The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 247 มอบครอบครัวที่สมบูรณ์แบบให้มิรา
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 247 มอบครอบครัวที่สมบูรณ์แบบให้มิรา
ตอนที่ 247 มอบครอบครัวที่สมบูรณ์แบบให้มิรา
พอเห็นว่านาราไม่ได้ว่าอะไรเขาต่อ คณพศก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมา เขาขยับเข้าไปใกล้เธอแล้วพูดว่า “ไม่ทราบว่าคุณเมียพร้อมจะกลับไปกับผมเมื่อไหร่หรอครับ?”
“กลับไป? ไปที่ไหน?” นาราเผลอหัวเราะออกมา “แค่ฉันไม่ได้ไล่ให้คุณออกไปไม่ได้หมายความว่าฉันจะกลับไปกับคุณนะ? แล้วอีกอย่าง ที่พี่ลั่วป่วยก็เพราะว่าฉันออกมาจากงานหมั้นวันนั้น มีบางเรื่องที่ฉันยังไม่ได้พูดให้เขาเข้าใจ”
พอคณพศได้ยินนาราพูดถึงลั่ว ใจเขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
เขายื่นมือไปจับคางของนารา “นารา อย่ามาทดสอบความอดทนของฉัน และอีกอย่าง อย่ามาเรียกคำว่าพี่ลั่วอย่างสนิทสนมแบบนั้นต่อหน้าฉัน ฉันรับไม่ได้”
“คณพศ คุณนี่มันเผด็จการจนรักษาไม่หายแล้วนะ ถึงยังไงพี่ลั่วก็ดูแลฉันอย่างดีตลอดหลายปีมานี้ ถึงเราจะเป็นแค่เพื่อนธรรมดาๆกันก็เถอะ เรียกว่าพี่มันจะเป็นอะไรไป?” นารารู้สึกโมโห คณพศยิ่งนับวันยิ่งเอาแต่ใจขึ้นทุกวัน เมื่อกี้เธอน่าจะไล่เขาไปซะก็จบ
แต่ว่าคณพศเป็นใครกันล่ะ เรื่องเผด็จการนี้ไม่มีใครเกินเขาหรอก ถ้าเกิดว่าเรื่องไหนที่เขาตัดสินใจแล้วล่ะก็ ก็ไม่มีใครกล้าเปลี่ยนเลนส์ของรถเขาหรอกนะ
เขาเม้มปากแน่น แล้วก็พูดหัวข้อต่อไปออกมาได้อย่างง่ายดา “แต่ว่าฉันได้ยินแล้วมันขัดหู แต่ถ้าเกิดว่าเธอยังคงยืนยันที่จะเรียกแบบนี้ต่อไปล่ะก็ ฉันไม่ถือหรอกนะถ้าจะให้ผู้ชายอังกฤษคนนั้นอยู่ในปราสาทนั้นตลอดไปไม่ได้ออกมาอีก
นารารู้ดีว่าเขาพูดคำไหนคำนั้น แล้วอีกอย่างก็ขี้เกียจจะมานั่งเถียงกับเขาเรื่องคำเรียกอะไรนี่แล้ว ถึงยังไงมันก็แค่คำเรียกล่ะนะ ไม่ว่าจะเรียกอะไรมันก็ไม่เปลี่ยนสิ่งที่เธอรู้สึกต่อลั่วได้หรอก
“คณพศ ตอนนี้คุณก็เห็นลูกแล้ว ก็กลับไปได้แล้ว แต่ยังไงฉันก็ไม่คืนมิราให้คุณหรอกนะ” นาราแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ให้ตายยังไงก็ไม่มีวันคืนมิราให้คณพศเด็ดขาด
คณพศคลี่ยิ้มออกมา “พาไปงั้นหรอ? ไม่ๆๆ ฉันจะพามิราไปได้ยังไงล่ะ? พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน พวกเธออยู่ที่ไหน ฉันก็อยู่ที่นั่นแหละ”
พอเห้นคณพศพูดจาไร้สาระแบบนี้ นาราแทบทนไม่ได้ที่จะกัดเขาซักที เพื่อระบายความเกลียดชัง
กัดลงไปซักทีดีกว่า ดูซิว่าเขาจะยังอวดดีอยู่มั้ย
“ฮ่าๆ เมียที่รัก เธอกำลังเล็งตรงไหนอยู่ล่ะ? ตามสบายเลย ฉันสัญญาว่าจะไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว”
คณพศปลดกระดุมเสื้อด้วยมือเดียวเผยให้เห็นหน้าอกที่แข็งแกร่งและเอวที่เพรียวบาง
นาราเขินจนหน้าแดง หรือว่าผู้ชายคนนี้อ่านใจออกด้วย?
เธอรีบลุกขึ้นเตรียมจะไปหามิรา แต่ว่าข้อมือบางๆของเธอได้ถูกมือหนาที่อบอุ่นดึงไว้ “จะไปไหนหรอเมียจ๋า”
แค่เขาดึงเบาๆ นาราก็ล้มลงมานั่งอยู่บนขาเขา ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนสมองของตัวเองกำลังจะระเบิดออกมา
นั่งอยู่บันตักของเขา ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนเหมือนไฟของเขา เมื่อก่อนเธอก็เคยนั่งตักเขาทุกวัน แต่วันนี้ได้เข้าใกล้หน้าอกของเขาด้วย นารารู้สึกใจเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา
“นารา ห้าปีแล้วที่ไม่ได้นั่งตักฉัน ตอนนี้ยังรู้สึกสบายเหมือนเมื่อก่อนมั้ยล่ะ? หืม?” น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง แล้วก็เอามือโอบรัดเอวของเธอไว้แน่น
นาราอยากจะลุกขึ้น เพราะเธอรู้สึกว่าตอนนี้ทั้งตัวเธอมันเริ่มจะอ่อนยวบ กลิ่นฮอร์โมนเพศชายลอยเข้ามาเตะจมูกของเธอ ทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก
คณพศวางหัวลงบนไหล่ของเธอ แล้วก็จูบไปที่คอหงส์ของเธอ ความรู้สึกที่คุ้นเคยและรสชาติที่หอมหวานทำให้เขารู้สึกสบายจนหลับตาลง
“นารา ฉันคิดถึงเธอ พวกเรากลับไปอยู่ที่คฤหาสน์ของพวกเรากันเถอะ ที่นี่มันเล็กเกินไป ให้ไลลาอยู่คนเดียวก็พอแล้ว” เขาจุบลงที่คอของเธอช้าๆ และค่อยไล่ไปที่คาง
“ฉัน…ฉันจะอยู่ที่นี่กับไลลา ไม่งั้นคุณก็พามิรากลับไปแล้วกัน” เสียงของนาราเริ่มสั่น ผู้ชายคนนี้นี่มันร้ายจริงๆ
คณพศเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยความต้องการ “นารา เธอว่ามันจะเป็นไปได้รึไง? ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่เอาแบบนั้น มิราเองก้ไม่อยากแยกจากเธอด้วย เชื่อฟังซะเถอะ กลับไปด้วยกัน หืม?”
คิดไปคิดมานาราก็คิดว่ามันก็จริงเหมือนกัน ที่นี่มีแค่เตียงเดียว ถ้าเกิดว่ามิราอยู่ที่นี่ก็เท่ากับว่าต้องนอนสามคนในเตียงเดียว
เธอจะส่งสองพ่อลูกกลับไปก่อน แล้วตัวเองค่อยตามไปทีหลัง
นาราส่งข้อความบอกไลลาว่าส่งมิราไปอยู่คฤหาสน์ของคณพศแล้ว ให้เธอกลับมานอนที่นี่ได้ตามสบาย
หลังจากนั้นคณพศก็พานารากับมิรากลับไปที่คฤหาสน์ของเขาที่อังกฤษ
ครั้งที่แล้วนาราก็เคยมาที่นี่แล้ว ก็เลยไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่อะไร
นาราทำกับข้าวให้คณพศกับมิรา ตอนแรกเธอก็ว่าจะเรียกไลลามากินข้าวด้วยกัน แต่ไลลาส่งข้อความมาบอกว่าเธอกำลังเดินเล่นอยู่ ไม่อยากมา
สุดท้ายก็เลยนั่งกินข้าวกันสามคนพ่อแม่ลูก คณพศนั้นเมื่อตอนเห็นภาพของนาราที่วุ่นวายทำกับข้าวอยู่ในครัว เขาก็รู้สึกหอมหวานในใจยิ่งกว่าน้ำผึ้งซะอีก
ผ่านไปไม่นาน พ่อแม่ลูกก็ได้นั่งกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา มันเป็นเหตุการณ์ที่ฝันถึงมานานถึงพึ่งจะเกิดขึ้น
ภรรยาและลูกของเขา ตอนนี้อยู่ข้างๆเขาแล้ว ยังจะมีอะไรที่มีความสุขกว่านี้อีกล่ะ! คณพศมองหน้านารากับมิรา ในใจรู้สึกตื่นเต้นจนสงบไม่ลง
หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จนาราก็เก็บจานชาน แล้วก็อาบน้ำให้มิราพร้อมกับกล่อมเขานอน
เธอเตรียมตัวจะไปหาไลลาที่คอนโด แต่ว่าคณพศลากแขนเธอไว้แล้วให้นั่งลงบนโซฟา “นารา ที่นี่คือบ้านของเธอ ยังจะไปไหนอีกล่ะ?”
“ฉันจะกลับไปดุซักหน่อยว่าไลลากลับมารึยัง” นาราเดินออกไป แต่ว่ายังไม่ทันจะเดินถึงประตูก็ถูกคนข้างหลังกอดไว้ด้วยร่างกายที่อบอุ่น
ตัวเธอลอยขึ้นไปในอากาศเลย “เธอโตขนาดนี้แล้ว ไม่หายไปไหนหรอก อยู่ที่นี่ซะ!”
นาราเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา ตอนนี้สายตาเขาร้อนเหมือนกับไฟ เหมือนมันกำลังแผดเผาสติของเธอไปทั้งหมด
“อย่า…คณพศ ปล่อยฉัน”
คณพศไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาอุ้มเธอขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูห้องนอนออก แล้วก็วางเธอลงบนเตียง
“นารา ยังจะให้ฉันรอนานกว่านี้อีกหรอ รู้มั้ยว่าห้าปีที่ผ่านมาฉันผ่านมันมาได้ยังไง?”เขายกแขนทั้งสองข้างขึ้น แล้วมองหน้านาราอย่างลึกซึ้ง
“พวกเด่นภูมิพยายามหาผู้หญิงให้ฉันเยอะแยะ แต่ว่าไม่ได้ ฉันว่าน้องชายฉันมันพังไปแล้ว แต่ว่านารา พอได้เจอเธออีกครั้ง น้องชายฉันก็กลับมาเป็นปกติแล้ว เพราะว่ามันจำเธอได้ นารา…..” เสียงของเขาต่ำและแหบแห้ง เผยให้เห็นถึงความเจ็บปวด
นาราเห็นท่าทีที่เจ็บปวดของเขา สมองของเธอก็นึกย้อนไปถึงเมื่อก่อน เมื่อก่อนนั้นเขาแรงเยอะขนาดไหน เธอรู้ดีอยู่แล้ว
แถมเขายังไม่ได้แตะผู้หญิงเลยมาห้าปี! พระเจ้า นาราดูถูกตัวเอง ยังคงคิดเรื่องนี้ออกมาได้
พอคณพศเห็นว่าผู้หญิงตรงหน้ามองหน้าเขาอย่างเหม่อลอย เขาก็ยิ้มมุมปาก แล้วก็ก้มลงจูบที่ดวงตาของเธอ ปาดของเขาสัมผัสกับขนตาที่เรียวยาวของเธอ
ร่างกายของคณพศร้อนเหมือนไฟ เขาค่อยๆเลื่อนริมฝีปากมาที่ปากของเธอ กลิ่นหอมของเธอที่เขาไม่ได้สัมผัสมานาทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่ม
ตอนนั้นนาราเองรู้สึกเหมือนว่าแรงทั้งหมดของตัวเองได้หายไป มึนเมาไปกับจูบของเขา พอผู้ชายคนนี้ปลดกระดุมเสื้อของเธอออก เธอก็ได้สติแล้วก็รีบผลักเขาออกทันที
“นารา ให้โอกาส…ให้พวกเราได้มอบครอบครัวที่สมบูรณ์แบบให้มิราด้วยเถอะ หรือว่าเธออยากให้เขาขาดความรักจากพ่อแม่เหมือนห้าปีก่อนหรอ?”
เสียงที่แหบแห้งของเขาทำให้นาราตกอยู่ในกำมือ
ตอนนั้นเขารู้สึกเหมือนว่าทุกอย่างบนโลกนี้กำลังหยุดนิ่ง