The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 991 - ร่างหุ่นเชิด
กู้ไทซูคือศัตรูแข็งแกร่งที่ปรากฏตัวในกระโจมเทพสวรรค์และดินแดนเฉินหลงในอดีต แค่ร่างเงาของเขาก็มีพลังมหาศาลจนซือหยูต้องแหงนหน้ามอง
ซือหยูเคยประมือกับเขามาสองครั้งครั้งแรกนั้นได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเพราะมีฮงหลวนเข้ามายุ่ง ครั้งที่สอง ฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์ของซือหยูถูกผนึกจนเขาตาบอดสนิท เขาเพิ่งจะฟื้นคืนดวงตากลับมาเมื่อไม่นานนี้
ทั้งสองพบเจอกันมาเป็นเวลาหลายปีและตอนนี้ทั้งสองก็ได้เจอกันอีกครั้ง
เทียบกับร่างเงาทั้งสองกู้ไทซูตัวจริงมิได้ตระการตานัก เขายืนนิ่งราวกับภูเขาลูกยักษ์ และไม่มีใครรู้พลังมหาศาลอันน่าสะพรึงกลัวในร่างกายเขา เขาคือชายที่ทำให้ทุกคนผงะหลังตั้งแต่มองครั้งแรก
ซือหยูมองกลับกู้ไทซูเองก็มองเขาราวกับจะมองทะลวงไปใต้หน้ากาก เมื่อตาประสานตา สายฟ้าที่มองไม่เห็นได้เข้าปะทะกัน
“เราเจอกันอีกแล้ว!”
กู้ไทซูพูดด้วยสายตาเยือกเย็นที่เปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร
เขามองทะลุหน้ากากสีเงินไปไม่ได้แต่สัญชาตญาณบ่งบอกว่าคนตรงหน้าคือซือหยูอย่างไม่ต้องสงสัย เขาคือชายหนุ่มที่เกิดในดินแดนไร้อารยธรรมและเป็นผู้มาเยือนจากแดนเฉินหลง ผู้ที่ทำลายร่างเงาของเขาไป
ซือหยูหายใจเบาๆ เขาพูดช้า ๆ
“ใช่เจอกันอีกแล้ว”
ตาประสานตาคนอื่นที่เห็นคิดว่าพวกเขาเป็นสหายเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน แต่แท้จริงแล้ว พวกเขาคือศัตรูชั่วชีวิตที่จะต้องตายกันไปข้างหนึ่ง
แต่ไม่ว่าซือหยูหรือกู้ไทซูก็มิอาจเปิดเผยตัวตนของกันและกันได้
กู้ไทซูรู้ว่าซือหยูคือบุรุษวิถีอสูรที่ราชาเขตกลางต้องการตัวและซือหยูเองก็รู้ว่ากู้ไทซูมีความสัมพันธ์ซับซ้อนกับราชาเขตกลาง
ด้วยความกลัวในกันและกันนี้เองที่ทำให้พวกเขายังสุขุมเยือกเย็นอยู่ได้
ลู่จือยี่เดินเข้าใกล้
“พี่ไทซูรู้จักซือหยูเซี่ยนด้วยหรือ?”
นางถามด้วยความแปลกใจแม้จะไม่เห็นใบหน้าใต้หน้ากาก ลู่จือยี่ก็บอกได้ว่าเขาคือซือหยูเซี่ยนเพราะจำเสียงได้
“ซือหยูเซี่ยนรึ?”
กู้ไทซูยิ้มเยาะ
“ข้าจำได้แล้วเจ้ามีผู้หญิงสองคน นามคนหนึ่งมีคำว่า ‘หยู’ ส่วนอีกคนคือ ‘เซี่ยน’ ”
ร่างเงาของกู้ไทซูสามารถส่งความทรงจำจากทวีปเฉินหลงกลับมาได้เขาจะไม่รู้หรือว่านางทั้งสองคือผู้หญิงที่สำคัญที่สุดของซือหยู?
ลู่จือยี่เบิกตากว้างเมื่อมองซือหยูเซี่ยนความรู้สึกของนางเริ่มปั่นป่วนอีกครั้ง นางคิดถึงชายหนุ่มในความทรงจำคนหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ยากที่นางจะปิดบังความรู้สึกได้เมื่อเห็นดวงตาใต้หน้ากาก มันคือดวงตาที่เหมือนกับซือหยู นางรู้สึกได้ว่าซือหยูกับซือหยูเซี่ยนจะต้องมีความสัมพันธ์กันในทางใดทางหนึ่ง แต่เมื่อกู้ไทซูผู้เป็นคู่หมั้นยังอยู่ที่นี่ นางก็มิอาจเอ่ยออกมาได้
นางรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อสัมผัสได้ว่าทั้งสองมีความบาดหมางต่อกันนางพูดเบา ๆ
“พี่ไทซูไปดูบาดแผลของลี่เอ๋อก่อนดีกว่า”
เมื่อนางพูดกู้ไทซูถึงได้ละสายตาจากซือหยู
“นางก็แค่มีบาดแผลที่บาดนอกนางไม่ตายหรอก”
เขาพูด
หลังจากส่งเหมยลี่ให้ลู่จือยี่กู้ไทซูหันไปมองสัตว์ประหลาดยักษ์ในหมอกหนา
“แตะต้องคนของข้าโดยไม่ขออนุญาตจากข้าข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใครหรือเป็นอะไรชะตาเจ้าถูกตัดสินแล้ว!”
คำพูดของเขาไม่ต่างกับราชาของที่นี่
“หึหึกู้ไทซู ยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งงานชุมนุมเฟิงหยุนของดินแดนพรสวรรค์ ข้าอยากจะประลองกับเจ้ามานานแล้ว”
สัตว์ประหลาดยักษ์พูดภาษามนุษย์ออกมาเสียงของมันดังกระหึ่มราวกับสายฟ้าสะเทือน
เมฆหมอกเคลื่อนคล้อยพลังอสูรเนรมิตรเอ่อล้น วงแสงอำพันที่กู้ไทซูหลบได้มุ่งหน้ามาที่เขาอีกครั้ง
“เจ้ายังไม่เข้าใจข้า…”
กู้ไทซูกล่าวอีกครั้งเขาเดินไปข้างหน้าและยื่นมือทั้งสอง เขาจับพลังทั้งสองที่พุ่งตรงเข้ามาอย่างง่ายดาย
คนที่เห็นต่างตกตะลึงกู้ไทซูรับพลังวงแสงอำพันไว้ในมือได้! พลังวงแสงนี้มีพลังของอสูรเนรมิตรอยู่ การป้องกันของกงซุนหวูซื่อระดับจ้าวเทวะขั้นสูงสุดมากมายมิอาจป้องกันได้ แต่ตอนนี้ วงแสงทั้งสองนี้ถูกกู้ไทซูจับเอาไว้ด้วยมือเปล่า
“อะไรกัน?”
สัตว์ประหลาดยักษ์อุทานด้วยความตกใจ
กู้ไทซูสีหน้าไม่แยแสเขาผสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน
เป๊าะ! ไอลีนโนเวล
เสียงดังคล้ายเปลือกไข่ถูกทุบกระจายวงแสงอำพันแหลกสลายไม่มีชิ้นดี
กงซุนหวูซื่อตากระตุกเมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนางตัวแข็งทื่อและพูดผ่านโทรจิตกับซือหยู
“พี่หยูเซี่ยนกู้ไทซูตัวจริงน่าจะมีพลังเกินจ้าวเทวะแล้ว ต่อให้ยังไม่ทะลวงเป็นอสูรเนรมิตร คนที่เพิ่งจะเป็นอสูรเนรมิตรก็สู้เขาไม่ได้…”
นางพูด
ซือหยูไม่สงสัยในคำพูดของนางแม้แต่น้อยกู้ไทซูมีความแข็งแกร่งอย่างไม่มีเหตุผลใดอธิบายได้ ซือหยูคงต้องแหงนหน้ามองในยามที่เขาอยู่เฉินหลง แต่ในตอนนี้…
กู้ไทซูทำลายวงแสงอำพันไปอย่างง่ายดายเขาก้าวไปข้างหน้า บึงโคลนใต้เท้าเดือดด้วยแรงกดดันราวกับหม้อน้ำมันร้อน
สัตว์ประหลาดยักษ์เงียบไปขณะหนึ่งเมื่อสัมผัสพลังมหาศาลของศัตรูแต่มันก็หัวเราะโดยไม่กระวนกระวาย
“ฮ่าๆๆๆๆกู้ไทซู เจ้านี่มันสมชื่อ! กระบวนท่าข้าสืบทอดมาจากอสูรเนรมิตรที่แข็งแกร่ง ทุกท่าอยู่ระดับใกล้เคียงอสูรเนรมิตร แต่มันก็ยังเอาชนะเจ้าไม่ได้! เจ้าถือเป็นยอดฝีมือหายาก คนที่เทียบเจ้าได้ในจิวโจวคงจะนับได้ด้วยมือเดียว”
สัตว์ประหลาดยักษ์พูดต่อ
“ขังพรสวรรค์แบบนี้ไว้ในทวีปนี้ช่างเสียของนักถ้าเจ้ายินดี ข้าแนะนำดินแดนที่ยิ่งใหญ่กว่า ที่ที่เหมาะกับพรสวรรค์เจ้าได้ เจ้าจะว่าอย่างไร?” ซือหยูตาลุกวาวตัวตนที่แท้จริงของสัตว์ประหลาดยักษ์นั้นไม่มีใครรู้ และมันก็น่าจะไม่ได้มาจากสำนักทั้งสิบหก
ในโลกอันกว้างใหญ่นี้กองกำลังที่สามารถบ่มเพาะคนอย่างกู้ไทซูได้นั้นมีอยู่น้อยมาก ถ้าหากสัตว์ประหลาดยักษ์กล้าพูดหยาบคายเช่นนี้ มันก็น่าจะต้องมาจากสถานที่ที่มีความทรงพลังอย่างมาก
“ไม่มีทาง!”
กู้ไทซูตอบ
“ข้าคือกู้ไทซูข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร!”
ดวงตาของเขาเยือกเย็นดั่งน้ำแข็งเขาบินไปข้างหน้า แรงโน้มถ่วงทำอะไรไม่ได้ แขนขวาของเขาง้างออกกำลังจะซัด
เมื่อรู้ว่าพูดไปก็ไร้ความหมายสัตว์ประหลาดยักษ์พูดอย่างเย็นชา
“วิหคที่ดีย่อมเลือกต้นไม้ให้พักพิงได้เองข้าคิดว่าเจ้าฉลาด แต่เจ้าก็แค่คนโง่เขลาอีกคน”
สัตว์ประหลาดยักษ์ง้างมือขวาของมันซัดกลับไปเสียงระเบิดดังเท่าสายฟ้าปะทุออกมาเต็มกำลัง
หมอกหนาในระยะหมื่นศอกสลายไปจากคลื่นพายุที่พัดพาแสงสว่างส่องประกายอีกครั้ง แรงปะทะเมื่อครู่ทำให้ม่านพลังของพื้นที่ลับแตกสลายจนหมอกถูกพัดออกไป
“แดนลับถูกทำลาย!”
ลู่จือยี่ตกใจ
ขีดจำกัดในการรับพลังของพื้นที่ลับคือพลังขอบเขตจ้าวเทวะและมันจะเสียหายได้จากพลังของอสูรเนรมิตรเท่านั้น
กู้ไทซูดวงตาเย็นชาเขาย้อนไปหลายศอก สัตว์ประหลาดยักษ์เองก็ถอยไปหลายศอกเช่นกัน สัตว์ประหลาดนั้นแข็งแกร่งเท่ากู้ไทซู!
และที่น่าตกใจที่สุดก็คือรูปลักษณ์จริงของสัตว์ประหลาดยักษ์เมื่อหมอกสลายมันคือหุ่นเชิดสีเงินที่สูงร้อยศอก ทั้งร่างของมันเปล่งแสงสีเงินสะท้อนจากโลหะ ใบหน้ามันดูไม่มีอะไร มีค่ายกลลึกลับซ่อนลึกในดวงตา พลังที่แข็งแกร่งจนน่าตกใจของมันถูกส่งผ่านมาจากค่ายกลเหล่านั้น
ซือหยูแตะแหวนมิติของเขาและมองหุ่นเชิดสีเงิน
“หุ่นเชิดรึ?ดี!”
กู้ไทซูโกรธแค้นเขารวบรวมพลังที่มือทั้งสองข้างและซัดมันตรงเข้าใส่หุ่นเชิดสีเงิน
“เจ้าประเมินตัวเองสูงไปแล้ว!”
หุ่นเชิดสีเงินแสยะยิ้มแสงสีเงินเปล่งประกายที่ฝ่ามือของมัน เกิดคลื่นพลังที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า คลื่นพลังนั้นพุ่งใส่กู้ไทซู
ตู้ม!ปั้ง! ปั้ง!
เสียงสายฟ้าระเบิดดังก้องไม่ขาดสาย
ทั้งพื้นที่ลับสั่นสะเทือนด้วยเสียงจากการต่อสู้ของทั้งสองเกิดความเสียหายจนหมอกหนาทั้งหมดสลายสิ้น “ข่ายสวรรค์สิบทิศ!”
กู้ไทซูตบดัชนีทั้งห้าลงพื้นราวกับหัตถ์สวรรค์มันเกิดพลังจากสวรรค์ที่เข้ากดดันสิ่งที่ไม่ยอมจำนน
หุ่นเชิดสีเงินไร้ความเกรงกลัว
“ขุนเขาไร้เขยื้อน!”
การต่อสู้เข้มข้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนมันไม่ต่างไปจากการต่อสู้ระหว่างอสูรเนรมิตรเลย