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ก่อนจะกลายเป็นอากาศธาตุเพราะพลังเทพ
ลำเรือจมลงอย่างรวดเร็วเหล่าอสูรบนเรือตกลงสู่ธารดารา
พลังอันน่ากลัวทำลายเรือทุกลำในพริบตา
หัวหน้าอู๋ตกตะลึง
เทพ…เทพอสูร!
ที่ขอบนภาเมฆาทมิฬพุ่งเข้ามา ทุกคนบนเรือเศร้าโศก!
ฟึ่บ! แสงสีม่วงส่องประกายอสูรหล่อเหลาผมสีเงินปรากฏตัว
เขาไม่ได้โจมตีเรือรบอสูรผมสีเงินยื่นมือคว้าตัวเด็กสาวสิบขวบที่สลบ
ใต้ใบหน้าหล่อเหลามีจิตสังหารแผ่ออกมา