The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 629
DND.629 – ข่าวร้าย
ในส่วนลึกสุดของแกนเรือรบ
ถ้าหากจะถามถึงเขตที่ปลอดภัยที่สุดในเรือรบมันก็คงมิใช่ที่อื่นนอกจากที่พักของเหล่าผู้เฒ่า เพราะพวกเขาคือศูนย์กลางอำนาจของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกจัดให้อยู่อย่างปลอดภัยจากเรื่องร้ายต่างๆ!
ในห้องยาวห้องหนึ่งผู้เฒ่าห้าคนมองรอบๆด้วยความตื่นเต้น พวกเขามองห้องที่ตัวเองอยู่และพบโต๊ะเก้าอี้การตกแต่งที่เหมือนกับห้องผู้เฒ่าคนอื่น
“หึพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ทำกันผู้เฒ่าของเราแบบนี้รึ!”
หนึ่งในผู้เฒ่าย่นจมูกเมื่อมองห้อง
“แม้แต่คนที่อาวุโสอย่างผู้เฒ่าเสี่ยวซุยยังต้องมาอยู่ในห้องแบบนี้!”
คำพูดของเขาแทนความรู้สึกที่ทุกคนคิดทุกคนล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงในทวีปเฉินหลง ถ้าหากพวกเขาลงไปอยู่ในพื้นทวีป พวกเขาจะต้องได้รับความนับถือและความเลื่อมใสจากคนนับหมื่น พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างพอใจ
แต่ในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์พวกเขามีเพียงแค่ชาธรรมดา อาหารธรรมดา และชีวิตธรรมดา นี่เป็นเพราะกฏที่ราชาโลกดับสูญตั้งเอาไว้ เขาเน้นเฉพาะให้ทรัพยากรในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ถูกส่งต่อให้กับเด็กที่มีพรสวรค์โดยไม่สูญเปล่ากับคนอื่น!
กฎเช่นนี้รุนแรงและเข้มงวดทรัพยากรทุกอย่างที่เคยถูกใช้เตรียมห้องของผู้เฒ่าและส่วนแบ่งรายเดือนถูกจัดแจงอย่างไร้ข้อยกเว้น ดังนั้นการปฏิบัติต่อผู้เฒ่าจึงดีกว่าพวกเด็กๆไม่มากนัก พวกเขาหลายคนทนใช้ชีวิตเรียบง่ายเช่นนี้ไม่ไหวเพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะปรับตัวได้ โดยเฉพาะคนที่ทะเยอทะยานอย่างเสี่ยวซุยที่มิอาจยอมรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตได้จนกระทั่งตอนนี้
เมื่อได้ฟังอย่างนั้นผู้เฒ่าคนหนึ่งมาด้วยกันจึงได้พูดความคิดเห็นของตัวเองออกมา
“ใช่แล้ว!มันเป็นเช่นนั้น! ทำไมเราจะต้องเสียสละมากนักเพื่อคนรุ่นหลังด้วยเล่า? เราไม่ได้เห็นแก่ตัวเสียหน่อย แต่มิใช่ว่าพวกเราตอนนี้ใช้ชีวิตอย่างน่าขมขื่นหรอกรึ!”
ดูเหมือนว่าเขาจะพูดตรงกับที่ทุกคนคิดพวกเขาส่ายหน้าและถอนหายใจ บรรยากาศของทั้งห้าคนบอกได้เลยว่าพวกเขาผิดหวังกับพันธมิตรผู้คุมสวรรค์เพียงใด
“หลังจากที่เราผ่านวิกฤติครั้งนี้เราจะต้องไปหารือกับเจ้าพันธมิตรในเรื่องนี้”
เสี่ยวซุยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดเขายิ้มอย่างมีเลศนัย
“แต่ก่อนอื่นไปที่กระโจมน้อยของข้าก่อนเถอะ ข้าเตรียมสิ่งที่พวกท่านจะต้องแปลกใจ! พวกท่านต้องชอบแน่ๆ”
ผู้เฒ่าอีกสี่คนเริ่มคาดหวังดวงตาพวกเขาเป็นประกาย หนึ่งในนั้นพูดด้วยความยินดี
“ในที่สุดข้าก็จะได้มีโอกาสไปที่กระโจมน้อยของท่านท่านยังมีเรื่องให้พวกข้าแปลกใจอีกรึ? ผู้เฒ่าเสี่ยวซุยมีน้ำใจจริงๆ!”
เสี่ยวซุยหัวเราะเบาๆและหยิบเอาภาพเขียนออกมาภาพนี้เป็นโลกที่เต็มไปด้วยหมอก มีทะเลสาบอยู่ในภาพ มีกระโจมอันงดงามเขียนไว้ที่กลางทะเลสาบนี้
ภาพเขียนใบนี้งดงามอย่างมากและภายในยังมีสาวรับใช้และหญิงสาวน่ารักร่ายรำอยู่ด้วย พวกนางสวมชุดในทุกเฉดสีและร้องเพลงด้วยเสียงอันไพเราะ มันเป็นภาพที่มีชีวิตชีวาอย่างมาก!
“โอ้โห้!นี่มันสมบัติมิติงั้นรึ?”
ผู้เฒ่าคนหนึ่งตกตะลึง
“ข้าได้ยินมาแล้วว่าผู้เฒ่าเสี่ยวซุยเชี่ยวชาญวิชาพื้นที่แต่ข้าก็ไม่คิดว่าท่านจะเปิดมิติที่กว้างเช่นนี้ได้แม้แต่ในภาพเขียน! ภาพเขียนนี่จะต้องไม่ต่ำกว่าระดับของสมบัติเทพขั้นสูง!”
ผู้เฒ่าคนอื่นๆตกตะลึงไม่แพ้กัน!ถ้าหากภาพเขียนนี่อัดพื้นที่กว้างเช่นนี้ได้ เช่นนั้นมันก็จะต้องสร้างจากวัตถุดิบที่ไม่ธรรมดา!
พวกเขาเชื่อว่าวัตถุดิบเหล่านี้ได้มาจากพันธมิตรผู้คุมสวรรค์!แต่ที่พวกเขางุนงงก็คือทรัพยากรส่วนมากในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ถูกเก็บรักษาโดยเจ้าพันธมิตร!
เช่นนั้นแล้วเขาเอาวัตถุดิบพวกนี้มาจากไหนกัน?
“ฮ่าๆๆพวกท่านเข้ามาสิ”
เสี่ยวซุยโบกมือภาพเขียนบิดเบี้ยวพร้อมกับเกิดวายุพลังมิติ
จากนั้นทั้งสี่ก็เดินตามเสี่ยวซุยเข้าไปภาพที่พวกเขาได้เห็นคือภาพเดียวกับที่เขียนไว้บนภาพ และยังมีคนที่เขียนไว้ในภาพอยู่ที่นี่อีกด้วย!
“ท่านผู้เฒ่าเสี่ยวซุย!”
เหล่าสาวรับใช้และนักเต้นในภาพเขียนคือคนจริงๆเมื่อเห็นว่าเสี่ยวซุยเข้ามา พวกนางรีบเข้ามาทำความเคารพต่อเขา ผู้นำเหล่านักเต้นที่พูดกับเขานั้นน่ารักและดูนับถือเขามาก
“นี่มัน…มิใช่ว่านางคือหวางตงยอดฝีมือหมายเลขหนึ่งแห่งตะวันตกหรอกรึ?”
ผู้เฒ่าคนหนึ่งตกใจเมื่อเห็นนาง
หวางตงมีใบหน้ารูปไข่และดวงตาอันน่าหลงใหลรอยยิ้มของนางน่ามองยิ่งนัก ส่วนของร่างกายอันงดงามเผยให้เห็นเมื่อนางร่ายรำ เอวที่บางกับขาเรียวขาวราวหิมะ และยังหน้าอกที่ชวนมอง
ผู้เฒ่าคนอื่นตกตะลึงเช่นกันเมื่อมองเห็นนางนางคือหวางตง หนึ่งในสตรีงดงามที่เลี่ยงชื่อ! นางถูกตามตัวจากคนหลายคน แม้แต่ผู้เฒ่าที่แก่ที่สุดยังเคยได้ยินเรื่องราวของนาง!
แต่เพราะนางกำลังตั้งมั่นอยู่กับการบ่มเพาะพลังนางจึงมักจะไม่ค่อยปรากฏตัว ดังนั้นนางจึงไม่ได้สนใจเหล่าเด็กหนุ่มที่ไล่ตามนางนัก
นั่นทำให้นางมีชื่อเสียงอันดีในสังคมเช่นกันแต่ไม่มีใครคิดเลยว่าความจริงนางมิได้บ่มเพาะพลัง แต่นางมาเป็นนักเต้นอยู่ในกระโจมน้อยของผู้เฒ่าเสี่ยวซุย!
“หึหึตงเอ๋อ”
เสี่ยวซุยหัวเราะและกวักมือเรียกนางหวางตงยิ้มอย่างอ่อนหวานและกระโดดใส่อ้อมอกของเขาดั่งผีเสื้อ
เขาโอบนางด้วยมือหนึ่งข้างและใช้มืออีกข้างผ่านไปที่ใต้ร่มผ้ายืดไปที่อกของนางเขาคว้าส่วนอกและเริ่มลูบคลำ
หวางตงครางออกมาเบาๆนางหน้าแดง ดูเหมือนว่านางจะคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้
แต่เหตุการลามกเช่นนี้ทำให้สี่ผู้เฒ่าที่ตามมางุนงงดูเหมือนว่าหวางตงจะกลายเป็นสินทรัพย์ส่วนตัวของเสี่ยวซุยไปโดยไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร!
ที่พวกเขาตกใจยิ่งกว่าก็เพราะว่าพวกเขารู้ว่าพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ห้ามผู้เฒ่าให้แตะต้องกับเด็กรุ่นหลังอย่างเคร่งครัด!ซึางความจริงคนที่ฝ่าฝืนกฎข้อนี้จะถูกตัดหัว!
ถ้าหากไม่มีข้อห้ามนี้เด็กที่ถูกช่วยขึ้นมาบ่มเพาะบนเรือก็คงจะเลี่ยงเงื้อมมือของเหล่าผู้เฒ่าระดับสูงไม่ได้! หากไร้ข้อห้าม เด็กสาวที่งดงามอย่างหวางตงก็จะไม่ถูกชิงตัวมามีความสัมพันธ์อันน่างุนงงอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขา!
“พวกเจ้าจะยืนจ้องกันอยู่ทำไมเล่า?ทำไมไม่รีบไปดูแลผู้เฒ่าล่ะ? เจ้าจะได้ความปรารถนาดีจากพวกเขาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้า”
เสี่ยวซุยหัวเราะเมื่อหันไปพูดคุยกับสาวรับใช้และนักเต้นคนอื่น
บรรดาสาวรับใช้ที่เหลือเดินไปยังผู้เฒ่าทั้งสี่ด้วยรอยยิ้มผู้เฒ่าทั้งสี่ทั้งตกใจและไม่พอใจที่คนที่งดงามอย่างหวางตงด่างพร้อยไปเพราะเสี่ยวซุย
“พวกเจ้าสนุกตามใจชอบพวกนางถูกข้าฝึกฝนมาอย่างดี พวกนางรู้ว่าสิ่งใดควรพูด สิ่งใดมิควร พวกเจ้าไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น”
เสี่ยวซุยพยายามจะดึงผู้เฒ่าทั้งสี่ให้มัวเมาเช่นเขาขณะที่ลูบคลำสาวงามข้างกาย
เพราะถ้าหากทั้งสี่ร่วมด้วยกับเขาพวกเขาก็จะมีความผิดในฐานเดียวกัน พวกเขาก็จะไม่กล้ารายงานเรื่องนี้อีกด้วย เพราะพวกเขาจะตายไปพร้อมกับเสี่ยวซุย! ทั้งสี่ไม่รู้ว่าจะทำเช่นใด พวกเขาเริ่มลังเล
“พวกท่านจะลังเลอะไรกันอยู่เล่า?ผู้เฒ่าเกินครึ่งตายไปแล้ว! ถึงพวกเราจะถูกจับได้ พวกนั้นก็คงแค่ทำเป็นหูหนวกตาบอด ตอนนี้พวกเรากำลังขาดคน พวกนั้นไม่กล้าจะลงโทษพวกเราแน่ ถ้าหากฆ่าผู้เฒ่าจนหมด เจ้าพันธมิตรหลงจะปกป้องพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ด้วยตัวคนเดียวได้ยังไงเล่า?”
เสี่ยวซุยหัวเราะเขาวิเคราะห์สถานการณ์
ผู้เฒ่าทั้งสี่เริ่มคล้อยตามเมื่อได้ฟังเพราะถ้าพวกเขาไม่ทำตามเสี่ยวซุย เสี่ยวซุยก็คงจะไม่ให้พวกเขาได้ออกไป พวกเขาเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่จะทำให้พวกเขาแปลกใจคืออะไร…
เมื่อได้เจอกับการยั่วยวนของเด็กสาวพวกเขาเริ่มที่จะจมอยู่ในราคะ พวกเขาเริ่มที่จะทำตามความปรารถนาที่เก็บซ่อนมาหลายปี เสียงครวญครางเริ่มที่จะดังตลอดทั้งกระโจมน้อย บทเพลงอันไพเราะขับกล่อมค่ำคืนของทั้งห้า
เรื่องนี้ยังคงดำเนินต่อไปอีกครึ่งวันเมื่อเหล่าผู้เฒ่ารื่นรมย์กับร่างกายของหญิงสาวและดื่มสุราเลิศรสโดยมีเหล่าสาวใช้คอยบริการ ใบหน้าของพวกเขาแดงแจ๋
“ฮ่าๆๆจากนี้ไปพวกเจ้าคือสหายข้า จะมากระโจมน้อยของข้าเมื่อใดก็ย่อมได้”
เสี่ยวซุยหัวเราะและยกแก้วชน
หลังจากที่พวกเขาสนุกกันต่อเหล่าผู้เฒ่าเริ่มอ่อนข้อลง เพราะพวกเขาได้ลิ้มรสอันหอมหวานของนารีไปแล้ว ยากที่ทั้งสี่จะไม่เป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นแผนชั่วร้ายของเสี่ยวซุยจึงนับว่าสำเร็จ เขาหว่านล้อมทั้งสี่สำเร็จ สี่คนนี้จะต้องกลับมาอย่างแน่นอน!
“ผู้เฒ่าเสี่ยวเจ้าเอาวัตถุดิบสร้างที่นี่มาจากที่ไหนกัน? การสร้างสถานที่แบบนี้ต้องใช้วัตถุดิบมากมายมิใช่รึ?”
ผู้เฒ่าคนหนึ่งถามด้วยแววตาอิจฉาเพราะใครกันที่ไม่อยากจะครอบครองสถานที่เช่นนี้? ที่เขาจะแอบมาดื่มและสนุกสนานกับเด็กสาวที่งดงามมากพรสวรรค์ได้!
เสี่ยวซุยยอมรับอย่างเปิดเผยเขาไม่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
“หึหึมันจะยากอะไรกัน? เรือรบมีห้องที่ไม่ได้ใช้ตั้งเยอะ ข้าก็แค่รื้อพวกของไม่จำเป็นมาใช้เองที่นี่”
เพล้ง!
แก้วสุราตกลงสู่พื้นสีหน้าของผู้เฒ่าทั้งสีดำมืด พวกเขากลัวจนทำแก้วหลุดมือ!
“ผู้เฒ่าเสี่ยวซุย…เจ้ารื้อเรือรบลำนี้เรอะ?นี่มันเรื่องร้ายแรง เจ้าจะต้องตายแน่!”
ผู้เฒ่าตกตะลึงความผิดชองเสี่ยวซุยนั้นร้ายแรงและบ้าคลั่งยิ่งกว่าที่เขาคิด!
“วัตถุดิบสร้างเรือรบลำนี้มันยอดเยี่ยมแต่ผู้เฒ่าเสี่ยวซุย เจ้าไม่ห่วงรึว่าเรือจะเสียหาย ถ้ามันอ่อนแอลง ศัตรูจะไม่ใช้โอกาสนี้มาบุกรุกถึงพวกเรารึ?”
ผู้เ่าคนหนึ่งหวาดกลัวกับการกระทำของเขาเช่นกัน
“เจ้าจะทำหน้าแบบนั้นทำไมกัน?พวกเจ้าเป็นเหมือนซือหยูที่กลัวเงาตัวเองงั้นเรอะ? ส่วนที่ข้ารื้อออกมาแทบจะใช้งานไม่ได้ มันแทบจะไม่มีผลกับเรือรบเลย!”
เสี่ยวซุยไม่พอใจกับสีหน้าไม่ยินดีของผู้เฒ่าทั้งสี่
“พวกเจ้าคิดว่าเรือรบของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์อ่อนแอขนาดนั้นเชียวรึไง?”
เสี่ยวซุยพูดต่อ
“มันอยู่มาหลายพันปีไม่เคยถูกทำลาย มันแข็งแรงจนเจ้าคิดไม่ถึง วัตถุดิบที่ข้าเอามายังเป็นแค่หนึ่งหยดของมหาสมุทร…มันไม่กระทบอะไรกับเรือเลย!”
ผู้เฒ่าที่ร้อนรนใจเย็นลงหลังจากที่ได้ฟังเป็นเรื่องจริงที่พันธมิตรผู้คุมสวรรค์อยู่มาได้หลายพันปีขณะที่ต้องรับมือกับภัยร้ายหลายครั้ง ครั้งนี้จะต้องเป็นเหมือนกับครั้งก่อนๆ ความกังวลของพวกเขาก็แค่การตีตนไปก่อนไข้เท่านั้น
“จริงด้วยต่อให้ทวีปถูกทำลาย เรือรบของพวกเราก็จะไม่เป็นอะไร!”
ผู้เฒ่าทั้งสี่ยอมรับ
เสี่ยวซุยถอนหายใจแรง
“ที่ซือหยูบุกเข้ามาได้ก็เพราะมันเอาเวทยักย้ายของคนซุ่มโจมตีออกไปไม่อย่างงนั้นมันก็คงจะทำลายลำดับบุกเข้ามาไม่ได้ ถ้าพวกเราไม่ออกไปสู้ ต่อให้คนต่างโลกมาล้อมเรือเอาไว้ พวกมันก็ทำอะไรเราไม่ได้อยู่ดี”
ผู้เฒ่าทั้งสี่เห็นด้วยกับความเห็นนี้
“ซือหยูนั่นก็ดูแข็งแกร่งแต่มันก็น่าสงสัยยังกับหนู! มันจะมั่นใจได้ยังไงว่าจะมีคนมาบุกรุกพวกเราตอนที่เปลี่ยนผู้นำ? มันคิดจะสั่งสอนพวกเราโดยบอกว่าเปลี่ยนผู้นำในสงครามเป็นเรื่องต้องห้าม”
เมื่อพูดถึงซือหยูเสียวซุยดูภูมิใจ
“ต่อให้มันจะแข็งแกร่งแล้วยังไงเล่า?”
ผู้เฒ่าอีกสีคนหัวเราะ
“หึหึผู้เฒ่าเสี่ยวซุย เจ้าเข้าใจผิดแล้ว! เราจะปล่อยให้พวกมันสั่งสอนเรารึ? โชคดีที่พวกข้ามีเจ้า เป็นเกียรตินักที่เจ้าพูดข่มมันได้ถึงสองครั้ง! ให้ข้ายกแก้วให้เจ้าหน่อยเถอะ…”
ปั้ง!
เสียงปะทะดังขึ้นมันเกิดจากแรงกระแทกอันรุนแรง กระโจมน้อยสั่นอย่างแรง เหล่านักเต้นเริ่มบินขึ้นด้วยความตกใจ แรงกระแทกทำให้เหล่าผู้เฒ่าที่สนุกสนานเหล้ากระฉอกจากแก้ว
หลังจากที่แรงสั่นสะเทือนจบลงเสี่ยวซุยสีหน้าเปลี่ยนไป
“ใครหน้าไหนกันที่บังอาจมาแตะต้องรูปของข้า?”
จะต้องมีคนข้างนอกสั่นภาพเขียนนี้จนมิติภายในสั่นสะเทือนผู้เฒ่าอีกสี่คนโกรธแค้นเช่นกัน พวกเขาเพิ่งจะได้สนุกสนาน!
“ออกไปกับข้า!ไปดูกัน…”
เสี่ยวซุยใช้พลังมิติกลับไปยังโลกภายนอกกับผู้เฒ่าทั้งห้า
ไม่มีใครอยู่ในห้องของเสี่ยวซุยเลยและยิ่งไปกว่านั้น ห้องของเขายังเกือบจะพังทลายไปจากแรงสั่น! กำแพงเต็มไปด้วยรอยแตกราวกับเจอกับพลังทำลายล้าง
เหล่าผู้เฒ่าทั้งโกรธและตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น?”
ในตอนนั้นเองมีเสียงฝีเท้ามาจากข้างนอก มันคือกลุ่มทหารกึ่งเทพที่อยู่กลางเรือรบ
“หยุดก่อน!เกิดอะไรขึ้น?”
เสี่ยวซุยขมวดคิ้วเขารู้สึกถึงลางร้ายกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ทหารคนนั้นโค้งคำนับเมื่อเห็นเสี่ยวซุย
“ผู้เฒ่าเสี่ยวซุยพวกเราถูกคนจากต่างโลกเจอเข้า เรากำลังสู้กับพวกมัน พวกมันใช้การโจมตีพร้อมกันขนาดใหญ่ระเบิดเรือ ท่านเจ้าพันธมิตรเรียกตัวพวกข้าไปที่แนวหน้า”
จากนั้นทหารก็ถามกลับด้วยความแปลกใจ
“ผู้เฒ่าเสี่ยวซุยไม่รู้เรื่องเลยรึ?พวกเราเริ่มสู้กับพวกคนในต่างโลกมาครึ่งวันแล้ว พวกท่านไปไห…”
อะไรนะ?ครึ่งวันก่อนเรอะ? นั่นเป็นตอนที่พวกเขาเข้าไปในกระโจมน้อย…