The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 309 ถึงรอคอยนับสิบปี....
ตอนที่ 309 ถึงรอคอยนับสิบปี….
คณพศอดหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้ “ครั้งก่อนที่มิรามาเยี่ยมยังแอบบอกผมด้วยนะ เขาบอกว่าผมต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้ ไม่งั้นหลังจากที่ผมไม่อยู่แล้ว คนอื่นจะมาใช้เงินของผม ข่มขู่เมียผม และทุบตีลูกของผม ถึงคำพูดของเขาจะเป็นเสียงเล็กๆ แถมยังแอบร้องไห้อีกต่างหาก แต่ว่านะที่รัก เจ้าตัวน้อยนี่แย่จริงๆ ผมอุตส่าห์เลี่ยงเขามาจนโตขนาดนี้ ตั้งแต่ตอนนั้นผมก็ไม่อยากตายอีกแล้ว ที่รัก ผมไม่อยากให้คุณต้องถูกรังแก! ยิ่งไม่อยากเห็นคุณไปกับคนอื่น!”แค่คิดว่าพอเขาตายแล้วนาราก็ไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น เขาก็แทบอยากจะหิ้วนาราติดไปด้วย
“ใช่แล้ว ต้องเข้มแข็งเอาไว้ ต้องมีชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็งนะ”นาราพึมพำกับตัวเอง เอาความอาวรณ์ทั้งหมดใส่เข้าไปในคำพูดนั้น
“ที่รัก หลายวันมานี้ลำบากคุณแล้ว คุณซูบผอมลงไปมากเลย แต่ผมก็ยังไม่ยอมปล่อยคุณไปอย่างเห็นแก่ตัว ผมหมกมุ่นไปรึเปล่านะ?”คณพศว่าพลางยกมือขึ้น เชยคางมนของนารา
นาราส่ายหน้า “ไม่หรอกน่า ฉันกำลังลดน้ำหนักอยู่พอดี จะว่าไปคุณก็เป็นถึงประธาน คุณไม่เอาแต่ใจแล้วใครจะเอาแต่ใจได้ล่ะ? ว่าไหม?”
“จริงสิ ผมลืมไปเลย ผมเป็นประธานแสนเอาแต่ใจนี่นา ที่รัก ความถูกต้องเรื่องเดียวที่ผมทำในชีวิตนี้ ก็คือการเอาคุณมาครอบครอง หากเลือกได้อีกครั้งผมก็ยังจะเลือกเส้นทางนี้”คณพศพูดขณะ หลับตาลงอย่างอ่อนล้า “ที่รัก เหมือนว่าผมจะเหนื่อยนิดหน่อยแล้วล่ะ อยากจะนอนสักพัก ผมนี่มันไม่มีน้ำยาจริงๆ ที่รัก อย่าไปไหนนะ อยู่ข้างกายผม ได้ไหม?”
นารากุมของคณพศเอาไว้ เอ่ยอย่างแผ่วเบา “ได้สิ”
แต่มีเพียงเธอที่รู้ ว่าคำสัญญานี้มันจะช่างสั้นเหลือเกิน
“ที่รัก แล้วจูบราตรีสวัสดิ์ของผมล่ะ”คณพศกระซิบขอจุมพิตจากนาราราวกับเด็กน้อย
นาราก้มหน้าลง จูบเบาๆ ที่หน้าผากของคณพศ “นอนเถอะ ถึงตอนที่คุณตื่นขึ้นมา มันก็จะดีขึ้น”
“อื้ม”คณพศตอบเบาๆ ค่อยๆ หลับตาลง
พลังกายของเขาได้ถึงขีดจำกัดจะรับไหวแล้ว พลังทั้งหมดได้ใส่เข้าไปในการจูบที่หอมหวานน่าหลงใหลเมื่อครู่นั่นแล้ว บวกกับที่ยังพูดคุยกับนารายาวนานขนาดนั้น หมดแรงไปนานแล้ว จึงได้ง่วงจนหลับไป
ผ่านไปไม่นานนัก คณพศหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ตกลงไปในความฝันอันแสนหวาน
และในตอนนั้นหัวใจของนาราก็ปวดร้าว โลกของเธอพังทลายลงมา หยาดน้ำตาไหลนองเต็มหน้า
เมื่อไปยังคณพศที่กำลังหลับใหล นารายกยิ้มอย่างขมขื่น มองเขาอย่างร้าวระทม ในใจเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
คณพศ ครั้งนี้ฉันไม่ใช่ว่าอยากจากคุณไปจริงๆ แต่มันกลับไม่ไปไม่ได้ ฮะฮะ ชาติที่แล้วฉันคงไปทำลายล้างโลกเข้า ชาตินี้ถึงได้ถูกพรากจากคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า
คณพศ วันคืนหลังจากที่ฉันจากไปแล้ว คุณจะต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ เพราะชีวิตที่เหลือนี้ ฉันแลกมันมาให้คุณ คุณต้องไม่ทำให้มันเสียเปล่า!”
สีหน้าของนาราว่างเปล่า ทั้งๆ ที่ไม่ต้องการจะจาก แต่ในใจรู้ดีว่าท้ายสุดก็ถึงเวลาต้องแยกจาก
เธอกุมมือคณพศ มองดูใบหน้าของเขาอย่างเงียบๆ ชั่วขณะนั้นเธอนำเขาสลักไว้ในใจ
ดอกไม่เบ่งบาน ผีเสื้อโบยบิน ช่วงเวลานั้นช่างงดงาม คณพศ คนรักของฉัน รักษาตัวด้วยนะ
“พวกเราร้องไห้ พวกเราหัวเราะ เราแหงนหน้ามองท้องฟ้า แสงดาวสกาวยังมีประปราย พวกเราขับขาน บทเพลงแห่งกาลเวลา จึงค่อยเข้าใจถึงการโอบกอดซึ่งกันและกัน ว่าที่แท้นั้นเพื่อสิ่งใด เพราะฉันได้พบเจอเธอ รอยเท้าที่เหลือไว้นั้นจึงสวยงาม สายลมพัดผ่านบุปผาโรยรา น้ำตาร่วงหล่นดั่งสายฝน เพราะว่าไม่อยากที่จะแยกจากกัน เพราะได้พบเจอเธอ ถึงรอคอยนับสิบปี หากได้กลับมาพานพบกันอีกครั้ง ฉันคิดว่าฉันจะยังคงจำเธอได้……”
( music : ได้พบเจอคุณพอดี)
เวลาเที่ยงคืย นาราลุกยืนอย่างไม่เต็มใจ โน้มตัวลงจูบเบาๆ บนหน้าผากของคณพศ คณพศ ยามนี้ช่างเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ดูแลเอาเองด้วย!
นาราเอ่ยในใจอย่างเงียบงัน แล้วจึงเดินออกจากห้องผู้ป่วยไปโดยไม่หันกลับ เธอเร่งฝีเท้า ไม่อาจอดกลั้นไว้ได้อีกแล้ว ต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แบบนั้นณัจยาถึงจะส่งยาถอนพิษอีกครึ่งมา
ฝีเท้าของนารารีบเร่ง เพิ่งเดินมาถึงประตูของโรงพยาบาล ก็บังเอิญไปชนเข้ากับใครคนหนึ่ง ไม่นึกว่าจะเป็นยชญ์
ยชญ์มองนาราที่ดูรีบร้อน จึงถามอย่างสงสัย “น้องสะใภ้ นี่จะไปไหนเหรอ?”
ชั่วขณะแววตาของนาราตื่นตระหนกเล็กน้อย เธออยากจะบอกเรื่องทั้งหมดกับยชญ์เหลือเกิน แต่รู้ดีว่าณัจยานั้นเสียสติไปแล้ว หากไปบีบคั้นเธอ อาจจะทำลายไปก็ได้ อย่างนั้นแล้วใครจะช่วยคณพศได้กันล่ะ?
คิดดังนั้น นารารู้ตัวว่าต้องใจเย็นไว้ ต้องออกไปจากที่นี่อย่างเงียบเชียบ
เธอฝืนยิ้มออกมา “เอ่อ ฉันจะกลับไปเอาของน่ะ”
“ให้ผมไปส่งไหม?”ยชญ์พูดอย่างหวังดี
นาราส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณไปดูแลคณพศเถอะ ฉันไม่เป็นไร”
“งั้นก็ได้ น้องสะใภ้ งั้นผมเข้าไปก่อนนะ เมื่อกี้ศุกลโทรมาแจ้งแล้ว ว่าคุณซื้อยาถอนพิษมาได้ น้องสะใภ้ คุณนี่สุดยอดจริงๆ!”ยชญ์เอ่ยกย่องอย่างจริงใจ
นารายิ้มบางๆ “งั้นเหรอคะ? บางทีนะ….”
“อะไรนะ? น้องสะใภ้ เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรเหรอ? พูดอีกทีได้ไหม ผมฟังไม่ชัดเลย”ยชญ์ไม่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของนารา จึงถามอีกครั้ง
นาราส่ายหน้า “ไม่มีอะไรค่ะ คุณเข้าไปเถอะ ฉันกลับไปเอาของก่อนนะ”
“อืม โอเค งั้นผมเข้าไปก่อนนะ ช่วงนี้ยุ่งอยู่กับการตามหายัยเมษานั่น ไม่ได้เจอชายสามมาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าอาการตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง น้องสะใภ้เดินทางปลอดภัยล่ะ รีบไปรีบกลับนะ”ยชญ์พูดจบ ก็ก้าวเข้าไปในโรงพยาบาล
มองแผ่นหลังของยชญ์ นาราเอ่ยคำพูดในใจอย่างเงียบๆ ยชญ์ โปรดดูแลคณพศด้วย ฉันต้องขอร้องพวกคุณแล้ว
เช้าตรู่ นาราพาร่างเล็กจากไปจากท่าเรือเมืองธิตกล
*
แสงอาทิตย์ยามเช้าค่อยๆ ตื่นขึ้น ส่องแสงอย่างเกียจคร้าน เพื่อเริ่มต้นวันใหม่
วันนี้ศุกลตื่นแต่เช้าตรู่ เร่งฝีเท้าไปยังห้องผู้ป่วยของคณพศ
เมื่อวานไม่รู้ว่านาราไปได้หามาจากไหน ถึงได้บรรเทาสภาพร้ายแรงของคณพศได้อย่างน่าอัศจรรย์ ศุกลคิดจนนอนไม่หลับอยู่ทั้งคืน ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ ยาถอนพิษที่ซื้อมาอะไรกัน นี่เป็นยาถอนพิษของจริงแน่นอน! ส่วนคนที่ให้ยานี้กับนารามานั้น จะต้องเป็นเมษาที่หายตัวไปอย่างลึกลับคนนั้นแน่!
เขานึกเสียใจขึ้นมาที่ให้ยชญ์รีบกลับไปซะก่อน น่าจะพบให้เร็วกว่านี้ แล้วบอกเรื่องนี้กับเขา
ส่วนศุกลนั้นไม่เชื่อว่าเมษาที่ทำเรื่องพวกนี้ลงไปจะเป็นคนดีได้ เขาต้องไม่ถามนาราให้ชัดเจน อยากจะเห็นว่าเมษาจอมเจ้าเล่ห์นั่นคิดจะทำอะไร
จนเมื่อเขามาถึงผู้ป่วย กลับต้องตกใจเมื่อพบหญิงสาวแปลกหน้าที่ที่ยืนอยู่ในห้อง
ศศุกลชะงักเล็กน้อย รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูจะคุ้นๆ อยู่บ้าง เขาคิดอย่างรอบคอบ นี่มันเมษาที่ยชญ์ติดประกาศตามหาทั่วทั้งเมืองก็ยังตามหาไม่เจอไม่ใช่เหรอ? หล่อนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? คุณผู้หญิงล่ะ?