The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 175 เด็กจะเสียชีวิต
บทที่ 175 เด็กจะเสียชีวิต
ปาอ้ายเอ่ยปากอย่างเป็นห่วง แล้ววางถ้วยซุปไว้บนโต๊ะและเรียกให้นาราเดินมา “ดูสิ ตอนนี้คุณยังจะเล่นโทรศัพท์อีกหรอคะ สิ่งนี้มันมีรังสีนะ ไม่ดีต่อคุณและลูกในครรภ์ด้วย มา รีบเอามาให้ป้า”
พอพูดจบป้าอ้ายก็รีบดึงโทรศัพท์ในมือของนารามา เตรียมจะวางไว้ที่โต๊ะ
ใครจะไปรู้ว่าโทรศัพท์ในมือของนาราไม่ได้ล็อค แถมเมื่อกี้เธอยังพึ่งกดวิดีโอที่พึ่งได้รับตรงหน้าจอ พอป้าอ้ายดึงไป มือก็ไปคลิกโดนปุ่มเพลย์บนหน้าจอเข้า
เสียงที่เร่าร้อนดึงออกมาจากโทรศัพท์ ป้าอ้ายที่เป็นคนแก่ ไม่จำเป็นต้องดูก็รู้ว่าเสียงนี่มันมาจากเหตุการณ์อะไร
เธอก็อายุเท่านี้แล้ว ทำไมถึงคิดไม่ได้ว่าไม่ควรจะไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น เธอรู้สึกเก้อเขินทำตัวไม่ถูก หน้าแดงแจ๋แล้วรีบเอาโทรศัพท์วางคืนให้นาราบนโต๊ะ แล้วก็รีบเดินออกไป “ถ้างั้น คุณผู้หญิงคะ ด้านล่างยังมีเรื่องให้ป้าทำเยอะแยะเลย ป้าไปก่อนนะ อย่าลืมทานซุปให้หมดนะคะ”
พอป้าอ้ายหนีออกไปจากห้อง อากาศในห้องก็โล่งขึ้นทันที
ข้อความเมื่อกี้ที่พิมมี่ส่งมา คนที่ร้องครวญครางนั้นคือใครกันนะ?
คุณพศกับณัจยางั้นหรอ?
ถ้าเกิดว่าเป็นพวกเขาจริงๆก็จะน่ารังเกียจเกินไปแล้ว พวกเขาจะทำอะไรก็ทำไป แต่ยังถ่ายวิดีโออย่างไร้ยางอายแล้วส่งมาให้เธออีกงั้นหรอ! หน้าด้าน!
นารารู้สึกเหมือนเลือดกำลังไหลออกมา
จะดูหรือไม่ดูดีนะ?
ถ้าดูแล้วฉันจะรู้สึกรังเกียจรึเปล่า?
แต่ว่า ถ้าเกิดว่าไม่ดูให้ชัดล่ะก็ ถ้าเกิดว่าพิมมี่เอาคลิปของคนอื่นมาทำร้ายเธอกันล่ะ?
บางทีคุณพศอาจจะไม่ได้ทำแบบนั้นกับณัจยาก็ได้?
ใช่มั้ย ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนั้นล่ะ?
เรื่องที่ยังไม่ได้เห็นกับตา จะด่วนตัดสินไปก่อนไม่ได้!
แต่ว่านาราก็รู้สึกทรมานอยู่ในใจ!
อยู่ดีๆเธอก็รู้สึกว่าชีวิตของเธอเหมือนกับเป็นเรื่องตลกสำหรับพวกเขา
ทำไมถึงต้องมายั่วยุเธออีก แค่นี้เธอก็หนีมาไกลมากพอแล้ว
นารากำมือแน่น หายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่เมื่อกี้ป้าอ้ายวางเอาไว้บนโต๊ะ
ก็เห็นชัดอยู่ว่าโต๊ะไม่ได้ไกลจากเธอแล้ว แต่เหมือนกับว่าเธอเดินยากลำบากไม่ถึงซักที
ที่จริงเสียงที่น่าคลื่นไส้เหล่านั้น ต้องการให้เธอได้ยินเพื่อทำร้ายเธอ เธอไม่อยากจะได้ยินมันเลยแม้แต่นิดเดียว
นาราก้าวไปข้างหน้าอย่างลังเล เธออยากจะเห็นสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ แต่ก็กลัวเหมือนกัน
เธอค่อยๆก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย ในที่สุด เธอก็เดินมาถึงหน้าจอที่กำลังเล่นวิดีโอนั้นไม่หยุด
เธอยื่นแขนบางๆออกไป หยิบโทรศัพท์ขึ้นมามือสั่น ความไม่รู้สึกสบายใจจุกอยู่เต็มอก แล้วก็ก้มลงหน้าจอนั้นอย่างกล้าๆกลัวๆ
ครั้งนี้ ในที่สุดก็เห็นชัดเจนแล้ว
วิดีโอนั่นชัดเจนมาก ผมเผ้ายุ่งเหยิง แผ่นหลังที่ไม่ค่อยชัดเจน แม้แต่ส่วนลับของพวกเขา ก็เห็นอย่างชัดเจน
ผู้ชายที่กำลังกระทำอย่างขันแข็งอยู่นั้น ก็คือคุณพศ
และผู้หญิงที่นอนอยู่ใต้เขา กลับไม่ใช่ณัจยา เป็นใบหน้าที่เธอคุ้นเคยที่สุด พิมมี่
ที่แท้ ก็ไม่ใช่คุณพศกับณัจยาที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังกัน แต่เป็นเขากับพิมมี่ต่างหาก
ฮ่าๆๆๆ สวรรค์ช่างเยาะเย้ยจริงๆ
ที่แท้ เธอก็ไม่ได้อยู่ในหัวใจของคุณพศเลยแม้แต่นิดเดียว
เขาปล่อยให้เธอท้องโย้อยู่ตรงนี้คนเดียว แล้วตัวเองก็ไปขลุกอยู่กับพิมมี่
ทำไมนาราถึงคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายที่รังเกียจพิมมี่ขนาดนั้น ถึงจะมาทำเรื่องแบบนั้นกับเธอได้
คลื่นไส้จริงๆ! เธอรู้สึกรังเกียจมาก!
นารากำหมัดแน่นอย่างแรง จนเล็บจิกลงไปที่เนื้อของเธอจนเลือดออก แต่ว่าเธอกลับไปรู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว
เหอะๆๆๆ…คุณพศ ใช้ได้เหมือนกันนิ!
ไม่นานมานี้ก็ไปสวีทหวานแหววกับณัจยา แถมตอนนี้ก็มาทำเรื่องบัดสีกับพิมมี่ ที่แท้เธออยู่ในฐานะอะไรกันแน่?
ถ้าเกิดว่าไม่รัก รังเกียจ แล้วทำไมถึงไม่ปล่อยเธอไป?
แถมยังให้เธอมาอยู่ภายในโลกที่สกปรกโสมมของพวกเขาอีก!
น้ำตาของนาราไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก เธอรู้สึกเหมือนว่าอากาศรอบๆตัวเธอหมดลงไปแล้ว
เธอพยายามหายใจเข้าลึกๆ แต่ก็พบว่า ตอนนี้เธอหายใจเข้ายังแทบจะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ความรู้สึกขาดอากาศหายใจค่อยๆแล่นเข้ามา นารารู้สึกเหมือนมีน้ำอะไรไหลออกมาจากช่วงล่างของเธอ
อย่างไรก็ตาม เธอไม่มีแรงแม้แต่จะก้มลงดูซะด้วยซ้ำ
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่ามันมืดไปหมด แล้วก็เป็นลมล้มลงไป
คนรับใช้ขึ้นมาเพื่อจะสำรวจว่าเธอดินซุปรึยัง ทันทีที่เห็นนาราเป็นลมอยู่ที่พื้น ก็ตกใจจนตะโกนออกมา
“ใครก็ได้เข้ามาที คุณผู้หญิงเป็นลมไปแล้ว!”
ป้าอ้ายและลุงบีมรีบวิ่งขึ้นมา พอเห็นนารานอนสลบอยู่ที่พื้น ก็อกสั่นขวัญหายไปหมด
“รีบโทรหาคุณผู้ชายเดี๋ยวนี้! นี่เราจะทำยังไงกันดี ต้องอีกเดือนนึงกว่าจะถึงกำหนดคลอดนะ” ป้าอ้ายตกใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา
นาราที่รู้สึกปวดท้องจนหายใจไม่ออก พอเธอได้ยินเสียงรถพยาบาล เธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอหลับตาลงแล้วสลบไป….
ตอนที่คุณพศรีบร้อนมาถึงโรงพยาบาลนั้น กษาปณ์ก็ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว พอเห็นผู้ชายที่รีบวิ่งเข้ามาด้วยความร้อนรน เขาก็เงยหน้าขึ้นทันที
“คุณปู่ นาราเป็นยังไงบ้าง? เธอเป็นอะไรไป? ลูกล่ะ?” คุณพศที่กำลังตรวจสอบชานเมืองอยู่นั้น ตอนที่เขารีบกลับมา ก็เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่นารามีอาการปวดท้องแล้ว
กษาปณ์มองหน้าคุณพศ “พศ ลูกนายตายเพราะคลอดก่อนกำหนด นายต้องทนให้ได้นะ”
พอพูดจบก็หันไปมองนอกหน้าต่างด้วยความรู้สึกผิด ปู่ขอโทษจริงๆ!
“ไม่! เป็นไปไม่ได้ คุณปู่อย่ามาล้อเล่นนะ!” คุณฑศถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“พศ มันคือเรื่องจริง ดูเหมือนว่าแกกับเด็กคนนี้จะไม่มีวาสนาต่อกัน ตอนนี้ลูกก็ไม่มีแล้ว พวกแกก็ไปกันต่อไม่ได้แล้ว ส่งเธอไปพักรักษาตัวที่อเมริกาเถอะ เรื่องนี้ห้ามให้ผู้ถือหุ้นในบริษัทตระกูลปัญญาพนต์รู้เด็ดขาด”
กษาปณ์ออกคำสั่งด้วยเสียงทุ้มต่ำ มันทำลายเส้นประสาทในสมองของคุณพศทั้งหมดไปแล้ว!
“ไม่! เป็นไปไม่ได้! นี่ไม่ใช่เรื่องจริง! ลูกไม่ได้ตาย เมื่อวานเขายังเตะผมอยู่เลย ฮืออออ….”
เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องผ่าตัด พวกหมอข้างในต่างพากันตกใจ
“ท่านประธาน คุณเข้ามาที่นี่ไม่ได้นะครับ พวกเรากำลังฆ่าเชื้อโรคให้คุณผู้หญิงอยู่”
“ออกไป!”
คุณพศวิ่งเข้าไปในห้องผ่าตัดเหมือนคนบ้า นารากำลังถูกเย็บแผลอยู่ ใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอราวกับใบไม้แห้งที่พัดตกลงมาตามสายลม….
“นารา! นารา!” คุณพศเขย่าหญิงสาวที่นอนไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียง
“ท่านประธาน ตอนนี้คุณผู้หญิงกำลังโดนวางยาสลบอยู่ เรากำลังฆ่าเชื้อให้เธอ เชิญคุณออกไปรอข้างนอกก่อนนะ…”
“ลูกล่ะ? หืม? ลูกอยู่ไหน?” คุณพศตัดบทคุณหมอ ถ้าเกิดว่าลูกไม่อยู่แล้ว นาราก็คงไม่อยากจะอยู่แล้วเหมือนกัน
เขารู้สึกได้เลยว่า ที่นาราทนมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เพื่อลูก!
“เด็ก…พอคลอดออกมาก็เสียแล้วครับ เพราะว่าคลอดก่อนกำหนด เด็กขาดออกซิเจนนานเกินไป ก็เลยช่วยชีวิตได้ไม่ทัน!” คุณหมอมองหน้าคุณพศอย่างรู้สึกผิด
“ทำไม? มันเป็นไปไม่ได้! ลูกฉันยังอยู่ดี! พวกแกทำงานประสาอะไรกัน!” คุณพศโมโหจนอยากจะฆ่าคน
แต่ว่าคำพูดของคุณหมอเหมือนรนหาที่ตาย“เพราะว่าคุณผู้หญิงอยู่ไกลโรงพยาบาลเกินไป แถมยังต้องคลอดก่อนกำหนด เพราะถูกกระตุ้นจิตใจอย่างแรง! ตอนที่ถูกส่งมาโรงพยาบาล เธอก็ไม่มีสติแล้วด้วยซ้ำ!”