The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 245 เขาตามมาถึงอังกฤษ
ตอนที่ 245 เขาตามมาถึงอังกฤษ
พอเห็นแผ่นหลังของนาราค่อยๆจากไป หัวใจของลั่วก็เหมือนจมลงสู่ก้นทะเล เขารู้ดีว่า อนาคตของพวกเขาสองคนน่าจะไปด้วยกันได้ยากแล้ว
เขาพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดตะโกนเรียกโลลิต้าเข้ามา “สั่งให้หมอในปราสาทนี้มารักษาฉันให้หายเดี๋ยวนี้”
โลลิต้าดีใจมาก ในที่สุดเจ้านายของเธอก็คิดจะต่อสู้แล้ว
ภายในห้อง ลั่วพยายามเพิ่มพลังของตัวเอง เขาต้องรักษาตัวเองให้หาย ถึงจะมีแรงไปสู้กับคณพศได้
เขาไม่เชื่อหรอกว่า ถ้าเกิดว่าเขาทุ่มเททั้งใจให้หวานทั้ง100เปอร์เซ็นจต์แล้วจะยังไม่ได้ใจของเธออีก
ผ่านไปไม่นานคุณหมอก็ถูกเรียกเข้ามา หลังจากตรวจอาการของลั่วอย่างละเอียดแล้วก็พูดขึ้นมาว่ามันเป็นเรื่องที่โชคดีมาก ที่เขาสามารถผ่านช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดมาได้
ขอแค่ต่อไปต้องดูแลรักษาตัวเองให้ดี ยังไงร่างกายที่อ่อนแอมันก็ไม่สามารถหายได้ภายในสองสามวันหรอก
ลั่วไม่ได้สนใจในสิ่งที่คุณหมอพูดเลยแม้แต่น้อย เขาโบกมือปฏิเสธแล้วพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าเกิดว่านายไม่สามารถทำให้ร่างกายฉันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ในเร็วที่สุดนั้น ก็ไสหัวออกจากที่นี่ไปซะ ฉันว่าน่าจะมีอีกหลายคนที่อยากจะมาเป็นหมอส่วนตัวของฉัน”
คุณหมอพยักหน้าอย่างลังเล “ก็ได้ครับ แต่ว่าท่านดยุค ถ้าเกิดว่าคุณอยากให้ร่างกายคุณหายในเวลาอันรวดเร็วขนาดนั้น คุณก็ต้องยอมทนต่อความเจ็บปวดมากกว่าปกติหน่อยนะครับ”
“งั้นก็ไม่ต้องมัวพูดมากแล้ว จัดมาเลย” ลั่วพูดอย่างตรงไปตรงมา
ถ้าเทียบกับการที่ต้องเสียนาราไปแล้ว ความยากหรือความเจ็บปวดแค่ไหนเขาก็ทนได้ทั้งนั้น!
ตอนที่นารากำลังฝึกการรักษากับคุณหมออยู่นั้น นาราก็กลับมาถึงที่คอนโดของเธอพอดี
พอนึกถึงเรื่องที่ตัวเองไม่ได้กลับมาทั้งวันทั้งคืน นาราก็รู้สึกละอายใจ
เธอค่อยๆเปิดประตูออก ทันใดนั้นหมอนใบนึงก็ลอยเข้ามาทันที “ใจร้ายใจดำ ยังคิดจะกลับมาอีกหรอ! ไม่เอาลูกชายตัวเองแล้วใช่มั้ย?”
นารารีบจับหมอนใบนั้นไว้ได้ทัน แล้วก็หัวเราะตอบไลลาที่กำลังโมโหจนไฟลุกโชน “แหะๆ ก็มีเธออยู่ดูแลแล้วไม่ใช่หรอ?”
ไลลารีบลุกขึ้นจากโซฟาทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “มีฉันงั้นหรอ เธอบอกว่าจะไปแป๊ปเดียวแต่ก็หายไปทั้งวัน แม้แต่โทรศัพท์ก็ยังไม่เคยโทรมา หึ แถมยังกลับมาจนป่านนี้ ฉันก็กลัวจะตายว่าเธอจะถูกเจ้าของปราสาทจับขังไว้ไปแล้ว”
“ที่รัก พอแล้ว ฉันผิดไปแล้วโอเคมั้ย? ก็แค่อาการของพี่ลั่วค่อนข้างหนักเลย ฉันก็เลยต้องคอยเฝ้าอาการเขาทั้งคืน”
“ฮ่าๆ ดูแลอาการทั้งคืน ก็เลยลบพวกเราออกจากสมองไปเลยใช่มั้ย? นารา สนใจกันบ้างได้มั้ย! ตอนนี้เธอควรตัดสินใจได้แล้วว่าเธอจะไปทางไหนกันแน่” ไลลาพูดออกมา
นาราหายไปทั้งวัน ทิ้งให้ไลลาอยู่กับมิราสองคนในคอนโดนี้ แถมพวกเขาก็ยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่ ไลลาก็เลยไม่ได้พามิราออกไปไหนเลย
โชคดีที่ในคอนโดนี้ยังมีของให้กินเยอะแยะ ไลลาก็เลยพยายามทำอาหารอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็เพื่อป้องกันไม่ได้ทั้งสองคนต้องตายเพราะความหิวซะก่อน
มิราก็เป็นเด็กดีมาก เขาไม่ซนเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเกิดว่าเขาเป็นเด็กที่ซุกซนล่ะก็ ไลลาคิดว่าเธอต้องเป็นบ้าไปแน่ๆเลย
ดังนั้น พอนารากลับมาแล้ว เธอเลยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียวที่จะปาหมอนใส่เธอ
พอโดนไลลาบ่นดังนั้น นาราก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง “ฉันขอโทษ ไลลา แต่ว่าฉันไปดูแลพี่ลั่วจริงๆนะ ไม่ได้โกหกเธอเลยแม้แต่นิดเดียว”
“หม่ามี๊ หรือว่านี่กำลังหาป่าปี๊คนใหม่ให้ผม ไม่เอาคนเก่าแล้วหรอครับ?” มิราที่นัอนเล่นไอแพดอยู่ข้างๆโซฟาเงยหน้าแล้วถามออกมา
คำถามของเขาเกือบทำให้นาราสำลัก อะไรคือหาป่าปี๊คนใหม่ให้ผม ไม่เอาคนเก่าแล้ว?”
พอคิดอยู่ซักพัก นาราก็หันไปมองหน้าไลลา “เธอพูดอะไรกับมิราไปงั้นหรอ? รีบสารภาพมาเดี๋ยวนี้!”
ไลลากลืนน้ำลาย “ไม่มีอะไรซักหน่อย ฉันแค่พูดถึงความเป็นไปได้เฉยๆ แหะๆ”
“ไล ลา!” นาราเดินเข้าไปตีไลลาทันที “นี่เธอทำเกินไปแล้วนะ มาพูดอะไรแบบนี้กับเด็กได้ยังไง? มันมีเรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน?”
“โอเคๆ เธอบอกว่าไม่มีก็คือไม่มีไง!” ไลลากลัวเธอ ก็เลยร้องขอความเมตตา
มิราที่มองดูภาพผู้หญิงสองคนที่หัวเราะคิกคักกันอยู่บนโซฟา มิราตัวน้อยก้หรี่ตาลง ใบหน้าของเขาเหมือนกับคณพศราวกับแกะ ถ้าเกิดว่าไม่ได้สังเกตุดีๆล่ะก็ คงจะคิดว่าเป็นคณพศเวอร์ชั่นตัวเล็กนั่งอยู่ตรงนั้นแน่ๆ
“หม่ามี๊ ผมสนับสนุนนะที่หม่ามี๊กล้าที่จะไปตามหาชีวิตใหม่ แต่ว่าข้อแม้ของผมก็คือ 1.เขาต้องหล่อกว่าป่าปี๊ 2.เขาต้องเป็นคนที่ดีกว่าป่าปี๊”
มิราแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกมาอย่างจริงจัง เมื่อวานน้าไลลาเล่าถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างหม่ามี๊กับป่าปี๊ให้เขาฟังแล้ว
สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่แล้วนั้น เขายังเด็กอยู่ ไม่สามารถพูดได้หรอก แต่ว่าเขาชอบหม่ามี๊คนนี้มาก ขอแค่หม่ามี๊มีความสุข ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไง เขาก็จะสนับสนุนเธอ
พอนาราได้ยินมิราพูดดังนี้ ก็รู้สึกอายจนใบหน้าเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง พระเจ้า ตอนนี้เธอกำลังโดนลูกชายตัวเองให้คำแนะนำเรื่องชีวิตอยู่หรอเนี่ย…..
“ไลลา ดูซิว่าเธอทำอะไรลงไป!” นาราบ่นไลลาเสียงต่ำ แล้วก็เดินจากโซฟาไปหามิรา แล้วก็ตอบด้วยเสียงอ่อนโยน “มิรา เรื่องมันไม่ใช่อย่างที่ลูกคิดหรอกนะ หม่ามี๊กับลุงลั่วเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบคู่รักอะไรแบบนั้นหรอก”
“จริงหรอครับ?”มิรารู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก “งั้นก็ดีมากเลย ผมก็นึกว่าจะต้องเปลี่ยนป่าปี๊ซะแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะคอยจู้จี้ห้ามไม่ให้ผมทำนี่ทำนั่น แต่ว่าผมก็ชอบป่าปี๊ที่ให้กำเนิดผมที่สุด”
“ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าป่าปี๊ต้องขอบคุณคอมเม้นท์ของลูกซะแล้ว แถมยังไม่ได้ละทิ้งพ่อที่จู้จี้คนนี้อีกต่างหาก” เสียงของคณพศดังนั้นมาภายในห้องคอนโดนี้ ทั้งสามคนจึงรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว
ก็เห็นว่าคณพศที่ใส่สูทเต็มยศ ยืนพิงประตูอยู่
เขายืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง ขาเรียวยาว ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่แสนจะหล่อเหลา
เหมือนว่าเขาจะพึ่งลงจากเครื่องบินมา ท่าทีอ่อนเพลียของเขา ดูเหมือนคนที่โต้รุ่งแล้วก็ตรงมาที่นี่
นารากับไลลายืนแข็งมื่อ นั่นคือคณพศจริงๆด้วย เขาหาที่นี่เจอได้ยังไง?
แต่ว่าปฏิกิริยาของมิราไม่เหมือนกัน เขารีบลุกขึ้นและวิ่งไปหาคณพศทันที “ป่าปี๊ ผมรักป่าปี๊ที่สุดเลย!”
คณพศอุ้มมิราขึ้นมา แล้วก็หอมแก้มเขาหนึ่งทีแล้วค่อยว่างเขาลงเหมือนเดิม “ได้เลย ป่าปี๊ยอมรับความรักจากลูก แล้วก็ยกโทษให้ที่เมื่อกี้ลูกบอกว่าป่าปี๊จู้จี้”
มิรากลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ อันตรายมาก เกือบจะปกปิดไว้ไม่มิดแล้ว
นารายังคงนั่งอึ้งอยู่ตรงโซฟา เธอไม่เคยคิดเลยว่า คณพศจะตามพวกเขามาที่อังกฤษได้ไวขนาดนี้
แต่ว่าอาการของไลลายังถือว่าดีกว่านารามาก เธอรีบโบกมือให้คณพศ “ไฮ ท่านประธาน เราเจอกันอีกแล้วเนอะคะ”
คณพศพยักหน้า “ใช่ ถ้าเกิดว่าไม่ได้เจอกันที่นี่ ฉันคงจะดีใจอยู่หรอก”
พอพูดจบ เขาก็เดินมาหานารา แล้วก็นั่งลงข้างๆเธอ “เมียจ๋าพาลูกชายมาถึงอังกฤษ ไม่คิดจะบอกกันซักคำ”
ตอนแรกคณพศก็จะกลับเมืองธิตกลเพราะว่ามีธุระให้ต้องจัดการ แต่พึ่งก้าวเท้าแตะเมืองธิตกลได้ก้าวเดียว คนใช้ก็โทรมาบอกว่าคุณผู้หญิงกับคุณชายเล็กหายตัวไป
มันน่านัก!