The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 37 ที่รัก...อย่าพูดอีกเลย
บทที่ 37 ที่รัก…อย่าพูดอีกเลย
ใบหน้าของเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันอบอุ่นของเขา มือของเขาก็เริ่มซุกซนอยู่ไม่สุข
นาราอยากผลักเขาออกไป ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “อย่าขยับ ให้ฉันจูบเธอซะดีๆ”
“……..” นาราหมดแรงขัดขืน ส่วนชายหนุ่มกอดเธอแน่นขึ้น
สิบนาทีผ่านไป คณพศเงยหน้ามองเธอ “ที่รัก ฉันอยาก…..”
นาราสะดุ้งตกใจ เธอรีบผลักเขาออกไป “ไม่ได้ นี่มันกลางวันแสกๆ อีกอย่างฉันไม่ใช่ที่รักของคุณ” ในใจของเธอรู้สึกสับสนจริงๆ เธอกลัวเขาโกรธ แต่ก็ไม่อยากใกล้ชิดเขามากเกินไป บางครั้งเธอรู้สึกเจ็บปวดใจ เพราะเธอเป็นแค่เมียกำมะลอ จึงไม่มีสิทธิ์ทำเรื่องที่ภรรยาสมควรทำ
คณพศทำตาปรือจ้องมองเธอ “เธอเป็นภรรยาฉัน พวกเราผ่านเรื่องที่สามีภรรยาต้องทำกันมาแล้ว วันหลังห้ามพูดว่าเธอไม่ใช่ภรรยาฉันอีก”
“……..”
“อีกอย่างฉันจะทำโทษเธอ” ทันใดนั้นเขาหลับตาจูบเธออีกครั้ง ภายในโสตประสาทของเธอได้ยินแต่ “ที่รัก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่ต้องสนใจ ขอเพียงเธออยู่ข้างฉันเป็นเมียฉัน เรื่องอื่นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน”
นาราไม่มีปฏิกิริยาขัดขืนใดๆ แต่รู้สึกว่ารถวีลแชร์จะถูกเข็นมาถึงเตียงนอน ร่างของเธอถูกโยนขึ้นไปบนเตียงด้วยพละกำลังสองมือของชายหนุ่ม เขาหลับตาแล้วคิดว่าชีวิตที่มีเธอเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด อนาคตข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาก็จะไม่ให้เธอจากเขาไป
เพราะเกรงว่าคนรับใช้จะมาเคาะประตู เขาจึงรีบปฏิบัติภารกิจให้เสร็จสิ้นภายในเวลาครึ่งชั่วโมง
นาราอายจนต้องซุกหน้าไว้ที่หมอน ชายหนุ่มคนนี้ก็เหมือนตายแล้ว ขาของเขาขยับไม่ได้ไม่ใช่รึ แต่ทำไมเขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
“คุณคณพศ ขาของคุณ….”
“ขาฉัน…โอเค” เขามองเธอ “ฉันหมายถึงขาที่สามของฉันโอเค” ดวงตาของเขาลุกโพรงเหมือนไฟ
นาราพยายามผลักเขาออกไป ชายหนุ่มคว้ามือของเธอด้วยความไม่พอใจ “อย่าผลักฉัน มาให้ฉันกอดซะดีๆๆ”
“หนักจัง” ขาของเธอโดนทับจนชา
“เมื่อกี้ยังไม่หนัก ตอนนี้ทำมาเป็นหนักแล้วเหรอ? หืม?” เขามองเธออายจนไม่กล้าสบตาเขา เขาหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งทั้งสองมือสวมเสื้อเชิ้ตกระโดดขึ้นรถวีลแชร์เข็นไปที่ห้องอาบน้ำ
ตอนที่คณพศออกมาจากห้องอาบน้ำ นาราสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว รถวีลแชร์ตค่อยๆ เข็นออกไป ผ่านห้องนอนของเธอ ได้ยินเสียงน้ำเขาเองก็อดยิ้มไม่ได้
ลุงบีมเตรียมที่จะขึ้นไปเรียกพวกเขาลงมาทานข้าว พอเห็นคณพศกำลังยิ้ม เขาจึงยืนนิ่ง คุณชายโตขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นเขายิ้มเลย แต่วันนี้เขากับมายืนอมยิ้มอยู่คนเดียว ในที่สุดคุณชายก็ยิ้มจนได้
ที่โต๊ะอาหารนาราก้มหน้าก้มตากินข้าว จู่ๆ ที่ชามของเธอก็มีคุณคีบกุ้งมาให้หนึ่งตัว เธอเงยหน้าก็พบกับดวงตาอันอบอุ่นของชายหนุ่ม “กินเยอะๆ นะ ที่รัก ช่วงนี้เธอดูผอมไปนะ”
นารามองไปรอยๆ เห็นคนรับใช้แอบอมยิ้ม เธอเขินจนต้องถลึงตาใส่ชายหนุ่ม แล้วก้มหน้ากินข้าวต่อไป ผ่านไปไม่นานก็มีปีกไก่มาอีก
นารากินข้าวด้วยความรู้สึกอึดอัด พอกินปีกไก่หมด ปากก็ตามมาอีก เธอรีบขมวดคิ้วจ้องมองไปที่ชายหนุ่ม
คณพศแกลังทำเป็นมองไม่เห็นแล้วกินต่อไป เธอก็ทำได้แค่นั่งกินปลาต่อไป พอเห็นชายหนุ่มจะคีบผักให้อีก เธอจึงรีบวางตะเกียบลง “ฉันกินอิ่มแล้ว คุณค่อยๆ กินไปล่ะกัน”
เธอลุกขึ้นและเดินไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น แล้วหยิบรีโมตมาเปิดโทรทัศน์
คณพศเห็นหญิงสาววิ่งหนีไปแบบนั้น ก็ส่ายหัวยิ้ม แล้วใช้ตะเกียบคีบผักของเธอขึ้นมากินแทน
วันที่สอง นาราเก็บข้าวของเตรียมตัวเดินทางไปฝรั่งเศสกับคณพศ ในห้องนอนขณะที่นารากำลังเก็บสัมภาระ รถวีลแชร์ถูกเข็นมาที่ด้านหลังของเธอ
“เอาของใช้ที่จำเป็นไปพอ หากขาดเหลืออะไรก็ไปซื้อที่โน้น”
คณพศมองหญิงสาวที่กำลังมองหาช่องใส่ของลงในกระเป๋าสัมภาระ เขาขมวดคิ้ว “ถ้าหากในบ้านนี้มีก็เอาไปด้วยแบบนี้สะดวกกว่า ไปซื้อที่โน้นก็ต้องเสียเงิน คุณช่วยสำรวจด้วยนะคะ” ความหมายของเธอคือต้องการประหยัดเงิน
ชายหนุ่มมองเธอด้วยสายตาที่อบอุ่นเต็มไปด้วยความหลงใหล “ไม่….ฉันเลี้ยงเธออีกคน ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก”
นาราไม่พูดอะไรหลังจากฟังที่เขาพูดแล้วก็หยิบเสื้ออีกสองสามตัว
บ่ายวันนั้นคณพศและนาราไปขึ้นเครื่องบินเพื่อไปฝรั่งเศสพร้อมกับลุงบีม ถึงฝรั่งเศสตอนเที่ยงคืน
ขณะลงจากเครื่องบินก็มีรถมารับ “คณพศเหนื่อยหน่อยนะ” คนที่มารับคือตรัญ แลมบอร์กินี่สีขาวจอดรออยู่ด้านนอกสนามบิน ตรัญมองนาราพร้อมกับรอยยิ้ม
“สวัสดีครับคุณผู้หญิง” เขายื่นมือออกมา
นารายิ้มตอบขณะที่กำลังจะยื่นมือเพื่อจับทักทาย ก็ถูกชายหนุ่มบนรถวีลแชร์ขวางไว้
เขาใช้มือปัดมือของตรัญ “นายควรเรียนเธอว่าคุณนายน้อย”
ตรัญยิ้มเยาะ “คณพศนายมีแบบนี้ด้วยเหรอ? ฉันเพิ่งได้พบกับคุณผู้หยิง การทักทายก็เป็นเรื่องปกติ ทำไมต้องคิดเล็กคิดน้อยด้วย”
พอถึงด้านข้างรถ เขาใช้สองมือดันตัวเองขึ้นนั่งในรถ ส่วนนาราก็นั่งข้างๆ เขา ชายหนุ่มมองผมที่อยู่บนใบหน้าของเธอ ยกมือขึ้นปัดเบาๆ
ความรู้สึกที่อบอุ่นจากสิ่งนี้เกินคำบรรยาย ถูกคนขับรถคือตรัญที่อยู่ด้านหน้าเห็นเข้าถึงกับหัวเราะเบาๆ “คณพศ นายแสดงความรักเปิดเผยซะขนาดนี้ ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาบ้างหรือไง?”
นาราหน้าแดง รีบนั่งห่างๆ ทันที คณพศก็รีบคว้าข้อมือของเธอทันที สายตาจ้องเขม็งมาที่ชายกำลังขับรถ
ตรัญหัวเราะเสียงดัง “คุณผู้หญิง ดูเหมือนคณพศกำลังหึงคุณอยู่นะ”
นาราเห็นว่าตรัญกำลังมองเธอจากกระจกมองหลัง เธอจึงหัวเราะ “คุณตรัญ ฉันชื่อนารา เรียกนาราเฉยๆ ก็ได้คะ ขอบคุณที่คุณมารับพวกเรากลางดึก”
“อ้อ…นารา” ตรัญมองนาราด้วยสายตาเป็นประกาย นารารีบก้มศีรษะ