The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1297 - สิบเทพจู่โจม
ตอนที่ 1297 – สิบเทพจู่โจม
ซือหยูเจ้ามั่นใจรึว่าเทพกงซุนจะมาที่นี่?
จ้าวผาบั่นภูติขมวดคิ้วยิ่งคนเข้ามามากเท่าใด เขาก็ยิ่งกระวนกระวาย
มันต้องไม่มาอยู่แล้ว!
ซือหยูตอบ
หา?จ้าวผาบั่นภูติกับกงซุนหวูซื่ออ้าปากค้างด้วยความตกใจ ทำไมเจ้าต้องมารอนานเช่นนี้ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่มาเล่า?
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงเทพกงซุนมันจะไม่มีทางมาที่นี่!
ซือหยูตาเป็นประกายราวกับเห็นว่าเทพกงซุนกำลังทำอะไร
มันจะส่งคนของมันมาจับพวกเรา!
ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้า…
จ้าวผาบั่นภูติสับสนเป็นอย่างยิ่ง ซือหยูมองสองพ่อลูก
ข้าคิดจะกำจัดคนของมันก่อนหลังเทพกงซุนตาย คนของมันอาจจะมาล้างแค้นพวกเรา ข้าช่วยเจ้าไม่ได้ืทุกเมื่อ ข้าจะต้องล้างบางพวกมันให้หมด!
จริงๆ แล้วซือหยูมีอีกเป้าหมาย และเขาไม่อยากจะบอกสองพ่อลูกก่อนที่จะบรรลุมัน
หลังจากสบตากันสองพ่อลูกเห็นพ้องต้องกันว่าซือหยูเสียสติไปแล้ว
เทพคนเดียวฆ่าพวกเขาได้ทุกคนไม่ต้องพูดถึงคนคอยรับใช้เทพกงซุนที่เป็นเทพทั้งสิบคน!
ทั้งสองได้แต่ยิ้มแห้งๆ ซือหยูช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ พวกเขายินดีบุกน้ำลุยไฟไปพร้อมกับซือหยู
…
ที่ตระกูลกงซุน
เทพกงซุนกลับไปยังตำหนักเมื่อได้ข่าวจากผู้ดูแลตำหนัก เทพกงซุนยืนหน้าตำหนักที่กลายเป็นซากเขาแทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้เห็น
ใครกันที่กล้ามาทำลายตำหนักตระกูลปราบอสูร?
ยิ่งไปกว่านั้นกงซุนชางที่เป็นว่าที่เทพขั้นกลางยังถูกลักพาตัวไป!
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!
เทพกงซุนตะโกนด้วยเพลิงแค้นในดวงตา
ข้ารับใช้ที่กลับมาพร้อมกับเขาพูดขึ้นมาทันที
นายท่าน!พวกเราจะทำยังไงกันดี?
เทพทั้งสิบตกตะลึงกับตำหนักที่ถูกทำลาย
มันจะมากไปแล้ว!มันกล้าทำลายตำหนักตระกูลกงซุนได้ยังไง?
ไอ้บ้านั่นบังอาจพังตำหนักและจับตัวลูกข้าไปในตอนที่ข้าไม่อยู่ตอนนี้พวกมันซ่อนตัวในโลกจิวหลี่ พวกเจ้าแยกกันไป แบ่งคนวางอาคมล้างโลกซะ ที่เหลือให้ไปช่วยลูกชางของข้า!
อาคมล้างโลกรึ?
เหล่าเทพตกตะลึง
อาคมล้างโลกคือสิ่งที่ทำได้จากตระกูลปราบอสูรเท่านั้นมันรุนแรงจนทำลายล้างโลกได้
หากมันระเบิดเมื่อใดโลกและทุกสิ่งบนโลกใบนั้นจะถูกทำลายไปพร้อมกัน
มีเพียงเทพที่รอดจากแรงระเบิดได้จะไม่มีใครอื่นเหลือรอด
นายท่านแล้วคนที่เหลือเล่า? ข้าได้ยินว่ามีคนมากมายไปที่โลกนั้น…
ฆ่ามันให้หมด!พวกมันอาจจะเกี่ยวข้องกับไอ้บ้านั่น!
เหล่าเทพสะพรึงกลัวเพราะไม่คิดว่าเทพกงซุนจะอยากสังหารคนที่ไปมุงดูด้วย
แล้วถ้ามันเอาชีวิตลูกท่านมาขู่ล่ะ? เทพคนหนึ่งที่รับหน้าที่ช่วยชีวิตกงซุนชางถาม
เทพกงซุนพูดอย่างเหี้ยมโหด
จะไม่มีการต่อรอง!อย่าไปกลัวคำขู่พวกมัน! เจ้าต้องฆ่าหรือจับตัวพวกมันมาให้ได้! ต่อให้มีผนึกในดวงวิญญาณ ข้าก็บังคับให้พวกมันบอกวิธีคลายผนึกได้ตราบเท่าที่พวกเจ้าเอาวิญญาณมันกลับมาให้ข้า!
ถ้าพวกมันทำร้ายลูกท่านเล่า?
ฮื่ม!พวกมันไม่กล้าหรอก! พวกมันจับตัวลูกข้าไปเพราะอยากจะขู่ข้า! ไม่ต้องกลัว! ลูกข้าจะไม่ถูกมันทำร้าย!
ตามบัญชา
เทพทั้งสิบเดินทางไปยังโลกจิวหลี่ทันที
เทพกงซุนไม่มาด้วยตัวเองอย่างที่คาดไว้
คงเป็นเรื่องน่าอับอายหากต้องไปตามใครบงการ
… คนดูมากมายมาถึงโลกจิวหลี่แล้ว
ในบรรดาคนดูมีทั้งคนธรรมดาและเทพที่ปกปิดตัวตนเอาไว้
หึหึ!ข้าสัมผัสเทพได้สิบคน!
อย่างที่คิดเลย…เทพกงซุนไม่ได้มาเอง!
ถึงข้าจะชอบเจ้านี่เพราะทำให้เทพกงซุนอัปยศข้าก็ไม่อยากจะหาเรื่องเทพกงซุนเพื่อเจ้านี่ ไปกันเถอะ ข้าไม่อยากจะอยู่อีกแล้ว!
…
ในศาลาซือหยูลุกขึ้นยืนมองท้องนภา เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
พวกมันมาถึงหมดแล้ว!ดี! ข้าจะได้ฆ่ามันให้หมด!
ใครมากัน?
จ้าวผาบั่นภูติมีสัมผัสไม่ดีอย่างซือหยูแม้ว่าจะเป็นเซียนขั้นสูงสุดเขาจึงถามด้วยความแปลกใจ ซือหยูตอบด้วยรอยยิ้ม
ก็บอกคนของเทพกงซุนที่ก็เป็นเทพยังไงล่ะ!
พวกมันมากันกี่คน?
จ้าวผาบั่นภูติหัวใจแทบหยุดเต้น
แค่สิบ!
แค่…สิบรึ?
จ้าวผาบั่นภูติเบิกตากว้าง
เจ้าพูดว่า‘แค่’ ได้ยังไง? ทุกคนถูกส่งมาที่นี่แล้ว!
ฟึ่บ!
ในขณะเดียวกันเทพห้าคนที่ร่างปกคลุมไปด้วยแสงเทพปรากฏตัวในโลกจิวหลี่
ค่อนข้างแปลกที่ทั้งห้าไม่ได้ลงไปยังโลกดูเหมือนว่าทั้งห้าจะเตรียมทำบางสิ่งบางอย่างรอบ ๆ โลกใบนี้
เวลานี้มีเทพห้าคนจ้องมองซือหยูอย่างเยือกเย็น ปล่อยกงซุนชางเดี๋ยวนี้!
เทพคนหนึ่งที่รับหน้าที่ช่วยชีวิตกงซุนชางตะโกน
ซือหยูนำมือไพล่หลัง
ถ้าข้าปล่อยมันเจ้าจะฆ่าข้า ถ้าข้าไม่ปล่อย เจ้าก็ฆ่าข้าอยู่ดี มันไม่ได้ต่างกันเลย ทำไมข้าต้องปล่อยเล่า?
ถ้าเจ้าปล่อยข้าจะให้เจ้าตายอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่ปล่อย ข้าจะให้เจ้าได้ตายอย่างทุกข์ทรมาน!
เทพคนนั้นพูดต่อไป
เจ้าทำผิดร้ายแรงดูหมิ่นตระกูลปราบอสูร เจ้าควรยอมรับชะตาที่จะต้องตายในวันนี้ ปล่อยกงซุนชางมาซะตอนที่ยังมีโอกาส!
ซือหยูตอบด้วยความใจเย็น
ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้เจ้าสองทางเลือก! ตอนนี้ข้ายังอารมณ์ดี จะเลือกมารับใช้ข้า หรือ…จะถูกฆ่าตายทุกคน! เลือกมา!
เทพคนนั้นส่ายหน้าและไม่ตอบอะไรเลย บุก!ทำลายกายหยาบของมันแล้วจับดวงวิญญาณมา เอาของล้ำค่าของมันมาให้หมด กงซุนชางจะต้องถูกซ่อนเอาไว้ในโลกใบเล็กที่มันพกไว้!
เทพผู้นำตะโกนและพุ่งลงไปอย่างรวดเร็วเขาปรากฏตัวหน้าซือหยูในเวลาต่อมา
เทพที่เหลือสี่คนเองก็พุ่งไปทางสองพ่อลูกทั้งห้าตั้งใจจะจับตัวซือหยูกับสองพ่อลูกในคราเดียว
แต่เทพทั้งห้าสัมผัสได้ถึงพลังเทพอันยิ่งใหญ่
แสงเทพเปล่งประกายออกมาจากแขนของซือหยูเถาวัลย์ห้าเส้นพุ่งออกมาฟาดเทพทั้งห้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อถูกเถาวัลย์ซัดเทพทั้งห้ากระเด็นกลับอย่างรุนแรงราวกับถูกฟ้าผ่า
นี่เจ้า…
เทพที่พยายามเข้าช่วยกงซุนชางตะโกนและมองเถาวัลย์ทั้งห้าเส้น เทพ!
หึหึ…ข้าไม่ได้เห็นแสงแดดมานานเหลือเกิน!
เสียงอ่อนหวานอันคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับร่างบอบบางของหญิงสาว
สตรีงดงามสง่าปรากฏกาย
นางสวมชุดมรกตยาวที่พริ้วไหวตามแรงลมนางงดงามราวกับนางไม้
นางมองซือหยูด้วยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์
ขอบคุณ!
นางคือเทพไม้ที่หลับใหลมาสองปี
น้ำทะเลขมในกายนางถูกทรายดาราทางช้างเผือกดูดซับไปแล้ว
และขณะที่นางหลับใหลซือหยูยังปลูกนางในดินเพาะบ่มชั้นสูง ซึ่งช่วยเพิ่มพลังให้นางเมื่อตื่นขึ้นมา
ตอนนี้นางแข็งแกร่งยิ่งกว่าเทพพ่อค้ากับเทพเจิ้งไปแล้ว บางทีนางอาจจะแข็งแกร่งพอๆ กับองค์หญิงหกก็ได้!
ด้วยความยินดี!
ซือหยูตอบด้วยรอยยิ้มเขาสัมผัสได้ถึงความแปลกในดวงตานาง
เทพไม้ละสายตาจากเขาและมองสองพ่อลูก
นี่!สหายจากจิวโจว!
จ้าวผาบั่นภูติและกงซุนหวูซื่อตกตะลึง
นี่เจ้า…เทพไม้งั้นรึ?
ตัวตนของนางไม่ใช่ความลับ
หึหึ!เรียกข้าว่าแม่นางซือซะสิ!
แม่นาง…ซือ?
จ้าวผาบั่นภูติมองซือหยูกับเทพไม้ด้วยความสับสน
กงซุนหวูซื่อตัวแข็งทื่อนางมองซือหยูด้วยความเศร้า
หึหึ!เจ้าอิจฉางั้นรึ! ไม่ต้องห่วง! ข้าจะช่วยเจ้าเอง! ข้าจะหย่ากับเขาและไม่เหลืออะไรไว้เลย! ทรัพย์สินทั้งหมดจะเป็นของข้า! ฮ่าๆๆๆๆ…
เทพไม้หัวเราะเสียงดัง
นี่เจ้า!ตื่นได้แล้ว!
ซือหยูไม่แปลกใจกับคำพูดของนาง
มาช่วยข้ากำจัดเทพพวกนี้ก่อน!
เทพไม้มองเทพห้าคนข้างหน้าอย่างละเอียดนางพูดด้วยความตื่นเต้น
หึหึ!พวกเจ้าทุกคนมีแสงเทพ! ข้าเห็นของล้ำค่าที่เปล่งประกายในตัวเจ้าด้วย! เจ้าร่ำรวยกว่าเทพจน ๆ ในพันธมิตรบูรพาซะอีก! ขอโทษทีนะ แต่ข้าคงต้องปล้นพวกเจ้า!
เทพทั้งห้าตัวสั่นเมื่อถูกเทพไม้จ้องมอง
พวกเจ้ากลัวอะไร?พวกเรามีคนมากกว่า เราเอาชนะนางได้ไม่ยาก!
พวกเขาเชื่อด้วยซ้ำว่าสามารถเอาชนะเทพกงซุนได้ถ้าหากมีกันห้าคน เทพไม้ยิ้มตอบ
ห้าต่อหนึ่งใช่ไหม?หึหึ…
แกร๊ก!
เทพไม้กลายเป็นเมฆเขียวท่ามกลางเทพทั้งห้ามันเต็มไปด้วยพลังเทพ
พลังเทพของนางแข็งแกร่งจนทั้งโลกสั่นสะเทือน
กายหยาบเทพคนหนึ่งถูกทำลายดวงวิญญาณถูกเทพไม้จับเอาไว้ก่อนจะหนีไปได้
เทพไม้จู่โจมได้รุนแรงมากนั่นหมายความว่าพลังนางเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
อะไรกัน?นางแข็งแกร่งพอ ๆ กับเจ้าตระกูลปราบอสูร!
เทพผู้นำหวาดกลัวถึงขีดสุดเขาตะโกน
ศัตรูแข็งแกร่งออกมาแล้ว!เราต้องการกำลังเสริม!
ฟึ่บ!ฟึ่บ! ฟึ่บ!
แสงเทพห้าสายส่องประกายเทพเก้าคนยืนอยู่หน้าเทพไม้
เทพทั้งเก้าจ้องมองสตรีสง่างามด้วยความระแวง
พวกเราแปดคนโจมตีนางด้วยกันที่เหลืออีกคนไปจับตัวเจ้านั่น!
เทพผู้นำรู้จุดอ่อนของนางแล้ว
นางพยายามจะปกป้องชายหนุ่มผมสีเงินที่ปล่อยนางออกมา
ฟึ่บ!
เทพคนหนึ่งพุ่งเข้าใส่ซือหยูในพริบตา
เทพไม้ไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย
ระวัง!
ไม่ต้องห่วง!มันฆ่าข้าไม่ได้!
ข้าอยากให้เจ้าตายต่างหาก!ถ้าข้าเป็นม่าย ข้าจะได้สมบัติทั้งหมดของเจ้า!
แล้วเจ้าจะเตือนข้าทำไมกัน?
ข้าบอกเจ้าโง่ที่กำลังจะเจ็บตัวให้ระวังต่างหาก! …
เมื่อเทพคนนั้นมาถึงซือหยูยิ้ม ตำราเล่มสีทองปรากฏในมือ
บันทึกธารดารา!
ซือหยูหยดโลหิตเทพอสูรลงในบันทึกบันทึกเปิดออกมาช้า ๆ
โฮก!!!
สัตว์อสูรระดับเทพพุ่งออกมาจากบันทึกเข้าชนกับเทพที่เข้าประชิดตัวซือหยู
ปั้ง!
เทพกระเด็นไปข้างหลังหล่นลงสู่ธารดาราหลังจากกระเด็นทะลุโลกไป
อะไรนะ?สัตว์อสูรระดับเทพรึ?
เหล่าเทพที่จู่โจมเทพไม้ตกตะลึง
เราสองคนต้องช่วยกันจับเจ้านั่นทั้งเป็น!
เทพผู้นำตะโกนทันที