The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 386 ขอแค่มีชีวิตอยู่ให้ได้ฉันจะให้โอกาสนายแข่งกับฉัน
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 386 ขอแค่มีชีวิตอยู่ให้ได้ฉันจะให้โอกาสนายแข่งกับฉัน
ตอนที่ 386 ขอแค่มีชีวิตอยู่ให้ได้ฉันจะให้โอกาสนายแข่งกับฉัน
คณพศถลาเข้าไปเหวี่ยงหมัดกระแทกแขนของวิษณุส์อย่างแรง เอาเขาออกจากตัวของเคนโด้ ก่อนพยุงเขาขึ้นมาอย่างเป็นกังวล เรียกเสียงดัง “นายเป็นยังไงบ้าง?”
วิษณุส์โซซัดโซเซล้มลงกับพื้น เขาได้อ่อนล้ามากแล้ว แต่ด้วยแรงแค้นภทำให้เขายังทุ่มสุดชีวิต เขาพ่นเลือดออกจากปาก ยืนขึ้นใหม่อย่างทุลักทุเล ก่อนยกปืนเล็งไปที่คณพศและเคนโด้ “จะต่อกรกับฉัน พวกแกก็ต้องตาย! ตายให้หมด!”
คณพศในขณะนั้นสมาธิทั้งหมดพุ่งไปยังร่างของเคนโด้ โดยไม่ได้สนใจเสียงเอะอะของวิษณุส์เลยแม้แต่น้อย
เขาพยุงร่างของเคนโด้อย่างเป็นกังวล เมื่อมองชายคนนี้ที่ต่อสู้เพื่อภรรยาและลูกของเขา เขาเกลียดหมอนี่ขนาดนั้น แต่เมื่อเห็นสภาพที่ปกคลุมไปด้วยเลือดของเขาแล้ว สุดท้ายก็เอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ “เคนโด้ ตื่นขึ้นมา!”
เขาเห็นอย่างชัดเจนว่าเขาช่วยมิราไว้ยังไง เห็นกับตาตัวเองว่าเขาผลักวิษณุส์ จนทำให้กระสุนพลาดเป้า
ชั่วขณะนั้น ความขุ่นเคืองใจทั้งหมดที่มี่ต่อเคนโด้ก็กลายเป็นควันสลายไป คิดเพียงแค่ให้เคนโด้ไม่มีอันตรายถึงชีวิต
เคนโด้ลืมตาขึ้นอย่างอิดโรย เลือดที่ไหลออกมาย้อมอกของเขาเป็นสีแดง เมื่อเห็นสีหน้าหวั่นวิตกของคณพศ ทันใดนั้นเคนโด้ก็ยิ้มออกมา
เขาไออย่างหนักสองสามครั้ง “แค่กแค่ก พี่ชาย นายน่าจะยินดีที่ฉันรีบตายไม่ใช่เหรอ? แบบนี้ก็ไม่มีใครแย่งนารากับนายแล้วสิ”
น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาของคณพศ หยดลงบนแผ่นอกแดงฉานของเคนโด้ “เจ้าโง่ นายตายแล้วจะมีประโยชน์อะไร เพราะนายสู้ฉันไม่ได้อยู่แล้วต่างหาก! ถ้านายมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ฉันจะให้โอกาสนายแข่งกับฉันอย่างยุติธรรม ว่าไง?”
“เอาสิ นายพูดเองนะ” เคนโด้พยักหน้าอย่างยากลำบาก เสียงที่เปล่งนั้นเบาลงเรื่อยๆ “แต่ว่าพี่ชาย ฉันกลัวว่าฉันคงจะรอไม่ไหว….”
“ไม่ได้! นายเป็นลูกผู้ชายรึเปล่า? เป็นผู้ชายก็ต้องแข่งกันอย่างยุติธรรมสิ! เคนโด้ แข็งใจเอาไว้ อย่าให้ฉันดูถูกนายสิ!” คณพศคำรามดัง พยายามจะประคองเคนโด้ขึ้นมา
แต่ว่า คณพศนั้นลืมวิษณุส์ที่กำลังยืนจ่อปืนอยู่ข้างๆ พวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง แล้ววิษณุส์ที่คลุ้มคลั่งไปแล้วจะปล่อยพวกเขาไปได้ยังไงกัน?!
เมื่อเห็นคณพศที่ประคองเคนโด้อย่างยากลำบาก ก็เตะเข้าที่หลังของเขาอย่างแรง
แรงที่วิษณุส์ส่งไปที่เท่านั้น เตะคณพศและเคนโด้ล้มลงไปตรงๆ ร่างหนึ่งกลิ้งไปจนเกือบตกลงไปในทะเลจากขอบดาดฟ้า
คณพศเอื้อมออกไปจับเคนโด้ที่ครึ่งตัวโผล่ออกไปนอกดาดฟ้า “จับไว้! อย่าปล่อยมือนะ!”
หน้าอกและหลังของเคนโด้ชุ่มด้วยเลือด ในเวลานั้นเขาพลิกตัวครึ่งหนึ่งบนดาดฟ้าอย่างสะลึมสะลือ ด้านล่างคือน้ำทะเลที่ซัดคลื่นกระหน่ำ ถ้าไม่ใช่คณพศที่ออกแรงดึงเขาเอาไว้อย่างหนัก เขาก็คงจะตกลงไปใต้ทะเลแล้วแน่ๆ
“ฮ่าๆๆ เป็นคู่พี่น้องที่ลำบากลำบนจังนะ! ลำบากที่พวกนายชอบผู้หญิงคนเดียวกัน แล้วแน่นแฟ้นกันขนาดนี้ ช่างหาได้ยากจริงๆ เลย!” วิษณุส์หัวเราะลั่นอย่างสะใจ “ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้แล้ว งั้นฉันจะส่งพวกนายสองพี่น้องได้ไปพร้อมกันซะเลย!”
ว่าดังนั้น วิษณุส์ก็ยกเท้าขึ้น เหยียบลงบนมือของคณพศและเคนโด้ที่จับกันไว้อย่างแรง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใช้แรงเหยียบลงไปทั้งตัว “ไปลงนรก!”
ความเจ็บปวดแล่นขึ้นมาจากมือของคณพศ เขากัดฟันแน่น เงยหน้ามองวิษณุส์ที่อยู่ด้านบน “วิษณุส์ ฉันจะทำให้แกตายไม่มีดินกลบหน้า!”
“ฉันตายไม่ได้หรอก แต่วันนี้นายตายแน่” วิษณุส์ก้มตัวลง เล็งปืนไปที่แขนมือของคณพศอย่างช้าๆ ก่อนดึงตัวเหนี่ยวไก “ฉันอยากจะเห็นจัง ถ้าหากมือนายโดนยิงแล้ว ยังจะจับน้องชายที่รักของนายเอาไว้ได้อีกไหมนะ”
“ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง ความเจ็บปวดแล่นปราดจากแขนของคณพศที่ถูกเจาะเป็นรู เขาขบฟันไม่ส่งเสียงร้อง เพียงแค่ให้กำลังใจเคนโด้ด้วยใบหน้าสีขาว “แข็งใจเอาไว้นะ!”
ส่วนนาราที่ได้ยินเสียงปืนอีกครั้งนั้นอารมณ์พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ เธอปล่อยมิราในอ้อมแขนลง เมื่อกำลังจะขึ้นไป
ก็ถูกยชญ์ที่ตามมาอย่างรีบร้อนยั้งเอาไว้ ยชญ์อุ้มมิรา แล้วออกแรงดึงนาราออกจากเรือ
“ไปเร็วเข้า ฉันจะส่งพวกเธอไปที่ที่ปลอดภัย ที่นี่มีระเบิดอยู่!”
นาราถูกยชญ์ดึงออกไปอย่างทุลักทุเล
บนดาดฟ้า เลือดที่ไหลออกมาจากมือของคณพศ รวมกันเป็นสายอย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะไหลไปที่ใบหน้าของเคนโด้
เคนโด้เงยหน้าขึ้นอย่างอ่อนแรง แววตาของเขาเทาหม่นไร้ประกาย มีเพียงแสงริบหรี่ เขามองข้อนิ้วของตัวเองและคณพศที่ถูกวิษณุส์เหยียบย่ำจนซีดขาว แล้วเอ่ยกับคณพศอย่างจริงใจ “พี่ชาย สัญญากับฉัน นายต้องดูแลนาราให้ดี เธอไม่อาจเผชิญกับความเป็นความตายได้อีกแล้ว นายต้องถนุถนอมเธอให้ดีนะ!”
เมื่อเอ่ยจบ เคนโด้ก็ปล่อยมือจากคณพศอย่างกะทันหัน แล้วคว้าจับขาของวิษณุส์ด้วยมือสองข้าง ใช้แรงโน้มถ่วงดึงน้ำหนักของตัวเอง พาเขาลงไปใต้เรือพร้อมกัน
ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในเวลาเพียงพริบตา ตอนที่วิษณุส์ร้องอุทานอย่างได้สติ เขาก็ถูกเคนโด้จับเอาไว้แน่นแล้วตกลงไปที่ก้นทะเล!
“ไอ้บ้า! ปล่อยนะ!”
“ดูแลนาราด้วยนะ!”
เสียงด่าของวิษณุส์กับคำสั่งเสียของเคนโด้ดังลอยไปตามลมทะเลบนดาดฟ้าเรือ จากนั้น ก็ถูกกลบด้วยเสียงของคลื่น จนกระทั่งทุกอย่างกลับสู่ความสงบ
“ไม่!”
“ไม่นะ!”
คณพศที่คุกเข่าอยู่บนดาดฟ้าเรือตะโกนอย่างสุดเสียง และนาราที่อยู่ห่างออกไปที่ได้เห็นทั้งหมดนั้นแล้ว ก็กรีดร้องราวจะขาดใจ ก่อนจะทรุดหมดสติไป
คลื่นลมสงบผ่อนคลาย ทำให้ทุกอย่างดูสวยงาม ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีความชั่วร้าย ไร้แผนเล่ห์ ไร้คราบเลือด…..
ใต้ฟ้าสีคราม คณพศให้ยชญ์เรียกคนมากู้ภัยทันที เพราะเขารู้ว่า เคนโด้ที่มีแผลสาหัสขนาดนั้นตกลงไปในทะเล คงทนแช่อยู่ในน้ำทะเลไม่ได้
การกู้ภัยผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน แต่พวกเขากลับไม่พบร่างของทั้งสองคนเลย
ลมทะเลนิ่งสงบ เหมือนว่าทั้งหมดนั้นไม่เคยเกิดขึ้น
จนเมื่อนาราตื่นขึ้นมา เธอจึงพบว่าตัวเองนอนอยู่ในโรงพยาบาล
นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เธอตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล? ตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เธอหันหน้ามองไปยังนอกหน้าต่าง ผ่านบานกระจกใส ทิวทัศน์ข้างนอกนั้นน่าพึงใจอย่างยิ่ง
แต่มีเพียงหัวใจของนาราเท่านั้นที่รู้ ว่าใจตัวเองช่างมืดมน ดั่งฝนเม็ดเล็กที่กำลังตกโปรยปราย
เมื่อนึกถึงเคนโด้ ดวงตาของนาราก็เอ่อคลอด้วยน้ำตา ฉากนองเลือดบนดาดฟ้าเรือ และคำสั่งเสียสุดท้ายของเคนโด้ เวลานั้นนาราราวกับมีมีดทื่อที่เฉือนหั่นหัวใจของเธอออกไปทีน้อย
เคนโด้ นายจะต้อง จะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้!
“ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงของคณพศดังขึ้น นาราหันกลับไปมอง เห็นคณพศที่มีผ้าก๊อซพันรอบหัวและมีที่หุ้มด้วยเฝือกปูน
ใจของเธอปวดแปลบ พยักหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำ “อืม ตื่นแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? พบเคนโด้รึยัง? มิราล่ะ?”
คณพศนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วยของนารา เมื่อครู่คงจะหลับไปเพราะเหนื่อยเกินไปแน่ แขนของเขาถูกกระสุนเจาะทะลุ โชคยังดีที่ไม่ได้ทำลายกระดูก เขารีบพันผ้าพันแผล แล้วยืนกรานจะนั่งข้างๆ นารา รอให้เธอฟื้นขึ้นมา