The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 1311 - ความจริงปรากฏ
ตอนที่ 1311 – ความจริงปรากฏ
เจ้า…
ลั่วเฟยหันไปเห็นซือหยูที่ถูกปกคลุมด้วยวงแสงธรณีพลังของเขากำลังเชื่อมต่อโลกจิวหลี่ที่แตกสลายเข้าด้วยกัน
เจ้าร้อนรนทำไมกัน?มาพูดถึงวิธีที่เจ้าควบคุมกงซุนหยาก่อนไหม?
ซือหยูยิ้มบางๆ
ลั่วเฟยหรี่ตานางพูดเสียงเบา
ข้าไม่รู้ว่าท่านพูดอะไรแต่ท่านต้องตามข้าไปเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นชีวิตท่านจะเป็นอันตราย
ข้าตามเจ้าไปแล้วจะไม่อันตรายรึ?
ซือหยูมองนางด้วยความสบายใจ
อะไรกัน?แววตาลั่วเฟยเปล่งแสง สายฟ้าพุ่งจากชายเสื้อทะลวงอกซือหยูในระยะใกล้
แกร๊ง! เสียงดังสดใสสายฟ้าปะทะกับบางอย่างที่แข็งแกร่ง
นี่เจ้า…เป็นไปได้ยังไง?
นางจ้องซือหยูและพบว่าแสงธรณีในกายซือหยูได้กลายเป็นทองคำร่างของเขาแข็งแกร่งไม่ต่างกับทองคำ
ซือหยูป้องกันพลังของนางได้อย่างง่ายดาย
ซือหยูยิ้มสีบนร่างของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง ร่างกายเขามีหลากสีสัน
สีสันทั้งหลายไหลออกจากร่างซือหยูกลายเป็นโซ่ยาวรัดลั่วเฟยอย่างรวดเร็ว
ลั่วเฟยตกใจถ้าจะหนีจากซือหยูก็ต้องหนีจากโซ่หลายสีนี้ให้ได้ด้วย
แต่ทันทีที่โซ่มาถึงตัวลั่วเฟยก็ได้รับแรงโน้มถ่วงจากโลกอย่างรุนแรง นางตัวหนักอึ้ง มิอาจขยับตัวได้โดยง่าย
กว่าจะรู้ตัวว่าสถานการณ์ย่ำแย่และอยากจะหลบโซ่ก็สายไปแล้วนางถูกมัดในท้ายสุด
นางกายนางอ่อนแอย่อมทนรับน้ำหนักโซ่ไม่ไหว นางล้มลงไปกองกับพื้น
ซือหยูลุกขึ้นและกระตุกโซ่อีกครั้งลั่วเฟยลอยมาหาเขา
ซือหยูย่อตัวมองนางหัวจรดเท้าสุดท้ายเขาก็มองเห็นที่ปากของนาง เขาเรียกมีดหยกออกมากรีดริมฝีปากของนางเบา ๆ เขาขูดเอาเครื่องประทินโฉมสีแดงออกมาได้
ซือหยูสามารถมองมันออกด้วยเนตรที่เหนือกว่าใครของเขา
เมื่อมองให้ลึกลงไปสีแดงของมันก็เปลี่ยนแปลง ซือหยูสะบัดมือโยนมันทิ้งไป แต่ยังเหลือส่วนน้อยบนมีด
เครื่องประทินโฉมบนมีดหยกเคลื่อนไหวมันสั่นสะเทือน!
จากนั้นมันก็กลายเป็นบุพผาพ่นของเหลวใส่ใบหน้าซือหยู
ซือหยูโต้กลับได้ทันเขาขว้างมีดทิ้งเพื่อหลบเลี่ยงการสัมผัส
หลังจากมองอย่างละเอียดสิ่งที่ดูเหมือนเครื่องประทินโฉมสีแดงก็คือกลุ่มแมลงสีแดงที่รวมตัวเข้าด้วยกัน!
หรือก็คือริมฝีปากของลั่วเฟยเต็มไปด้วยแมลงประหลาด!
แมลงเหล่านี้ทำให้ซือหยูเป็นห่วงดวงวิญญาณของตัวเองมันส่งผลกระทบต่อดวงวิญญาณเป็นอย่างมาก
เขาหายใจเข้าลึก
เข้าควบคุมกงซุนหยาผ่านแมลงพวกนี้สินะ?
ก่อนที่จะเข้าร่วมงานแต่งงานซือหยูตรวจสอบกงซุนหยาจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรซุกซ่อนอยู่ในตัวเขา
แต่แม้จะพยายามแล้วกงซุนหยาก็ถูกควบคุมได้
แต่ตั้งแต่ต้นจนจบเจ้าพันธมิตรมิได้สัมผัสกงซุนหยาแม้แต่น้อย และมีอยู่หนึ่งคนที่ต้องสัมผัสเขานั่นคือเจ้าสาว!
ทั้งสองยังดื่มสุราแก้วเดียวกันแก้วที่ถูกริมฝีปากแตะถูกเจ้าบ่าวใช้ในภายหลัง
เจ้าสาวจงใจติดแมลงไว้บนปากเพื่อส่งต่อแก้วสุราให้กับเจ้าบ่าว
นี่คือทางเดียวที่เป็นไปได้เท่านั้นที่กงซุนหยาเกิดคุ้มคลั่งขึ้นมาราวกับถูกเข้าสิง
เจ้า…เจ้ารู้ถึงขั้นไหนแล้ว?
ลั่วเฟยสีหน้ากระวนกระวาย
ซือหยูส่ายหน้า
ทุกอย่างที่ข้าควรรู้อย่างเช่น…เรื่องที่เจ้าพันธมิตรลั่วกำลังแอบบงการลั่วเฟย และเจ้าพันธมิตรยังอยู่ใกล้โลกจิวหลี่ คอยซุ่มโจมตีอยู่ หากข้าออกไปเมื่อใด ข้าจะถูกคนข้างนอกจัดการ และพวกเจ้าจะได้อ้างตัวเองว่าฆ่าคนที่หลบหนียังไงล่ะ!
แววตาลั่วเฟยดูระแวงหากมองให้ดี จะเห็นได้ว่าสีหน้านางแปลกประหลาดมาก นางราวกับมีตัวตนอื่นซ่อนอยู่โดยมีบางอย่างกดทับเอาไว้
ซือหยูถอนหายใจอย่างเงียบเชียบ
เจ้าพันธมิตรลั่วเพื่อที่จะรักษาตำแหน่งเจ้าพันธมิตร ข้าเข้าใจว่าเจ้ายอมเสียกงซุนหยาไปได้ แต่เจ้าคิดจะสละชีพลูกสาวตัวเองด้วยเรอะ?
ตามแผนของเจ้าพันธมิตรลั่วเฟยจะเป็นผู้เปิดผนึก ดังนั้นถ้าหากซือหยูที่หนีไปกลายเป็นคนรับผิดคดีสังหารฉีเหมินเจี้ยน ลั่วเฟยที่มาช่วยให้ซือหยูหนีจะรอดไปได้หรือ?
ต่อให้นางไม่ถูกฆ่าในทันทีทันใดเหล่าเทพที่โกรธแค้นในพันธมิตรประจิมก็ย่อมไม่ปล่อยให้นางมีชีวิตอยู่
กงซุนหยาตายไปแล้วและลั่วเฟยกำลังจะตายไปกับเขา
ฟึ่บ!
พลังเทพมหาศาลหลั่งไหลเข้ามายังโลกจิวหลี่ทั้งโลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เจ้าของพลังนี้เป็นได้เพียงเจ้าพันธมิตรลั่วเท่านั้น!
รู้ตัวจนได้สินะ?
ซือหยูหัวเราะเบาๆ เขาพูดโดนไม่หันไปมอง
เขาไม่จำเป็นต้องมองข้างหลังก็รู้ว่าเจ้าพันธมิตรได้มาถึงตัวเขาแล้ว
ซือหยูถอนหายใจพลังห้าธาตุหนาแน่นขึ้น ลั่วเฟยที่ถูกพลังถาโถมจากระยะใกล้สลบในทันที
ซือหยูหันไปมองเจ้าพันธมิตรที่หน้าซีดแต่ดูมั่นใจ
เจ้าเสียสละลูกสาวตัวเองกับกงซุนหยาต่อไปเจ้าจะทำอะไรอีกล่ะ?
เจ้าพันธมิตรมองซือหยูอย่างมั่นใจว่าซือหยูจนมุมแล้วเขาแสยะยิ้มโดยไม่ปิดบังความทะเยอทะยาน
แน่นอนทุกสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งเจ้าพันธมิตรจะต้องถูกกำจัดทิ้งให้สิ้นซาก
อย่างเช่นคนบาปที่เจ้าพากลับมา นางน่าจะรู้ความลับดี!
ซือหยูสายตาเยือกเย็น
คนบาปหรือ?โชคดีที่หวูซื่อไม่เคยเรียกเจ้าว่าท่านตา
หึหึเทพมีชีวิตยืนยาว ครอบครัวมิใช่เรื่องสำคัญ มีเพียงใต้หล้าเท่านั้นที่คู่ควรแก่การไล่ตาม ครอบครัวเป็นเพียงสิ่งขวางกั้นความสำเร็จ ข้าต้องกำจัดพวกมันด้วย!
ฆ่ากงซุนหวูซื่อแล้วเจ้าจะทำอะไรต่อ?เจ้าก็แค่อยู่บนตำแหน่งได้สักระยะ แต่มันจะตลอดกาลหรือ? ความตายของข้ายิ่งจะทำให้ตระกูลปราบอสูรสงสัยในตัวเจ้า!
พวกมันคงสงสัยได้ไม่นานเพราะข้าจะฆ่าพวกมันด้วย!
เจ้าพันธมิตรตอบอย่างเย็นชา
เทพหลินหลางต่อต้านข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงเวลาแล้วที่ตระกูลอื่นจะได้เห็นว่าต่อต้านอำนาจข้าแล้วจะเป็นยังไง!
ซือหยูส่ายหน้าเบาๆ
เจ้าจะไม่มีทางมีพลังสูงไปกว่านี้เจ้าบอกว่าทำลายสิ่งกีดขวางเรื่องครอบครัวออกไปเพื่อที่จะได้ไล่ล่าพลังที่สูงขึ้นรึ? ความคิดเช่นนี้จะทำเจ้าอยู่ได้ไม่ยาว
เจ้าพันธมิตรลั่วหัวเราะชอบใจ
น่าขัน!หากเจ้าได้ตำแหน่งสูงสุดเมื่อใด เจ้าจะได้คุณสมบัติในการเติบโต ถึงระดับที่ไม่มีคนมากนักเอื้อมถึง…เจ้ามันก็แค่เซียน เจ้าจะรู้รึว่าข้ากำลังพูดอะไร?
ใครที่ไม่ให้ข้าได้ควบคุมโลกนี้และขวางทางถือว่าขัดลิขิตข้า ข้าจะฆ่าอย่างไร้ปรานี!
เสียงหัวเราะของเขาสั่นสะเทือนไปทั้งโลก
วารีไร้จุดจบในธารดาราหลั่งไหลเข้ามาทำลายแผ่นดินส่วนที่เหลือของโลกจิวหลี่
มันจบแล้วเทพสีเงิน ตอนที่เจ้าได้ตำแหน่งเทพสีเงินที่นี่ เจ้าก็ถูกลิขิตให้เป็นก้อนหินที่ข้าจะต้องเหยียบย่ำขึ้นไป เพื่อเพิ่มพูนอำนาจของข้า
เจ้าพันธมิตรลั่วก้าวมาข้างหน้าช้าๆ
ไปสู่สุขคติซะนี่คือสิ่งสุดท้ายที่เจ้าจะได้รับ!
แต่ในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังตามมา
เฮ้อข้าแก่จนไม่เหมาะกับตำแหน่งผู้นำจริง ๆ
เสียงนี้ทำให้เจ้าพันธมิตรลั่วตัวแข็งทื่อเขาหยุดฝีเท้าพร้อมเบิกตากว้าง
ฉีเหมินเจี้ยน!เจ้ายังไม่ตาย!
มันน่าตกใจรึเจ้าพันธมิตร?
ฟึ่บ…
พลังมหาศาลที่เทียบได้กับพลังของเจ้าพันธมิตรตกลงสู่โลกจิวหลี่มันทำลายทุกสิ่งที่ยังหลงเหลือ
ท้องนภาเต็มไปด้วยแสงเทพท่ามกลางแสงนั้นคือชายชราที่ดวงตาขุ่นมัว ในมือเขามีกระบี่ไม้เล่มเก่า
เป็นเจ้าตัวจริง!ไม่สิ เจ้าต้องตายไปแล้ว! ข้าไปดูร่างเจ้ากับตา มันต้องไม่ผิดแน่!
เจ้าพันธมิตรลั่วหวาดผวา
ฉีเหมินเจี้ยนกล่าว
ถ้าเจ้าซ่อนอุบายได้ใยข้าจะซ่อนวิชาลับไม่ได้เล่า? เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าร่างกายของข้าคืออะไร?
เจ้าพันธมิตรเบิกตากว้าง
ตระกูลฉีเหมินกายาอสรพิษทะเล หรือว่าอสรพิษทะเลจะตายสองครั้ง?
ฉีเหมินเจี้ยนส่ายหน้า
ถูกแล้วอสรพิษทะเลมีสองหัว หากไม่ตัดสองหัวพร้อมกัน ข้าจะไม่ตาย!
ในวันแต่งงานข้าเอาไปแค่หัวเดียว พักนิดหน่อยก็ฟื้นคืนกลับมาได้เต็มที่
เจ้าพันธมิตรแอบตกใจ
เป้าหมายสูงสุดของเขาคือการสังหารฉีเหมินเจี้ยนที่เป็นคู่แข่งแต่ฉีเหมินเจี้ยนยังไม่ตาย!
เขาเหลือบมองสีหน้าไร้อารมณ์ของซือหยูเกิดความคิดประหลาดในใจ
เทพสีเงินเจ้ารู้อยู่แล้วรึว่าฉีเหมินเจี้ยนยังไม่ตาย?
ซือหยูยิ้มเขาไม่พูดอะไร
ฉีเหมินเจี้ยนเหลือบมองซือหยูราวกับรู้อยู่แล้วจากนั้นจึงมองเจ้าพันธมิตรด้วยความเวทนา
ข้าแสร้งเป็นตายซึ่งนั่นคือแผนของเขา! เจ้าวางแผนนี้มาเนิ่นนาน แต่เทพสีเงินก็มองออกจนหมดสิ้น เทพสีเงินเป็นคนส่งเทพไม้มาบอกแผนการของเจ้ากับข้า
ข้าไม่เชื่อในคราแรกแต่เจ้ากลับลอบเข้ามาใกล้ตำหนักข้าและพยายามฆ่าลูกชายข้า ข้าถึงเชื่อว่าเจ้าคิดจะกำจัดข้า!
เจ้าพันธมิตรลั่วตกตะลึง
เป็นไปได้ยังไง?ข้าวางแผนมาอย่างไร้ที่ติ เทพกงซุนหักหลังข้าเรอะ?
สีหน้าฉีเหมินเจี้ยนยิ่งเวทนาขึ้นไปอีก
เจ้าพันธมิตรเอ๋ยเจ้ายังไม่รู้ตัวอีกรึ? เจ้ากำลังเจอกับคนที่ยิ่งใหญ่กว่าเจ้า คนที่ทำให้ปัญญาของเจ้าอับแสง ข้าถึงได้มาอยู่ที่นี่!
เป็นไปไม่ได้!
เจ้าพันธมิตรมิอาจเชื่อเขาไม่อยากเชื่อว่าแผนสุดยอดที่เขาคิดค้นขึ้นเองจะถูกคนอื่นมองออก
ฉีเหมินเจี้ยนไม่พูดมากไปกว่านั้นเขาเพียงมองไปยังหางตา เขาคว้าความว่างเปล่า แก้วใสที่ซ่อนอยู่ลอยออกมา
แก้วถูกเปิดออกแล้วที่อีกด้านมีเทพพันธมิตรประจิมอยู่หลายคน!
เทพเหล่านี้ถูกฉีเหมินเจี้ยนที่‘ตาย’ ไปแล้วเรียกมาชม เทพที่อีกฟากของแก้วเห็นเหตุการณ์ทั้งแต่ต้นจนจบ
เจ้าพันธมิตรลั่วหัวใจเต้นแรงเขามิอาจแก้ต่างให้ตัวเองได้อีกแล้ว ฉีเหมินเจี้ยน!เจ้ากล้าแกล้งตายงั้นเรอะ! เจ้าทำแบบนี้เพื่อจองจำเทพสีเงินและใส่ร้ายป้ายสี! ทุกคน จับมัน มิเช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยใครออกไป!
น่าขัน…
ฉีเหมินเจี้ยนส่ายหน้า
เจ้าพันธมิตรเอ๋ยเจ้าไม่ต้องแสดงอะไรอีกแล้ว แก้วดวงนี้อยู่ที่นี่มานานก่อนเจ้าเสียอีก ทุกสิ่งที่เจ้ามีทั้งพันธมิตรประจิมเป็นพยาน!
ริบตำแหน่งเจ้าพันธมิตรจะหยุดเจ้าในการเพิ่มพลังและทำร้ายผู้บริสุทธิ์เจ้าสละชีวิตกงซุนหยาและแม้ต่ลูกสาวตัวเอง ทั้งยังคิดอยากกำจัดเทพจรัสแสง ทั้งพันธมิตรรู้เรื่องหมดแล้ว! หยุดการแสดงอันน่าหัวร่อของเจ้าเสีย พันธมิตรไม่มีที่ยืนสำหรับเจ้าอีกแล้ว!
แผนการร้ายทั้งหมดของเจ้าพันธมิตรถูกเปิดโปงออกมาอย่างกระจ่างแจ้ง