The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 319 ที่แท้เธอหนีออกมาจากการกักขัง
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 319 ที่แท้เธอหนีออกมาจากการกักขัง
ตอนที่ 319 ที่แท้เธอหนีออกมาจากการกักขัง
“จริงหรอ” ไลลาได้ยินคำพูดของโลลิต้าก็เอามือจับท้อง พูดพึมพำในใจ ลูกรัก ลูกก็ไม่ชอบที่นี่ใช่ไหม วางใจนะ แม่จะพาหนูหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้
“โอเค ฉันกินก็ได้” ไลลายึดมั่นความคิดแน่วแน่ เธอจะต้องหาวิธีหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ แต่เคลลี่ลั่วก็เตรียมการไว้รัดกุมเหลือเกิน เธอควรจะทำตามเคลลี่ลั่วไปก่อน รอตอนเขาเผลอเมื่อไร นั่นละคือช่วงโอกาสที่เธอจะหนีออกจากที่นี่
โลลิต้าไม่รู้ว่าไลลาเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไร เดิมทีไลลาไม่ยอมกินอาหารตอนนี้กลับยอมกิน โลลิต้ารีบดึงจานผลไม้มาให้ไลลา “ดีมากเลยค่ะคุณไลลา คนท้องต้องกินวิตามินเยอะๆ ค่ะ คุณไลลาต้องดูแลตัวเองดีๆ นะคะ”
ไลลาเด็ดองุ่นเข้าปาก เผยยิ้ม “หรอ ต้องดูแลคุณดยุคน้อยในท้องของพวกเธอใช่ไหมล่ะ”
เหมือนใจของโลลิต้าถูกแทงด้วยคำพูดของไลลา แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่บอกใครไม่ได้ เลยพยักหน้าให้ไลลา
“ใช่ค่ะคุณไลลา ฉันคิดว่าแม่ทุกคนบนโลกก็คิดแบบนี้ ดูแลลูกของตัวเองให้เติบโตอย่างดีที่สุด คนเก่งๆ อย่างคุณไลลา ก็ต้องคิดแบบนี้อยู่แล้ว”
ไลลาไม่พูดอะไร แค่ยิ้มบางๆ จากนั้นก็เอาองุ่นเข้าปากต่อไป ถึงแม้เธอจะไม่อยากกินแต่เธอต้องการพลังงานที่มากพอ ที่กินไม่ใช่เพราะหิวแต่เพื่อเก็บพลังงานเอาไว้
เห็นคุณไลลาค่อยๆ กินองุ่นที่ตนเองล้างให้เธอกิน โลลิต้าก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก คุณไลลาอยู่ที่นี่มานาน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอร้องขอทานอาหารเอง ว่าไปแล้วคนที่กลายเป็นแม่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเดิมร้อยเท่าเลยล่ะ
“งั้นฉันออกไปก่อนนะคะ คุณไลลาถ้ามีอะไรก็สั่นกระดิ่งเรียกฉันนะคะ” โลลิต้าเดินออกไปจากห้องอย่างมีความสุข ในห้องเลยเหลือแต่ไลลาที่กำลังเด็ดองุ่นกินอย่างช้าๆ
องุ่นที่หวานราวกับน้ำผึ้ง แต่เมื่อเธอเอาเข้าปากกลับไม่มีรสชาติอะไรเลย
ในเวลานี้ไลลาคิดแต่เรื่องที่จะหนีออกจากที่นี่ คุกที่ทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก เธอไม่อยากจะอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว!
กลางดึก ไลลาที่นอนอยู่บนเตียงร้องด้วยความเจ็บปวด ไม่นานโลลิต้าที่คอยดูแลเธอก็รีบวิ่งเข้ามาในห้อง “คุณไลลา คุณไลลา! เป็นอะไรคะ”
ไลลาเอามือจับที่ท้องของเธอ พูดออกมาอย่างยากลำบาก “ฉะ ฉันเจ็บท้องมาก เจ็บมาก”
ในเวลานั้นโลลิต้าคิดอะไรไม่ออก “จะทำยังไงดีคะ คุณดยุคก็พาคุณหมอไปดูอาการของท่านเอิร์ลที่ป่วยหนัก จนถึงตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย จะทำยังไงดีคะ”
ไลลาเหมือนจะไม่ได้ยินอะไรแล้ว เธอเอามือจับท้องแน่น “เจ็บมาก ฉันเจ็บท้องมาก จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”
โลลิต้าเห็นว่าไลลาเจ็บท้องจนทนไม่ไหวแล้ว เธอไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว รีบเรียกคนใช้สองคนมาช่วยเธอพาไลลาขึ้นรถและรีบไปโรงพยาบาล
ระหว่างทาง โลลิต้าโทรแจ้งเรื่องดังกล่าวให้เคลลี่ลั่วทราบ เคลลี่ลั่วบอกว่าจะรีบมา แต่ระยะทางจากที่นี่ถึง
บ้านท่านเอิร์ลต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่า เคลลี่ลั่วกำชับให้โลลิต้าดูแลไลลาให้ดี เมื่อได้รับคำสั่งจากเคลลี่ลั่ว โลลิต้ายิ่งไม่กล้าละเลยหน้าที่ของตัวเอง เธอพาไลลาไปส่งโรงพยาบาลอย่างระมัดระวัง เธอเป็นห่วงไลลามาก
ในขณะเดียวกันไลลานอนอยู่บนเตียงคนไข้ที่กำลังเข็นไปห้องฉุกเฉิน ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้น เธอรู้อยู่แล้วว่าเคลลี่ลั่วจะต้องพาหมอประจำตระกูลไปตรวจคนอื่น เธอเลยใช้โอกาสนี่หลอกว่าตัวเองเจ็บท้อง
เธอยังได้ยินเคลลี่ลั่วพูดว่ากว่าจะมาถึงที่นี่ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง เธอต้องใช้ช่วงเวลานี้หนีไป ถ้าพลาดจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว
ใจของไลลาร้อนรนมาก แต่คนที่ใจร้อนรนกว่าเธอคงจะเป็นโลลิต้าที่เข็นเธอเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ผ่านการตรวจอย่างละเอียดจากคุณหมอ พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
“คุณหมอคะ คุณไลลารู้สึกไม่สบายตรงไหนกันแน่คะ” โลลิต้าถามเพื่อจะเอาไปตอบเคลลี่ลั่ว
คุณหมอคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอ่อ คนไข้เหมือนจะไม่มีอาการอะไรหนักนะ น่าจะเครียดเกินไปบวกกับเป็นช่วงแรกของการตั้งครรภ์เลยทำให้เกิดอาการเจ็บท้อง อาการเจ็บท้องนี่ไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยยา คุณต้องดูแลคนไข้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้คนไข้มีอารมณ์ที่สดใส”
“ค่ะ โอเคค่ะ” โลลิต้าเหมือนจะคลายความกังวลลงแล้ว ดีเลย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เธอต้องไปแจ้งเรื่องนี้กับดยุคแล้วล่ะ
โลลิต้าคิดเช่นนั้น เธอมองไลลาที่นอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วย จึงหยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกไปข้างนอกเพื่อโทรแจ้งข่าวให้เคลลี่ลั่วทราบ
ไลลาที่แกล้งหลับอยู่บนเตียง เมื่อเห็นว่าโลลิต้าออกไปจากห้องแล้ว ก็ค่อยๆ เปิดตา แล้วค่อยๆ ลงจากเตียง แอบดูโลลิต้าทางกระจกเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มเดินออกไปไกล ไลลาจึงค่อยๆ เปิดประตูเป็นช่องเล็กๆ แล้วรีบวิ่งออกไป
โรงพยาบาลกว้างใหญ่มาก ที่นี่แปลกไปหมดสำหรับไลลา เพื่อที่จะไม่ให้เจอกับโลลิต้าระหว่างทางที่เธอเดินกลับมา ไลลาจึงเลือกหลบอยู่ในห้องห้องหนึ่ง
ห้องที่เธอเข้ามาดูเหมือนจะเป็นห้องพักของแพทย์ ในนี้ไม่มีใครเลยสักคน มีชุดกราวน์แขวนอยู่สองสามตัวและหมวกที่แพทย์ใช้ผ่าตัด
ไลลาเห็นดังนั้นก็กระหยิ่มใจ รีบนำชุดกราวน์มาสวมและรีบเดินออกไปจากโรงพยาบาลเธอหายไปในคืนนั้น
เพื่อที่จะหนีออกไปจากอาณาเขตของเคลลี่ลั่ว เธอสอบถามคนมากมาย ในที่สุดก็มาถึงที่ที่ทำธุรกิจท่าเรือ จากนั้นเธอก็นำแก้วดื่มเหล้าที่ทำจากทองที่แอบหยิบมาจากบ้านของเคลลี่ลั่ว ถูไถแลกเป็นตั๋วเรือที่ไปเมืองใกล้เมืองธิตกล
ระหว่างทาง เพราะว่าไลลาไม่มีเงินติดตัว ได้แต่ฝากท้องไว้กับปลาเค็มที่อยู่ในตะกร้าบนเรือเท่านั้น ยังดีที่มีน้ำสะอาดในห้องโดยสารเรือ ทำให้เธอไม่เป็นลมล้มไปเสียก่อน
เรือโคลงไปโคลงมาผ่านไปสองวัน ในที่สุดไลลาก็ได้ลงจากเรือ เธอคิดว่าตัวเองถึงเมืองธิตกลแล้วแต่ไม่ใช่อย่างนั้นเรือมาจอดที่เมืองฝาน
เมืองฝานเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ ในทุกๆวันมีเรือประมง เรือขนส่งสินค้ามาจอดที่ท่าอย่างนับไม่ถ้วน แถมยังมีนักท่องเที่ยว การขนส่งสินค้าต่างๆ พลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา
ไลลาถูกไล่ลงจากเรือ หลังจากนั้นเธอก็รู้ว่าที่ที่เธออยู่ไม่ใช่เมืองธิตกล ตอนที่เธอกำลังเริ่มท้อใจคาดไม่ถึงว่าจะเจอนารา
ผ่านมาหลายวัน คนสองคนได้มาเจอกันที่ท่าเรือ มันเหมือนโชคชะตาลิขิตเอาไว้แล้ว
เมื่อเห็นนารา ความกลัวที่ไลลาซ่อนไว้ก็ถูกระบายออกมา เธอโผเข้าไปหานารา กอดเขาแน่นและร้องไห้โฮ “ฮึกฮึกฮือ นารา ฉันดีใจจริงๆ ที่ได้เจอเธอ ฮือฮือ”
นาราอึ้งไปเลย แม้แต่จะฝันยังไม่กล้า ไม่คิดว่าจะเจอไลลาในสถานการณ์แบบนี้ แถมนารากำลังตั้งท้องอยู่ 4 เดือน คุณพระคุณเจ้า นาราที่ตอนนี้แทบจะไม่มีเสียงแท้จริงแล้วเธอเจอเรื่องอะไรมานะ
“ไลลา เธอหยุดร้องไห้ก่อน บอกฉันก่อนว่าเธอเจออะไรมา ทำไมตอนฉันไปหาเธอ ถึงหาเธอไม่เจอ” นาราลูบหลังไลลาเบาๆ แล้วพาเธอไปในที่ลับตาคน