The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1298 - กลับใจแล้วชายฝั่งจะอยู่ในมือ
ตอนที่ 1298 – กลับใจแล้วชายฝั่งจะอยู่ในมือ
เทพไม้ยิ้ม
เจ้าห่วงตัวเองไปก็แล้วกัน!
นางหมุนตัวชุดสีมรกตปล่อยแสงออกมาหลายจุดบนท้องฟ้าเหนือโลกเหมือนกับดวงดารานับไม่ถ้วน
จุดแสงสีมรกตเหล่านั้นถูกเชื่อมต่อโดยลำแสงสีเดียวกันเกิดเป็นตาข่ายขนาดมหึมาปกคลุมเทพทุกคนที่อยู่ภายใต้
เทพทั้งแปดตกอกตกใจพยายามที่จะทำลายตาข่ายแต่พลังเทพก็มากพอแค่สั่นสะเทือนมันเท่านั้น
หึหึ!ตายอย่างสงบแล้วเอาสมบัติพวกเจ้ามาให้ข้าก็พอแล้ว!
เสียงกรีดร้องของเทพคนหนึ่งดังก้องพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย
อ๊ากก!ทำลายตาข่ายเร็ว!
เทพที่เหลือเจ็ดคนหวาดกลัวเทพไม้ที่แข็งแกร่งในตอนนี้
น่าเสียดายที่แต่ละคนถูกเทพไม้สังหารราวกับใบไม้ร่วงไม่ต่างกับลูกแกะที่อยู่ต่อหน้าหมาป่า
เทพที่กระเด็นออกสู่ธารดาราตะโกนด้วยความโกรธแค้นและรีบบินกลับมาทันที
เจ้าเดรัจฉาน!อยากตายสินะ!
ครืน…
สัตว์อสูรมิอาจต่อกรต่อเทพผู้นั้นร่างสัตว์อสูรถูกทำลายในครึ่งท่อนจากการปะทะตรง ๆ กับเทพ
เพราะอย่างไรมันก็คือสัตว์อสูรที่ถูกเทพตำราบังคับให้อยู่ในบันทึกพลังของมันอ่อนแอลงและเทียบกับเทพทั่วไปไม่ได้
แต่สัตว์อสูรระดับเทพมิใช่การรับมืออย่างเดียวที่ซือหยูมี
ออกมา!
ซือหยูขว้างภูเขาห้าธาตุออกไปทันทีภูเขาขนาดใหญ่หยุดเหนือศีรษะเทพ เมื่อเทพสัมผัสได้ถึงอันตรายเทพคนนั้นก้าวพริบตาหนีในทันที
แต่ก็น่าขนลุกที่ภูเขาห้าธาตุก้าวพริบตาตามไปด้วย
เทพก้าวพริบตาเป็นร้อยครั้งแต่ก็สลัดภูเขาห้าธาตุไม่หยุด
สุดท้ายเทพก็ร้องคำรามเพราะโดนภูเขาห้าธาตุกดทับลงกกับพื้นร่างกายถูกกดทับจนทะลุโลกตกลงสู่ธารดาราอีกครั้ง
ในเวลานี้เขาใช้พลังเทพได้เพียงเล็กน้อย มิอาจผลักภูเขาห้าธาตุออกไปได้
ทุกคนที่ได้เห็นตกตะตึงภูเขาหลากสีที่สามารถปราบเทพได้นั่นมันคืออะไรกัน?
พวกเขาคงจะไม่แปลกใจถ้ารู้ว่าเทพอสูรหกวิถีก็ถูกภูเขาลูกนี้หยุดเอาไว้
แต่เทพอสูรหกวิถีถูกภูเขากดจมพื้นเพียงครึ่งท่อน
เทพคนนี้ถูกกดทับจนจมทะลุโลกไปโผล่ที่ธารดารา! สัตว์อสูรระดับเทพพุ่งไล่ล่าเทพคนนั้นทันที
ไม่นานพวกเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากธารดารา
สัตว์อสูรระดับเทพกลับมาด้วยบาดแผลสาหัสมันคาบดวงวิญญาณเทพกลับมาด้วย
ดีมาก!
ซือหยูโบกมือเรียกดวงวิญญาณเข้าสู่มิติวิญญาณ
เสียงตื่นเต้นดังตามมา
ฮ่าฮ่า!วิญญาณเทพ! ข้ารู้ว่าเจ้ารักข้า! ฮ่าฮ่าฮ่า!
ซือหยูปากบิดเบี้ยวเมื่อได้ยินเสียงของเทพปีศาจเขาเก็บภูเขาห้าธาตุกับบันทึกธารดาราและมองเหล่าคนดูที่งุนงงด้วยความใจเย็น
เขาเคยสังหารเทพมาหลายคนความตายของเทพคนเดียวไม่ได้ทำให้เขาประหลาดใจ เขามองไปที่ตาข่ายเขียว มีเทพที่บาดเจ็บเหลือเพียงหกคนหลังจากถูกเทพไม้จู่โจมอย่างไร้ปรานี
ซือหยูเดินไปหาตาข่ายและมองเหล่าเทพที่บาดเจ็บหนักด้วยความเยือกเย็น
เหล่าเทพสะพรึงกลัวราวกับถูกพยัคฆ์จ้อง
เทพเหล่านี้เห็นกับตาเมื่อซือหยูสังหารเทพคนก่อน
เจ้าอยากจะมาเล่นสนุกตรงนี้แล้วรึ?
เทพไม้กำลังรูดทรัพย์เทพที่เพิ่งฆ่าไปอย่างเมามันนางไม่อยากจะให้ซือหยูมาแบ่งรางวัลของนางด้วย
เทพทั้งหกจมลงสู่ความเศร้าหมอง
เจ้ายังอยากจะเลือกตามที่ข้าบอกอยู่หรือไม่?
ซือหยูถาม
อะไรนะ?เทพที่เหลือหกคนตัวสั่นระริกเมื่อได้ยินคำพูดของซือหยู เทพผู้นำรีบตะโกนราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้าย ได้โปรด…ไว้ชีวิตพวกข้าเถอะนายท่าน!พวกข้า…พวกข้าจะไม่ขวางทางท่านแล้ว! โปรดเมตตาด้วย!
เมื่อครู่ก่อนเทพทั้งสิบมาถึงโลกใบนี้อย่างยิ่งใหญ่ เวลานี้ไม่มีใครเยือกเย็นได้อีกแล้วเมื่อสี่คนถูกสังหารอย่างรวดเร็ว!
พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะถูกลงโทษอย่างสาสมถ้าขัดคำสั่งเทพกงซุน
แต่การลงโทษพวกนั้นย่อมไม่เอาชีวิตพวกเขาไปแต่สองคนตรงหน้าต่างหากที่พร้อมจะสังหารพวกเขาได้ทุกเมื่อ!
ข้าให้โอกาสพวกเจ้าเลือกมาก่อนแต่พวกเจ้าไม่รู้จักฟัง! ไม่มีโอกาสให้พวกเจ้าอีกแล้ว!
ซือหยูพูดด้วยความเย็นชา
ตอนนี้เหลืออีกสองทางอย่างแรกคือยอมจำนนต่อข้า! อย่างที่สองคือให้นางฆ่าพวกเจ้าและเอาสมบัติไปทั้งหมด! เลือกมา!
ยอมจำนนงั้นรึ?เหล่าเทพรู้ว่ามันดีกว่าความตายเพียงนิดเดียวเท่านั้น!
พวกเราจะ…
เทพผู้นำยังคงคิดต่อรอง
ไม่ได้!อย่าคิดแม้แต่จะลอง ถ้าเจ้าไม่เชื่อว่าข้าฆ่าพวกเจ้าได้ทุกคน เจ้าก็เลือกที่จะขัดขืนก็ได้!
นี่ล้อกันเล่นงั้นเรอะ?เจ้าฆ่าเทพไปมากมายเช่นนี้! พวกข้าเชื่อว่าเจ้ามีพลังฆ่าพวกข้า!
เมื่อประสานสายตาเทพทั้งหกหมดคำพูด พวกเขาหมดหวัง
พวกเขาไม่อยากตายที่นี่มิเช่นนั้นตระกูลจะต้องเสื่อมถอยลงหลังจากความตาย
ไม่ได้นะ!ข้ายังขโมยของไม่เสร็จเลย พวกนี้ร่ำรวยนะ เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าจนแค่ไหน…
เทพไม้ปฏิเสธทันควัน
ซือหยูพูดตอบ เจ้ายังอยากบ่มเพาะในดินนั่นอีกไหม?
อยากสิ!
ผนึกดวงวิญญาณพวกมันแล้วหยุดฆ่ามันซะ!
ขอข้าฆ่าอีกคนไม่ได้เหรอ?ขอแค่คนเดียวเถอะนะ! ข้าจนเกินไปแล้ว…
ไม่ได้!
ซือหยูจ้องนางตาเขม็ง
ฮื่ม!เจ้ามันขี้เหนียวชะมัด!
เทพไม้กระทืบเท้าด้วยความโมโหนางวางผนึกในดวงวิญญาณเทพอย่างไม่พอใจนัก
นางหมายมั่นจะสังหารเทพเหล่านี้พวกเขาพยายามสุดความสามารถเพื่อที่จะไม่ทำให้นางโกรธ พวกเขาคลายดวงวิญญาณตั้งแต่ก่อนที่นางจะเดินไปหาและก้มหน้าเพื่อเลี่ยงการสบตา
หลังจากวางผนึกในดวงวิญญาณเทพไม้เดินกลับ นางวางผนึกมรกตทั้งหกใส่มือซือหยู นี่เป็นผนึกพิเศษของเผ่าไม้นอกจากจะหาเทพไม้อีกคนมาแก้ผนึกก็ไม่มีทางคลายมันได้!
เทพไม้กล่าว
เหล่าเทพที่ใช้พลังห้าธาตุได้ดีนั้นมีวิชาผนึกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เทพธาตุไม้ส่วนใหญ่ใช้ผนึกได้อย่างยอดเยี่มเทพไม้เคยช่วยซือหยูผนึกคำสาปจากราชาเขตกลาง ซึ่งแสดงถึงความชำนาญในด้านนี้ได้ดี
เทพไม้ขมวดคิ้วมองอกซือหยู
ถ้าเจ้ามีเวลาเมื่อใดข้าจะจัดการผนึกเจ้าอีกครั้ง ครั้งนั้นข้าแข็งแกร่งไม่มากพอ ผนึกป้องกันคำสาปได้ไม่สมบูรณ์!
ตอนที่เทพไม้ผนึกให้ซือหยูเมื่อก่อนนางยังอ่อนแออยู่เลย
ตอนนี้นางได้พลังเต็มที่คืนมาแล้ว
ซือหยูขมวดคิ้ว
จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าเทพคนไหนคือพ่อของราชาเขตกลาง!ตอนที่ข้ากลับจากแดนอสูร ข้าคิดว่าเทพอสูรคงจะสัมผัสถึงตัวข้าได้แล้ว!
เมื่อเหล่าเทพหกคนที่ถูกซือหยูควบคุมตื่นขึ้นมาพวกเขาก็ได้ยินคำพูดของซือหยู พวกเขาตะโกนด้วยความตกตะลึง
เจ้าคือคนที่หนีมาจากแดนอสูรงั้นรึ?เจ้าคือคนที่ถูกยักษ์โจมตีใช่ไหม?
พันธมิตรประจิมตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
ซือหยูแปลกใจเล็กๆ
หืม?ทำไมรึ?
เทพทั้งหกตกตะลึง
เหล่าเทพรวมถึงเจ้าพันธมิตรเชื่อว่าผู้ที่หนีออกมาจากแดนอสูรจะเป็นอสูร
เพราะไม่มีสิ่งอื่นใดที่หนีออกมาจากแดนอสูรได้!
ข้าไม่คิดว่าจะเป็นท่าน…นายท่าน! เหล่าเทพเปลี่ยนวิธีเรียกซือหยูทันที
จากนั้นพวกเขาก็เล่ารายระเอียดการชุมนุมให้ซือหยูฟัง
ไม่คิดเลยว่าพันธมิตรประจิมจะตามหาตัวข้าอยู่!พวกมันพยายามหาข่าวเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแดนอสูรสินะ?
ซือหยูแปลกใจ
เกิดการเปลี่ยนแปลงในแดนอสูรขึ้นจริงเอาล่ะ! ข้าจะไปหาเทพจรัสแสงที่รับผิดชอบเรื่องนี้เมื่อมีเวลา!
ให้พวกเราเชิญเทพจรัสแสงมาดีหรือไม่?หากเทพจรัสแสงพบท่าน ความดีความชอบจะตกอยู่กับเขา ข้าเชื่อว่าเขายินดีมาด้วยตัวเอง!
ไม่จำเป็นอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใคร ข้าจะจัดการเองหลังจากกำจัดเทพกงซุน!
เหล่าเทพทั้งหกอับอาย
พวกเขาถูกส่งมาจับตัวซือหยูพวกเขาไม่คิดว่าดวงวิญญาณของตัวเองจะอยู่ในกำมือของซือหยู
บอกเทพกงซุนให้มาหาข้าที่นี่!
ซือหยูพูดอย่างเย็นชา
ข้ารับใช้เทพกงซุนย่อมมีวิธีติดต่อเทพกงซุนอยู่แล้ว
ให้ข้าทำเอง!
เทพที่รับหน้าที่ช่วยกงซุนชางคือเทพที่เทพกงซุนเชื่อใจมากที่สุดเขาคือเทพอวี่จากตระกูลอวี่
เขาเรียกลูกแก้วสื่อสารที่ส่งภาพและเสียงได้ออกมา
ลูกแก้วเปล่งแสงเมื่อเขาปล่อยพลังเทพลงไปจากนั้นก็เกิดภาพพร้อมกับเสียงตามมา
เทพกงซุนยืนกอดอกอยู่หน้าซากตำหนัก
เจ้าทำภารกิจเสร็จหรือยัง?ได้ดวงวิญญาณมันกลับมาหรือไม่?
เทพอวี่หมุนลูกแก้วไปทางซือหยู
เทพกงซุนคนที่เจ้ากำลังตามหาคือเขาผู้นี้!
เทพกงซุนขมวดคิ้วเมื่อเห็นภาพซือหยูผ่านลูกแก้ว
เจ้ารออะไรอยู่?ทำลายกายหยาบแล้วเอาดวงวิญญาณมันกลับมา!
แล้วเจ้าจะติดต่อข้ามาทำไม?
เทพกงซุนตะโกนด้วยความโมโหเพราะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
เทพอวี่รู้ว่านี่เป็นเวลาที่เขาต้องเลือกข้างแล้ว
เทพอวี่หายใจเข้าลึกพร้อมตะโกน
เทพกงซุน!ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะคิดทำลายโลกจิวหลี่และสังหารทุกคนที่นี่! ทุกคนที่เหลือกับข้ามีจิตสำนึก พวกเราตัดสินใจทิ้งความมืดมิดเข้าหาแสงสว่าง จากนี้ไป พวกข้าขอรับใช้…นายท่านผู้นี้!
ลูกแก้วหมุนไปสะท้อนภาพเทพที่เหลือ
ทุกคนตะโกน เทพกงซุนพวกข้าจะไม่ติดตามเจ้าอีกแล้ว!
เทพกงซุนยืนนิ่งไร้การเคลื่อนไหวราวกับถูกแช่แข็ง
หรือว่าพวกเจ้า…หักหลังข้างั้นรึ?
เขาไม่คิดว่าคนที่ตนเองเชื่อใจจะหักหลังได้เขาตัวแข็งราวกับหิน
เทพอวี่ถอนหายใจ
เทพกงซุนหากเจ้ายังตระหนักความผิดพลาดไม่ได้ เจ้าก็จะได้รับแต่เพียงความเจ็บปวดไม่รู้สิ้น จงขออภัยต่อนายท่านเพื่อกลับเนื้อกลับตัวเจ้าเสีย!
คำพูดของเทพอวี่ทำให้เทพกงซุนโกรธแค้นถึงขีดสุดเขาแทบจะกระอักเลือดออกมาเพราะความแค้น
หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว!มันทำลายตำหนักและชิงตัวลูกชายข้าไป เจ้ากลับคิดให้ข้าขอโทษมันเพื่อแก้ตัวจากความผิดเรอะ! ล้อข้าเล่นงั้นเรอะ? มันจะมากเกินไปแล้ว! โทสะกระชากเทพกงซุนจนสั่นไปทั้งตัว
เทพอวี่ตอบอย่างใจเย็น
เทพกงซุนทะเลความขมขื่นไร้ฝั่งให้ขึ้น กลับใจซะ แล้วชายฝั่งจะอยู่ในมือเจ้า!
ใช่แล้ว!มาขอโทษที่นี่ซะ!
เทพกงซุนเราเคยทำงานร่วมกัน ข้าคิดว่าเจ้าจะกลับใจมาเป็นคนดีได้!
…
อั่ก!
เทพกงซุนแค้นจนกระอักเลือดเขาสาปแช่ง
ไอ้พวกบัดซบ!ให้ข้าไปขอโทษคนที่พังตำหนักแล้วลักพาตัวลูกข้าไปได้ยังไง? พวกเจ้าจะมากเกินไปแล้ว!
ก็ได้!ข้าจะไปหามันด้วยตัวเอง!
ปั้ง!
เทพกงซุนทำลายลูกแก้วสื่อสารด้วยความโกรธ เทพอวี่หันไปหาซือหยูอย่างกระวนกระวาย
ซือหยูยิ้มบางๆ
ทำดีมาก!ข้าจะรอให้มันมา! คนที่ข้ากำลังรอจะมาถึงในอีกไม่นาน!
อะไรนะ?เจ้ารอใครอยู่?
เจ้าไม่ได้รอให้เทพกงซุนมาหรอกรึ?