The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 146 เขาทะเลาะกับพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างรุนแรง
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 146 เขาทะเลาะกับพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างรุนแรง
บทที่ 146 เขาทะเลาะกับพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างรุนแรง
พนักงานส่งอาหารมองคณพศราวกับคนบ้า “คุณบ้าไปแล้วหรอ นั่นรถยนต์นะ แค่ล้อเดียวก็สามารถซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้เป็นสิบคันแล้ว”
คณพศไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียง รีบโยนกุญแจรถให้เขาไป “สามคำ จะแลกไม่แลก ?” แววตาเกรี้ยวกราด พนักงานส่งอาหารตกใจรีบเอารถให้เขาไป
“แลกแลกแลก” รีบตอบรับออกไป ไม่พูดมากรีบเอารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้คณพศไป ชาติที่แล้วเขาคงช่วยเหลือทางช้างเผือกไว้ ชาตินี้ถึงได้เจอเรื่องราวกับฟ้าประทานแบบนี้
ในใจคณพศนั้นรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ก็แค่รถติด ผมขับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ไม่เชื่อว่าจะไปไม่ทัน
ผู้อำนวยการบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ มาขับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าส่งอาหารราวกับอาบไปด้วยลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ
โลกใบนี้ ไม่มีอะไรมีค่าไปกว่านาราอีกแล้ว เพื่อรักษาเธอไว้ เขายอมสละทุกอย่างเพื่อแลกมา
รถถูกเขาขับด้วยความเร็วสูงสุด ในที่สุดก็หลุดพ้นการจราจรแน่นขนัดนั้นได้
คณพศรู้สึกว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าช้าเกินไป ไม่เสียดายที่จะทิ้งมันไป เรียกแท็กซี่ “รีบไปส่งผมที่สนามบิน จ่ายสิบเท่าของราคาเลย”
“ครับครับ คุณนั่งให้ดีล่ะ” คนขับพยักหน้า เหยียบเต็มที่ พาคณพศลัดเลาะไปตามทางที่คึกคัก
คณพศออกจากบ้านล้วนใช้รถส่วนตัว พึ่งเคยนั่งแท็กซี่ครั้งแรกในชีวิต มีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์อยู่บ้าง แต่เขากลับทนได้
“รีบหน่อย เร็วอีกหน่อย เงินไม่ใช่ปัญหา” เขาบอกกับคนขับอีกครั้ง กลัวว่าเครื่องจะขึ้นก่อน
“ครับครับ” คนขับพยักหน้าตอบรับ หมุนพวงมาลัยในมืออย่างคล่องแคล่ว คงขาดแค่เก้าโค้งสิบแปดดริฟท์เท่านั้น
จากการเร่งรัดของคณพศ เขามาถึงสนามบินอย่างรวดเร็ว
ไม่รอให้รถจอดสนิท เขาควักเงินออกมา ไม่แม้แต่จะดูยื่นให้คนขับ “ค่ารถ ไม่ต้องทอน”
คนขับปรีดาวันนี้ออกมาเจอคนรวยแล้วสิ ได้เยอะกว่าทำงานหลายๆวันนั้นอีก กำไรจริงๆ
ขณะเดียวกันนาราและไลลาที่รอมาตลอดทั้งเช้ากำลังตรวจตั๋วเขาเกทไป อีกไม่นาน เครื่องก็จะขึ้นแล้ว
ตรวจตั๋วแล้ว นาราหันกลับไปมองสนามบินที่ขวักไขว่ ในใจนั้นหดหู่
เวลานี้คณพศคงจะตื่นแล้ว หึ บางทีเขาอาจรู้แล้วว่าเธอจะไป แบบนี้ก็ดี เขาจะได้สานต่อกับรักแรกของเขา
“นารา นิ่งอยู่ทำไม รีบไปเถอะ เครื่องจะขึ้นแล้ว” ไลลาผลักนาราที่กำลังเหม่อ รีบไปขึ้นเครื่อง
“อื้อ ดี” อดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางเดิน นาราเดินขึ้นเครื่องไปกับไลลา
“ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ เที่ยวบินพร้อมที่จะออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยของท่าน กรุณานั่งประจำที่และรัดเข็มขัดที่นั่งด้วยค่ะ”
เสียงประกาศของสายการบิน เครื่องกำลังจะขึ้นแล้ว ค่อยๆลอยตัวกลางอากาศ
นาราที่มีความเศร้าพิงหัวกับหน้าต่าง ความเศร้าในใจยากจะอธิบายออกมา
มองออกไปนอกหน้าต่าง เธอเห็นทิวทัศน์ข้างนอกค่อยๆเล็กลง เครื่องบินค่อยๆบินสูงกว่ายอดตึกสูง
“โยว นารา เธอดูคนนั้นสิ ใช่คณพศไหม?” ไลลาสะกิดนารา หันมองไปที่เกท
นารามองตามไป ตอนนี้เครื่องบินขึ้นสูง เห็นเป็นเพียงร่างคนเลือนรางยืนอยู่ตรงนั้น ดูไม่ออกว่าคนๆเป็นใคร
“คงไม่ใช่หรอก เขาไม่รู้ว่าฉันจะไปฝรั่งเศส” นาราส่ายหัวเบาๆ คณพศอยากให้เธอรีบหนีไปจะตาย จะมาที่สนามบินได้อย่างไร
“อ้อ ฉันคงดูผิดไป ยังคิดว่าคนที่ทะเลาะกับกลุ่มรักษาความปลอดภัยจะเป็นคณพศซะอีก” ไลลาเองก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ ผู้อำนวยการบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ขนาดนั้น คงไม่มาต่อยตีกับคนไปทั่วแบบนี้
“ทะเลาะวิวาทกันหรอ” นารานึกว่าฟังผิด “อยู่ดีดีจะมีคนมาก่อนความวุ่นวายที่สนามบินทำไมกัน”
ไลลายักไหล่ “ใครจะไปรู้ล่ะ ตอนจะขึ้นเครื่องมาเห็นคนมุงดูอยู่ตรงนั้น แล้วเห็นที่เกทว่ามีคนทะลาะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ เหมือนมีคนดันทุรังจะถลันเข้ามาตรงจุดตรวจตั๋ว ถูกเจ้าหน้าที่จับเอาไว้ แล้วทะเลาะกับเจ้าหน้าที่”
นาราไม่มีกะจิตกะใจยุ่งเรื่องพวกนี้ ไม่สนว่าเขาจะเป็นใครมาก่อเรื่องที่สนามบิน ยังไงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
เธอดึงผ้าปิดตา ปล่อยวางเรื่องในใจนอนหลับไป เมื่อคืนวุ่นวายจนเธอไม่ได้นอน ตอนนี้ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
เห็นนาราไม่ได้ใส่ใจ ไลลาก็หมดความสนใจ ใช่ ช่างเขาจะเป็นใคร ยังไงก็ไม่ได้เกี่ยวกับเธออยู่แล้ว
ยืนมือไปดึงผ้าปิดตา ไลลาหลับตาตามไป เมื่อคืนยังนอนไม่เต็มอิ่ม ง่วงจะตายอยู่แล้ว
ทั้งคู่เนื่องจากเหนื่อยจึงหลับตามกันไป
เครื่องค่อยๆบินสูงขึ้น เครื่องบินบินอยู่บนฟ้าอย่างโดดเดี่ยว….
ด้านในสนามบิน คนที่มีเรื่องกับเจ้าหน้าที่นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคณพศนั่นเอง
ตอนที่เขารีบเร่งเข้ามาในสนามบิน เมื่อมาถึงจุดตรวจตั๋ว เขาเหมือนเห็นเงาของนาราเดินเข้าเกทไป
“นารา”
สติที่ขาดผึงไปของคณพศวิ่งตามเข้าไป
แม้เขาจะสวมใส่ชุดราคาแพงแค่ไหน แต่ท่าทางตื่นตระหนกของเขาก็ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าเขาจะมาก่อความวุ่นวาย จึงได้จับเขาเอาไว้
คณพศที่ถูกกักตัวไว้เดือดขึ้นมาทันที ไม่เอ่ยอะไรออกมาพลันลงไม้ลงมือกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาต่อยไปสองสามหมัดเจ้าหน้าที่ต่างโซซัดโซเซไปทั่ว
พอหันกลับไปมองพบว่าเครื่องได้ลอยอยู่ในอากาศซะแล้ว ไม่ทันแล้ว นาราไปแล้วจริงๆ
สมควรตาย เขาจะให้เจ้าหน้าที่พวกนี้ไสหัวไปMBK ขัดขวางจริง
จนกระทั่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรู้ว่ามีคนทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่พิเศษจึงเข้ามา ค่อยรู้ว่าที่แท้เป็นคุณคณพศผู้อำนวยการบริษัทตระกูลปัญญาพนต์นี่เอง หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตกใจจนยื่นแทบไม่อยู่
“ท่านผู้อำนวยการ ขออภัยด้วยครับ คุณ….” หัวหน้าเจ้าหน้าที่เริ่มตัวสั่นงันงก
ใครก็รู้ว่าเขาเป็นใหญ่ในเมืองธิตกลนี้ ใครกล้าทำให้เขาไม่พอใจ
อีกทั้งสายการบินนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็คือคณพศ
พระเจ้า หม้อข้าวหม้อแกงของเขาใกล้จะแตกแล้ว
เพราะคณพศรีบร้อนจนเกินไป คาดไม่ถึงลืมให้คนถ่วงเวลาเครื่องบินไว้ ทว่าตัวเองไปตามคนเอง
ดังนั้นตอนที่เขาเห็นเครื่องที่กำลังบินออกไป ในใจแทบจะทำลายล้างโลกได้
ไม่เข้าใจว่าความฉลาดของเขาที่เคยมี พอเป็นเรื่องของนาราแล้ว ถึงได้เป็นลบไปได้
คณพศได้แต่ยืนมองเครื่องบินที่บินจากไป พึ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเขาลืมไปได้อย่างไร ควรสั่งให้คนที่นี่กักตัวเธอไว้ก่อน
ดวงตาเยือกเย็นมองไปที่เจ้าหน้าที่ “เครื่องบินไปฝรั่งเศสจะถึงกี่โมง?”
“เอ่อ….คือพรุ่งนี้ตอนตีสองครับ” เจ้าหน้าที่โค้งตัวตอบ “ท่านผู้อำนวยการมีอะไรให้รับใช้ครับ”
คิดถึงผู้หญิงคนนั้นที่ไปไม่ลา ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม