The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 642
DND.642 – ยื้อประหาร
หลงจื้อชิงจ้องมองเสี่ยวซุยอย่างเยือกเย็นพร้อมกับสะบัดมือเปิดม้วนภาพ
ในม้วนภาพมีกระโจมน้อยที่สภาพแวดล้อมงดงามเหล่าภูติตัวน้อยที่ร่ายรำทำเพลงในภาพนั้นดูยั่วยวนอย่างมาก
“เอ๋?นั่นไม่ใช่หวางตงยอดฝีมือลำดับหนึ่งจากตะวันตกหรอกรึ? ทำไมนางมาอยู่ในมิติของม้วนภาพนี่?”
“แล้วก็นั่นหลิวหลิวจากทวีปใต้!”
“ยังมีอีก…”
ผ่านไปครู่หนึ่งเหล่าหญิงสาวทั้งหมดในม้วนภาพถูกระบุตัวจนครบ พวกนางคือหญิงสาวที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จัก พวกนางยังถูกดูแลอย่างดีและเป็นหญิงสาวที่ถูกพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ปกป้องเอาไว้
แต่จากนั้นพวกนางทั้งหมดได้มารวมตัวกันในมิติม้วนภาพ
“เสี่ยวซุย!”
หลงจื้อชิงกัดฟันแน่นดวงตามีแต่ความเกลียดชังอันลึกซึ้ง
สถานการณ์ในตอนนี้ไม่ต้องการคำอธิบายอีกแล้วเขารู้แล้วว่าทำไมหญิงสาวเหล่านี้ถึงมาอยู่ในม้วนภาพ!
หญิงสาวเหล่านี้ไม่ถูกขู่ก็ต้องพยายามที่จะเอาใจเสี่ยวซุยเพื่ออะไรบางอย่างนั่นทำให้พวกนางกลายมาเป็นของสะสมของเสี่ยวซุย! นี่คือความผิดร้ายแรงของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์!
ไม่มีผู้เฒ่าคนใดได้รับอนุญาตให้แตะต้องเหล่าหนุ่มสาว!คนที่ฝ่าฝืนล้วนถูกประหารอย่างไม่มีข้อยกเว้น!
หลายพันปีก่อนมีบางคนพยายามจะทำเรื่องเช่นนี้ แต่ทุกคนก็ถูกประหารตายหมด ด้วยเหตุนี้เองผู้เฒ่าในรุ่นหลังจึงไม่กล้าจะก่อคดีอีก! แต่เสี่ยวซุยกับกล้าทำเรื่องเช่นนี้!
“พวกเจ้าออกมาได้แล้ว!”
หลงจื้อชิงตะโกนด้วยความโกรธเขาอัดพลังชีวิตลงในม้วนภาพเพื่อให้คนข้างในออกมา
หวางตงนำเหล่านักเต้นออกมาจากม้วนภาพพวกนางหน้าซีดเมื่อเห็นคนนับหมื่น ผู้เฒ่าอีกสี่คนที่ได้เข้ากระโจมน้อยก็หน้าซีดเช่นกัน!
ปั่ก
ผู้เฒ่าจมูกโตเข่าอ่อนจนล้มลงกับพื้นท่าทางแปลกๆของเขาทำให้หลงจื้อชิงหันไปมองทันที
เขาหรี่ตา
“ผู้เฒ่าหวังหลี่ท่านทำอะไร บอกข้ามา!”
เพราะผู้เฒ่าที่จู่ๆก็สนิทสนมกับเสี่ยวซุยนั้นต้องถูกสงสัยแน่นอนในคดีเสพนารี
ปั่ก
ปั่ก
ปั่ก
เสียงผู้เฒ่าอีกสามคนเข่าอ่อนล้มลงกับพื้นดังตามๆกันมาทั้งสี่คุกเข่าขณะที่เหงื่อไหลซึมจากหน้าผาก พวกเขาดูอึดอัดใจมาก
“หึหึพวกเจ้าทำอะไรลงไป?”
หลงจื้อชิงหัวเราะอย่างโกรธเกรี้ยว
ดูเหมือนว่าผู้เฒ่าจมูกโตจะมิใช่คนเดียวที่เกี่ยวข้องยังมีผู้เฒ่าอีกสามคนที่เกี่ยวข้องด้วย!
“ท่านเจ้าพันธมิตรโปรดไว้ชีวิตพวกข้า!พวกข้าถูกเสี่ยวซุยบังคับ!”
หนึ่งในผู้เฒ่าทั้งสี่อ้อนวอนเขาจรดหน้าผากลงกับพื้น
คงจะดีกว่าถ้าพวกเขาจะไม่โต้แย้งไปมากกว่านี้เพราะนั่นจะทำให้หลงจื้อชิงโกรธยิ่งขึ้น
เพราะทั้งห้างฝ่าฝืนกฎข้อเดียวกันพร้อมกันหลงจื้อชิงต้องโกรธถึงที่สุดเป็นธรรมดาอยู่แล้ว! แต่ที่เขาตกใจยิ่งกว่าก็คือผู้เฒ่าทั้งสี่มองหน้ากันไปมาและเริ่มอ้อนวอนอีกครั้ง!
“ท่านเจ้าพันธมิตรโปรดอภัยให้พวกเรายังมีอีกเรื่องที่พวกเราจะสารภาพ!”
ผู้เฒ่าจมูกโตชี้ไปยังม้วนภาพ
“นั่นคือกระโจมน้อยของเสี่ยวซุยวัตถุดิบที่ใช้สร้างมาจากวัตถุดิบกลางเรือ! ส่วนกลางที่แข็งแกร่งที่สุดถึงถูกทำลายได้ง่ายดายอย่างนั้น นั่นก็เพราะเสี่ยวซุยรื้อมันออกมาใช้!”
เขาพูดเสริม
“เราทนการยั่วยวนไม่ไหวเสี่ยวซุยยังกุมความลับของพวกข้าเอาไว้ ได้โปรดอภัยให้พวกเราด้วยเถอะท่านเจ้าพันธมิตร!”
อะไรนะ?ผู้คนรอบๆตะโกนอย่างโกรธแค้น…
“ไม่แปลกใจเลยที่เรือแตกในการโจมตีเดียว!”
“ส่วนกลางถูกคนรื้อเอาไปและคนที่ทำก็คือผู้เฒ่าของพวกเรา!”
“การล่มสลายของเรือรบทำให้สหายพวกเราล้มตายเราไม่มีบ้านให้กลับ และทั้งหมดก็เกิดจากเสี่ยวซุยที่อยากจะเสพนารีงั้นเรอะ?”
“ฆ่ามัน!”
“ฆ่ามัน!”
เสี่ยงคนนับหมื่นตะโกนอย่างโกรธแค้นพวกเขาแค้นจนอยากจะฉีกเสี่ยวซุยให้เป็นชิ้นๆ! เรือรบพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ถูกทำลายด้วยคนๆเดียว นั่นก็คือเสี่ยวซุย!
เอื้อก
หลงจื้อชิงโกรธจนกระอักเลือดออกมาเพราะทนรับอารมณ์อันพุ่งพล่านไม่ไหวเมื่อเขาได้ยินเรื่องสุดท้าย โลหิตได้พุ่งออกมาจนเต็มปาก
ดวงตาของเขาปิดลงเขาสลบอยู่ตรงนั้น! เขาไม่เคยคิดเลยว่าความพยายามตลอดหลายหมื่นปีของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์จะถูกทำลายด้วยคนๆเดียวที่โลภโมโทสัน+
“ท่านเจ้าพันธมิตร!ท่านสลบไปแล้ว!”
“ไม่นะ!”
คนรอบๆตกใจเมื่อหลงจื้อชิงสลบพวกเขาอ้าปากด้วยความตกใจและตะโกนร้อง พวกเขาแตกตื่น
ในตอนนั้นเสี่ยวซุยใช้จังหวัที่คนแตกตื่นหลบหนีและเริ่มออกบิน แต่บินได้ไม่นานเขาก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งบีบไหล่เอาไว้
เขาถูกมือคว้าเอาไว้!จากนั้นเขาก็ถูกขว้างไปตรงหน้าซือหยู!
เป็นมือของวู่เหิงที่กดไหล่ของเขาเบาๆวู่เหิงหัวเราะ
“หึหึไอ้ปรสิตขี้ขลาด! ยากนักที่คนคนเดียวจะมีพลังสร้างความวุ่ยวายกับคนนับหมื่นได้อย่างเจ้า”
ซือหยูรับร่างที่สลบของหลงจื้อชิงเอาไว้หลงจื้อชิงเป็นผู้นำ ไม่มีใครอื่นที่จะรับมือกับตอนนี้ขณะที่เขายังไม่ตื่น!
“ผู้เฒ่าซือหยูโปรดตัดสินใจแทนเจ้าพันธมิตรหลงด้วยเถอะข้ามั่นใจว่าท่านเจ้าพันธมิตรหลงจะต้องเห็นด้วยกับท่านแน่นอน!”
ผู้เฒ่าเฉินเป็นห่วงหลงจื้อชิงที่สลบในเวลาสำคัญ
ถ้าตอนนี้ไม่มีคนที่แข็งแกร่งพอมาจัดการพวกเขาก็คงจะต้องแยกย้ายทันที! แม้ผู้เฒ่าเฉินจะผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน เขาก็ไม่ได้รับความนับถือจากทุกคนในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ เช่นเดียวกับผู้เฒ่าคนอื่น
ดังนั้นคนๆเดียวที่ทำหน้าที่นี้ได้ก็คือซือหยูเพราะเขาคนเดียวสามารถสังหารกึ่งภูติที่มีแก้วสองเดียวได้ถึงห้าสิบคน เขาบังคับให้ภูติระดับหนึ่งฆ่าตัวตาย ทำให้ภูติระดับสองมาเป็นคนของตัวเอง และเขายังช่วยราชาโลกดับสูญได้อีก!
ซือหยูขมวดคิ้วเขาลังเลที่จะตัดสินใจ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางอื่นแล้ว
“เอาล่ะตอนที่ท่านหลงจื้อชิงสลบ ข้าจะตัดสินใจเรื่องในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์แทน แต่ข้าจะออกไปตอนที่ท่านหลงจื้อชิงตื่น…”
ซือหยูกล่าว
ทันทีที่เขาพูดเหล่าผู้คนที่ส่งเสียงเอะอะเงียบลงในทันที สายตาทุกคู่มองไปที่ซือหยูด้วยความเคารพ พวกเขานับถือซือหยูยิ่งกว่าหลงจื้อชิงเสียอีก
เด็กหนุ่มตรงหน้าพวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าภูติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเขายิ่งใหญ่ราวกับสัตว์ประหลาด แรงกดันที่เขาปล่อยออกมานั้นไม่ต่างกับภูเขาที่กดทับร่างกายของทุกคน! และตอนนี้เองก็เงียบเสียจนได้ยินเสียงหยดน้ำ!
ท่าทางเช่นนี้ทำให้ซือหยูแปลกใจเช่นกันยากที่เขาจะเชื่อว่าการที่เขาพูดครั้งเดียวจะทำให้เกิดการตอบสนองอันเป็นหนึ่งเดียวแบบนี้
“ตอนนี้ข้าจะจัดการกับทั้งห้าแทนเจ้าพันธมิตรหลง”
ซือหยูมองไปยังเสี่ยวซุยกับอีกสี่ผู้เฒ่า
เสี่ยวซุยใจหายแต่เขาก็มั่นใจอย่างแปลกๆเมื่อเผชิญหน้ากับซือหยู เขาเคยเผชิญหน้ากับซือหยูมาแล้วสองครั้ง ดูเหมือนว่าซือหยูจะกลัวเขาอยู่บ้าง
เสี่ยวซุยจะต่อฝีปากเพื่อให้มีชีวิตรอดเขาถอนหายใจแรง
“เจ้าหนูน้อยจนเหลืองเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจแทนเจ้าพันธมิตรหลง? ข้ารับใช้พันธมิตรผู้คุมสวรรค์มาอย่างเที่ยงธรรมถึงครึ่งชีวิต ถึงข้าจะไม่ได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ ข้าก็พยายามอย่างหนัก ข้าไม่ใช่คนที่คนนอกอย่างเจ้าจะมาชี้ชะตา!”
เขาพูดต่อ
“ถึงข้าจะทำผิดจริงข้าก็ไม่ได้ตั้งใจ มันก็ไม่ใช่หน้าที่ที่เจ้าจะต้องมาตัดสิน! ถ้าเจ้าพันธมิตรหลงไม่บอกว่าข้าผิด แล้วคนอย่างเจ้าจะมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินข้า?”
เสียงตะโกนของเขาทำให้คนรอบข้างโกรธแค้นยิ่งขึ้นถ้าหากทุกคนไม่รู้ความจริง บางคนที่ได้ยินเสียงตะโกนของเสี่ยวซุยก็อาจจะคิดว่าซือหยูกำลังทำร้ายผู้เฒ่าที่บริสุทธิ์จากความผิดเล็กน้อย
แต่ในความเป็นจริงเสี่ยวซุยได้กระทำความผิดที่สมควรต้องโทษทำลายร่างกายและวิญญาณ! แต่ตามที่เสี่ยวซุยพูด เขาพูดว่าเขากระทำโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ!
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรทุกคนก็มั่นใจว่าเสี่ยวซุยคงไม่รอดไปจากการเผชิญหน้าครั้งนี้ไม่ว่าฝีปากของเขาจะดีแค่ไหน เพราะทุกคนที่นี้อยากจะถลกหนังของเขาออกมาทั้งเป็นอยู่แล้ว ทุกคนอย่างจะกินเลือดเนื้อและดื่มโลหิตของเขา!
“เจ้าพูดถูกกับคนอย่างเจ้า ข้าคงไม่ทำให้มือตัวเองต้องเปื้อน”
แต่ซือหยูกลับปล่อยให้เขาออกไปอย่างคาดไม่ถึง
“ไปซะ”
เสี่ยวซุดดีใจยิ่งนักเขาคิดว่าซือหยูกลัวเขาจริงๆ! เสี่ยวซุยบินขึ้นฟ้าโดยไม่รอให้เสียเวลา
“ไอ้โจรเฒ่าเจ้าจะหนีไปไหน?”
บางคนที่ทนสิ่งที่เห็นไม่ได้พยายามจะหยุดเสี่ยวซุย
แต่ซือหยูก็ยกมือห้าม
“ปล่อยมันไป”
เมื่อซือหยูสั่งคนที่พูดนั้นรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลและหยุดลง คนรอบข้างงุนงง พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมถึงควรปล่อยคนที่ทำความผิดร้ายแรงออกไป
ซือหยูพยายามปกป้องเสี่ยวซุยงั้นรึ?หรือ…เขากลัวเสี่ยวซุยจริงๆ?
พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ซือหยูทำไม่มีใครเลยที่เห็นด้วย เพราะซือหยูไม่ใช่คนของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ เขาอาจจะไม่เข้าใจความเจ็บปวดจาการสูญเสียครอบครัวและมิตรสหายของพวกเขา
หลังจากนั้นมีหลายคนเริ่มหมดหวัง พวกเขาคิดหวังให้คนนอกสร้างพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ขึ้นมาใหม่ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหวังมากไป
“ส่วนพวกเจ้าสี่คน…”
ซือหยูเหลือบมองผู้เฒ่าทั้งสี่ที่คุกเข่าอยู่กับพื้น
ซือหยูพุ่งเข้าไปปราดเดียวเขาแตะหน้าผากทั้งสี่คน จกานั้นเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้น ทั้งสี่ล้มตัวนอนลงกับพื้นและตายไปเพราะหายใจไม่ออก!
“พวกเจ้าแต่ละคนมีข้อมูลสำคัญที่จะรักษาชีวิตผู้คนได้มากมายแต่พวกเจ้ากลับไม่กล้าบอกเพราะกลัวความผิดบาปที่ก่อเอาไว้! พวกเจ้าเสพสตรีและทำผิดกฎ โทษของพวกเจ้าคือความตาย!”
ซือหยูประกาศ
คำติดสินของซือหยูทำให้ทุกคนตกใจอีกครั้งตามที่ซือหยูเคยตัดสินครั้งที่แล้ว พวกเขาคิดว่าแม้คนที่อยู่เบื้องหลังอย่างเสี่ยวซุยยังถูกปล่อยตัว สี่คนนี้ก็คงจะรอดความผิดไปเหมือนกัน แต่ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาถูกประหารในพริบตาเดียว!
ซูม
จากนั้นวู่เหิงก็หายตัวไปร่างของเขาบินเหนือนภา ไม่นานเขาก็เข้าใกล้กับเสี่ยวซุย
“ทำอะไรของเจ้า?”
เสี่ยวซุยที่กำลังดีใจกลับใจเต้นแรง
วู่เหิงหัวเราะอย่างชั่วร้าย
“แน่ล่ะข้ารับคำสั่งของนายน้อยมาประหารเจ้า”
“อะไรนะ?เดี๋ยวก่อน เขาบอกว่าอย่าแตะต้องข้…”
ก่อนที่เสี่ยวซุยจะพูดจบหัวใจของเขาหยุดเต้นไปชั่วขณะ แม้ซือหยูจะพูดว่าเขาจะไม่ยอมทำให้มือตัวเองเปื้อน แต่เขาก็ไม่ได้พูดว่าคนอื่นจะลงมือไม่ได้!
จากนั้นเสียงอันเยือกเย็นของซือหยูได้ตามขึ้นมาถึงนภา
“สุดท้าย…เสี่ยวซุยเรื่องรื้อวัตถุดิบเรือ ทำให้เรือถูกทำลาย ทั้งยังกักขังสตรี เจ้าสมควรจะได้รับการทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณตามกฎ!”
วู่เหิงถอนหายใจ
“นายน้อยมิได้แตะต้องเจ้าเพราะไม่อยากจะให้มือมีมลทินนายน้อยไม่ยอมให้คนของพันธมิตรแตะต้องเจ้าเพราะนายน้อยไม่อยากให้พวกเขามือเปื้อนเลือดของเจ้า ฉะนั้นแล้ว เรื่องสกปรกก็ต้องทำโดยข้า…ถึงข้าจะขยะแขยงก็ตาม! เตรียมตัวซะ…การทำลายร่างและวิญญาณจะไม่ได้ฆ่าเจ้าอย่างรวดเร็ว เจ้าจะต้องเสียใจกับการกระทำโง่ๆของเจ้า…”
แกรก
วู่เหิงหยิบเอามีดขึ้นมาเขาพุ่งเข้าใส่เสี่ยวซุย เสี่ยวซุยกรีดร้องเมื่อวู่เหิงผ่านร่าง เศษชิ้นเนื้อของเขาถูกเฉือนของจากแขน โลหิตของเขาพุ่งออกมาในทุกทิศทาง
จากนั้นวู่เหิงก็พุ่งเข้าใส่อีกครั้งเขาเฉือนชิ้นเนื้อไปอีกชิ้น มันเกิดอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนท้องนภาเต็มไปด้วยหยาดโลหิต เสียงกรีดร้องดังออกมาไม่หยุด
วู่เหิงหยุดเมื่อร่างของเสี่ยวซุยเหลือแต่กระดูกและอวัยวะภายในเสี่ยวซุยหยุดหายใจในท้ายสุด
เหล่าผู้คนหนาวจนถึงกระดูกสันหลังนี่คือการลงโทษที่เหี้ยมโหดที่สุดในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ นั่นก็คือการทำลายร่างและวิญญาณ!
โทษทัณฑ์เช่นนี้เนื้อหนังจะถูกตัดออกขณะที่วิญญาณต้องทนรับความเจ็บปวด สุดท้ายทั้งร่างและวิญญาณจะถูกทำลายไปพร้อมกัน! ถ้าพูดให้ง่ายก็คือการชำแหละร่างกายนั่นเอง
เมื่อการลงโทษจบลงทุกคนหันไปมองซือหยูด้วยความนับถือยิ่งกว่าเดิม พวกเขาเคยคิดว่าซือหยูหวาดกลัวเสี่ยวซุยจริงๆ แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่ามันมิใช่อย่างนั้นเลย
ผู้เฒ่าทั้งสี่รวมถึงผู้เฒ่าจมูกโตมิได้ตายด้วยความเจ็บปวดแต่เสี่ยวซุยต้องเจ็บปวดขณะที่ชิ้นเนื้อถูกเฉือน! การลงโทษอันร้ายแรงของซือหยูแสดงให้เห็นว่าเขามิใช่คนที่มีเมตตา
ผู้เฒ่าเฉินหยุดนิ่งไปชั่วครู่เขามองดูซือหยูอย่างระวังตัวขึ้นไปอีก