The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 376 มิราคือผู้ชนะ
ตอนที่ 376 มิราคือผู้ชนะ
คณพศเพิ่งจะรู้ตัว รู้สึกอับอายอยู่ในใจแบบไม่มีที่สิ้นสุด อยู่มาจนอายุขนาดนี้แล้วยังเทียบกับเจ้าเด็กน้อยที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้ไม่ได้เลย!
“นารา เดี๋ยวผมทำเอง เดี๋ยวน้ำมันจะกระเด็นใส่” คณพศใช้มือใหญ่รวบกระทะจากมือนารา
นารากลัวว่าคณพศจะแตะโดนมือเธอ จึงรีบปล่อยมือและเดินออกมา
คนที่โดนทิ้งให้อยู่หน้าเตาคนเดียวชักจะเกิดปัญหาเสียแล้ว เพราะเขาเกิดมาอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทอง ดังนั้นเขาจึงไม่มีทักษะการทำอาหารเลย
เพื่อไม่ให้นาราดูถูกเขาและเพื่อข่มเหงเคนโด้ คณพศขมวดคิ้ว ถกแขนเสื้อขึ้นและลงมือทำอาหาร
ก็แค่ไข่ดาว จะไปยากอะไร!
ถึงจะไม่เคยทำเอง แต่ก็เคยรู้เคยดูมาบ้าง
คณพศเปิดเตา วางกระทะที่เพิ่งล้างสะอาดลงบนเตา
จากนั้นมองน้ำมันสำหรับทำอาหารและไข่ไก่ที่อยู่ตรงหน้าอย่างเก้ๆ กังๆ ตกลงต้องใส่อันไหนลงไปก่อน?
เปลวไฟลุกขึ้น ไฟที่ลนกระทะทำให้เกิดเสียงดังซู่ ดูเหมือนจะชำนาญ
ลังเลไม่ได้แล้ว !
คณพศโยนไข่ลงไปโดยไม่คิดจากนั้นก็เทน้ำมันตามลงไปครึ่งขวด
เสียงน้ำมันดัง “ฉ่า ฉ่า”
เสียงประหลาดดังออกมาจากการทอดไข่ในกระทะ ไข่ที่เพิ่งนำออกมาจากตู้เย็น เมื่อถูกความร้อนก็เกิดเสียงปะทุฉ่าฉ่าหนำซ้ำน้ำมันยังกระเด็นไปทั่ว
คณพศหลบไม่ทัน เสื้อสูทราคาแพงของเขาโดนน้ำมันกระเด็นใส่เป็นวงกว้าง
การโดนน้ำมันกระเด็นใส่ไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด เพราะตอนนี้มิรากำลังเอามือตบโต๊ะหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง “ฮ่าฮ่า คุณพ่อนี่ทึ่มจริงๆ ขนาดทอดไข่ดาวยังทำไม่เป็นเลย!”
นาราวิ่งลนลานเข้ามา รีบปิดเตาอย่างตาลีตาเหลือก นี่เป็นการช่วยห้องครัวไม่ให้เกิดอันตรายจากไฟไหม้
เธอเห็นสภาพมอมแมมของคณพศแล้วอยากจะหัวเราะออกมา แต่เมื่อคิดได้ว่าจะต้องไล่เขาไป จึงซ่อนสายตาขบขันเอาไว้ เมื่อกลั้นขำได้แล้วเธอจึงเดินไปยืนข้างมิรา
เดิมทีคณพศกะจะโชว์ฝีมือสักหน่อย เขาหดหู่ใจเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าการทอดไข่ดาวง่ายๆ แค่นี้ จะทำให้เขาอับอายขนาดนี้
เขามองสูทของตัวเองที่เต็มไปด้วยน้ำมันและนั่งลงอย่างเซ็งๆ มองภรรยาด้วยสายตาที่น่าสงสาร “นารา ผมหิวจริงๆ”
นาราป้อนข้าวมิราต่อไปโดยไม่แยแสคณพศ เธอรู้นิสัยของคณพศดี กฎเด็ดขาด 3 ข้อที่ต้องใช้กับเขาคือ ไม่สน ไม่ถาม ไม่ฟัง
มิราทำท่ายกนิ้วโป้งลงเป็นการแอบบอกคณพศเป็นนัยๆ จากนั้นเขาก็ดึงเสื้อของนาราเบาๆ “คุณแม่ คุณพ่อหิวจะตายแล้ว ผมกินอิ่มแล้วเอาส่วนของผมให้พ่อกินเถอะ”
นารามองไข่ดาวที่ถูกกัดไปเพียงคำเดียวตรงหน้า เธอรู้ว่ามิราอยากเหลือไว้ให้คณพศกิน
เธอหันไปถลึงตาใส่คณพศ จำใจถอนหายใจ “ช่างเถอะ เดี๋ยวฉันทำอะไรให้กิน”
เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปทำความสะอาดคราบที่เกิดจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ด้วยความคล่องแคล่วของเธอไม่นานก็ทำไข่ดาวเสร็จ ปกติแล้วเคนโด้จะเป็นคนทำอาหาร ทักษะการทำอาหารของนาราไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไร อาหารที่ทำออกมารับประกันว่ากินแล้วไม่ตายแค่เท่านั้น ไม่ได้มีความน่ากินอะไรทั้งนั้น
เธอวางจานไข่ดาวไว้บนโต๊ะ จากนั้นจึงไปหยิบมิลค์เชคในตู้เย็นมาสองขวด พูดกับคณพศแบบไม่เต็มใจ “กินสิ”
คณพศดีใจอย่างคาดไม่ถึง เขารีบคีบไข่ดาวเข้าปาก คิ้วที่เคยขมวดอยู่เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มออกมาทางคิ้วและดวงตา “นารา ไข่ดาวที่คุณทำรสชาติดีที่สุดในโลกเลย อร่อยมากเลยนะ!”
เธอมองไข่ดาวเกรียมๆ จนเกือบไหม้ที่ตัวเองทำด้วยความสงสัย สลับกับมองไข่ดาวของเคนโด้ที่อยู่ในมือ รู้อย่างชัดเจนว่าอะไรจริงอะไรเท็จ ‘คณพศตาบอดหรือเปล่า หรือเขาแค่สำนึกในบุญคุณแล้วชมว่าไข่ดาวที่เธอทำอร่อย’
“จริงไหมครับคุณพ่อ ให้ผมชิมหนึ่งคำสิ” เมื่อมิราได้ยินว่าไข่ดาวที่แม่ทำอร่อยกว่า ก็หันไปบอกคณพศ อ้าปากรอกิน
คณพศส่ายหัว รีบเอาจานไปไว้ข้างตัวเองและกินอย่างรวดเร็ว “ไม่ได้ นี่ยังไม่พอให้พ่อกินเลย”
ความหวังของมิราหายแวบไปในฉับพลัน คิดว่าพ่อของตัวเองจะมีความเป็นธรรม นึกไม่ถึงว่าแม้แต่คำเดียวก็ไม่เหลือให้เขากิน เขาโกรธจนปากจู๋ “คุณพ่อทำเกินไปแล้ว กินคนเดียวเลยอะ”
คณพศไม่สนคำพูดของมิรา จัดการกลืนไข่ดาวเกรียมๆ คำใหญ่ลงคอ คณพศเอามือทั้งสองประสานกันแล้วยกขึ้นในระดับหน้าอกเป็นการแสดงความเคารพหวังว่าลูกชายจะไม่คิดเล็กคิดน้อย
นาราจำใจถอนหายใจอีกครั้ง คิดได้ว่าในกระทะมีไข่ดาวที่ยังไม่ได้ตักมา เธอจึงไปตักไข่ดาวแล้วยื่นถ้วยให้มิรา “ดีที่แม่ยังเหลือให้มิรา เอ้า กินซะ”
“ว้าว ดีจัง ในที่สุดก็ได้กินอาหารเช้าที่คุณแม่ทำ มีความสุขจังเลย” มิราตบมือด้วยความดีใจ กัดคำใหญ่ๆ ไปหนึ่งคำด้วยความพออกพอใจ ทันใดนั้นก็นิ่วหน้าลง
นาราเห็นสีหน้าของมิราผิดปกติ “เป็นอะไร ไม่อร่อยใช่ไหม?”
มิราพยายามส่ายหน้า เขาชี้ไปที่คณพศเพื่อเป็นสัญญาณให้นาราหันไปดู
นาราไม่เข้าใจ จึงหันไปหาคณพศ พบว่าเขากำลังเล่นหูเล่นตาใส่เธอ จึงถลึงตาใส่เขาไปหนึ่งที
แต่ว่ารสชาติอาหารที่อยู่ในปากตอนนี้มัน… คณพศไม่เห็นว่ามิราเอี้ยวตัวไปคายไข่ดาวที่อยู่ในปากลงถังขยะ
เมื่อนาราหันกลับไป ก็เห็นว่ามิราลูบท้องตัวเองด้วยท่าทีพออกพอใจ “คุณแม่ อิ่มแล้วครับ อิ่มมากเลย”
“ดีแล้ว ถ้าชอบไว้ครั้งหน้าแม่จะทำให้กินอีก” นาราก้มลงไปหอมหน้าผากมิราด้วยความดีใจ
เห็นนาราหอมหน้าผากมิราแล้ว คณพศก็อิจฉาตาร้อนขึ้นมา
เมื่อกี้เขาโง่จัง ทำไมคิดไม่ได้ว่าแอบคายไข่ดาวเค็มปี๋ที่นาราทำทิ้งไปก็จบ
แล้วนี่มันอะไรกัน ไข่ดาวเค็มปี๋เขาก็เป็นคนกินเข้าไป แล้วทำไมคนที่ได้จูบแสนหวานนั่นถึงไม่เป็นเขา!
เมื่อมิรากินอิ่มแล้ว นาราจึงจัดการรวบตะเกียบและถ้วย มองลูกชายที่รู้ความและเป็นเด็กดีอย่างอ่อนโยน “มิรา อีกสักพักแม่จะไปบริษัท หนูจะไปกับแม่ไหม?”
“บริษัท?” มิราส่งสายตาฉลาดเฉียบแหลมไปทางคณพศเป็นการส่งสัญญาณให้เขารั้งเธอไว้
คณพศรู้ใจมิรา เขาคว้าข้อมือบางของนาราเอาไว้ “นารา วันนี้อยู่บ้านกับพวกเราเถอะนะ กว่าพวกเราจะได้เจอกันสักครั้ง มิราเขาคิดถึงแม่มาก”
มิราเข้ามากอดขาของนาราไว้ทันที มีหยดน้ำตาอยู่บนใบหน้าใส “คุณแม่ ไม่ไปได้ไหมครับ? เพื่อนคนอื่นเขามีแม่กันหมด มิราก็อยากมีแม่อยู่ข้างๆ เหมือนกัน ฮือฮือ คุณแม่อย่าทิ้งมิราไปนะ”
“โอ๋ๆ ไม่ต้องร้อง แม่ไม่ได้จะทิ้งหนูไป แค่จะไปจัดการงานในบริษัทเฉยๆ” นาราสะบัดมือของคณพศออกแล้วก้มลงไปอุ้มมิราขึ้นมา “คนที่แม่รักที่สุดคือมิรา แม่จะทิ้งหนูได้อย่างไร?”
พูดจบ เธอรู้สึกแสบจมูกขึ้นมา น้ำตาไหลหยดลงพื้น