The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 40 ลอบสังหารในโรงพยาบาล
บทที่ 40 ลอบสังหารในโรงพยาบาล
ตอนนี้เสียงโทรศัพท์มือถือของคณพศดังขึ้น เขาก้มลงมอง มันคือข้อความเข้าจากหมอศุกล
คณพศเปิดข้อความ : คณพศ ขอแสดงความยินดีด้วย ภรรยาเป็นคนดีมาก
คณพศยิ้มที่มุมปาก
นาราเข็นรถวีลแชร์ ในใจรู้สึกมีความสุขที่ได้ยินคำพูดของหมอพูดเมื่อสักครู่ เขาจะเดินได้ในไม่ช้า ข่าวดีจริงๆ
ลุงบีมเดินตามพวกเขาออกจากโรงพยาบาล
เมื่อกำลังจะถึงประตูโรงพยาบาล ลุงบีมแยกตัวไปขับรถเพื่อมารับ นาราเข็นรถวีลแชร์รอที่ประตูโรงพยาบาล ทันใดนั้น คณพศรู้สึกว่ามีกระสุนปืนยิงตรงมาจากใต้เงาต้นไม้ในโรงพยาบาลเล็งมาที่เขา
“ปัง…ปัง!” เสียงปืนดังขึ้น กระสุนปืนเล็งมาที่ศีรษะของคณพศ
นารายืนขวางหน้า ทันใดนั้นคณพศก็อุ้มนาราไว้ตักของเขาบนรถวีลแชร์แล้วเข็นรถวีลแชร์ออกจากที่เกิดเหตุ
มือปืนที่ใต้เงาไม้ยังคงเล็งปืนยิงอีกครั้ง คณพศเข็นรถวีลแชร์ไปหลบที่แท่นวางดอกไม้ในโรงพยาบาล
“ที่รัก…เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” คณพศสำรวจทั่วร่างของนารา
“ไม่เป็นไรคะ คุณคณพศ พวกนั้นเป็นใครกันที่อยากฆ่าพวกเรา?” นาราตกใจจนหัวใจแทบหลุดออกมาจากอก
“อย่ากลัวไป ไม่มีอะไร อยู่ตรงนี้อย่าขยับ” เขากดร่างของนาราไม่ให้เงยขึ้นมา
“ปัง…ปัง…ปัง!” เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง แต่ยิงโดนปูนซีเมนต์ของแทนวางดอกไม้ กระสุนโดนเข้าที่แขนของเขาจนเลือดไหลออกมา
นารารีบลุกขึ้น “คุณคณพศ คุณบาดเจ็บ”
คณพศกดร่างของนาราให้ต่ำไว้ “ที่รัก บอกแล้วไงอย่าขยับ ฉันไม่เป็นไร”
ในเวลานี้ลุงบีมหยิบปืนขึ้นมายิงโต้ตอบกับคนร้าย
ภายในโรงพยาบาลมีเสียงกรีดร้อง คณพศอุ้มนารานั่งที่ตักตนเอง “ที่รัก ก้มหัวไว้ที่ตรงหน้าอกของฉัน ห้ามเงยหน้า”
“แต่….” ขาของเขา
เธอพูดยังไม่ทันจบ รถวีลแชร์ก็ลื่นไถลดุจลมพายุ
นาราซุกหัวไว้ที่อกของเขา ได้ยินแต่เสียงปืน เธอหลับตา ทันใดนั้นได้ยินเสียงคณพศตะโกนขึ้นมา
เธอรีบเงยหน้าขึ้น เห็นเลือดสีแดงไหลออกมาจากไหล่ของชายหนุ่ม
เธอตกใจจนร้องออกมาเสียงดัง “คณพศ คุณบาดเจ็บ รีบวางฉันลงเร็วเข้า!”
เพราะอย่างน้อยเธอยังวิ่งได้ แต่คณพศนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ จะมาปกป้องดูแลเธอได้อย่างไรกัน
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากคณพศ เขายังคงกอดหญิงสาวแน่แล้วเข็นรถวีลแชร์ไปที่จอดรถ เมื่อรถวีลแชร์ไปถึงรถ ประตูรถเปิดออก
คณพศรีบนำหญิงสาวขึ้นรถ “ที่รัก ห้ามออกมาเด็ดขาด”
“แล้วคุณล่ะ?” เธอมองรถวีลแชร์ของคณพศซึ่งถูกเข็นไปด้านขวา จากนั้นคณพศชักปืนของตนเอง “ปัง…ปัง…” ด้านนั้นมีชายชุดดำ 2 คน ล้มลง
ลุงบีมรีบเปิดประตูรถ “คุณชายรีบขึ้นรถเร็ว”
รถวีลแชร์เข็นมาที่ประตูรถ คณพศรีบกระโดดขึ้นไปนั่งบนรถ ทันใดนั้นประตูรถถูกกระสุนปืนยิงใส่
ลุงบีมปิดประตูรถ รีบบึ่งรถออกจากประตูโรงพยาบาลทันที
คณพศซึ่งอยู่ในรถ เลือดยังคงไหลจากบ่าไม่หยุด ลุงบีมมองเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “คุณชาย พวกเราไปโรงพยาบาลกันครับ”
“ไปโรงพยาบาล ไปตายนะซิ” เขารู้ว่าตอนนี้ข้างๆ โรงพยาบาลยังมีมือปืนอย่างน้อย 2-3 คน กำลังรอเอาชีวิตเขาอยู่
นารามองคณพศที่เลือดยังคงไหลไม่หยุด ร้องห่มร้องไห้ เธอถอดเสื้อนอกของเธอออกห่มที่ไหล่ของเขา “ไปโรงพยาบาลอื่นก็ได้ กระสุนฝังอยู่ข้างใน” เธอโตมาขนาดนี้ยังไม่เคยพบเจอเหตุการณ์ดุเดือดเลือดพ่านขนาดนี้ เธอตกใจมากจนไม่กล้าสบตาคณพศ ชายหนุ่มเห็นหญิงสาวร้องไห้ ภายในใจก็อ่อนระทวย “ไม่เป็นไรจริง กลับไปลุงบีมจะจัดการเอง ไปโรงพยาบาลมันเสี่ยงเกินไป”
นาราร้องไห้ไปพยักหน้าไป เธอใช้มือกดปิดแผลที่ไหลของเขา เลือดสีแดงเปื้อนเสื้อนอกสีขาวของเธอ ตอนนี้ความเร็วของรถดุจธนูที่ถูกยิงออกไปแบบตรงๆ
ภายใน 10 นาที ก็ถึงบ้านพัก ขณะที่รถจอด ลุงบีมก็พยุงคณพศเข้าไปในห้องหนังสือ แล้วรีบปิดประตู
นาราอยากเข้าไปแต่ถูกปฏิเสธ “คุณนายน้อย คุณชายต้องการเอากระสุนออก คุณนายน้อยอย่าเข้าไปเลยจะดีกว่าครับ”
นาราทำได้แค่ดึงมือกลับ เธอมองร่างที่เปื้อนเลือดของเธอ ในใจรู้สึกเจ็บปวดเหมือนโดนทิ่มแทง ตอนนี้ได้ยินเสียงรถยนต์ดังมาจากด้านนอกบ้านพัก ที่แท้คือตรัญและหมอศุกล
ทั้ง 2 คนรีบเดินเข้ามาด้วยความร้อนรน นาราลุกขึ้น “คุณหมอคะ คุณคณพศโดนยิงกระสุนฝังใน ตอนนี้อยู่ในห้องหนังสือคะ” หมอศุกลเดินเข้าไปตบที่ไหล่ของนารา “ไม่เป็นไร หมอจะเข้าไปดูเอง” ตรัญและหมอศุกลเปิดประตูห้องหนังสือแล้วเดินเข้าไปข้างใน
นารานั่งบนโซฟาคนเดียว เธอเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ เธอค่อยๆ เดินขึ้นไปชั้นบนอย่างช้าๆ ผลักประตูห้องนอน เข้าไปในห้องอาบน้ำ ถอดเสื้อที่เปื้อนเลือดออก เปิดฝักบัวซักเสื้อนั้นให้สะอาด
เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วถือเสื้อของคณพศเดินลงไปข้างล่าง เธอนั่งที่โซฟามองไปยังห้องหนังสือ เธอรู้สึกว่าตนเองไร้ค่าที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ตอนยิงปะทะกัน คณพศกันไม่ให้เธอถูกยิง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาก็คงไม่ถูกยิง เพราะรถวีลแชร์มีมากกว่า 1 คน ทำให้เลื่อนเคลื่อนที่ได้ช้าลง เธอซึ่งเป็นคนปกติสมบูรณ์ แต่กลับต้องให้คนพิการมาปกป้องดูแล ครั้งนี้เขาตั้งใจปกป้องเธอจริงๆ เธอโตมาจนป่านนี้ นอกจากเคนโด้ ก็ไม่มีใครมาสนใจชีวิตของเธอแบบนี้
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ประตูห้องหนังสือเปิดออก นารารีบยืนขึ้น “เขาเป็นยังไงบ้างคะ?” ตรัญและลุงบีมเดินออกมาเห็นหญิงสาวร้อนรน ก็ส่งยิ้มให้ “ไม่เป็นไรแล้วครับ เอากระสุนออกมาได้แล้ว นาราคุณเข้าไปช่วยเช็ดตัวให้คณพศ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยด้วยนะครับ”
นารารีบเดินเข้าไปข้างใน เห็นหมอศุกลกำลังฉีดยาให้คณพศ ชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียงเล็กในห้องหนังสือ ใบหน้าซีดขาว
เขารู้สึกว่านาราอยู่ใกล้ๆ จึงลืมตาขึ้น เห็นใบหน้าที่รู้สึกเจ็บปวดใจ เขาเปิดปากพูด “ที่รัก ไม่ต้องกังวลใจ…ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”
นาราอยากร้องไห้ “ยังพูดว่าไม่เป็นไรอีก เลือดไหลเยอะซะขนาดนี้” เธอหยิบผ้าขนหนูที่ใช้ซับเลือดที่ไหลออกมา
หมอศุกลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “คุณนายน้อย คณพศกระดูกแข็ง ไม่ตายง่ายๆ หรอก วางใจเถอะ”
นารามองมาที่หมอศุกล “ขอบคุณคะคุณหมอศุกล”
หมอศุกลส่งยิ้ม “ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลของผม ผมต้องรับผิดชอบ”
หลังจากที่หมอศุกลออกไปแล้ว นาราห่มผ้าให้กับคณพศ “เจ็บไหม?”
มองหญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด คณพศใจอ่อนระทวย “ไม่เป็นไรแล้วที่รัก”
เธอมองดูเขาที่เหนื่อยล้า “ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน คุณก็คงไม่บาดเจ็บขนาดนี้”
ชายหนุ่มขยับปากพูด “เธอคือภรรยาของฉัน การได้ปกป้องเธอคือหน้าที่ของฉัน เธอคงตกใจไม่น้อยซินะ”
นารามองใบหน้าที่หล่อเหลา ซึ่งขณะนี้หมดชีวิตชีวา ชายคนนี้เพื่อเธอแล้วต้องบาดเจ็บหนักขนาดนี้ เธอติดค้างเขามาก
ตรัญและหมอศุกลยังไม่กลับ ตอนที่รอนาราออกมา ก็เห็นชายชุดดำ 5-6 คนอยู่นอกบ้านพัก
เธอไม่ได้ถามอะไรเพราะรู้ว่าต้องเป็นบอร์ดี้การ์ดของคณพศที่หามา
เธอไม่เข้าใจ ใครกันแน่ที่อยากฆ่าพวกเขา
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เธอเข้าไปในห้องครัวต้มโจ๊กแล้วยกมาให้คณพศ เธอผลักประตูห้องหนังสือ ชายหนุ่มยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง อาจเป็นเพราะฤทธิ์ยาจึงยังไม่ฟื้น
นาราวางชามโจ๊กไว้ที่โต๊ะเบาๆ นั่งอยู่ข้างเตียงมองชายหนุ่ม ใบหน้าของเขาหล่อจริงๆ ขนาดนอนยังไม่เสน่ห์ขนาดนี้
ใบหน้าของเขาเริ่มมีสีแดงระเรื่อ ลมหายใจกลับมาสม่ำเสมอ นารามองขวดที่แขวนอยู่ข้างๆ กาย แล้วรู้สึกเศร้าเสียใจ