The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1310 - จองจำ
ตอนที่ 1310 – จองจำ
ใกล้จะตายอยู่แล้วยังกล้าอวดดีอยู่อีกเรอะ!
เทพกงซุนลุกขึ้นตะโกนเสียงแข็ง
พวกเราจัดการมันด้วยกันฆ่าทรราชย์นี่ซะ! ล้างแค้นให้เทพฉีเหมิน!
ฆ่ามัน!
เทพบางคนเห็นด้วย
จู่ๆ เทพมากมายก็ปล่อยจิตสังหารออกมา ใบหน้ามีแต่ความโกรธเกรี้ยว
ยกเว้นเพียงหนึ่งคนที่กัดฟันยืนขวางหน้าทุกคน
ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้!
เป็นเทพหลินหลางนั่นเองหลังจากลังเล เขายืนขวางซือหยูไม่ต่างกับเกราะมนุษย์
ใจเย็นลงก่อนข้าคิดว่าจะต้องมีเรื่องเข้าใจผิด! เทพหลินหลางพูดเสียงดัง
เจ้าไม่สังเกตรึ?ตอนกงซุนหยากำลังฆ่า เทพสีเงินเคยทำร้ายผู้ใดหรือไม่? ไม่เลย! กงซุนหยากล่าวอ้างเพียงข้างเดียวเท่านั้น!
ทำไมเจ้าไม่คิดว่าถ้าเทพสีเงินอยากจะชิงตำแหน่งเจ้าพันธมิตรโดยการทำเรื่องทั้งหมดนี้ทำไมเทพสีเงินถึงไม่ใช้เทพไม้กัน?
ถ้าหากเทพไม้ลงมือตอนที่พวกเราประมาทเมื่อครู่ จะมีพวกเราสักกี่คนที่ยังยืนอยู่ได้?
คำพูดของเทพหลินหลางตรงประเด็นพอดิบพอดี
แน่นอนว่าถ้าหากซือหยูคิดร้ายเขาคงจะส่งเทพไม้มาลงมือแล้ว ใยจะต้องนำตัวเองมาถูกปิดล้อมเล่า?
เทพที่มีเหตุผลใจเย็นลงก่อนจะหยุดคิด
ในขณะเดียวกันเทพที่ใจร้อนก็หยุดลงด้วยความลังเลเพราะความกลัวในพลังของเทพหลินหลาง อย่าไปกลัวเข้าไปพร้อมกันเลย!
เทพกงซุนยุเขาพยายามทำทุกอย่างจนถึงขั้นนี้เพราะเมื่อซือหยูตาย เขาจะได้ประโยชน์ถึงสองประการ
ใครก็ตามที่กล้าเข้ามาถือว่าเป็นศัตรูตระกูลหลินหลางหากเทพสีเงินบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อย ตระกูลหลินหลางจะจดจำหนี้แค้นนี้ไว้จนวันตาย!
เทพหลินหลางจ้องเทพกงซุนยิ่งคิดเท่าใดก็ยิ่งเห็นว่าเทพกงซุนน่าสงสัย
เขาไม่เชื่อว่าซือหยูจะเป็นคนอย่างที่ทุกคนคิดมาตั้งแต่แรกและเรื่องครั้งนี้ยังน่าสงสัยโดยแท้จริง เขาจึงลุกขึ้นมาปกป้องซือหยู
เทพกงซุนโกรธแค้นความสำเร็จกำลังเข้าใกล้ แต่ตระกูลหลินหลางกลับเข้ามาขวางซะได้
เขาตะโกนด้วยความแค้น
เทพหลินหลางหรือว่าเจ้ามีส่วนร่วมแผนการครั้งนี้ด้วย? เทพหลินหลางถอนหายใจแรง
น่าขัน!ถ้าข้ามีส่วน เจ้าจะยังยืนอยู่ได้เรอะ? ด้วยความบาดหมางที่เรามี ข้าคงจะอภัยให้ตัวเองไม่ได้ถ้าไม่ใช้โอกาสนี้ฆ่าเจ้า
มันยิ่งน่าสงสัยขึ้นไปอีกคนอื่น ๆ เองก็ได้ยินคำพูดของเทพทั้งสอง มิใช่เทพกงซุนหรอกหรือที่ทำตัวประหลาดไป?
เมื่อทุกคนกังขาเทพกงซุนก็ยิ่งร้อนรน ถ้าหากเขาไม่รีบฆ่าซือหยู เมื่อเหล่าเทพไตร่สวนเมื่อใด คำถามก็จะยิ่งมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ
ความจริงอยู่ต่อหน้าต่อตาเจ้าถ้าเทพหลินหลางคิดปิดบังฆาตกรที่ฆ่าฉีเหมินเจี้ยน ข้าก็เลือกฝั่งคุณธรรม ต่อให้ต้องฆ่าเทพหลินหลางก็ตาม!
เทพกงซุนตะโกน
เขาพูดต่อ
เทพสีเงินคิดจะก่อความวิปโยคในพันธมิตรทั้งยังฆ่าคนมีค่าไป ทุกคนต้องเชื่อข้า กำจัดมันซะ! เทพหลินหลางถอนหายใจแรง
ใครกล้าก็ลองดู!
สองฝ่ายกำลังตึงเครียดเทพหลายคนครุ่นคิดอยู่สักครู่ จากนั้นจึงเลือกที่จะเป็นผู้ชม
สุดท้ายก็มีตระกูลที่เลือกช่วยเทพกงซุนเพียงสามตระกูลซึ่งเป็นตระกูลที่สนับสนุนเจ้าพันธมิตร
เทพหลินหลางจ้องเทพเหล่านั้นและเริ่มหัวเราะเพราะรู้ความจริงแล้ว
เหล่าเทพเองก็ขนลุกเพราะสัมผัสได้ว่าความจริงนั้นไม่ใช่ดั่งตาเห็น
คนที่เลือกต่อสู้เอาชีวิตซือหยูล้วนเป็นคนของเจ้าพันธมิตร
และตระกูลฉีเหมินที่ควรจะโกรธแค้นที่สุดกลับนิ่งไม่เคลื่อนไหว
ความแปลกนี้ยิ่งทำให้เหล่าเทพกังขา
เจ้าพันธมิตรลั่วตกตะลึงในใจถ้าหากเหล่าเทพสงสัยต่อไป สุดท้ายคนที่ต้องสงสัยจะตกเป็นเขาเอง เทพหลินหลาง!เจ้าพันธมิตรลั่วเกลียดชังอยู่ภายใน ถ้าหากเทพหลินหลางไม่เข้ามาขวาง ซือหยูคงจะกลายเป็นร่างไร้วิญญาณไปแล้ว
เจ้าพันธมิตรลั่วลุกขึ้น
พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!เทพหลินหลางพูดถูก เหตุครั้งนี้มีแต่เรื่องน่าสงสัย อย่าผลีผลามฆ่าผู้บริสุทธิ์
เทพกงซุนไม่พอใจอย่างมากนี่เป็นโอกาสหายากที่จะฆ่าซือหยู
แต่เขาก็เข้าใจดีถ้าหากเขาดึงดันที่จะฆ่า เป้าหมายของพวกเขาจะแสดงออกอย่างชัดเจน ต่อให้ฆ่าซือหยูได้ เทพอีกหลายคนย่อมต้องเบนความสงสัยมายังพวกเขา
ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะปล่อยเรื่องครั้งนี้ไปและถอยไปยังฝั่งของเจ้าพันธมิตรอีกครั้ง
ซือหยูแอบส่ายหน้าเทพหลินหลางมีจิตใจดี แต่เขาทำโอกาสหลุดลอยไป
ถ้าหากเทพหลินหลางไม่ออกมาหยุดเทพที่จะมาเอาชีวิตซือหยูคงจะตายไปหมดแล้ว
ถ้าเขาปลดปล่อยเทพอสูรที่ซ่อนเอาไว้ออกมาศัตรูของเขาจะถูกฆ่าตายจนหมด
แม้จะเป็นเรื่องยากในการอธิบายว่าซือหยูได้เทพอสูรหลายคนมาจากที่ใดและเขาจะตกเป็นเป้ามันก็ยังคุ้ม
เทพหลินหลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เจ้าพันธมิตรรู้แล้วสินะ
ความตายของฉีเหมินเจี้ยนคือความสูญเสียครั้งใหญ่ของพันธมิตรประจิมเรื่องครั้งนี้สำคัญอย่างใหญ่หลวง ข้าสาบานว่าจะไตร่สวนให้เรียบร้อย!
เจ้าพันธมิตรลั่วพูดด้วยความเศร้าหมอง
เขามองซือหยู
แม้จะยังไม่มั่นใจซือหยูก็เป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในเหตุนี้ เจ้าต้องถูกจองจำจนกว่าความจริงจะปรากฏชัด เจ้าปฏิเสธหรือไม่? ซือหยูรู้สึกขบขันเมื่อมองใบหน้าจริงจังราวกับผู้เป็นฝ่ายถูกต้องของเจ้าพันธมิตรลั่วถ้าหากเขาไม่รู้อะไรเลย เขาคงจะคิดว่าเจ้าพันธมิตรลั่วนั้นเป็นคนเอาจริงเอาจังที่ทุ่มเทกับพันธมิตรไปแล้ว
ข้าไม่ปฏิเสธ…
ซือหยูหัวเราะเบาๆ
แต่เจ้าคิดจะจองจำข้าที่ใด?
นี่คือคำถามที่สำคัญมาก
ตำหนักหลินหลางดีหรือไม่?ข้าเชื่อว่าทุกคนเชื่อใจเรา
เทพหลินหลางอาสาเป็นคนแรก
เทพกงซุนพูดขึ้นมาบ้าง
ข้าไม่ยอมรับ!เจ้าถือหางเทพสีเงินมากนัก ใครจะไปรู้ว่าเจ้าจะแอบปล่อยมันไป?
เทพหลินหลางถามกลับ
เจ้าจะบอกว่าจองจำเทพสีเงินไว้ในตำหนักเจ้าจะดีกว่าสินะเทพกงซุน? อย่าลืมว่าเจ้าสองคนมีความขัดแย้งเรื่องความตายของลูกชายเจ้า!
ถ้าหากเจ้าแอบลงโทษและสังหารเทพสีเงินด้วยตัวเองเล่า?
ไม่เพียงแต่จะไม่เหมาะในการให้ตระกูลกงซุนจองจำซือหยูแต่เรื่องนี้เองก็ไม่เหมาะกับเทพอื่นเช่นกัน
นั่นก็เพราะว่าไม่มีเทพตระกูลใดที่น่าเชื่อถืออย่างแท้จริง
มีความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างสิบตระกูลและคงจะไม่เหมาะในการส่งผู้ต้องหาคนสำคัญอย่างซือหยูให้กับตระกูลใด
พอได้แล้ว!
เจ้าพันธมิตรลั่วตะโกน
ข้าจะจองจำเทพสีเงินด้วยตัวเองพวกเจ้าว่าอย่างไร?
เหล่าเทพเงียบลงถ้าหากเป็นเจ้าพันธมิตรก็คงจะไม่เป็นไร
จากความวุ่นวายเมื่อครู่เจ้าพันธมิตรคือผู้ที่เป็นเหยื่อ ไม่มีเหตุผลที่เขาจะเมตตาซือหยู
เทพหลินหลางลังเลเล็กน้อย
แล้วจะจองจำที่ใด?คงไม่ใช่ตำหนักเจ้าพันธมิตรใช่ไหม?
แน่นอนว่าไม่เพื่อความยุติธรรม ข้าจะจองจำในที่ที่ทุกคนจับตามองได้
ที่ใดกัน?
โลกจิวหลี่!ตราบเท่าที่ช่วยกันผนึกเขาเอาไว้ในโลกจิวหลี่ เขาก็จะออกมาไม่ได้ พวกเจ้าว่าอย่างไร?
เทพหลินหลางครุ่นคิดเขาคิดว่ามันเป็นวิธีอันเหมาะสมที่สุดแล้ว
ให้พวกข้าจัดการเอง!
ฟึ่บ!ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ท้องนภาเปล่งแสงเทพซือหยูถูกขับออกไปยังโลกจิวหลี่ภายใต้สายตาเหล่าเทพ เจ้าพันธมิตรลั่วและเจ้าตระกูลทั้งเก้าผนึกโลกจิวหลี่ไว้ด้วยกัน นอกจากคนที่สร้างผนึกจะร่วมกันเปิดมันหรือมีกำลังที่แข็งแกร่งกว่าช่วยผนึกจะไม่มีทางเปิดออก
เทพหลินหลางมองซือหยูที่ถูกจองจำ
สบายใจเถอะถ้าเจ้าไม่ผิดจริง เราจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเจ้าให้จงได้!
ซือหยูยิ้มอย่างสงบ
ขอบคุณมาก
เจ้าพันธมิตรลั่วแอบจ้องซือหยู
ไปได้แล้วไปสืบเรื่องเดี๋ยวนี้!
เหล่าเทพสลายตัวทิ้งซือหยูให้อยู่เพียงลำพังในโลกจิวหลี่
ฮ่าๆๆๆข้ากลับมาที่ศาลานี้อีกแล้ว
ซือหยูก้าวพริบตาไปยังศาลาใบหน้ายังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน
ฟึ่บ!
แสงสว่างวาบองค์หญิงและองค์ชายทั้งสามและเทพอสูรเจ้าเมืองทั้งหกปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน
พวกเจ้ามั่นใจเพียงใดว่าจะทำลายผนึกนี้ได้?
องค์ชายหนึ่งเงยหน้ามอง
พวกเราทุกคนคนละหนึ่งกระบี่ก็มากพอแล้ว
หรือก็คือพลังขององค์ชายหนึ่งคนเดียวก็สามารถต้านทานพลังของเจ้าพันธมิตรลั่วและเก้าตระกูลปราบอสูรได้
แม้องค์ชายหนึ่งจะมิอาจต่อสู้กัพันธมิตรประจิมที่ใช้พลังเต็มที่ได้อย่างน้อยพลังสุดยอดขององค์ชายหนึ่งก็เป็นที่ชัดเจน
เจ้าจะหนีจากผนึกไปรึ?
องค์หญิงหกใบหน้าเจ้าเล่ห์
ข้าว่าถ้าเจ้าหนีมันก็จะเป็นไปตามที่เจ้าพันธมิตรลั่วต้องการ
ซือหยูหัวเราะ
ข้าไม่ทำลายผนึกอยู่แล้วเพราะจะมีคนอื่นทำมันให้ข้า
ใครกัน?
เจ้าพันธมิตรลั่ว!มันจะช่วยข้าให้ ‘หนีเพราะกลัวว่าจะถูกลงโทษ’
ซือหยูยิ้มอย่างเยือกเย็น
องค์หญิงหกเชื่อเขาเต็มที่โดยเฉพาะเมื่อซือหยูพยากรณ์อนาคต
เจ้าจะสวนกลับยังไงล่ะ?
ตอนนี้เจ้าถูกจองจำยากที่จะเคลื่อนไหวต่อให้มีอุบายมากเพียงใด ฆ่าเจ้าพันธมิตรลั่วไม่ใช่เรื่องยาก แต่ความสงสัยในตัวเจ้านั้นยากจะลบล้าง
หึหึเจ้าลืมไปแล้วรึว่าข้าเตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้แล้ว?
หรือว่าจะเป็นเทพไม้?
องค์หญิงหกดวงตาสดใส
ซือหยูพยักหน้าช้าๆ
ใช่ครั้งนี้ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากตัดสินใจครั้งใหญ่
องค์หญิงหกกำลังคาดหวัง
หึหึน่าสนุกดีนี่!
ซือหยูมักจะไม่พูดเกินควรหากเขาเรียกว่าตัดสินใจครั้งใหญ่ มันย่อมไม่ใช่เรื่องเล็ก
พวกเจ้ากลับไปได้แล้วผนึกจะถูกพังโดยใครก็ได้ในอีกไม่นาน
ซือหยูโบกมือเทพอสูรทั้งหมดหายตัวไป เหลือเพียงเสี้ยวพลังอสูร
แกร๊ก!
เสียงสายฟ้าลั่นในที่แห่งหนึ่งของโลก
ตู้ม!
ไม่นานหลังจากนั้นเสียงฟ้าถล่มอันรุนแรงจากพลังทำลายล้างก็ได้ดังจากนอกผนึก
พลังทำลายล้างนี้ล้างบางโลกนี้ได้ทั้งใบ
ผนึกภายนอกล่มสลายภายใต้แรงระเบิดอย่างต่อเนื่องนี้! สตรีวัยกลางคนรีบพูดที่ทางเข้า
เทพสีเงินรีบหนีเร็ว เทพพวกนั้นตัดสินใจประหารท่านหลังจากหารือ ท่านเป็นผู้มีพระคุณของข้า ข้าจึงเสี่ยงมาช่วยท่าน
ซือหยูยิ้มเยาะในศาลา
เจ้าพันธมิตรคิดจริงๆ ว่าเขาหลอกได้ทุกคนโดยที่ไม่มีใครรู้
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังควบคุมลูกสาวตัวเองให้มาหลอกซือหยู!
ซือหยูลุกขึ้นเขาทำใบหน้าดีใจ
จริงหรือ?ดีจริง ๆ ได้โปรดพาข้าไปด้วย
ลั่วเฟยบินลงมาทันทีนางจับไหล่ซือหยูและพยายามบินออกจากโลกจิวหลี่
แต่ลั่วเฟยก็รู้สึกว่านางไม่ได้จับไหล่ในมือเลยนางรู้สึกว่ากำลังจับโลกทั้งใบเอาไว้ ซือหยูไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย