The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 145 นาราหนีไปแล้ว
บทที่ 145 นาราหนีไปแล้ว
เขาตกใจเป็นอย่างมาก จริงสิ เมื่อคืนเต้นรำกับณัจยา แต่ว่า เหมือนว่าจะไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น
หรือว่าจะโดนแบบไม่ได้ตั้งใจนะ?
เขารีบล้างออกอย่างรังเกียจ
เขาพลันนึกได้ว่านาราร้องไห้ ร้องไห้อย่างหนักใต้ร่างของเขา เธอต้องมองเห็นรอยลิปสติกนี้แน่
สมควรตายจริงๆ
นัยน์ตาฉายแววกร้าว
คณพศใช้น้ำล้างรอยลิปสติกนั่นอย่างบ้าคลั่ง ใบหน้าแสดงความรังเกียจอย่างชัดเจน
นอกจากนารา ใครก็ไม่มีสิทธิ์ทิ้งรอยใดๆบนตัวเขาทั้งนั้น
ณัจยา ผมใจดีกับคุณเกินไปใช่ไหม ถึงกล้าแตะต้องเขาถึงขั้นนี้
รีบกำจัดรอยลิปสติกนั่น คณพศสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย รีบร้อนลงตึกไป เดินไปรอบคฤหาสน์ก็ไม่เจอนารา
เขาเริ่มร้อนใจ เดินไปพร้อมตะโกนเรียก “ลุงบีม ลุงบีมครับ?”
ลุงบีมเดินเข้ามาอย่างนอบน้อม “คุณคณพศมีอะไรให้รับใช้ครับ”
“เมื่อคืนผมกลับมายังไงครับ? อีกอย่าง ลุงเห็นนาราไหมครับ”
ลุงบีมส่ายหัว “เมื่อคืน? ผมไม่ทราบจริงๆครับ แต่ก่อนที่ผมจะหลับคุณก็ยังไม่กลับมา และผมก็ไม่เจอคุณนาราเลย ยังนึกว่าพวกคุณอยู่ร่วมงานเลี้ยงจนดึก ตอนเช้าเลยยังไม่มีใครตื่น”
คณพศรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป รีบเดินกลับขึ้นตึกไป
เขาเปิดตู้เสื้อผ้า เห็นว่ากระเป๋าเดินทางไม่เจอแล้ว อีกอย่าง ของใช้ที่นาราเอามาตอนย้ายเข้ามาก็ไม่อยู่แล้ว
ใจของคณพศสั่นไหว เขาค้นหาในห้องอีกรอบ พบว่าเอกสารส่วนตัวของนาราไม่อยู่แล้ว สิ่งของที่เขาให้เธอไม่หายไปเลยสักชิ้น บัตรเครดิตที่ให้ไว้ วางอ้างว้างอยู่ในลิ้นชัก….
เด็กคนนี้ ทิ้งเขาไปแล้ว? เธอไปไหนแล้ว?
เรื่องกระทันหันนี้ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหานารา กลับพบว่าเธอปิดเครื่อง
เขานึกถึงเมื่อคืนอยู่กับเด่นภูมิ จึงโทรหาเด่นภูมิทันที
อีกฝ่ายพึ่งกดรับเขาก็รีบโพล่งถามออกไป “เมื่อคืนพี่เป็นคนมาส่งผมใช่ไหม? นาราล่ะ?”
“น้องสะใภ้? ก็อยู่บ้านไง เธอช่วยฉันพยุงนายเข้าห้องนอนไป” เด่นภูมิมึนงง โดนมียทิ้งแล้วมาโทษเขา?
คณพศหลับตาลง “ผมหมายถึงวันนี้นาราไปไหน? อ้อ เมื่อคืนนาราโกรธหรอ?”
“โกรธ?ไม่หนิ” เด่นภูมิเอ่ยอย่างยั่วเย้า “เมื่อคืนถูกทำโทษให้คุกเข่าบนแป้นซักผ้าหรอ?”
“เลิกพูดเล่นได้แล้ว รีบบอกมาว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง นาราไม่อยู่แล้ว” สีหน้าของคณพศคร่ำเครียด
เมื่อคืนต้องเกิดเรื่องที่เขาไม่รู้อย่างแน่นอน แล้วถูกภรรยาที่อ่อนไหวของเขาเข้าใจผิด เขาจำได้เพียงว่าเธอร้องไห้ แต่เขาก็ยังนอนกับเธอ และยังรุนแรงกับเธออีก
สมควรตายจริง เมื่อคืนราวกับโดนวางยา
เด่นภูมิได้ยินคณพศบอกว่านาราหายไป รู้สึกว่านี่ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ จึงเล่าตามความเป็นจริง “เมื่อคืนนายบังคับให้ฉันดื่มด้วย พอเมาแล้วแทบจะเดินไม่ตรงทาง ยังไปเต้นรำกับณัจยาอีก ยัยณัจยานั่นยังพานายเข้าห้องวีไอพีไป ถอดเสื้อผ้านาย แต่โดนขัดขวางแล้ว สุดท้ายฉันก็ขับรถไปส่งนายที่บ้าน”
เด่นภูมิค่อยๆเรียบเรียง “ยังดีที่ฉันไปทัน ไม่งั้นแกคงเสียตัวให้ณัจยาแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นน้องสะใภ้คงไม่มีวันให้อภัยนาย พี่คนนี้ซื่อสัตย์มากใช่ไหม จริงสิ ฉันยังช่วยนายเช็ดรอบลิปสติกใต้คางด้วยนะ ไม่งั้นโดนน้องสะใภ้เห็นคงแย่”
คณพศฟังที่เด่นภูมิเล่า ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ณัจยา เธอกล้ามากจริงๆกล้าถอดเสื้อผ้าเขา
เช็ดรอยลิปสติกหรอ รอยที่อกเขา นาราต้องเห็นแล้วแน่ๆ เธอถึงได้ร้องไห้หนักขนาดนั้น
ตอนนี้หัวใจของเขาเหมือนถูกมือจากไหนบีบแน่น นาราเสียใจแน่ๆ
คณพศนิ่งเงียบ เด่นภูมิเรียกอยู่ค่อนวัน เขาค่อยมีสติกลับมา ในใจนั้นร้อนรน “พี่ช่วยดูให้ทีว่านาราออกจากเมืองธิตกลแล้วหรือยัง เธอหายไปแล้ว เธอต้องโกรธแล้วแน่ๆ”
“อะไร อะไรนะ ?”เด่นภูมิไม่กล้าเชื่อที่หูตัวเองได้ยิน “นายบอกว่าน้องสะใภ้หนีไปจากเมืองธิตกลหรอ? ทำไม? เมื่อคืนยังดีๆอยู่ไม่ใช่หรอ ณัจยาทำไม่สำเร็จนี่” เด่นภูมิมึนงง น้องสะใภ้หนีไปแล้วจริงหรอ
“ทางที่ดีพี่รีบไปเช็กดูดีกว่า อย่าทำตัวเหมือนผู้หญิงเอาแต่ซุบซิบนินทาอยู่ตรงนี้ นาราโกรธแล้วอย่างไม่ต้องคาดเดา” คณพศพูดจบรีบวางสาย
ฟังเสียงสัญญาณที่ถูกตัดไป เด่นภูมิยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ นี่เขาก่อเรื่องอะไรใครไว้หรือเปล่าเนี่ย
ผัวเมียเขาทะเลาะกัน ยังลากเขาเข้าไปเกี่ยวด้วย
แต่พอมาคิดถึงสีหน้าโกรธแค้นของคณพศ เขาทำได้เพียงยอมรับแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สั่งลูกน้องให้ไปตรวจสอบการหายไปของนารา
ไม่นาน ลูกน้องเขาจึงแจ้งกลับมา ครึ่งชั่วโมงที่แล้วมีไฟท์บินไปฝรั่งเศส นาราซื้อตั๋วรอบนั้นไปด้วย
เดิมทีนาราและไลลาซื้อตั๋วรอบหกโมงครึ่ง แต่เพราะหมอกหนาจึงเปลี่ยนเป็นสิบเอ็ดโมง ทั้งสองจึงจำต้องนั่งเครื่องรอบสิบเอ็ดโมงไปฝรั่งเศส ยังมีเวลาก่อนเครื่องออกอยู่ครึ่งชั่วโมง
เด่นภูมิได้ยินดังนั้นก็ตกใจ
เรื่องใหญ่จริงๆนี่นา
เด่นคุณไม่เข้าใจทำได้เพียงส่ายหัว ส่งข่าวไปให้คณพศ
“เพล้ง!”
เสียงกระจกแตกกระจายดังมาจากห้องคณพศ นั่นเพราะหลังจากเขารับโทรศัพท์จากเด่นภูมิ เขาโมโหโยนโทรศัพท์กระแทกกระจกแตกละเอียด
ลุงบีมรีบวิ่งขึ้นมาบนตึกอย่างตระหนก กังวัลยืนมองคนที่ทำลายข้าวของในห้อง เอ่ยถามออกไปอย่างระมัดระวัง “คุณคณพศเป็นอะไรหรือเปล่าครับ? มีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ”
คณพศเงยหน้าขึ้นอยากโกรธแค้น “มีครับ เก็บของในห้องนี้โยนทิ้งออกไปให้หมด” เพราะนารารังเกียจว่าเขาสกปรกแล้ว เพราะเมื่อคืนเขาสัมผัสณัจยา รอยลิปสติกนั่น กลับมาไม่ได้อาบน้ำ เตียงนี้ก็นอนอีกไม่ได้
“เอ่อ” ลุงบีมชะงักงัน
“เอ่อ อะไร ? เมื่อคืนผมเมา ในนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นเหล้า เอาไปโยนทิ้งให้หมด” พูดจบคณพศรีบร้อนลงดึกไป
ลุงบีมรู้นิสัยของคณพศดี เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง แน่นอนว่าไม่กล้าขัดคำสั่งเขา ให้ดีคือสั่งคนใช้มาเปลี่ยนของในห้องนี้ทั้งหมด
คณพศเดินลงตึก ขึ้นรถขับออกไปมุ่งหน้าไปสนามบิน
รถถูกขับออกไปอย่างรวดเร็ว คันเร่งเหยียบจนมิด ในใจสาปไล่หลัง
เขาไม่ควรดื่มเหล้าเยอะขนาดนั้น ยังไปเต้นรำกับณัจยา เปิดโอกาสให้ณัจยาแตะต้องตัวเอง แล้วเมียเขาก็โกรธจนจะหนีเขาไป
ไม่ว่าอย่างไร เขาจะต้องไปขวางนาราไว้ให้ได้ ไม่มีทางยอมให้เธอไปจากเขาแน่
รถเขาวิ่งขึ้นทางรถด่วน ในใจเขาร้อนรน อยากจะพาตัวเองวิ่งให้เร็วราวกับเครื่องบิน ช้าเกินไป ต้องรีบไปให้ทันนาราจะขึ้นเครื่อง
แต่หลายๆอย่างก็มักจะเป็นแบบนี้ รีบเร่งแต่ไปไม่ถึง
คณพศรีบร้อนอยากไปให้ถึงสนามบิน บนถนนรถกลับยิ่งติด
มองดูแถวยาวข้างหน้า เขาลงจากรถอย่างเร่งรีบ วิ่งไปข้างหน้าอย่างร้อนรน
เดินยังไม่ถึงสองก้าว รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าส่งอาหารวิ่งมา เขาโบกเรียกรถจอด ชี้ไปที่รถที่จอดติดอยู่บนถนนนั้นของตน “คุณลงมา ผมแลกสิ่งนี้กับคุณ”