The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 43 เมื่อฉันหายดีแล้วฉันจะรักเธออย่างดี
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 43 เมื่อฉันหายดีแล้วฉันจะรักเธออย่างดี
บทที่ 43 เมื่อฉันหายดีแล้วฉันจะรักเธออย่างดี
เธอแต่งตัวในชุดนอน ทำการเช็ดผม
ชายหนุ่มตบพื้นที่ว่างข้างตัวเขาทันที “มานี่ ฉันจะช่วยเช็ดผมให้เธอ”
“อย่าเลยค่ะ มือของคุณยังไม่หายดี” เธอนั่งลงบนโซฟาและเช็ดผมของตัวเอง
ใบหน้าของชายหนุ่มเป็นสีดำ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงไม่เชื่อฟัง บอกให้เธอมาเธอกลับปฏิเสธ
นาราไม่สนใจใบหน้าสีดำของเขาเช็ดผมเสร็จก็เดินไปหาคณพศ “ฉันจะนอนข้างเตียงค่ะ เพราะถ้าตอนกลางคืนไปโดนแผลเข้าจะไม่ดี”
ชายหนุ่มจับเธอไว้ทันที กลัวว่าเธอจะหนีไป “บอกให้เธอขึ้นมาก็ขึ้นมา ฉันจะโกรธถ้าไม่เชื่อฟัง”
“……” นารามองเขาด้วยความเคือง
ชายหนุ่มไม่สนใจ ออกแรงดึงมาแรงๆ ร่างของหญิงสาวตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา ในที่สุดเขาก็ได้กอดเธอไว้ในอ้อมแขน
นาราตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“คุณคณพศ…คุณอย่าทำแบบนี้ แผลยังไม่หายดีนะคะ” นาราผลักเขาออก
ชายหนุ่มจับมือที่กำลังยุ่งเหยิงของเธอ “ไม่เป็นไรหรอก คุณภรรยา ฉันคิดว่า…” เสียงของเขาแหบพร่า
“ซี๊ดด” สัมผัสถูกบาดแผลบนไหล่ตน เขาสูดปากอย่างเจ็บปวด
นาราได้สติทันที “โดนแผลใช่ไหมคะ ฉันบอกคุณแล้วคุณก็ไม่ฟัง” เธอเห็นใบหน้าซีดเซียวของชายหนุ่มก็รู้ได้เลยว่าแผลต้องปริแตก
เธอลุกขึ้นนั่งทันที “ฉันจะโทรหาคุณหมอศุกลนะคะ”
ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงรั้งเธอไว้ “มันดึกแล้ว อย่าเลย คุณภรรยาไม่เป็นไรหรอก”
ชายหนุ่มกอดเธอไว้ทันที “คุณภรรยา รอจนกว่าฉันจะดีขึ้นนะ เมื่อฉันหายดีแล้วฉันจะรักเธออย่างดี”
นาราไม่สนใจเขา แขนของเธอเมื่อยล้าและเจ็บมาก จึงหลับตาแล้วเตรียมตัวนอน
ชายหนุ่มกอดเธอไว้ในอ้อมแขน วางคางลงบนศีรษะของเธอ “นอนเถอะ เด็กดี ~”
นาราใจเต้นแรง เสียงของเขานั้นอ่อนโยนมาก ถ้าเธอไม่คิดถึงความสัมพันธ์ที่น่าอึดอัดใจระหว่างเธอกับเขาในตอนนี้ เธอคงติดความอ่อนโยนของเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น
วันรุ่งขึ้น แสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง นาราลืมตา ชายหนุ่มข้างๆยังหลับอยู่ เธอลุกขึ้นและไปอาบน้ำ แล้วจัดหาเสื้อผ้าให้คณพศสวมใส่
คณพศลืมตาเล็กน้อย เห็นหญิงสาวทำเสียงกุกกักรอบตัวเขา พลันเกิดช่วงเวลาแห่งความสงบสุขในใจ
แต่พวกเขาต้องกลับไปที่เมืองธิตกลแล้ว อาจมีการต่อสู้ที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม คุณภรรยา ฉันจะไม่ปล่อยเธอให้ไปจากฉันแน่
เขาคิดจะกลับไปหาพี่สองของเขา! ให้เขารีบให้พิมมี่หย่า ผู้หญิงของเขาเขาก็ไม่อยากติดตามเขาไปแบบนี้ เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ ให้เธอเป็นนายหญิงปัญญาพนต์
ในวันถัดมาคณพศและนาราเดินทางโดยเครื่องบินกลับไปที่เมืองธิตกล
เครื่องบินลงจอดตอนสามทุ่ม ลุงบีมขับรถพาคณพศกลับไปที่เกาะฟ้า สิบวันหลังจากการเดินทางในที่สุดก็ได้กลับมาบ้าน นารารอคณพศอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและกลับไปที่ห้องนอนเพื่อเตรียมตัวนอน
เธอเปิดลิ้นชักเห็นโทรศัพท์มือถืออยู่ในนั้น เธอหยิบมันขึ้นมาแล้วเปิดมัน มีสายที่ไม่ได้รับและข้อความแสดงขึ้นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นสายของพ่อและพิมมี่ที่โทรมา
และยังมีสายจากผิงผิงกับไลลาด้วย สามเดือนผ่านไป พวกเธอยังตามหาเธอ ไม่มีสายจากเคนโด้ มีเพียงข้อความที่ยืดยาวเท่านั้น
ดูจากข้อความ เขาตามหาเธอมาตลอดสามเดือน เขาเชื่อว่าเธอจะกลับไป เขาบอกนาราว่าอีกหนึ่งเดือนเขาจะไปอเมริกา เขาเชื่อวาเธอจะกลับมา
นาราดูข้อความและสายเรียกเข้า เป็นอีกครั้งที่ในใจเกิดคลื่นเป็นพันลูก ฉากของอดีตที่ผ่านมาได้ปรากฏขึ้นในห้วงสำนึกของเธอ
ข้อความของผิงผิงกับไลลาบอกว่า ไม่ว่าจะนานแค่ไหนพวกเธอก็ยังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน และหวังว่าเธอจะกลับไปหาพวกเธอ
เป็นอีกครั้งที่น้ำตาบดบังการมองเห็นของเธอ ความต้องการของเธอไม่ได้หวังสูง เธอแค่อยากไปเรียน อยากจบการศึกษาที่เธอยังไม่จบเท่านั้น
บางทีความฝันอาจจะอยู่ไกลไปสำหรับเธอ
เธอนั่งบนเตียง เช็ดน้ำตาให้แห้ง และมองขึ้นไปที่เพดาน
ไม่ได้นอนทั้งคืน
วันต่อมาเธอปรากฏตัวที่โต๊ะอาหารพร้อมกับตาหมีแพนด้า เพิ่งนั่งลงคณพศก็ได้เห็นสีหน้าท่าทางซูบซีดของเธอ
“เกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ” คณพศถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
“อืม ฉันนอนไม่หลับนิดหน่อยค่ะ” เธอก็ไม่ได้ต้องการที่จะซ่อนมันจากเขา
“ทำไม” เขาเอื้อมมือไปจับข้อมือของเธอ “หรือว่านอนกับฉันจนเคยชินแล้ว หืม”
นาราไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะล้อเล่นกับเขา เธอเงยหน้าขึ้น “คุณคณพศคะ ตอนที่อยู่ฝรั่งเศสคุณพูดอะไรไว้บ้างยังคงนับอยู่ไหมคะ”
ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะไปเรียนจริงๆ
แววตาของชายหนุ่มมืดครึ้ม “นับ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” เขาต้องการให้เธอไปเรียนหลังจากการประชุมผู้ถือหุ้น และในเวลานั้นพวกเขาอาจจะอาศัยอยู่ในเมืองธิตกลแล้ว
เพราะมีหลายอย่างที่ยังไม่เสร็จ นารายังตกอยู่ในอันตราย ภรรยาตามกฎหมายที่แท้จริงของเขาคือพิมมี่ เมื่อความสัมพันธ์นี้ยังไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง เขาจึงยังไม่วางใจที่จะให้เธอไปเรียน
นาราได้ยินคำพูดของเขาก็พยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”