The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 272 นาราได้บาดเจ็บ
ตอนที่ 272 นาราได้บาดเจ็บ
เขมินท์ได้ก้มลงไปหยิบมีดและพูดด้วยความเยือกเย็นว่า นารา “เธอต้องตาย! และรับประกันว่าฉันจะส่งลูกของเธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยไม่ทำอะไรลูกเธอแม้แต่นิดเดียว!”
นารามองไปที่เขมินท์ที่บ้าครั่งและบุรินทร์ที่ไม่มีความรู้สึกแล้วนั้น
“จริงหรอ?” นาราได้ยิ้มมุมปาก และเดินไปใกล้เขมินท์
นาราได้แย่งมีดจากมือของเขมินท์โดยที่เธอยังไม่ทันตั้งตัว และโยงมีดไปให้บุรินทร์
“นี้เธอ….” เขมินท์ตกใจข้างไปชั่วขณะ เขมินท์ไม่คิดเลยว่านาราจะต่อต้านเธอ ยังบีบข้อมือของเธอจนเจ็บอีกด้วย
นารามองเขมินท์ด้วยความเย็นชา “นี้คุณคิดจะรังแกฉันเหมือนเมื่อห้าปีที่แล้วหรอ?”
เมื่อสีปีก่อนที่เคลลี่ลั่วช่วยนาราขึ้นมาจากทะเล เคลลี่ลั่วได้สอนวิชาการป้องกันตัวให้เธอ เพื่อที่นาราจะได้มีร่างกายที่แข็งแรง!
เขมินท์เลยไม่สามารถที่จะทำร้ายเธอได้เลยแม้แต่น้อย!
เขมินท์เริ่มร้อนใจแล้วและตะโกนไปที่บุรินทร์ที่อยู่ข้างๆว่า “บุรินทร์ ไอโง่ ยังไม่รีบมาจับนาราไว้อีก!”
ขณะเดียวกันนาราได้ผลักเขมินท์จนเธอล้มลงไปอยู่ที่พื้น
นาราได้รีบวิ่งไปที่โซฟาแล้วกอดมิราไว้” มินา มิรา ลูกเป็นอะไร?”
ในใจของนาราตอนนี้ตกใจมาก เธอได้ลุกขึ้นและอุ้มมิราออกไป
เขมินท์ได้หยิบมีดที่ตกอยู่ที่พื้นแล้วลุกขึ้นมา
และแทงไปที่หลังของนารา!
“เขมินท์ หยุดนะ!” บุรินทร์ที่พึ่งได้สติกลับคืนมาได้ตะโกนออกมา แต่ทุกอย่างมันสายไปแล้ว
เลือดสีแดงสดได้ไหลลงมาจากไหล่ของนารา
ในเวลานี้ ประตูได้ถูกคณพศถีบอย่างแรงจนเปิด เขาเห็นนาราที่อุ้มมิราอยู่ ไหล่ของเธอได้ถูกเขมินท์เอามีดแทงเข้าไป
นารา คณพศได้ตะโกนอย่างเสียงดัง
“ปึงปัง!” เขมินท์ถูกคณพศถีบจนรอยไปชนฝาผนังของห้องรับแขก แล้วกระเด็นกลับไปชนทีวี
ตำรวจที่อยู่หน้าประตูก็ได้จู่โจมเข้ามา จับตัวบุรินทร์และเขมินท์ที่นอนอยู่ที่พื้นไว้
ตอนนี้คณพศแสดงแววตาที่แดงก่ำ คณพศมือหนึ่งได้อุ้มมิราไว้ อีกมือหนึ่งได้ประคองนาราที่ตอนนี้ใบหน้าขาวซีดไปหมดแล้ว
“นารา เธอทนหน่อยนะ ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล!” ใจของคณพศในตอนนี้เจ็บปวดจนตะคริวกิน ในถิ่นของตัวเอง ลูกและภรรยาของเขากลับต้องถูกทำร้าย! ฉันสมควรจะไปตาย!
เสกข์ได้รับมิรามาจากคณพศ และคณพศได้อุ้มนาราไปที่รถ แล้วมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลโดยมันที่!
หลังจากที่คณพศออกไปจากบ้านของบุรินทร์ไม่นานในบ้างก็วุ่นวายไปแล้ว มีตำรวจหลายคนไปล้อมเขมินท์ไว้
“คุณคือคุณเขมินท์ใช่มั้ย? ตอนนี้คุณเป็นผู้ต้องสงสัยข้อหาลักพาตัว เชิญไปโรงพักกับเราหน่อยครับ!”
เขมินท์ได้ลุกขึ้นมาด้วยความมึนงง “อะไร? ฉันลักพาตัวหรอ? ฉันลักพาตัวตอนไหน?”
ตำรวจได้ดึงแขนของเขมินท์และใส่กุญแจมือ “คุณจะลักพาตัวหรือไม่นั้นคุณรู้ตัวดี
คำพูดที่เหลือค่อยไปให้ปากคำที่โรงพัก!”
ตำรวจได้ประคองเขมินท์ขึ้นมา และพาเธอเดินไปที่ประตู
บุรินทร์ทำอะไรไม่ถูก เขาได้ไปขวางประตูไว้และบอกว่า “คุณตำรวจที่ภรรยาผมทำแบบนี้นั้น เธออาจจะอยู่ในความมึนงงอยู่ก็ได้ คุณตำรวจปล่อยภรรยาผมเถอะครับ เธอจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
“คุณบุรินทร์ คุณเป็นคนที่มีหน้ามีตาในเมืองธิตกลนะ การลักพาตัวไม่ใช่เรื่องล้อเล่นกันนะ ปล่อยให้เราทำตามหน้าที่เถอะ”
ตำรวจที่คุมตัวเขมินท์อยู่นั้นได้พูดอย่างจริงใจว่า “คุณไม่ควรจะมาทำให้พวกเราลำบากใจนะ คนที่คุณควรจะไปขอร้องคือคุณคณพศ ว่าคณพศจะยอมแจ้งข้อหาภรรยาของคุณน้อยลงมั้ย ไม่งั้นละก็ภรรยาของคุณต้องใช้ชีวิตที่เหนืออยู่ในคุกแล้ว”
เขมินท์ที่ได้ยินแบบนี้เธอเกือบจะเป็นบ้า เขมินท์ร้องไห้และมองไปที่บุรินทร์ “บุรินทร์ ฉันไม่อยาก! ฉันไม่ยากเข้าคุก!
นายรีบไปหานารา เพราะนาราทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้ นายรีบตามนารามาช่วยฉัน!”
เห็นเขมินท์ร้องไห้จนเครื่องสำอางบนหน้าลอกออกหมดแล้ว “เขมินท์ ถ้าเธอฟังที่ฉันพูดตั้งแต่แรก
เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้หรอก เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เธอยังไม่รู้สึกผิดอีก ยังจะโทษนารา ฉันไม่รู้จะว่าเธอย่างไงแล้ว”
“นายด่าฉันหรอ? นายยังมีหน้ามาว่าฉัน? ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะนาย ฉันได้ล้างแค้นให้ลูกสาวฉันสำเร็จไปแล้ว! แค้นนี้ถ้านายไม่ชำระ เดียวฉันจะชำระเอง ถ้าฉันไม่ได้ถูกตัดสินประหารชีวิต วันที่ที่ฉันได้ออกจากคุก เรื่องแรกที่ฉันจะทำคือฆ่านาราผู้หญิงที่ชอบแย่งผู้ชายคนนั้น!” เขมินท์ได้ด่าอย่างไม่หยุด ใบหน้าของเขมินท์น่ากลัวมาก
เห็นเขมินท์ที่ตะโกนไม่หยุดนั้น บุรินทร์รู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก
บุรินทร์ที่กำลังจะห้ามเขมินท์
ตำรวจที่อยู่ข้างๆได้ทนไม่ไหวแล้วคุมตัวเขมินท์รีบเดินไปทางประตู ตำรวจได้พูดว่า “คุณบุรินทร์คุณอย่าขัดขวางการปฏิบัติงานของเราเลยดีกว่า”
ถึงบุรินทร์จะไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไป มองตำรวจที่คุมตัวเขมินท์และเดินออกไปจากบ้าน
แต่ใครจะรู้ว่า เมื่อพวกบุรินทร์จากไปแล้ว พิมมี่ได้เดินออกมาจากห้องข้างๆ เธอได้เห็นห้องที่ว่างเปล่า ในแววตาของเธอได้ปรากฎความแค้นอันเจ็บปวด “นารา คณพศ สักวันหนึ่งฉันจะต้องทวงคืนสิ่งที่นายได้ทำไว้กับฉันอย่างทวีคูณ!”
ตอนนี้คณพศที่อยู่ที่โรงพยาบาล คณพศได้อุ้มนาราที่มีบาดแผลที่ไหล่นั้น ไปส่งที่ห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวาย
วิ่งไป ตะโกนไปว่า “คุณหมอ คุณหมออยู่ไหน? รีบมาช่วยเธอหน่อย”
เสียงของคณพศเหมือนสิงโตที่คำราม จนทำให้หมอที่อยู่ในห้องฉุกเฉินแตกตื่นและออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
มีเรื่องอะไร มีเรื่องอะไร?
“รีบช่วยภรรยาผมหน่อย เธอถูกแทงที่ไหล่ตอนนี้เลือดยังไหลไม่หยุดเลย” คณพศได้อุ้มนาราขึ้นเตียงคนไข้
“พวกคุณต้องรีบรักษาเธอ ห้ามให้เธอเป็นอะไรไปโดยเด็ดขา!”
หมอที่อยู่ในห้องฉุกเฉินได้ทำการตรวจให้นารา แล้วบอกว่าเธอเพียงแค่ไหล่ถูกแทงไปหนึ่งแผล ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
บาดแผลไม่ลึกมาก แคทำแผลเดียวก็ดีขึ้น
เป็นหมอที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน เห็นคนไข้ที่มีการหนักมานับไม่ท่วน แต่ไม่เคยเห็นคนที่เพียงเพราะไหล่มีบาดแผลนิดหน่อยแล้วตะโกนลั่นไปทั่ว
แต่คณพศเป็นนายของพวกเขา
ดังนั้นถึงคุณหมอจะอยากที่จะบ่น แต่ใบหน้าของเขาก็ยังแสดงสีหน้าที่เคารพ “คุณคณพศ บาดแผลของคุณนาราเป็นบาดแผลที่อยู่ชั้นนอก แค่เย็บบาดแผลและทายา ไม่นานก็หายครับ”
“บาดแผลขั้นนอก แต่เลือดออกเยอะขนาดนี้ คุณตาบอดไปแล้วหรอ!” แล้วเธอทำไมยังไม่ฟื้นขึ้นมา คณพศได้ด่าไปที่หมอ
คุณหมอก็ได้ก้มหน้าลงและตอบว่า “คุณคณพศ คุณนาราไม่เป็นอะไรจริงๆ คุณใจเย็นๆก่อน เธอแค่มีอาการที่กลัวเลือดเฉยๆ”
“แล้วรออะไรอยู่อีก! รีบรักษาเธอสิ!ถ้าเธอเป็นอะไรไป พวกคุณเตรียมตัวหางานใหม่ได้เลย!” คณพศได้ตะโกนสั่งไปที่คุณหมอ
คณพศในตอนนี้ไม่เหนือความเป็นผู้ดีที่สูงส่ง
คุณหมอทั้งหลายไม่รู้จะพูดอะไร คิดในใจว่า เขาเป็นหัวหน้าของพวกเรา เทวดาองนี้เราไม่ไปมีปัญหากับเขาจะดีกว่า
คุณหมอเหล่านนี้เลยไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ เพราะในเมืองธิตกลคณพศมีชื่อเสียงด้านความโหดเหี้ยม เขาเป็นแค่หมอคนหนึ่ง นายอำเภอเขายังไล่ออกไปจากเมืองได้เลย
ล้านแผล เย็บแผล ทาย