The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1295 - ทิฐิไร้ขอบเขต
ตอนที่ 1295 – ทิฐิไร้ขอบเขต
เจ้านั่นเป็นแค่เซียนขั้นสามแล้วมันปล่อยพลังเทพขนาดนั้นออกมาได้ยังไง?
เอ๋?ข้าไม่ได้ทำร่างเจ้าแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหรอกรึ? เจ้ามีสมบัติป้องกันตัวอยู่สินะ? คงเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของปลอม
สีหน้าซือหยูเยือกเย็น
กงซุนชางผงะ
เจ้าเอามันไปได้ข้าจะไม่หยุดเจ้า แต่ถ้าเจ้าบังคับให้ข้าหยุดตอบโต้ เจ้านั่นแหละที่จะตาย!
เจ้าต่างหากที่ตาย!
ซือหยูจ้องกลับเขาขยับไปข้างหน้า
พลังเทพจากห้าธาตุถาโถมเข้าไป
ด้วยการบ่มเพาะพลังมานานแม้แต่เทพก็ต้านพลังได้เพียงสองธาตุ ว่าที่เทพขั้นกลางจะมาเทียบได้อย่างไร? อ๊ากกก…
กงชุนชางตะโกนเสียงดังเขาย่อขาและยกแขนขึ้น
แต่พลังห้าธาตุที่กดทับลงมานั้นมากเกินไปขาของเขาหักจนเสียงกระดูกแตกดังลั่น เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขาถูกพลังห้าธาตุกดทับอยู่กับพื้นและเคลื่อนไหวไม่ได้
ซือหยูเดินไปข้างหน้าเขาพูดเบา ๆ
ตอบข้าใครให้เจ้าทรมานกงซุนหวูซื่อ?
กงซุนชางหวานกลัวเขาเพิ่งจะได้รู้ว่าเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งมาก!
เขายกทั้งสองมือขึ้นแต่มิอาจต้านทานอะไรได้แม้แต่ว่าที่เทพขั้นสูงก็รับพลังนี้ไม่ไหว!
เจ้า…เจ้าเป็นเทพรึ?
ซือหยูลูบคาง
อืมเจ้าจะว่าอย่างนั้นก็ได้ ข้าคือตัวแทนเทพแห่งพันธมิตรบูรพา กงซุนชางหัวใจเกือบหยุดเต้นการได้เป็นตัวแทนเทพหมายความว่าพลังของเขาจะต้องเทียบได้กับเหล่าเทพ
กงซุนชางเหลือบมองกงซุนหวูซื่อด้วยความชิงชัง
นังเด็กนี่รู้จักกับตัวแทนเทพได้ยังไง!
เขาอ้อนวอนขอความเมตตา
ข้าไม่ติดค้างพ่อลูกคู่นี้อีกแล้วข้าจะไม่คิดร้านต่อผู้ใดอีก ข้าสาบาน!
ถ้าหากเขาไม่จัดการเรื่องนี้เองพ่อของเขาก็ยังจัดการแทนได้!
ฮ่าๆ…
ซือหยูหัวเราะ
แม้แต่ตอนที่กำลังจะตายเจ้าก็ยังไม่เปลี่ยน เจ้ายังคิดว่าพวกเขาติดค้างเจ้า!
ซือหยูพูดต่อ
เจ้าจองล้างจองผลาญพ่อลูกจนตระกูลแตกแยกถึงปัจจุบันเจ้าก็ยังทรมานจ้าวผาบั่นภูติจนตาย ส่งกงซุนหวูซื่อให้ไปถึงเผ่าอสูร! นี่ต่างหากคือหนี้ค้างชำระของเจ้า…เจ้าไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยรึ?
ข้า…
กงซุนชางแววตาเฉียบคมเขาแอบเกลียดขังอยู่ในใจ พ่อลูกสมควรตาย แต่ใบหน้าเขาแสดงความสำนึกผิด
ข้าผิดไปแล้ว…
ช่างเถอะนิสัยใจคอยากที่จะเปลี่ยน หากเจ้าหวังจะได้การอภัยด้วยคำพูดไม่กี่คำ มันก็ง่ายเกินไป
แล้วเจ้าต้องการอะไร?
ตาต่อตาฟันต่อฟัน
ซือหยูดีดนิ้วพลังห้าธาตุกดทับลงไปรุนแรงขึ้น
กงซุนชางร่างแหลกสลายเขากรีดร้องราวกับหมูถูกเชือด เหลือเพียงดวงวิญญาณและแหล่งพลังเทพ
ฟึ่บ… ซือหยูพลิกฝ่ามือกรงขังทมิฬถูกเรียกออกมา มันคือคุกเทพอสูร
พลังอสูรส่องประกายดวงวิญญาณกงซุนชางถูกดูดเข้าไป
เมื่อเสียกายหยาบกงซุนชางรู้ว่าซือหยูจะไม่มีทางปล่อยเขา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาตะโกน
ไอ้สารเลว!พ่อข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!
โอ้ไม่ต้องห่วง ข้าจะทำให้พ่อเจ้าได้เจอกับลูกชายในอีกไม่นาน
แสงอสูรสลายดวงวิญญาณถูกจับ เสียงกรีดร้องดังลั่นเลือนหายสู่กรง
เสียงกรีดร้องดับหายในไม่นานพลังเทพที่ไร้เจ้าของลอยออกมา
ซือหยูรับมันและยื่นให้กับจ้าวผาบั่นภูติ
ข้าจะให้ท่านได้เป็นเทพ
ซือหยูโยนพลังให้กับจ้าวผาบั่นภูติ อะไรนะเจ้าให้ข้ารึ? นี่มัน…
จ้าวผาบั่นภูติมือสั่นเขาไม่อยากจะเชื่อว่าซือหยูให้สิ่งล้ำค่าอย่างแหล่งพลังเทพกับเขา
หืม?ถ้าหากท่านเป็นเทพได้ด้วยตัวเอง ท่านก็คงไม่ต้องการมัน
เทพที่ได้เป็นเทพโดยการชิงแหล่งพลังเทพของคนอื่นมาจะมีตำแหน่งเทพที่ต่ำเรียกได้ว่าเป็นเทพเทียมที่อ่อนแอกว่า
จ้าวผาบั่นภูติรีบพูด
ข้าอยากได้!ทำไมข้าจะไม่ต้องการมันเล่า?
การได้เป็นเทพคือความฝันของเซียนทุกคน
แต่ข้าให้มันกับหวูซื่อได้หรือไม่?นางไม่ได้รับสืบทอดโลหิตเทพกงซุน ไม่มีทางที่นางจะกลายเป็นเทพอีกแล้ว
ซือหยูเพียงตอบ
ท่านใช้เองก็แล้วกันหวูซื่อเป็นเซียนเมื่อใด ข้าจะหาอีกพลังให้นาง ซือหยูพูดราวกับว่าการได้แหล่งพลังเทพเป็นเรื่องง่ายดาย
พ่อลูกนึกย้อนกลับไปถึงเมื่อครู่ที่ซือหยูจัดการกงซุนชางอย่างง่ายดายทั้งคู่ตกใจมาก
ในพันธมิตรบูรพาซือหยูเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง พ่อลูกรู้ดีแต่ก็มิอาจจินตนาการได้ว่าเขาจะแข็งแกร่งจนสังหารว่าที่เทพขั้นกลางได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้
ซือหยูจากไปเพียงสองปีพลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
เอ้าไปกันได้แล้ว
ซือหยูก้าวออกมาจากห้องลับใต้ดินเขามองเหล่าคนคุ้มกันที่ไม่กล้าเข้าใกล้
เขามองไปยังผู้ดูแลตำหนักที่ซ่อนตัวอยู่
ฟึ่บ…
แสงห้าธาตุเปล่งประกายซือหยูก้าวพริบตาไปจับไหล่ของนาง
เทพกงซุนอยู่ไหน? ไม่มีร่องรอยของเทพกงซุนในตำหนัก
ผู้ดูแลตำหนักตัวสั่นราวกับคนที่กำลังจะตาย
ขะ…เขากำลังจัดงานชุมนุมพันธมิตรอยู่
ชุมนุมพันธมิตรรึ?ไม่แปลกเลยที่เกิดความวุ่นวายนาดนี้แล้วยังไม่มีเทพคนใดออกมา
ซือหยูผลักนางทิ้งไป
ช่างเถอะข้านับถือพันธมิตรนี้ ข้าจะไม่ไปก่อความวุ่นวายที่นั่น! ไว้เทพกงซุนกลับมาเมื่อไหร่ จงบอกมันว่าข้าเอาตัวลูกชายสุดที่รักของมันมา ถ้าหากอยากได้กลับคืน ให้มันไปหาข้าที่โลกจิวหลี่!
จากนั้นเขาก็จากไปพร้อมกับสองพ่อลูก
ไม่มีใครกล้าไล่ตามทุกคนนิ่งอยู่แนบพื้น
บัดซบ!นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! มันพูดอะไรออกมา? นับถือพันธมิตรงั้นรึ? ไม่ก่อเรื่องในงานชุมนุมงั้นรึ? ข้าจะไปเองข้าดูมามากพอแล้ว! อวดดีนักที่กล้ามาดูหมิ่นตระกูลกงซุน…มันเอาตัวนายน้อยไป ข้าขอให้เทพกงซุนไปเจอกับมัน!
…
ผู้ดูแลตำหนักหน้าเศร้านางมองตำหนักที่ถูกทำลายและใจหาย
ตัวแทนเทพต่ำต้อยกลับทำลายตำหนักกงซุนอย่างราบคาบและยังพาตัวนายน้อยไปอีก
ความอัปยศเช่นนี้หนักหนายิ่งกว่าตอนที่คนในตระกูลหนีไปแต่งงานในอดีต
ในใจของนางคิดแต่เพียงวิธีการเอาสิ่งที่เสียไปกลับคืนมา
ทุกคนหุบปาก!
นางได้ยินเสียงคนคุ้มกันพูดคุยหนาหูขึ้นเรื่อยๆ นางตำหนิ
ส่งคนไปตำหนักพันธมิตรเดี๋ยวนี้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้นายท่านรู้! จากสายตาผู้ดูแลตำหนักเรื่องนี้รุนแรงไม่ต่างกับฟ้าถล่ม
และทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่จะต้องเป็นความลับสุดยอดห้ามเปิดเผยกับใคร!
นางเตือนเสียงแข็ง
แต่ดูจากจำนวนคนพบเห็นแล้วในใจนางมีแต่ความขมขื่น
ความวุ่นวายเกิดขึ้นภายในเมืองพันธมิตร
ตระกูลกงซุนหนึ่งในสิบตระกูลปราบอสูรถูกจู่โจมโดยชายลึกลับ ไม่เพียงตำหนักจะถูกทำลาย แต่นายน้อยยังถูกพาตัวไปอีกด้วย!
ที่ขันกว่าก็คือคนที่พาตัวนายน้อยไปยังบอกให้เทพกงซุนไปเอาคืนที่โลกจิวหลี่
นี่เจ้าได้ข่าวหรือยัง? มีคนสุดยอดในเมืองพันธมิตรอยู่ด้วย!
หา?ตัวแทนเทพจากพันธมิตรบูรพาน่ะรึ? ที่จัดการตำหนักกงซุนด้วยตัวคนเดียวและลักพาตัวนายน้อยไปน่ะนะ? ให้ตายเถอะ! มันไม่ใช่ข่าวใหม่อีกแล้ว! ข้าได้ยินว่าคนพันธมิตรกำลังส่งคนไปที่โลกจิวหลี่เพื่อดูว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง
ทำไมเจ้าถึงคิดว่าตัวแทนเทพจากพันธมิตรบูรพาถึงกล้าขนาดนั้นกัน?ข้ามีชีวิตมาเนิ่นนาน ไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดโจมตีตระกูลปราบอสูรมาก่อน!
มันเรื่องใหญ่อะไรกันเล่า?มันก็แค่ก่อเรื่องได้เพราะเทพกงซุนไม่อยู่เท่านั้น!
เจ้าโง่!อย่างเป็นอย่างนั้นจริง ทำไมถึงต้องเรียกเทพกงซุนไปรับนายน้อยคืนล่ะ? จากคนที่กลับจากโลกจิวหลี่บอก เขากำลังรอให้เทพกงซุนไปหา!
อะไรกัน!พันธมิตรประจิมกำลังจะน่าสนุกขึ้นมาแล้ว พวกเรารีบไปดูกันเถอะ
…
โลกจิวหลี่นั้นเป็นโลกอิสระที่ไม่ไกลจากพันธมิตรประจิมมากนักมันถูกอสูรบุกรุกมาหลายปีแล้ว
เทพจิวหลี่ตายไปแล้วโลกส่วนใหญ่ถูกกลืนกินไป เหลือเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
เทือกเขารกร้างมีศาลาทรุดโทรมหลังหนึ่งอยู่
ซือหยูนั่งรอเทพกงซุนอย่างอดทน
ทันใดนั้นก็มีคนที่แข็งแกร่งมากมายตามกันมาแต่พวกเขาก็หวาดกลัวที่จะเข้าใกล้ระยะพันศอกของภูเขา
เส้นสีแดงหนาาดเป็นวงกลมล้อมรอบระยะพันศอกของภูเขาเอาไว้
ภายในวงกลมนั้นมีร่างไร้วิญญาณของเซียนมากมายกระจัดกระจายไปทั่ว
อะไรกัน?นั่นมันทิวมอ…เขาตายได้ยังไง?
คนที่มาช้าได้เห็นซากศพและรู้สึกไม่สบายใจ
เจ้ายังต้องห้ามอีกเรอะ?มันเข้าไปในวงกลมโดยไม่ฟังคำเตือน มันถูกฆ่าในกระบวนท่าเดียว!
อะไรกัน!ถึงทิวมอจะหยาบคาย มันก็น่าเสียดายที่เซียนระดับนั้นต้องมาตายแบบนี้!
ถ้าเจ้าเสียดายแล้วคนผู้นั้นไม่น่าเสียดายยิ่งกว่ารึ?
เขามองตามสายตาไปและสั่นไปทั้งตัว
ว่าที่เทพขั้นต้น!ยอดฝีมือพเนจรอันดับสามแห่งพันธมิตรประจิม หลางหลีชิง! เขาเก่งวิชาบินหลบหลีก แต่ก็ถูกฆ่ารึ?
หลางหลีชิงคิดว่าวิชาหลบของตัวเองไร้เทียมทานเขาพยายามยั่วให้ตัวแทนเทพแห่งพันธมิตรบูรพาโกรธโดยการแอบเข้ามาและหนีไป แต่ก่อนที่มันจะเข้าไปได้ครึ่งก้าว ตัวแทนเทพก็ก้าวพริบตาไปสังหารและชิงแหล่งพลังเทพไป!
หา!ก้าวพริบตารึ! เขาเป็นแค่เซียนขั้นสาม!
หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปในวงกลมอีกแล้ว
ที่ศาลา…
พ่อลูกตระกูลกงซุนเห็นคนแข็งแกร่งเข้ามารวมตัวกันเรื่อยๆ และเริ่มไม่สบายใจ
มันเริ่มจะเกินความควบคุมแล้ว!
พี่ซือเราปล่อยไปไม่ดีกว่ารึ? ยังไงข้าก็ยังมีชีวิตอยู่ กงซุนชางก็ถูกลงโทษไปแล้ว เราจะท้าทายเทพกงซุนไปทำไมกัน? กลับพันธมิตรบูรพากันเถอะ ข้าไม่คิดว่าเทพกงซุนจะไล่ตามเราไปที่พันธมิตรบูรพาหรอก
ซือหยูพูดเบาๆ
ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อเผชิญหน้ากับเทพกงซุนตรงๆ แต่ข้ามาเพื่อเจรจากับมัน
กงซุนหวูซื่อหัวหมุน
เจรจางั้นรึ?โดยการพังตำหนักและลักพาตัวลูกชายมาน่ะหรือ?
นี่น่ะรึที่เรียกกว่าการเจรจา?
ถ้าเทพกงซุนมาแล้วทำตัวไร้เหตุผลพี่ซือจะจัดการได้รึ?
ซือหยูกล่าว
เจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร?ข้าคือตัวแทนเทพแห่งพันธมิตรบูรพา ทำไมข้าจะต้องกลัวเทพที่อยู่ในระดับเดียวกับข้าด้วยเล่า?
จ้าวผาบั่นภูติคิดกับตัวเองตำแหน่งเทพของทั้งสองอยู่ในระดับเทียบเท่ากันรึ?
ยิ่งรอคอยมากเท่าใดคนจากพันธมิตรประจิมก็ยิ่งมารวมตัวมากขึ้นเท่านั้น
…
ที่ตำหนักพันธมิตรถูกปิดตายผู้นำพันธมิตรและผู้นำตระกูลปราบอสูรสิบอันดับแรกและเทพที่มีอำนาจกำลังหารือกันอย่างดุเดือด