The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 357 อุบัติเหตุจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 357 อุบัติเหตุจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
ตอน 357 อุบัติเหตุจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
เขายืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เดินไปมาด้วยความกระวนกระวายใจ ปากเขาพูดไม่หยุด “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เขาต้องไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร”
เขาแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว เขาทุบประตูห้องฉุกเฉิน “หมอ ให้ผมเข้าไปเดี๋ยวนี้ นารา”
เพราะเสียงดังมาก เลยทำให้พยาบาลเตือนว่า “คุณคะ นี่เป็นโรงพยาบาลนะคะ กรุณาลดเสียงเบาหน่อยค่ะ อย่าทุบประตู”
มองดูไฟสีแดงจากห้องฉุกเฉินแล้ว เคนโด้นึกขึ้นมาว่า เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หญิงสาวที่นั่งกินข้าวกับเขาในตอนเช้า ทำไมถึงโดนรถชนได้
เคนโด้รอไปสักพัก รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ากว่าครึ่งชีวิตของเขาซะอีก ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก แล้วทีมแพทย์ผ่าตัดที่สวมชุดสีเขียวก็เดินเข็นเตียงคนไข้ออกมา
“คุณหมอครับๆ เขาปลอดภัยไหมครับ เขาเป็นยังไงบ้างครับ” เคนโด้พูดด้วยความร้อนรนใจ และรีบลุกขึ้นไป
แพทย์ที่เป็นคนผ่าตัดดึงหน้ากากลง แล้วส่ายหัวด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี “อาการของคนไข้ไม่ดีเท่าไหร่ มีโอกาสเป็นเจ้าหญิงนิทรา แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะฟื้นไหม ต้องรอดูอาการของคนไข้ครับ”
เคนโด้อึ้ง เป็นไปไม่ได้ คนดีอย่างนาราจะเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ยังไงกัน ไม่มีทาง ไม่มีทาง
“หมอครับ ขอร้องล่ะครับ ช่วยชีวิตเธอด้วย อายุเขายังน้อยนะครับ จะเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่ได้นะครับ ขอร้องล่ะครับหมอ” เคนโด้เกาะแขนของหมอ และขอร้องอย่างเสียใจ
หมอชินกับการเกิดแก่เจ็บตายแล้ว เลยมองเห็นเรื่องตายเป็นเรื่องปกติ
เขามองดูหน้าของเคนโด้แล้วพูดว่า “เอาแบบนี้นะครับ รอให้เขาพ้นขีดอันตรายก่อน คุณสามารถลองพูดคุยกับเขาดู พยายามพูดขอให้เขามีชีวิตอยู่ ถ้าเขาตัดสินใจที่จะถอยแล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้แล้วครับ”
ได้ยินหมอพูดแบบนี้แล้ว เคนโด้ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขามองดูใบหน้าที่ขาวเนียนของนาราที่นอนอยู่ ทำให้เขาเจ็บปวดใจไม่น้อย
ต้องโทษตัวเองที่ดูแลเขาได้ไม่ดี ไม่งั้นก็คงไม่ต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเขา
เคนโด้เฝ้าอยู่ข้างเตียงของนาราทั้งคืน เขาไม่อยากห่าง จนกระทั่งหมอบอกว่าคนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว
เขาโล่งใจไปที เคนโด้รีบตามหมอไปที่ห้องผู้ป่วย จากนั้นเขาก็พานาราไปที่ห้องปลอดเชื้อ เคนโด้ก็ตามเข้าไปด้วย มองเห็นแผลที่มือของเขา ยิ่งทำให้เจ็บใจจนหายใจไม่ออก
เขาดูแลนาราเป็นอย่างดี เฝ้าอยู่ข้างเตียงทั้งคืน
ครึ่งเดือนผ่านไป ผมของเขาไม่ได้สระจนพันกันไปหมด เขาดูเหนื่อยล้ามาก
วันนี้ เขานั่งอยู่ที่ข้างเตียงของนารา มองดูเธอที่ขาดใบหน้าที่มีชีวิตชีวาไป
เขาเริ่มโทษตัวเองอีกครั้ง : “นารา คุณได้ยินที่ผมพูดไหม”
“นารา คุณลืมตาขึ้นมามองผมหน่อยได้ไหม”
“นารา ผมรู้ว่าใจของคุณอยู่ที่คณพศ ผมรู้ ไม่ใช่เพราะข่าวที่เกี่ยวกับเขา คุณคงไม่ต้องมาเป็นแบบนี้”
“นารา คุณต้องรีบๆ หายนะ บนโลกนี้ยังมีคนต้องการคุณอีกตั้งเยอะ คุณนึกถึงผม นึกถึงลูกชายที่น่ารักของคุณสิ”
เคนโด้พูดอยู่ที่ข้างหูของนาราไม่หยุด แต่นาราก็ยังไม่ขยับตัว ขนาดหายใจยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
แล้วคนที่เศร้าโศกและหลับไป ประหนึ่งว่ากำลังใช้การหลับในการรักษาหัวใจตัวเอง ไม่อยากจะโดนทำร้ายอีก……
เคนโด้ก็ยังคงพูดให้กำลังใจอยู่ข้างหูของนาราต่อไป เขารู้นิสัยเขาดี ว่าถ้าจะให้เขามีชีวิตอยู่เพื่อใครล่ะก็ คงจะมีเพียงคณพศและลูกชายของพวกเขา
ถึงการที่เขารู้แบบนี้จะทำให้เคนโด้เจ็บปวด เขาคิดว่าการเจอกันครั้งนี้เป็นสิ่งที่ฟ้าให้โอกาสใหม่ๆ กับเขา แต่ไม่ว่าเขาจะทำยังไง ก็ไม่ได้รอยยิ้มจากนาราเลย ยิ่งไปกว่านั้นคือเขายังสู้ไม่ได้แม้แต่ข่าวของคณพศ
เขายอมรับว่าเขาแพ้แล้ว
ใช่ เขาสู้คณพศไม่ได้
แต่ตอนนี้เรื่องพวกนี้ไม่ได้สำคัญแล้ว
“นารา ขอร้องเถอะนะ คุณรีบหายไวๆ เถอะ อย่าท้อกับชีวิตของตัวเองนะ ขอแค่คุณฟื้นขึ้นมา ผมยอมที่จะซ่อนความรักของผมที่มีต่อคุณไว้ ต่อไปผมจะเป็นแค่พี่ชายของคุณ อยู่ข้างคุณและดูแลคุณต่อไป”
“นารา ผมรู้ว่าคุณชอบคณพศ ถ้าคุณรักคุณก็ต้องสู้สิ ต้องไปแย่งมา ซ่อนอยู่แบบนี้มันได้อะไรกันล่ะ หรือคุณอยากให้ลูกของคุณมีแม่เลี้ยงกันล่ะ คุณไม่รู้เลยรึไงว่าแม้เลี้ยงนั้นจะใจร้ายกับเด็ก”
“นารา คุณต้องสู้นะ รีบฟื้นขึ้นมา รีบลืมหน้าขึ้นมามองหน้าผมหน่อยดีไหม บอกผมหน่อยว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ ผมรู้ว่าคุณเข้มแข็งมาก หกปีก่อนเขายังรอดจากใต้สมุทรมาได้ ครั้งนี้ก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งสิ”
เคนโด้พูดไม่หยุด แต่นาราก็ยังไม่มีการตอบโต้ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนนี้ในใจเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย และร้องไห้อยู่ข้างเตียงผู้ป่วยของนารา
การที่ผู้ชายจะเสียน้ำตามันไม่ง่ายเลยนะถ้าไม่เสียใจมากจริงๆ
เคนโด้รู้สึกใจสลาย และร้องไห้ไม่หยุด จนหมอที่เฝ้าเวรอยู่ข้างนอกต้องเดินเข้ามา และอยากจะเอาตัวเขาออกไป “ญาติครับ คุณต้องใจเย็นๆ นะครับ ตอนนี้เขายังตอบอะไรคุณไม่ได้หรอกครับ คุณร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ขอให้คุณมีสติหน่อยนะครับ”
เคนโด้หน้าเหลืองซีด แล้วโวยวายอย่างทรมานกับหมอว่า “ให้ผมใจเย็นหรอ คุณบอกผมมาสิ ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว เขายังไม่ขยับตัวเลยสักนิด คุณให้ผมใจเย็นได้ยังไง ห้ะ! ผมอยากจะให้คนที่นอนอยู่ตรงนั้นเป็นผมแทน เป็นผมแทน!”
พูดแล้ว เคนโด้ก็จับมือของนารา และอยากที่จะทำให้เขาฟื้นขึ้นมาให้ได้ ร้องไห้แล้วขอร้องว่า “นารา ตื่นได้แล้ว คุณรีบตื่นมาทีสิ ผมยอมที่จะสละครึ่งชีวิตที่จะมีความสุขของผม แลกกับชีวิตที่สงบสุขของคุณ ขอแค่คุณฟื้นขึ้นมาเถอะนะ”
หมอที่เฝ้าเวรถอนหายใจ ในโรงพยาบาลมีคนเกิดแล้วก็ตายมากมาย เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เขาชินกับเรื่องพวกนี้แล้ว
จู่ๆ เคนโด้ก็ลุกขึ้นมาอย่างหุนหัน และคว้าชายเสื้อของหมอแล้วว่า “หมอครับ คุณรีบดูให้หน่อยครับ เมื่อกี้เขาขยับตัวหนึ่งที หมอรีบดูเร็ว”
“ได้ครับๆ ผมจะดูให้เดี๋ยวนี้” คุณหมอรีบตรวจเช็คนาราที่กำลังสลบอยู่ ผ่านไปสักพัก คุณหมอก็หันกลับมาหาเคนโด้ด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี “ญาติครับ อาการยังแย่อยู่นะครับ คุณต้องเตรียมใจไว้นะครับ”
“ไม่!” เคนโด้รีบตะโกนขึ้น “เมื่อกี้ผมรู้สึกได้ว่าเขาขยับตัว เขาขยับตัวจริงๆ ผมไม่ได้คิดไปเอง”
หมอพยักหน้า “ใช่ครับ เป็นไปได้ที่เขาจะกระตุก เอาแบบนี้ คุณค่อยๆ พูดกับเขาต่อเรื่อยๆ พยายามกระตุ้นเขา พูดจริงๆ นะครับ คนที่เสียการรับรู้ไป ไม่อยากที่จะเผชิญกับตัวเอง ปิดตัวเองอยู่ในโลกของเขา ไม่ยอมฟื้น ขอให้คุณกระตุ้นเขาให้มากๆ ให้เขาตระหนักถึงชีวิตจริง