The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 152 นารา ฉันเลิกกับเธอไม่ได้
บทที่ 152 นารา ฉันเลิกกับเธอไม่ได้
ตอนที่คุณพศกำลังจะครอบครองนาราอย่างไร้สตินั้น ก็รู้สึกว่ามีอะไรที่ไม่ถูกต้อง
เขาทนต่อความเจ็บปวดของร่างกาย แล้วก็ก้มหน้ามองใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า
สายตาของนาราเหม่อลอยมองไปที่เพดาน ใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอเหมือนคนที่กำลังหมดหวังกับอนาคต และได้แต่เหม่อลอยมองดูเพดานอยู่แบบนั้น
หัวใจของคุณพศรู้สึกเหมือนโดนอะไรทิ่มแทง เขารู้สึกเจ็บปวดมาก
เขาค่อยๆยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้นารา
“นารา ฉันขอโทษ ถ้าเธอไม่อยาก ฉันก็จะไม่ทำ อย่าร้องไห้นะ…..” เขาพลิกตัว แล้วกอดผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ไว้ในอ้อมอก
เขาซบคางลงบนที่หัวของเธอ มือหนาลูบเพื่อปลอบเธอเบาๆ “นารา ขอโทษ เมื่อกี้ฉันไม่ควรจะทำแบบนั้นกับเธอเลย เพราะว่าเธอพูดว่าเลิก ฉันก็เลยควบคุมตัวเองไม่ได้…นารา พวกเราไม่เลิกกันโอเคมั้ย? เธอมีอะไรพูดกับฉันมาได้เลย ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง!”
คุณพศพูดติดขัด เขากอดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม ราวกับว่ากลัวว่าเธอจะหายไป
นารายังคงไม่มีเสียงตอบรับอะไรเหมือนเดิม เธอหลับไปแบบนั้น เพราะว่าพึ่งลงจากเครื่องมา เลยทั้งง่วงทั้งเหนื่อย
พอเห็นว่าผู้หญิงในอ้อมอกเริ่มหายใจสม่ำเสมอกันแล้ว คุณพศถึงยอมปล่อยมือ แล้วก็ก้มหน้ามองใบหน้าที่หลับใหลของนารา
ทั้งคืนนั้น คุณพศไม่ยอมหลับตาเลย ได้แต่มองผู้หญิงในอ้อมอกของตัวเองอยู่แบบนั้นจนฟ้าสว่าง
นารา ฉันจะไม่มีวันยอมให้เธอจากฉันไปตลอดกาล
พอฟ้าสว่างแล้ว คุณพศถึงยอมหลับ
เพราะว่าไม่ได้หลับมาทั้งคืน เขาจึงหลับสนิท แต่ว่านารากลับนอนเต็มอิ่มแล้ว
เธอลืมตาขึ้นมา เห็นใบหน้าหล่อเหลา และหนวดที่ขึ้นบางๆของเขา
เธอก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆยกแขนเขาออก แล้วก็ลุกจากเตียงอาบน้ำไปโรงเรียน
ตอนที่คุณพศตื่นมานั้น ก็เกือบจะสิบโมงแล้ว
พอเขาตื่นมาก็ลูบไปที่ด้านข้างด้วยความเคยชิน แต่ผ้าห่มเย็นๆทำให้เขาตื่นขึ้นมาทันที
เขารีบวิ่งลงมาจากชั้นบนทั้งๆที่ยังใส่ชุดนอน พอเห็นคนใช้ที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่ “นาราล่ะ?”
คนใช้ที่เห็นคุณพศที่ใส่ชุดนอนอยู่ก็รีบก้มหน้าลงทันที “คุณผู้หญิงไปโรงเรียนแล้วค่ะ!”
ผู้ชายคนนี้ถึงรู้สึกโล่งใจ เขาเดินกลับขึ้นไป แล้วก็เห็นกระเป๋าเดินทางที่นาราเอากลับมาเมื่อคืน
เขาเดินเข้าไปลากกระเป๋าเข้าไปที่ห้องนอน เปิดออก และเตรียมจะเอาเสื้อผ้าไปแขวนในตู้เสื้อผ้า
ตรงหน้าเขาคือถ้วยรางวัล นาราได้รับรางวัลที่สองของการประกวดวาดภาพ
เขาค่อยๆถือถ้วยรางวัลขึ้นมา แล้วก็วางไว้บนโต๊ะในห้องหนังสือ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและดีใจในเวลาเดียวกัน
เขารู้อยู่แล้วนาราคือทองคำ ขอแค่สนับสนุนให้ถูกทาง เธอก็จะสามารถเฉิดฉายออกมาได้จากที่มือสลัว
เขาเก็บของของเธอจนเสร็จเรียบร้อย ก็ไปอาบน้ำแล้วก็ไปทำงาน
นาราไปโรงเรียน เข้าเรียนคาบที่ยาวนานทั้งวันกับไลลา ในที่สุดก็ได้เวลาเลิกเรียน
เธอมองไปที่พระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน กำลังคิดว่ากลับบ้านไปก็ต้องเจอหน้าผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว
แต่ว่าวันนี้ไลลาต้องกลับไปหาพ่อกับแม่ของเธอ เพราะว่าแม่ของไลลาป่วย เธอจึงจำเป็นต้องกลับไปดูแลแม่
ก่อนที่เธอจะกลับเธอยื่นกุญแจมาให้ “นารา ถ้าเธอไม่อยากกลับไป เธอไปอยู่บ้านฉันก่อนก็ได้ วันนี้ฉันต้องกลับไปหาแม่ แม่ฉันป่วย”
นาราส่ายหัว “ช่างเถอะ เธอไปเถอะ ฉันจะกลับบ้าน” เรื่องที่ต้องเผชิญก็จำเป็นต้องเผชิญ เธอไม่มีเหตุผลให้ต้องหนี
พอไลลาบอกลาเสร็จก็จากไป นาราก็ค่อยๆเดินกลับบ้าน
พอเดินออกไปไม่กี่ก้าว เธอก็รู้สึกเหมือนมีคนตามเธอมาข้างหลัง พอเธอหันกลับไป ก็ไม่เจอใคร
เธอก็หันกลับมาและเดินต่อ เดินไปไม่กี่นาที ก็มีเสียงเรียกเธอ
“คุณนารา หยุดก่อน!”
เธอได้ยินคนเรียกชื่อเธอ ก็เลยเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นณัจยากำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ
เธอก็รู้สึกงงงวย ณัจยาเรียกเธอทำไมนะ?
ณัจยาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วก็ยิ้มให้เธออย่างมีมารยาท “คุณนารา ฉันขอแนะนำตัวเองก่อนนะ ฉันชื่อณัจยา” เธอยิ้มเหมือนฤดูใบไม้ผลิ ตอนที่เธอแนะนำว่าตัวเองคือณัจยานั้น
เธอรู้ดีว่านารารู้สึกอ่อนไหวกับชื่อนี้มาก แล้วเธอก็ต้องรู้ดีว่าเธอคือใคร
“คุณณัจยา มาหาฉันมีธุระอะไรหรอคะ?” นาราตอบกลับนิ่งๆ
“ตรงนั้นมีร้านกาแฟ เราไปนั่งกันซักแปปนึงได้มั้ย?” เธอเห็นสีหน้าไม่แยแสของนารา แต่ก็ไม่ได้สนใจ
“ไม่รบกวนเวลาเธอนานหรอก เชิญ” ณัจยายิ้มแล้วก็เดินนำ
นาราไม่ได้อยากจะไปเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นมั่นใจขนาดนั้น ถ้าเกิดว่านาราทำเรื่องขี้ขลาด เธอต้องหัวเราะเย้ยหยันแน่ๆ
เธอก็เลยเดินตามไป
ณ ร้านกาแฟ ผู้หญิงทั้งสองคนนั่งลง พนักงานก็ยกกาแฟมาเสิร์ฟ ณัจยายังคงยิ้มเหมือนเดิม “นารา ฉันมาหาเธอเพราะว่าอยากคุยเรื่องพศน่ะ ฉันว่าเธอต้องสนใจแน่เลย”
นาราขมวดคิ้วแน่น “ณัจยา ตอนนี้คุณพศคือสามีของฉัน และฉันก็ไม่รู้ว่าเธออยากจะพูดเรื่องอะไร และอีกอย่าง ตอนนี้ฉันยุ่งมาก และก็ยังมีข้อสอบอีกหลายอย่างให้กลับไปทำ เพราะว่าฉันยังเป็นนักเรียนอยู่” ถึงแม้ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณพศยังคงคลุมเครืออยู่ แต่ว่าเธอก็ไม่อยากจะเสียศักดิ์ศรี
“เธอนี่ช่างโชคดีจริงๆเลย แต่งงานแล้วยังได้เรียนหนังสืออีก” ณัจยาค่อยๆยกกาแฟขึ้นดื่ม ราวกับว่ากำลังนึกถึงเรื่องเก่าๆ และก็เหมือนจะพยายามแสดงให้นาราเห็น
หลังจากนั้นเธอก็เริ่มบรรยายสิ่งที่เธออยากจะพูด
“ตอนเก้าปีก่อน ฉันกับพศอยู่โรงเรียนเดียวกัน ตอนนั้นพวกเราต่างชอบพลอกัน….จนตอนที่ขาของเขาถูกทำร้าย ฉันกอดเขาแล้วร้องไห้จนเป็นลมไป สาบานว่าจะดูแลเขาตลอดชีวิต เมื่อก่อนเขายอมแพ้ตั้งหลายครั้ง แม้กระทั่งคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่ว่าฉันก็อยู่ข้างเขาในวันที่เขาเจ็บปวดและหมดหวัง หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปอยู่ที่เกาะฟ้า ฉันก็ตามไปอยู่กับเขา ตอนนั้นเองเขาถึงได้เริ่มมีความมั่นใจกลับมา เขาไปรักษาตัวที่ฝรั่งเศส แล้วก็ให้ฉันรอเขากลับมา”
“แต่ว่าพ่อแม่ของฉันให้ฉันไปอเมริกา เราคลาดกันไปเก้าปี ตอนนี้พอเรากลับมาเจอกันอีกครั้ง…เขาก็แต่งงานกับเธอไปแล้ว”
ณัจยาก้มหน้า แล้วน้ำตาก็ค่อยๆไหลออกมา เธอเงยหน้าใช้สายตาที่ดูน่าสงสารและเต็มไปด้วยน้ำตามองหน้านารา “นารา เธอช่วยให้ฉันกับพศได้สมหวังกันได้มั้ย? เขารู้ดีว่าเพราะว่าเขาแต่งงานกับเธอแล้ว ก็เลยไม่อยากทำร้ายเธอ แต่เธอก็รู้นิว่าพวกเธอแต่งงานกันเพราะอะไร ฉันพยายามเรียนอย่างหนักตอนที่อยู่ที่อเมริกา ก็เพื่อที่จะได้กลับมายืนอยู่ข้างเขาอีกครั้ง”
“นารา เธอยังทั้งสาวทั้งสวย เดี๋ยวก็มีผู้ชายหลายคนมาตกหลุมรัก เธอช่วยคืนพศให้ฉันได้มั้ย? หลายวันมานี้ที่เธอไปฝรั่งเศส แล้วพวกเราได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง เขาถึงได้รู้ว่าพวกเราได้พลาดอะไรไป….นารา ถือว่าฉันขอร้องเธอล่ะนะ เลิกกันคุณพศได้มั้ย? เธออยากได้เงินเท่าไหร่ พวกเราจะให้เธอหมดเลย………”
ณัจยาพูดไปร้องไห้ไป ดูน่าสงสารแบบไม่รู้จะพูดยังไง
นารามองหน้าณัจยาด้วยสายตาเย็นชา แล้วเธอก็คลี่ยิ้มออกมา แล้วก็มองหน้าณัจยา
“ณัจยา ฝีมือการแสดงของเธอนี่ยอดเยี่ยมจังเลยนะ ฉันขอชื่นชมเลย จากที่ฉันรู้มา เธอรังเกียจที่คุณพศเป็นคนพิการ เลยเชื่อฟังพ่อแม่แล้วไปอเมริกา แต่พอได้ยินว่าคุณพศได้กลายเป็นท่านประธานของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ก็เลยกลับมาหาเขาอย่างไม่ลังเล ร่วมมือกับพิมมี่เพื่อเล่นละครหลอกฉัน