The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 183: เขากลับไปนั่งวิลแชร์อีกครั้ง
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 183: เขากลับไปนั่งวิลแชร์อีกครั้ง
บทที่ 183: เขากลับไปนั่งวิลแชร์อีกครั้ง
หลังจากคณพศรู้ว่าธีย์ทำตัดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกแล้ว ด้วยความสัมพันธ์เดิมที่เคยมีกัน จึงยั้งมือในการไล่บี้บริษัทSXต่อไป
หลังจากนั้นสองวันมีข่าวณัจยาหายตัวไปหลุดออกมา
คณพศนั่งเหม่อลอยบนเก้าอี้ สีหน้าราบเรียบ มองไปทางมหาสมุทรสีฟ้าคราม ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
9 ปีที่แล้วเขาเคยถูกอาชัญวางแผนจนขาหักไปทั้งสองข้าง จากนั้นโดนณัจยาทอดทิ้งอีก แต่เขาผ่านมันมาได้หมด
ครั้งนี้เขาขาหักอีกครั้ง ภรรยายอดรักของตนก็หายไปอีกด้วย คิดว่าตัวเองน่าจะผ่านพ้นไปไม่ได้แล้วหละ…
ต่อให้จัดการคนที่ทำร้ายภรรยาแทนเธอ ก็เอาชีวิตเธอกลับมาไม่ได้
คณพศยังคงเหม่อยลอยไปยังผิวน้ำทะเลเหมือนเดิมทุกวัน
ลมทะเลพัดโชยโปรยมานอกหน้าต่าง คลื่นน้ำราวกับเสียงถอนหายใจอย่างท้อแท้ บอกเล่าความโกรธแค้นและคิดถึงอย่างไร้ขีดจำกัด
กษาปณ์พยายามให้คณพศลุกขึ้นหลายครั้ง บริษัทจะไม่มีวันที่จะขาดเจ้าของดูแล
แต่คณพศยังคงอยู่ในความอาลัยอาวรณ์ต่อนาราเหมือนเดิม
เขาไม่สนใจเรื่องใดๆ ภายในบริษัท มอบทุกอย่างให้เสกข์จัดการ
ตรัญและเด่นภูมิเองก็ดูแลเยอะขนาดนั้นไม่ได้
ในวันที่ตรัญกลับฝรั่งเศส กษาปณ์โมโหจนประกาศให้อาชัญรับหน้าที่ CEO ชั่วคราวของบริษัท
คณพศที่ได้ยินข่าวยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
อาชัญเดินอย่างภาคภูมิใจในบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ รองเท้าเงาดำ เสื้อผ้าเรียบร้อยคมเนี๊ยบ
สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความปติ รู้สึกอิ่มเอมใจอย่างยิ่ง
ในที่สุด ไอ้คณพศขาหักอีกแล้ว ส่วนเขาเองก็เพราะว่าคณพศไปพักฟื้นเลยได้รับช่วงต่อบริษัทตระกูลปัญญาพนต์อย่างสมเหตุสมผล รสชาติแห่งอำนาจช่างวิเศษจริงๆ
ต่อให้กษาปณ์บอกว่าดูแลชั่วคราว แต่เมื่อเขาได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้แล้วก็ไม่มีทางปล่อยให้หลุดมืออีก
แต่เสียดายที่คณพศแค่ขาหัก ไม่โดนชนตาย ถือว่าไม่เป็นดั่งใจเลยจริงๆ
เขากลัวว่าวันหนึ่งไอ้พิการนั่นจะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งแล้วแย่งตำแหน่งตัวเองไป
แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน หึ คณพศ แกกล้าดวลกันฉันงั้นหรือ! เก๋านักก็จะตกอยู่ในสภาพที่เมียตายแล้วตัวเองยังต้องมานั่งวิลแชร์แบบนี้แหละ
ฮ่าๆๆๆๆ อาชัญนี่แหละเป็น CEO ตัวจริงของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์!
อาชัญคิดอย่างสาแก่ใจ ผลักประตูห้อง CEO ออกแล้วเข้าไป
นี่เป็นออฟฟิศเดิมของคณพศ ข้างในตกแต่งอย่างสะอาดเรียบร้อย สว่างสบายตา
อาชัญเดินสำรวจในห้องแล้วพึมพำอยู่คนเดียว “คณพศ ไอ้โง่ รสนิยมแบบไหนกันวะ ห้อง CEO ชัดๆ แต่ไม่มีของตกแต่งเลยสักอย่าง น่าสมเพชจริงๆ!”
พูดจบ อาชัญโทรหาผู้ช่วยตัวเอง “ให้เวลาครึ่งวัน ตกแต่งออฟฟิศอย่างหรูหรา ถ้าทำไม่ได้ก็เก็บของกลับบ้านได้เลย”
ผู้ช่วยได้รับสายแล้วรีบตอบรับ ทำตามที่อาชัญสั่งออกไปซื้อของฟุ่มเฟือยไว้ตกแต่งห้อง CEO
คุยเสร็จแล้ว อาชัญรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ เขานั่งพิงอยู่บนเก้าอี้ CEO ตัวหรูอย่างเอ้อระเหย หลับตาผ่อนคลาย
สภาพแวดล้อมที่เงียบสงบเช่นนี้ ทำให้อาชัญนึกถึงพิมมี่ขึ้นมา เขาไม่ได้เจอเธอนานแล้ว
จริงๆ ครั้งนี้ก็เป็นเพราะเธอนั่นแหละถึงโคล่นคณพศลงได้ ที่ฆ่าทั้งนาราและลูกของหล่อน
ตอนนี้เขายืนอยู่ในตำแหน่ง CEO นี่แล้วทำไมเธอไม่มาเยี่ยมเขาหละ
เธอคงอยากประจบประแจงเขาจนใจจะขาดแล้ว เผลอๆ เลียรองเท้าหนังอีกด้วย ซึ่งนี่คือธาตุแท้ของผู้หญิงคนนั้น
คิดไปคิดมาเขาหยิบมือถือโทรหาพิมมี่ทันที เขาอยากให้เธอมาที่นี่เร็วที่สุด เพื่อเติมเต็มความภาคภูมิใจของเขา
“ตื้ด…ตื้ด…ตื้ด…”
ฝ่ายตรงข้ามรับสายเร็ววมาก อาชัญพูดด้วยน้ำเสียงหยิบหย่ง “พิมมี่ คุณรู้มั้ยว่าผมอยู่ไหน?”
ตอนแรกคิดว่าจะได้ยินเสียงคุ้นเคยของพิมมี่ แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับเป็นเสียงถามไถ่อย่างลนลานจากเขมินท์ “คุณอาชัญ? คุณอาชัญหรอคะ พิมมี่หายไปหลายวันแล้วค่ะ!”
“อะไรนะ?” รอยยิ้มอาชัญหายไปในพริบตา ถามกลับอย่างตั้งใจ “เกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆ เธอหายไปได้ไง?”
เขมินท์ที่อยู่ปลายสายสะอึกสะเอื้อนจนพูดไม่เป็นคำ คงจะร้องไห้มานานแล้ว “ฉัน ฉันไม่รู้เหมือนกัน ฉันเก็บมือถือพิมมี่ที่หน้าบ้าน นี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว เธอไม่ได้กลับบ้านเลย ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอไปไหนกันแน่ ฮือๆๆ”
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ โทรแจ้งตำรวจหรือยัง?” อาชัญถาม
“แจ้งแล้ว แต่ตำรวจบอกว่ากล้องวงจรปิดหน้าบ้านฉันพัง ส่วนกล้องที่ใกล้บ้านฉันบันทึกภาพพิมมี่ไว้ได้ แต่…ไม่รู้ว่าเธอเจอกับอะไรที่หน้าบ้านกันแน่ พิมมี่ ฮือ…. พิมมี่หายไปแบบไม่รู้สาเหตุเลย ….” เขมินท์ปล่อยโฮอย่างหนัก
เธอขอร้องอาชัญในสาย “คุณอาชัญคะ ได้โปรดช่วยพิมมี่เราไว้ด้วยนะคะ!”
ไม่ว่าอาชัญจะยังไงในใจก็ตาม เขาก็ยังชอบพิมมี่อยู่ดี เพราะเธอคือผู้หญิงคนแรกของเขา
ถึงแม้จะไม่ถึงระดับรักอย่างหัวปักหัวปำ เพราะว่าเขาไม่รู้จริงๆ ว่ารักคืออะไร
แต่เมื่อต้องมาเจอกับการหายตัวไปของพิมมี่ ก็ทำให้อาชัญทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
ในเมืองธิตกล ใครๆ ก็รู้ว่าพิมมี่เป็นผู้หญิงของอาชัญ ใครกันที่ใจกล้าลงมือกับพิมมี่ได้?
อาชัญปลอบเขมินท์ไปอย่างส่งๆ แล้วรีบวางสายทันที
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้หมวดคิ้วเข้ม พยายามไตร่ตรองถึงสาเหตุที่พิมมี่หายตัวไปสองวัน
ใครมันช่างใจกล้าขนาดนี้?
จู่ๆ อาชัญเพิ่งนึกขึ้นได้…คณพศ!?
คงจะใช้แล้วหละ ถ้าจะพูดถึงคนที่ไมเห็นแก่อาชัญในสายตาก็คงจะมีแต่คณพศแล้วหละ
เขาต้องรู้เรื่องที่พิมมี่วางแผนทำร้ายนาราแล้วแน่ๆ แต่ว่าเขาเอาพิมมี่ไปไว้ที่ไหน?
อย่าบอกว่าเขาฆ่าพิมมี่ไปแล้วนะ!
ความคิดนี้แว๊บเข้ามาในหัวอาชัญ เขารีบโทรหาคณพศทันทีอย่างไม่ต้องลังเล
ฝ่ายตรงข้ามรับสาย ปลายสายคณพศพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาห่างเหิน “มีอะไร?”
“โถๆๆ คณพศ พูดจาไม่ให้เกียรติพี่ชายตัวเองเลยหรอ อย่างน้องต้องเรียกพี่อาชัญหรือคุณประธานอาชัญสิครับ” อาชัญได้ยินเสียงหงอยของคณพศแล้วรู้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดี ตั้งใจแกล้งเขาด้วยคำพูดกวนโอย
“เหอะๆ คุณประธานอาชัญ? หวังว่าตำแหน่งนี้จะอยู่กับแกไปนานๆ นะ” เสียงเย็นยะเยือกของคณพศราวกับออกมาจากนรก
อาชัญขนลุกซู่ เขารีบตอบด้วยเสียงเข้ม “คณพศ อย่าบอกนะว่าแกโมโหแล้วพาลหนะ ฉันเคยบอกว่าตะแหน่งประธานของแกอยู่ได้ไม่นานหรอก เห็นไหม ยังผ่านไปไม่ถึงปีแกก็ยอมคายออกมาแล้ว”
“ฮ่าๆๆ แกกลับไปบนวิลแชร์อีกแล้ว เป็นไงบ้างคณพศ ชีวิตที่ลูกตายเมียตายคงจะแย่สิเนอะ” อาชัญหัวเราะอยู่บนเก้าอี้ด้วยน้ำเสียงชอบใจ
คณพศได้ยินคำพูดของเขาแล้วรูปร่างมือถือเริ่มเปลี่ยนทรง เส้นเอ็นบนหัวเขาเกร็งจนปูด
“เพี๊ยะ” มือถือโดดบีบจนกลายเป็นสองท่อน
อาขัญได้ยินเสียงตื้ดๆ ดังขึ้น โมโหจนแทบจะเขี้ยวมือถือลงพื้นไปด้วย “ไอ้เวรคณพศ กล้าวางสายฉันหรอ!”
แต่พอยพมือถือขึ้นมา อาชัญเปลี่ยนความคิดตัวเองอีกครั้ง เขายังต้องหาตัวพิมมี่อยู่ ทำอะไรไม่ได้เลยต้องโทรกลับไปอีกครั้ง