The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 254 เสือที่ไม่เผยเขี้ยวเล็บก็เป็นได้แค่แมวป่วย
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 254 เสือที่ไม่เผยเขี้ยวเล็บก็เป็นได้แค่แมวป่วย
ตอนที่ 254 เสือที่ไม่เผยเขี้ยวเล็บก็เป็นได้แค่แมวป่วย
เธอตัดสินใจไม่พูดถึงคณพศ เพราะเดิมทีที่เธอไปฝรั่งเศสก็ไม่ใช่เพื่อเขา แต่เพราะไม่อยากให้ลูกของตัวเองขาดการดูแลจากแม่
แต่เมื่อคำพูดนั้นเข้าไปในโสตประสาทของเคลลี่ลั่วมันกลับกลายเป็นการประชดที่หนักหน่วง
ไม่นึกว่าหวานของเขาสุดท้ายก็เอาชนะลูกดื้อของเจ้าหมดนั่นไม่ได้ แล้วยังจะกลับไปกับหมอนั่นอีก
แม้แต่เหตุผลที่จะกลับไป เธอยังไม่กล้าบอกกับเขาตรงๆ
“ หวาน แน่ใจเหรอ? แน่ใจเหรอว่าจะกลับไปกับผู้ชายคนนี้? เมื่อก่อนเขาทำกับคุณขนาดนั้น คุณไม่ได้ยังเบลออยู่ใช่ไหม? “ เคลลี่ลั่วพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง ถ้าไม่อยู่ในที่สาธารณะล่ะก็ เขาต้องชกดั้งคณพศไปนานแล้วแน่ๆ
เขาเกลียดชังเท่าไหร่ก็รู้ดี ถ้าไม่มีหมอนั่น หวานของเขาก็จะไม่จากเขาไป
คณพศกระทืบเท้าเท้าก่อนยิ้มเย็น “ เหอะ! คุณกำลังสร้างความร้าวฉานให้เราสามีภรรยางั้นเหรอ? พฤติกรรมแบบนี้เหรอที่เรียกว่าผู้ดีอังกฤษ? ฮ่าฮ่า ผมเห็นแล้วล่ะ “
มิราที่อยู่ข้างๆ เองก็เม้มปาก “ ลุงลั่ว ถึงผมจะชอบลุงอยู่หน่อยๆ แต่ถ้าเทียบกับแด๊ดดี้จอมจู้จี้ของผม ผมก็อยู่ข้างแด๊ดดี้แน่นอน! นอกจากนี้ผมก็ชอบหม่ามี๊มากและหวังว่าจะได้อยู่ด้วยกันกับหม่ามี๊ด้วย “
ขณะพูดก็หันมองนาราอย่างกังวล “ ใช่ไหมครับหม่ามี๊? ต่อจากนี้หม่ามี๊จะอยู่กับผมใช่ไหม? “
เห็นดวงตาน้อยๆ ของมิราคลอไม่ด้วยน้ำตา หัวใจของนาราก็แสบปลาบ
เธอรู้ดีว่า แม้มิราจะดูร่าเริงและมีมารยาทมาก แต่ก็ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ จะไม่คาดหวังที่จะได้อยู่กับแม่ตัวเองได้ยังไง
เพื่อกำจัดความตื่นตระหนกในใจของมิรา นาราจึงอุ้มเขาไว้บนตักก่อนหยิบกระดาษเช็ดปากออกมาเช็ดคราบเค้กที่เลอะอยู่บนปากเล็ก “ ใช่จ้ะ หม่ามี๊สัญญากับมิราแล้ว จะกลับคำได้ยังไง วางใจได้เลย “
มิราถึงได้ยิ้มออกมา ทั้งผู้ใหญ่และเด็กต่างพูดเป็นเสียงเดียว “ หม่ามี๊ จี้ปู้สัญญาด้วยทองพันชั่ง ถึงหม่ามี๊จะเป็นผู้หญิงก็ไม่อ่อนข้อให้หรอกนะ “
นาราชะงักไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะรู้จักจี้ปู้ด้วย ดูไปแล้วคณพศคงจะสอนมาดีจริงๆ
“ วางใจเถอะ แม่จะรักษาสัญญาอย่างหนักแน่นเลย “ นารายิ้มอย่างปลอบโยนมิรา จากนั้นก็มองไปยังเคลลี่ลั่ว “ พี่ลั่ว พี่ก็เห็นแล้ว ลูกของฉันจากฉันไม่ได้จริงๆ จากกันมาห้าปี ฉันสูญเสียช่วงเวลาอันมีค่าที่จะอยู่ข้างเขาไป ช่วงชีวิตที่เหลือ ฉันไม่อยากจะพลาดเห็นการเติบโตของเขาอีกแล้ว “
คำพูดพวกนี้นาราพูดไปตามความรู้สึก ผู้หญิงนั้นเดิมทีอ่อนแอ แต่เมื่อถึงวันที่ต้องเป็นแม่คนก็จะกลายเป็นผู้ที่เข้มแข็ง ถึงตัวเองจะอ่อนแอแต่ก็หวังจะเป็นที่พึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดของลูกได้
เคลลี่ลั่วเห็นความจริงใจในคำพูดของนารา แต่เขาก็ไม่อยากจะยอมแพ้ตอนนี้ “ หวาน ตอนนี้มันยุคไหนแล้ว? ถ้าไม่อยากแยกจากเขา ฉันก็รับพวกเธอมาได้เลยนะ นอกจากนี้….. ”
“ คุณเคลลี่ ถ้าผมนั่งอยู่ตรงนี้ก็เอาชนะคำพูดสวยหรูของคุณไม่ได้หรอก ผมก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะที่เราจะแข่งกันเป็นการส่วนตัว”คณพศยืนขึ้นพูดเสียงเย็น
เหมือนคำที่ว่า หากทำเช่นนี้ได้ ก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้อีกแล้ว!
เจ้าฝรั่งนี่! ต่อหน้าเขายังคิดจะลักพาตัวภรรยาของเขาไปอีกงั้นเหรอ!
นี่ยังไม่นับที่เขาคิดจะพาลูกของเขามาด้วยกันอีก!
พอกันที!
ทำเอามารยาทของเขามันไร้ค่าไปเลย เคลลี่ลั่ว เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?!
ไฟร้อนในใจของคณพศยิ่งปะทุแรงขึ้นทุกที เขาคลายโบว์ไทด์ออก อดจะเอาชนะเคลลี่ลั่วแทบไม่ไหว
เคลลี่ลั่วเดิมทีก็ไม่ใช่พวกตาขาว ในเมื่อเขากล้าเป่าหูให้นาราหนีจากคณพศไปต่อหน้าต่อตาหมอนั่น เขาก็ไม่กลัวการท้าทายของคณพศอยู่แล้ว
ครั้งนี้เขาจงใจจะพูดแบบนี้ ถึงแม้เขาคิดจะปล่อยนาราให้เป็นอิสระ แต่เขาก็ไม่ชินกับเจ้าคนอวดดีนี่เลย!
คณพศยืนขึ้นก่อนขยับนาฬิกาข้อมือดังคลิก “ งั้นฤกษ์ดี ตอนนี้เราก็มาซัดกันเลย เป็นไง? “
“ ใครไม่ไปเป็นหมา! “
“ เออ! ”
ชายหนุ่มทั้งสองไม่มีใครยอมใคร นารามองสลับไปมาอย่างตกตะลึง
“ พวกนายบ้าไปแล้วเหรอ? เป็นเด็กสามขวบรึไง? ซัดกัน? อายบ้างไหมเนี่ย? หยุดเลยนะ! “ นาราแผดเสียงอย่างไม่สบอารมณ์กับความไม่เอาถ่านของผู้ชายทั้งสองคนที่กำลังเดินออกไป และหยุดฝีเท้าของพวกเขาไว้ได้สำเร็จ
คณพศพูดขึ้นก่อน “ ที่รัก เรื่องนี้คุณไม่เกี่ยว เสือที่ไม่เผยเขี้ยวเล็บก็เป็นได้แค่แมวป่วย! ผมจะเลาะฟันเจ้านี่ออกให้หมดปาก! จะได้ไม่กล้ามาเป่าหูคุณอีก! “
เคลลี่ลั่วมองเหยียดคณพศแล้วเอ่ยอย่างดูแคลน “ เฮอะ ประเทศนายมีคำพูดนี้อยู่นี่ คนจริงเขาไม่พูดเยอะ “
“ หยุด!”นาราสะบัดหัวอย่างหงุดหงิด หันไปตำหนิคณพศจนยับเยิน “ คุณอายุเท่าไหร่แล้ว? ลูกก็ใกล้จะเข้าโรงเรียนอยู่แล้วนะ ยังทำตัวเหมือนเด็กๆ อีก อะไรนิดอะไรหน่อยก็ชกต่อยกัน อายคนบ้างไหม? เครื่องบินจะออกอยู่แล้ว! ถ้าคุณยังทำตัวงี่เง่าอยู่แบบนี้ ฉันว่าวันนี้ก็ไม่ต้องไปแล้ว”
เมื่อคณพศได้ยินว่าเครื่องบินใกล้จะออกแล้วก็ค่อยๆ นึกขึ้นได้ว่าอีกเดี๋ยวต้องขึ้นเครื่อง จะรีบสงบสติอารมณ์ก่อนฉีกยิ้มจนหน้าบาน “ ที่รัก ผมผิดไปแล้ว เป็นความผิดผมเอง ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเขาแล้ว ตอนนี้เราไปกันเถอะ โอเคไหม? “
นาราพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นก็หันไปขอโทษเคลลี่ลั่ว “ พี่ลั่ว คณพศไม่ค่อยได้รับการอบรม พูดอะไรไม่รู้จักกาลเทศะ พี่อย่าโกรธเลยนะ”
เคลลี่ลั่วสีหน้าว่างเปล่านิ่งเงียบ เมื่อกี้นั้นนาราทำไปตามจิตใต้สำนึก เธอเปิดหัวใจของตัวเองไปตั้งนานแล้ว
เธออาจจะไม่รู้ตัวเองเลยก็ได้ ว่าแท้จริงแล้วภายในใจนั้นสนิทแนบแน่นกับคณพศอย่างมาก
เธอสามารถดุด่าหมอนั่นได้อย่างหยาบคาย แต่กับตัวเขา กลับเรียกเพียงแค่พี่ลั่วอย่างเช่นตลอดมา เธอสุภาพและเคารพเขา ความจริงแล้ว มันคือความห่างเหินที่เป็นช่องว่างระหว่างเธอกับเขา
ฮ่าฮ่า เคลลี่ลั่วเหยียดยิ้มขื่น เขาเองก็อยากให้ตัวเองโดนนาราด่าสาดเสียเทเสียแบบนั้นบ้าง ไม่ได้อยากจะให้เธอสุภาพกับตัวเองขนาดนี้
เคลลี่ลั่วถอนหายใจยาวอยู่ในใจ เก็บซ่อนความสิ้นหวังในดวงตา ฝืนถามออกไป “ หวาน อยู่ต่อไม่ได้จริงๆ เหรอ? ”
นารามองเคลลี่ลั่วไม่ออกเลย เขาที่เป็นแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเองโอเวอร์ไปเอง
แต่ว่าลูกชายที่เคยหายไปของเธอนั้นสำคัญที่สุดในใจของเธอ ความจริงนั้นเธอไม่อยากจะจากกับลูกไปเลยแม้ชั่วขณะเดียว
“ ขอโทษนะพี่ลั่ว ฉันรู้ว่าหลายปีมานี่พี่ทำเพื่อฉันทุ่มเทเพื่อฉันมากแค่ไหน แต่ว่า ขอโทษด้วยจริงๆ “ นาราพูดคำขอโทษออกมาอย่างยากลำบาก น้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงตา
คณพศมองต่อไปไม่ไหว นี่คือภรรยาของเขา ทำไมต้องมาหลั่งน้ำตาให้ผู้ชายคนอื่นด้วย? ที่เขายอมให้เธอคุยกับเคลลี่ลั่วก็เป็นการยอมก้าวถอยหลังมาก้าวใหญ่ที่สุดแล้วสินะ?