The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 649-650
DND.649 – เพียงความตาย
“เจ้าคนเดียวน่ะรึ?”
เซี่ยหวู่หัวเราะเหยียดหยาม
“เจ้ากับข้าประลองกันหลายสิบครั้งมีสักกี่ครั้งที่เจ้ารับได้เกินสิบกระบวรท่า? ตอนนี้ข้ากำลังจะชนะพวกมัน แต่เจ้าก็พยายามจะปกป้องเจ้านายของเจ้า ไอ้เด็กนั่นมีพลังวิเศษอะไรถึงได้ควบคุมเจ้าจนต้องรับใช้ถวายตัวได้แบบนี้?”
วู่เหิงหัวเราะอย่างขมขื่นเพราะมันไม่มีเหตุผลที่เขาเต็มใจรับใช้ซือหยู ไม่มีใครคิดเต็มใจจะเป็นข้ารับใช้ของคนอื่น!
แต่เป็นเพราะผนึกที่ซือหยูตราไว้บนตัวเขานั้นแข็งแกร่งมากแม้ว่าเขาจะสะบั้นสายผนึกได้ชั่วคราวก็ไร้ผล นั่นก็เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ซือหยูจะยังคงใช้ผนึกได้ด้วยความคิดเดียว สายฟ้าในวิญญาณก็จะทำลายล้างวิญญาณของวู่เหิง!
“ไม่มีอะไรต้องพูดแล้วถ้าเจ้าอยากจะฆ่าพวกนั้น เจ้าก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”
วู่เหิงหายใจเข้าลึกและเริ่มเขียนอะไรบางอย่างที่กลางอากาศเงากระเรียนขาวงดงามปรากฏเหรือศีรษะของเขา ขนกระเรียนร่วงหล่นไม่หยุดเกิดเป็นภาพอันน่าจดจำ
เซี่ยหวู่สายตาเย็นชาเขาใช้ปลายเท้าแตะอากาศสร้างการระเบิด แรงระเบิดนั้นทำให้เขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว
“เจ้ามาก็ดีแล้ว…ขนวิหคโปรย”
วู่เหิงพูดเบาๆ
เขาดูเหมือนกระเรียนขาวที่อาศัยอยู่ณ สุดขอบโลก ขนสีขาวที่ร่วงโรยลงมาค่อยๆก่อตัวเป็นตาข่ายสีขาวขนาดใหญ่
ฟึ่บ!
เมื่อตาข่ายขาวเกิดขึ้นมันก็สะบัดอย่างแรงราวกับเจอการโจมตีอย่างหนัก จากนั้นคนที่สวมชุดเกราะสีแดงก็ปรากฏตัวอยู่ในตาข่าย
“ขนวิหคโปรย…นี่มันวิชาระดับตำนานที่ไม่สมบูรณ์!เจ้าบ่มเพาะขั้นต้นได้แล้วรึ? ซ่อนพลังเก่งนักนะ”
เซี่ยหวู่ตกใจที่พบว่าตัวเองติดอยู่ในตาข่าย
ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาต่อสู้กันคือหลายเดือนก่อนในตอนนั้นวู่เหิงไม่ได้เปิดเผยว่าเขาใช้วิชาแบบนี้ได้ พ อถึงตรงนี้ก็บอกได้เลยว่าเขาซุกซ่อนพลังของตัวเองได้ดีแค่ไหน
วู่เหิงยิ้ม
“ถ้าข้าทำอะไรไม่ได้ข้าจะกล้าสู้กับเจ้ารึ เจ็ดศักดิ์สิทธิ์?”
เขาหัวเราะอย่างมั่นใจและขยับมือทั้งสองเขาผนึกตาข่ายไว้แน่น ขนกระเรียนนับไม่ถ้วนซัดใส่ร่างเซี่ยหวู่ มันเชื่อมต่อกลายเป็นตรวนรัดเซี่ยหวู่เอาไว้
“เจ้าจะหัวเราะเร็วไปแล้ว”
เซี่ยหวู่หัวเราะอย่างเยือกเย็นหลังจากที่ตั้งตัวได้
เอ๋?วู่เหิงใจเต้นแรง
“จงเปิด!”
เซี่ยหวู่ตะโกนรูขุมขนในตัวเปิดกว้าง เลือดเหนียวสีแดงซึมออกมา
เลือดเหล่านั้นสัมผัสกับขนกระเรียนเสียงกัดกร่อนดังพร้อมกัน จากนั้นขนกระเรียนก็ได้กลายเป็นเถ้าถ่านและกระจายออกไป
“เลือดพิษรึ?”
วู่เหิงเพิ่งจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น
“เลือดพิษของเจ้าแข็งแกร่งกว่าเดิมเป็นเท่าตัว!ภูติระดับสี่คงแพ้เพราะเลือดของเจ้า!”
เลือดพิษบ่มเพาะโดยการหลอมรวมพิษเข้ากับโลหิตและนำลงสู่ร่างพิษนี้ร้ายแรงอย่างมากและยากที่จะหายาแก้พิษได้ ดังนั้นถ้าบาดเจ็บระหว่างต่อสู้ นั่นก็นับได้ว่าตายไปแล้ว
วิชาแบบนี้คือวิชาสังหารที่ทำให้เซี่ยหวู่มีชื่อเสียงแต่หลังจากที่เขาได้หอกเมฆาเลือดเขาก็มักจะไม่ใช้มัน แต่ดูจากตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เลือกบ่มเพาะเลือดพิษ เขายังควบคุมมันได้ดียิ่งกว่าเดิม!
เซี่ยหวู่หัวเราะ
“เจ้าไม่ใช่คนเดียวที่ซ่อนพลังเอาไว้หรอกรับไปซะ!”
เซี่ยหวู่พุ่งเข้าใส่วู่เหิงหลังจากที่เป็นอิสระจากกรงขนกระเรียนวู่เหิงไม่ทันระดับ เขา ทำได้แค่เรียกขนกระเรียนจำนวนมากมาไว้ที่ฝ่ามือ จากนั้นจึงปะทะกับเซี่ยหวู่
ปั้ง!
ความต่างของพลังเห็นได้อย่างชัดเจนวู่เหิงคำรามด้วยความเจ็บปวดและลอยไปข้างหลัง โลหิตไหลออกมาจากปาก
อั่ก!
วู่เหิงเจ็บปวดอย่างมากเขาหายใจหอบและดูฝ่ามือตัวเอง ขนกระเรียนได้กลายเป็นฝุ่นดำและสลายไป หน้ามือของเขายังกลายเป็นสีดำ มันมีจุดดำขนาดเท่าเล็บมือบนฝ่ามือของเขาด้วย และมันก็ค่อยๆแพร่กระจายไปทั้งมือ!
“พอเลือดพิษผ่านร่างเจ้าข้าก็ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว เจ้าคงอยู่ได้อีกไม่นาน ถ้าไม่อยากตายก็หลีกไปซะ ไม่งั้นยิ่งเจ้าใช้พลังมากเท่าไหร่ พิษก็จะยิ่งกระจายไปยังร่างเจ้าเร็วเท่านั้น
“เซี่ยหวู่ดึงมือกลับและมองไปยังทหารเงาทมิฬที่กำลังต่อสู้กับพันธมิตรผู้คุมสวรรค์”
“มดปลวกเอ๋ยตาพวกเจ้าแล้ว”
เซี่ยหวู่หัวเราะเขาพุ่งหายไปทางทัพของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์
ในตอนนั้นลั่วซวงกับผู้เฒ่าเฉินกำลังนำพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ไปล้อมทหารเงาทมิฬทั้งยี่สิบสามคน หลังจากที่พยายามอย่างมาก ผู้เฒ่าเฉินกับลั่วซวงล้อมพวกมันได้ทุกทิศทางแล้ว
ทหารเงาทมิฬคนหนึงถูกผู้เฒ่าเฉินกับลั่วซวงซัดพลังเข้าใส่และตายในทันทีแต่ก่อนตาย เขาโยนจี้ออกมา จี้นั้นระเบิดคร่าชีวิตหนุ่มสาวผู้มีพรสวรรค์ไปแปดคน หน่วยกวาดล้างคนหนึ่งก็บาดเจ็บเช่นกัน
ผู้เฒ่าเฉินกับลั่วซวงหายใจหอบเหงื่อเม็ดโตผุดออกจากหน้าผาก พวกเขาใช้พลังไปมากในการต่อสู้นี้แต่ก็ฆ่าได้เพียงแค่คนเดียวที่บาดเจ็บอยู่แล้ว พวกเขาต้องแลกกับแปดชีวิตและคนเจ็บอีกหนึ่ง
“สู้กับพวกมันยากจริงๆไม่ว่าจะเรื่องการบ่มเพาะ สมบัติ หรือการต่อสู้จริง พวกมันเหนือกว่าคนเฉินหลงมากนัก”
ผู้เฒ่าเฉินใจหายที่กองทัพตัวเองมีถึงหมื่นคนแต่ก็ต้องพยายามอย่างมากในการกำจัดคนยี่สิบคน
“ทุกคนฆ่าพวกมันต่อไป!”
ผู้เฒ่าเฉินตะโกนเสียงดังและเป็นผู้นำเคราและชุดคลุมที่ฉีกขาดพริ้วไหวตามแรงลม เมื่อได้เห็นผู้เฒ่าเฉินก็ทำให้คนอื่นๆมีแรงสู้ขึ้นมา
“ฆ่ามัน!”
เสียงคำรามจากความโกรธดังก้องนภาพวกเขาจู่โจมด้วยทุกกระบวนท่าที่มีร่วมกับผู้เฒ่าเฉินเพื่อทึ้งทำลายทหารเงาทมิฬ
แม้ว่าทหารเงาทมิฬจะกระหายเลือดและเป็นที่รู้จักในด้านความดุร้ายพวกเขาก็ตัวสั่นเมื่อต้องเจอกับศัตรูมากมาย ความหวาดกลัวที่หยั่งลึกปรากฏอยู่บนใบหน้า
ฟึ่บ!
แต่ในตอนนั้นก็มีเงาสีแดงปรากฏระหว่างสองฝ่าย
เซี่ยหวู่บินมือไพล่หลังมองผู้เฒ่าเฉินกับคนอื่นๆด้วยสายตาเหยียดหยามเขายิ้มอย่างเย็นชา
“ไม่ว่ามดจะมีกี่ตัวมันก็เป็นแค่มด พลังคือสิ่งชี้ชะตา และชะตาของพวกเจ้าก็ถูกลิขิตโดยข้า การขัดขืนล้วนไร้ความหมาย”
“ตายซะ!”
เซี่ยหวู่กรีดร้องเขาหันฝ่ามือออกมาและปล่อยพลังสีโลหิต
พลังนี้ดูอันตรายมากพลังยังมีกลิ่นคาวโลหิตอีกด้วย ฝ่ามือโลหิตโอบล้อมทุกคน ผู้เฒ่าเฉินใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นพลังของเขา
“ถอยเร็ว!”
มีคนหนึ่งรีบบินมาที่พวกเขาและตะโกนเสียงดังขนกระเรียนจำนวนมากลอยออกมาและก่อตัวเป็นตาข่ายขาว
เซี่ยหวู่หันไปมอง
“กล้าใช้พลังรึ?อยากตายนักสินะ”
คนที่เข้ามาคือวู่เหิง!ใบหน้าเขาเริ่มมีสีม่วง ดวงตานั้นแดงก่ำ พิษในร่างของเขาไปถึงจุดที่อันตรายแล้ว
“วู่เหิง”
ผู้เฒ่าเฉินตกใจเขาไม่คิดว่าวู่เหิงจะพ่ายแพ้รวดเร็วเช่นนี้ แต่เขาตกใจยิ่งกว่าเมื่อเห็นว่าวู่เหิงกำลังจะตาย แต่เขาก็เสี่ยงชีวิตช่วยพันธมิตรผู้คุมสวรรค์
วู่เหิงเพียงแค่ตะโกนเสียงดัง
“อย่าสู้หนีไปเร็ว พวกเจ้าสู้เซี่ยหวู่ไม่ได้!”
ก่อนจะพูดจบเขากระอักเลือดสีช้ำม่วงออกมาและหมดสติทันที ร่างของเขาร่วงลงสู่พื้นจากกลางอากาศ
“วู่เหิง”
ผู้เฒ่าเฉินตะโกนด้วยความตกใจแต่เขาก็มิอาจเข้าไปรับตัววู่เหิงไว้ได้เพราะพลังของเซี่ยหวู่
เซี่ยหวู่ส่ายหน้า
“น่าสนใจนักวู่เหิงทุ่มเทเช่นนี้เพราะถูกควบคุมงั้นรึ?”
เซี่ยหวู่เหลือบมองวู่เหิงที่ตกลงจากฟ้าแต่เขาก็ไม่ได้เวทนาอะไร
“เจ้าทรยศและเข้าร่วมกับศัตรูในตอนที่ทำสงครามตายไปอย่างนั้นก็ดีแล้ว ถ้าห้าศักดิ์สิทธิ์มาจัดการเจ้าเอง ชะตาของเจ้าก็แย่ยิ่งกว่าความตาย!”
แฉ่!
ฝ่ามือแดงเลือดใหญ่ปะทะกับตาข่ายขนกระเรียนขนกระเรียนกลายเป็นสีดำด้วยความรวดเร็วก่อนจะเน่าเปื่อยเป็นผง กลุ่มพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ใช้เวลานี้หลบหนี แต่ก็ยังมีอีกหลายร้อยคนในแนวหน้าที่หนีไม่ทันการ
ผู้เฒ่าเฉินลั่วซวง และคนอื่นๆคือหนึ่งในนั้น และพวกเขาก็ถูกฝ่ามือพิษล้อมเอาไว้ พวกเขาโศกเศร้าในใจและตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
พวกเขาหันไปมองซือหยูที่กำลังต่อสู้กับตะขาบเลือดเกล็ดมุกและไปมองวู่เหิงวที่สละชีวิตเพื่อพวกเขาพวกเขาจะไม่ถอย ความคิดที่จะต่อสู้ฉาบดวงตา พวกเขาตะโกนขึ้นพร้อมกัน
“ฆ่ามันให้หมด!”
พวกเขาไม่ต้องพูดคุยอะไรกันอีกแล้วพวกเขาเพียงแค่ต้องใช้กำปั้นของตตวเอง! คนหลายร้อยปล่อยพลังเพื่อต้านฝ่ามือพิษ พวกเขาบินไปยังเซี่ยหวู่ราวกับแมงเม่าที่บินเข้ากองไป
“ขยะอย่างพวกเจ้าจะทำอะไรได้”
ใบหน้าเย็นชาของเซี่ยหวู่มีทั้งความโกรธและตกใจ
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเหล่ามดปลวกถึงได้กล้าหาญนักความเด็ดเดี่ยวหนักแน่นทำให้เขาใจสั่น
“ตายซะเถอะ!”
เขาตะโกนฝ่ามือพิษระเบิดออก อากาศพิษได้แพร่กระจายไปทั่ว
ผู้เฒ่าเฉินกับคนอื่นๆที่พุ่งเข้าไปถูกไอพิษล้อมเอาไว้แต่นั่นก็ทำให้เลือดของพวกเขาเดือดพล่านยิ่งกว่าเดิม! ผู้เฒ่าเฉินจ้องมองเซี่ยหวู่อย่างโกรธเกรี้ยว
“ต่อให้คนแก่อยากข้าตายไปก็ยังมีคนอีกหลายล้านในเฉินหลงที่จะเดินตามรอยเท้าข้า!เจ้าฆ่าข้าก็ได้ แต่เจ้าฆ่าทุกคนในเฉินหลงไม่ได้หรอก!”
เขาสหัวเราะอย่างขมขื่นและตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
“มาเสี่ยงชีวิตกันเถอะ!สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพวกเราก็แค่ความตายเท่านั้น”
เขาพูดถูกมีเพียงแค่ความตายอยู่ตรงหน้าพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะเฉือนเนื้อเสี้ยวเดียวของศัตรูมาได้ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว ด้วยจิตใจตั้งมั่นเช่นนี้ คนผู้โกรธเกรี้ยวหลายร้อยพร้อมที่จะตายในสนามรบ!
“อย่างดีพวกเจ้าก็แค่ตายเท่านั้น!”
เซี่ยหวู่สีหน้าเย็นชาเขามองคนตรงหน้าที่ค่อยๆถูกกัดกร่อนตายไปต่อหน้าต่อตา
…
ยิ่งพวกเขาอ่อนแอเท่าใดพวกเขาก็ยิ่งตายเร็วขึ้นเท่านั้น พันธมิตรผู้คุมสวรรค์ตายไปอีกสิบคนในพริบตาเดียว พวกเขาหายลับไปจากโลก ไม่เหลือสิ่งใดนอกจากนาม
ร่างของผู้เฒ่าเฉินลั่วซวง และเหล่าหน่วยกวาดล้างล้วนต้องพิษ สิ่งที่รอคอยพวกเขาอยู่มีเพียงความตายเท่านั้น
DND.650 – กองทัพแห่งความแค้น
“ฮ่าๆๆๆข้าขอไปก่อนล่ะ!”
เสียงของคนที่พุ่งเข้าไปข้างหน้าตะโกนดังก้อง
เขามีแขนเสื้อซ้ายที่ว่างเปล่าดวงตาซ้ายปิดสนิทเหลือเพียงตาขวา เขาคือวีรบุรุษแขนเดียว นายน้อยแห่งเสาใต้!
ในการต่อสู้ครั้งใหญ่เขาได้เสียแขนข้างเดียวที่เหลือไป เขาถือกระบี่ในมือไม่ได้อีกแล้ว
แต่เขาก็ยังมีกระบี่คาบไว้ในปาก!กระบี่เล่มนี้มีทั้งเลือดของศัตรูและเลือดของเขาเอง!
เขาคาบกระบี่หัวเราะและพุ่งลงไปราวกับดาวตก เหมือนกับแสงที่สวรรค์หลงเหลือไว้ให้คนได้มอง เป็นแสงที่นำพามวลมนุษย์ออกจากความมืดมิด
ปั้ง
ร่างของเขาค่อยๆหายไปเริ่มจากขาทั้งสองข้าง จากนั้นจึงเป็นลำตัว เมื่อมาถึงหน้าเซี่ยหวู่ก็เหลือเพียงหัวและกระบี่ในปาก
“ตายซะไอ้สารเลว!”
หัวของเขาอยู่ห่างจากเซี่ยหวู่เพียงสามศอก
จากระยะสามศอกดวงตาเพียงข้างเดียวยังคงเปล่งประกายอย่างน่ากลัว เขาราวกับอาวุธเทพที่ทะลวงหัวใจของเซี่ยหวู่และบดขยี้ดวงวิญญาณ
ภาพที่ได้เห็นทำให้เซี่ยหวู่ใจสั่นความเกลียดชังในลูกตาเดียวแสดงถึงความแค้นไร้ก้นบึ้ง ยากที่จะลืมมันไปได้
ปั่ก
และตอนนั้นหัวของเขาได้สลายไปเพราะการกัดของพิษ กระบี่ที่คาบในปากเองก็สลายไปเช่นกัน
นายน้อยแขนข้างเดียวราวกับดาวตกที่ถูกเผาจนหมดก่อนถึงพื้นโลกสิ่งที่เหลือมีเพียงเถ้าอันงดงามที่หายไปจากโลกตลอดกาล ในท้ายสุด กระบี่ของเขาไม่ได้สัมผัสขนสักเส้นเดียวของเซี่ยหวู่!
แต่จิตวิญญาณของเขามิอาจลืมเลือนมันได้ทะลวงหัวใจของเซี่ยหวู่
“นายน้อยเสาใต้!”
ผู้เฒ่าเฉินที่ยืนอยู่ข้างลั่วซวงตะโกน
ทั้งคู่ตามรอยดาวตกที่หลงเหลือบนนภาพวกเขาพุ่งเข้าใส่ศัตรูอันไร้เทียมทาน
ดวงวิญญาณของทุกคนสั่นระริกพวกเขาเริ่มน้ำตาไหล
อย่างที่ผู้เฒ่าเฉินพูดไว้…แม้ว่าเขาจะตาย…ก็ยังมีคนอีกมากมายของทวีปเฉินหลงเหลือรอดผู้เฒ่าเฉิน ลั่วซวง และคนในหน่วยกวาดล้างทุกคนล้วนมองเห็นความตายดั่งการกลับบ้าน
พวกเขาตั้งมั่นที่จะเป็นดาวตกแห่งความมืดในการเอาชนะศัตรูที่กล้าแกร่งพวกเขาได้แค่ฝากความหวังไว้กับคนรุ่นต่อไป
“ข้าก็อยู่ที่นี่!มีอะไรที่ข้าต้องกลัวกัน? อย่างมากข้าก็แค่ตายเท่านั้น!”
เสียงตะโกนดังมาจากคนหนึ่งในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ที่ถอยไปก่อนหน้านี้เขารีบพุ่งเข้ามาตามผู้เฒ่าเฉิน
“ข้าก็ด้วย!ชีวิตเป็นดั่งกระดานหมาก ข้าจะอยู่เยี่ยงคนธรรมดาไร้ความกล้าหาญได้ยังไง? ให้ข้าสู้จนหยดสุดท้ายด้วยเถอะ! ฮ่าๆๆๆ…”
มีอีกคนตะโกนขึ้นมา
“ให้ข้าสนุกด้วยเซ่ในที่สุดข้าก็ได้รู้จุดหมายของชีวิต! มันไม่ใช่ชีวิตเพื่อตัวข้า แต่เพื่อปกป้องคนที่ข้ารัก แต่ช้าเหลือเกินที่ข้าไม่รู้มาก่อนหน้านี้ เพราะพวกท่านทั้งสองจากไปแล้ว! ให้ข้าส่งของขวัญการปกป้องกับคนรุ่นต่อไป! ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าจะไปหาท่านแล้ว!”
มีอีกคนตะโกนขึ้นมา
“ฮ่าๆๆๆไปด้วยกันเถอะ ต่อให้ตาย เลือดข้าก็จะต้องท่วมมิดหัวมันจนตายไปด้วย!”
เสียงอีกคนตะโกนอย่างห้าวหาญ
“ไปเลย!ให้เลือดพวกเราเสริมกำลังแม่น้ำเฉินหลง ให้ชีวิตพวกเราเป็นความหวังใหม่ของเฉินหลง!”
อีกคนหนึ่งเข้ามาร่วมด้วยเช่นกัน
“ฆ่ามัน!”
เสียงตะโกนไม่รู้จบดังก้องจากกองทัพ
ทั้งหมื่นคนที่ถอยออกไปราวกับถูกต้มโลหิตจนเดือดพล่านพวกเขาพร้อมจะพุ่งเข้าใส่ศัตรูไร้เทียมทาน พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยพลังที่แข็งแกร่ง แม้แต่พลังพิษก็สลายไปด้วยพลังของคนมหาศาล!
ไม่ว่าฝ่ามือพิษของเซี่ยหวู่จะร้ายแรงแค่ไหนมันก็มิอาจเหนือกว่าคนหมื่นคนได้ และมันยังดับจิตอาฆาตของแต่ละคนไม่ได้อีกด้วย
เซี่ยหวู่ก้าวไปข้างหลังแม้จะก้าวเดียว มันก็แสดงให้เห็นว่าเขากำลังตื่นตระหนก
เขาไม่เคยเห็นจิตตั้งมั่นของมนุษย์ที่น่ากลัวเท่านี้มาก่อนพวกมันเป็นแค่ฝูงมด แต่ก็ทำให้เขาหวาดกลัวได้ ทั้งหมื่นคนยังรวมพลังจนเกิดเป็นแรงกดดันที่เขาไม่อาจก้าวข้าม
เซี่ยหวู่รู้สึกอับอายเมื่อใจเย็นลงเขามิอาจเชื่อว่าตัวเองจะหวาดกลัวกับกลุ่มมดปลวกเหล่านี้!
“พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”
เขาตะโกนเสียงหลงบอกได้เลยว่าเขากระสับกระส่ายแค่ไหน
เขาซัดฝ่ามือออกไปอีกสิบครั้งแต่ละครั้งครอบคลุมผู้คนมากกว่าพันคน ดังนั้นสิบฝ่ามือจึงสังหารจนได้ทั้งหมื่น
เหล่าทหารเงาทมิฬที่อยู่ด้านหลังก็สัมผัสได้ถึงพลังอันตระการตาที่เหมือนกับดาวตกลูกยักษ์คนทั้งหมื่นคนทำให้พวกเขาใจสั่นจากก้นบึ้งของหัวใจ
พวกเขาแปลกใจเช่นกันที่เจ็ดศักดิ์สิทธิ์ผู้ชั่วร้ายไร้จิตใจอยู่เสมอกลับตื่นตระหนกขึ้นมาได้!คนทั้งหมื่นคนนี้มิได้สนใจชีวิตของตัวเอง พวกเขาสาบานจะฆ่าเซี่ยหวู่ไม่ว่าจะต้องแลกกับสิ่งใด! พวกเขาไม่สนใจฝ่ามือทั้งสิบที่ฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมด!
“ย๊ากกก!”
เสียงตะโกนเบาๆดังแทรกขึ้นมา
กิเลนชมพูพุ่งเข้าใส่วู่เหิงที่หมดสติกิเลนที่สะบัดปีกดูน่ารักอย่างมาก
กิเลนน้อยใช้พลังทั้งหมดอ้าปากกว้างสายลมรุนแรงพัดพาพลังพิษจากฝ่ามือทั้งสิบเข้าไปในปากกิเลนน้อย
พริบตาเดียวแสงสีม่วงบนอากาศได้หายไปเหลือท้องนภาสดใสสีครามดังเดิม พิษทั้งหมดถูกดูดไปแล้ว!
เอิ๊ก…
กิเลนน้อยเรอออกมาราวกับคนที่อิ่มอาหารมันแบกวู่เหิงไปข้างผู้เฒ่าเฉิน หลังจากที่ไปถึงผู้เฒ่าเฉินมันก็คุกเข่าบนไหล่ผู้เฒ่าเฉินและกัดฟันใส่เซี่ยหวู่ มันดูโกรธมาก
ทุกคนตกตะลึงและพูดไม่ออกแม้แต่เซี่ยหวู่ก็ตกใจ
เลือดพิษทั้งหมดถูกกิเลนน้อยดูดกลืนไปหมดแล้วรึ?
ที่มันทำลงไปก็ดีแล้วแต่มันกล้ากระโดดไปมาอย่างเบิกบานใจตอนนี้ได้ยังไงกัน?
“ว้าวสัตว์วิญญาณระดับสูง ข้า มองข้ามไปจริงๆ! ข้าจะต้องได้มันมาครอง!”
เซี่ยหวู่เรียกสติคืนมาและหมายตากิเลนน้อยเขาหายตัวพุ่งไปจับกิเลน!
“ปกป้องมัน!”
ผู้เฒ่าเฉินสัมผัสได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะเร็วไปกว่าภูติระดับสามก่อนที่พวกเขาจะได้ขยับตัว เซี่ยหวู่ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาหัวเราะอย่างดุร้ายและยื่นมือไปหากิเลนน้อย
ปั้ง
มีเสียงแปลกๆดังออกมามีวัตถุทรงกลมสีครามและสีอำพันตกมาจากฟ้า มันพุ่งตรงมาที่ศีรษะของเซี่ยหวู่
เซี่ยหวู่ตกใจเขามองมันและหัวเราะ
“นั่นมันการลอบโจมตีอะไร?”
วัตถุทรงกลมที่ตกลงมามิได้มีพลังชีวิตเสียงตอนตกก็ดูธรรมดาเช่นกัน ราวกับว่ามันบังเอิญหล่นมาจากฟ้าเฉยๆ
“หายไปซะ!”
เซี่ยหวู่โบกมือพัดมันออกไปแต่สายลมรุนแรงก็ไม่ทำให้วัตถุทรงกลมทั้งสองขยับแม้แต่นิดเดียว
เอ๋?เซี่ยหวู่เพิ่งรู้ตัวว่ามีบางอย่างแปลกๆ ถึงสายลมที่เขาสร้างจะธรรมดา แต่มันก็มีพลังมหาศาล แม้แต่สมบัติวิญญาณก็ต้องเปลี่ยนทิศทางเมื่อเจอกับลมแรงเช่นนี้
แต่วัตถุทรงกลมนี้กลับไม่สั่นไหวแม้แต่น้อยมันยังตกลงมาไม่หยุด
“ออกไปนะ!”
เซี่ยหวู่เคร่งเครียดชั้นพลังโลหิตก่อร่างในมือ เขาตบวัตถุทรงกลมไปหนึ่งครั้ง
นอกจากฝ่ามือเขาจะทำอะไรมันไม่ได้พิษในมือยังกลายเป็นฝุ่นผง ใบหน้าเซี่ยหวู่แสดงความกลัวออกมาเมื่อมือได้สัมผัสกับมัน
“อ๊าก!!”
เสียงระเบิดดังลั่นเขาร้องด้วยความเจ็บปวด มือทั้งสองข้างของเซี่ยหวู่ระเบิดออกและกลายเป็นฝักบัวโลหิต
นี่คือผลจากการที่มือถูกบดขยี้โดยพลังมหาศาล!ทุกคนเงียบจนลืมหายใจ พวกเขาสงสัย…
สิ่งของใดกันที่ทำให้มือของภูติระดับสามระเบิดได้?
แต่มันก็ยังไม่จบเมื่อมือของเขาระเบิด วัตถุทรงกลมนั้นไม่ได้เคลื่อนไหวช้าลงแม้แต่น้อย มันยังจมลงมาข้างล่างราวกับบดขยี้มด
มันกดดันเซี่ยหวู่ด้วยความเร็วสูงเขาจมลงไปในดิน
ตู้ม
แผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อมันตกถึงพื้นทุกคนบนพื้นรู้สึกว่าผืนธรณีปั่นป่วนอยู่ที่ใต้เท้า มีบางคนล้มลงไป
ส่วนคนที่ลอยอยู่ก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงพวกเขาได้ยินเสียงพื้นดินบดขยี้กันไม่หยุด พวกเขาถูกดันออกไปหลายลี้!
ฝุ่นควันได้ลอยขึ้นมาราวกับดอกเห็ดยักษ์ทุกคนเงียบกริบ…
นั่นมันของสิ่งใดกัน?ของที่ดูธรรมดาอย่างนั้นจะทำให้เกิดเรื่องน่ากลัวแบบนี้ได้รึ?
ผู้คนสับสนและตกตะลึงฝุ่นควันเริ่มจางไป สิ่งที่เห็นทำให้พวกเขาใจเต้นแรงกว่าเดิม
พวกเขาเห็นพื้นที่เหมือนกับถูกซัดโดยพลังที่ไม่ทราบที่มามันกลายเป็นหลุมดำมืดที่ลึกลงไป!
ที่กลางหลุมมีรอยแยกแปดรอยในคนละทิศทางจากเขตกลางมันแบ่งเขตกลางเป็นสองส่วน
นี่คือผลลัพธ์จากการที่วัตถุทรงกลมชิ้นเดียวหล่นมาจากฟ้า!แม้ว่ากลุ่มภูติจะร่วมมือกันก็มิอาจสร้างความเสียหายเช่นนี้ได้! ทุกคนสงสัยอีกครั้ง…
สิ่งนี้คืออะไรกัน?
“ข้ามาช้าไป”
เสียงถอนหายใจเบาๆดังมาจากเบื้องบน
หูกิเลนน้อยกระตุกเมือ่ได้ยินเสียงมันยืนขึ้นในทันทีและกระโดดไปที่ไหล่ของชายหนุ่มผมสีเงิน มันหนุนหัวกับลำคอของชายหนุ่มคนนั้นด้วยความรัก
“ท่านเจ้าพันธมิตร!”
เหล่าผู้คนตะโกนเสียงดังความนับถือต่อซือหยูพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่มีคำอธิบายใดจะสื่อถึงสิ่งนี้ได้อีก
พวกเขามองดูชายหนุ่มผู้น่าเกรงขามพวกเขาไม่รู้สึกแม้แต่ความริษยา นั่นก็เพราะพลังของซือหยูอยู่ในระดับเทพในใจของพวกเขา
ผู้เฒ่าเฉินตกใจกับการที่ซือหยูฆ่าเซี่ยหวู่ได้อย่างง่ายดายเขาตกใจยิ่งกว่าที่ว่าตะขาบเลือดเกล็ดมุกที่ซือหยูต่อสู้อยู่ได้หายตัวไปแล้ว
“ท่านเจ้าพันธมิตรไอ้สัตว์ประหลาดนั่นหายไปไหน?”
ผู้เฒ่าเฉินถามด้วยความสงสัย
แต่ทันใดนั้นเองเขาก็พบว่ามีสายโลหิตหยดลงมาจากแขนเสื้อของซือหยูไม่หยุดมันไหลลงมาถึงข้อมือ
ผู้เฒ่าเฉินตกใจและรีบถาม
“ท่านเจ้าพันธมิตรบาดเจ็บงั้นรึ?”
ซือหยูไม่ตอบอะไรสีหน้าเขาดูหม่นหมอง เขามองไปยังท้องนภา เนตรวิญญาณของเขากำลังพยายามมองหาอะไรบางอย่าง
ทุกคนในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์สนใจแต่กับการต่อสู้พวกเขาจึงไม่ได้สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับซือหยูและตะขาบเลือดเกล็ดมุก สัตว์ประหลาดนั่นแข็งแกร่งโดยแท้จริง มันมีวิชาเนตรที่ยอดเยี่ยมจนม่านเกราะของเกราะราชาศิลานิรันดร์ต้านไม่อยู่!
แต่แขนของซือหยูก็ไม่ได้บาดเจ็บเพราะตะขาบเขาบาดเจ็บเพราะพลังลึกลับ!
มีคลื่นพลังแข็งแกร่งที่ตกมาจากฟ้าและชิงเอาตัวตะขาบเลือดเกล็ดมุกไปแต่ก่อนจะไป มันยังพยายามฆ่าซือหยู
ซือหยูรับพลังนั้นได้ทันท่วงทีโดยใช้กายามังกรลำดับห้าธาตุ ไม้หกทิศ และเกราะราชาศิลานิรันดร์ มือของเขาถูกเฉือน นั่นเป็นที่มาของบาดแผล
แม้จะมีการคุ้มกันจากสมบัติหลายชิ้นและกายามังกรเขาก็ยังบาดเจ็บ ตั้งแต่ต้นจนจบ ซือหยูไม่เห็นศัตรูอย่างชัดเจนเลย สิ่งเดียวที่มั่นใจก็คือศัตรูมาจากเบื้องบน!
ซือหยูมองบาดแผลที่แขนและใจหายเล็กน้อย
“ท่านเจ้าพันธมิตร…”
ผู้เฒ่าเฉินเห็นบางอย่างที่แปลกไปเขารู้ว่าคนที่ทำร้ายเจ้าพันธมิตรจะต้องแข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน
ซือหยูใจเย็นและโบกมือ
“ข้าไม่เป็นไรตรวจสอบความสูญเสียของพวกเราก่อนเถอะ”
จากนั้นเขาจึงสั่งเสียงดัง
“ช่วยคนที่บาดเจ็บและฝังคนที่ตาย!”
ซือหยูเห็นภาพตอนที่นายน้อยแขนเดียวได้กลายเป็นฝุ่นผงแต่เขาก็มิอาจช่วยได้ทัน เขาทำได้แค่ให้กิเลนน้อยมาช่วย
สิ่งที่เกิดขึ้นประทับลงในวิญญาณของซือหยูเช่นเดียวกับทุกคนหลังจากที่สั่งการ ซือหยูมองไปยังทหารเงาทมิฬที่เหลือยี่สิบสองคน
เมื่อได้เห็นแววตาของซือหยูทั้งหมดก้าวไปข้างหลังด้วยความกลัว พวกเขาทำให้ฝั่งซือหยูเสียหายมากมายนัก
“เดี๋ยวก่อน!พวกข้ายอมแพ้!”
เหล่าทหารเงาทมิฬไม่คิดจะสู้ต่อพวกเขายอมแพ้ในทันที
“ใครกันที่ยอมรับการยอมแพ้ของเจ้า?”
ซือหยูถามกลับไปแววตาของเขาเย็นชายิ่งกว่าเดิม
เขาอัดอากาศด้วยมือขวาไม่นานมันก็ถูกอัดจนเป็นลูกกลมสีดำ
มันคือลูกพลังที่เกิดจากแรงกดดันพลังมหาศาลพลังทำลายล้างอัดอยู่ในมือของซือหยู
“ตั้งแต่โบราณคนที่ยอมแพ้จะไม่ถูกฆ่า มันเป็นเช่นนี้เสม…”
หนึ่งในทหารเงาทมิฬพูด
ใบหน้าของทหารเงาทมิฬที่เหลือขาวซีดพวกเขารู้สึกถึงพลังมหาศาลจากฝ่ามือของซือหยู
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบซือหยูก็แทรกขึ้นมา
“ตั้งแต่โบราณรึ?แล้วตอนที่พวกเจ้าบุกรุก คนที่ผ่านมาไม่เคยยอมแพ้เลยรึ? พวกเจ้าคิดถึงเรื่องธรรมเนียมโบราณเหล่านี้หรือไม่?”
ทหารเงาทมิฬหน้าซีดยิ่งกว่าเดิมพวกเขาไม่คิดว่าวันหนึ่งพวกเขาจะกลายมาเป็นผู้ร้ายของการล้างสังหาร!
“มิใช่ว่าคนจากเฉินหลงมีความเมตตาและใจดีหรอกรึ?ฆ่าพวกข้าไปแล้วไม่ละอายใจบ้างรึ?”
ทหารเงาทมิฬคนหนึ่งพยายามพูดเอาตัวรอด
แต่ซือหยูก็หัวเราะอยู่นาน
“ใครบอกเจ้าว่าพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ของพวกเรามีเมตตา?เจ้าดูคนในกองทัพ ดูแววตาทุกคน พวกเจ้าเห็นสิ่งใด?”
เมื่อเหล่าทหารเงาทมิฬเหลือบมองพวกเขามิได้เห็นดวงตาที่มีเมตตาหรือความใจดีแม้แต่น้อย ดวงตาเหล่านั้นมีแต่ความชิงชังและความอาฆาต
พวกเขาคือกองทัพแห่งความแค้น!