The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 460 สิ้นหวัง: ถูกไล่ออกจากบ้าน!
บทที่ 460 สิ้นหวัง: ถูกไล่ออกจากบ้าน!
เป็นประโยคคำพูดแบบเด็กๆ แต่ทันใดนั้นกลับเป็นการเตือนสติกาก้ากับวิษณุส์ พวกเขามองรุ่งอรุณตัวน้อย นานมากก็พูดไม่ออกสักคำ
“ที่รักคะ คุณเป็นอะไรไป” หญิงสาวทรงเสน่ห์ลูบหน้าอกวิษณุส์อย่างคลุมเครือ เป่าลมหายใจราวกล้วยไม้ใส่หูเขา “คุณบอกว่าจะรักฉันแรงๆ ไม่ใช่เหรอ มาเร็วสิ ยังจะยืนบื้ออะไรอยู่อีก”
เช่นนั้นวิษณุส์ถึงเพิ่งได้สติกลับคืนมา เขามองหญิงสาวแสนทรงเสน่ห์ข้างกาย ในสายตาไม่เห็นหน้าตาธรรมดาอย่างกาก้าอีก พาหญิงสาวขึ้นไปชั้นบน ขี้เกียจสนใจกาก้า
กาก้ากอดรุ่งอรุณน้อยด้วยความเศร้า มองดูวิษณุส์พาหญิงสาวทรงเสน่ห์ขึ้นไปชั้นบนเงียบๆ
ข้างบนเป็นห้องหอของเธอ ทุกรายละเอียดภายใน ล้วนถูกตกแต่งด้วยหัวใจทั้งหมดของเธอ
แต่วันนี้ เธอกลับต้องมามองดูหญิงสาวแปลกหน้าอยู่เงียบๆ ไปพลิกคว่ำพลิกหงายอยู่ชั้นบนกับผู้ชายที่เธอรัก
หัวใจของกาก้าแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เธอกัดริมฝีปากด้วยความเกลียดชัง น้ำตาไหลเงียบๆ
รุ่งอรุณอิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของกาก้า ช่วยเช็ดน้ำตาบนใบหน้ากาก้าให้แผ่วเบา และพูดเสียงเล็กว่า “คุณแม่ไม่ร้องนะคะ รุ่งอรุณไม่เจ็บ ไม่เจ็บเลยสักนิดค่ะ”
เธอที่ยังเด็กนั้นไม่เข้าใจเลยว่าทำไมกาก้าถึงร้องไห้อย่างโศกเศร้าขนาดนี้ ยังคิดว่าสาเหตุเป็นเพราะตัวเองถูกวิษณุส์ผลักล้ม
มองดูรุ่งอรุณที่ฉลาดเฉลียว กาก้าก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น รุ่งอรุณที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นเหมือนกับนางฟ้า บริสุทธิ์และไร้ที่ติ แต่กลับไม่รู้เลยว่าเมื่อปีที่แล้วพวกเขาได้กระทำการชั่วร้ายลงไป
กาก้ารู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถมองรุ่งอรุณตรงๆ ได้ เธอก้มหน้าด้วยความละอาย และสารภาพในใจว่าตอนนั้นตัวเองได้พารุ่งอรุณมาจากนารา
“รุ่งอรุณเด็กดี เป็นแม่ที่ต้องขอโทษรุ่งอรุณ” ตำหนิตัวเอง กาก้ารู้สึกผิดในใจอีกครั้ง ร้องไห้และขอโทษรุ่งอรุณ เสียใจภายหลังกับการตัดสินใจของตัวเองในตอนนั้น
ทำไมตอนนั้นเธอถึงได้โง่ขนาดนั้น เชื่อคำพูดของวิษณุส์ ช่วยเขาทำเรื่องอันตรายร้ายแรงมากมาย!
แต่ตอนนี้กลับเป็นภรรยาที่เขาขี้เกียจแม้แต่จะเหล่มอง ถึงขนาดไม่สมควรแม้แต่จะหิ้วรองเท้าให้เขาด้วยซ้ำ
“อือ…ที่รักคะ เร็วๆ หน่อย เร็วอีกอ๊ะ!”
“มาเถอะ นางมารน้อยจอมบด ทำไมคุณร้ายกาจขนาดนี้”
“ผู้คนต่างก็ชอบรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของคุณ มาเร็วๆ เถอะ”
คำพูดที่รังเกียจและสกปรกดังมาจากชั้นบน เสียงของวิษณุส์ผสมปนเปไปกับเสียงมัวเมาของหญิงสาวทรงเสน่ห์
กาก้ารีบปิดหูของรุ่งอรุณ กลัวว่าเธอจะถูกคำพูดลามกสกปรกทำร้าย ทำให้จิตวิญญาณแปดเปื้อน
“อือ…ไม่ไหว ฉันทนไม่ไหวแล้ว…อ๊า…”
“อย่ารีบร้อน ผมมีพลังงานเยอะ รับรองว่าจะบริการคุณอย่างดี”
“คุณเยี่ยมจริงๆ ที่รัก บอกฉันหน่อยสิว่าตอนที่คุณเอาผู้หญิงขี้เหร่ที่ชั้นล่าง ต้องรวบรวมความกล้ามากเลยใช่ไหมคะ”
“คุณก็บอกนี่ว่าเธอเป็นผู้หญิงขี้เหร่ แค่ผมเห็นก็อิ่มแล้ว ไหนเลยจะมีอารมณ์ไปเอาเธอ พลังงานของผมต้องรักษาเอาไว้ เก็บไว้เพื่อจะถูกนางมารน้อยอย่างคุณรีดออกไงครับ”
คำพูดของวิษณุส์เย็นชาไร้หัวใจ ดังชัดเจนมาจากชั้นบน ทุกคำทุกประโยค ล้วนเจือความเกลียดชังและความขยะแขยงต่อกาก้า
กาก้าที่อยู่ชั้นล่างได้ยินชัดเจน เวลานี้หัวใจของเธอเหมือนมีลูกศรพันดอกแทงทะลุหัวใจ
ฮ่าฮ่า กาก้าหัวเราะอย่างขมขื่น ในใจเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม
ก่อนหน้านี้นานมากแล้ว ตลอดมาเธอมักจะคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงทุกข์ยาก รอเจ้าชายสุดหล่อมาจูบและช่วยเหลือเธอ จากนั้นเธอก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับเจ้าชาย
แต่เทพนิยายมีแต่การโกหกหลอกลวง เธอไม่ได้เป็นเจ้าหญิงกบอะไรนั่น ยิ่งจะไม่ได้ประสบพบเจอเจ้าชายสุภาพอ่อนโยนมาไถ่ชีวิตให้เธอ
ส่วนเธอแค่ช่วยปีศาจตนหนึ่ง! ส่งตัวเองเข้าไปในปากของเขา เกิดเองดับเอง!
และตอนนี้เธอใช้อิทธิฤทธิ์ไปหมดแล้ว ถูกปีศาจที่ตัวเองช่วยไว้ กวาดทิ้งออกจากประตูอย่างไร้ความปราณี
ไม่สิ กวาดออกจากประตูยังเบาไป ที่อยู่ในพิธีแต่งงาน ผู้ชายที่บอกว่าเขาจะใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตกับเธอ
มาวันนี้กลับหาผู้หญิงคนหนึ่งที่มองแวบแรกก็รู้ว่าเป็นพวกขายตัวมาอยู่บนเตียงเข้าหอของเขา มีเพศสัมพันธ์โรมรันพันตู
สิ่งนี้ชัดเจนว่าเพื่อทำให้เธออับอาย!
กาก้าหลับตาอย่างสิ้นหวัง น้ำตาราวกับน้ำทะเลพังเขื่อน
เธอกอดรุ่งอรุณร้องไห้อย่างหนักหน่วง
ได้ยินเสียงร้องไห้เศร้าโศกของกาก้า รุ่งอรุณก็ยื่นมือออกไปอีกครั้ง ช่วยเช็กคราบน้ำตาที่ค้างอยู่ตรงหางตาให้เธอ เข้าไปใกล้และพูดเสียงเล็กกับกาก้าว่า “คุณแม่อย่าร้องไห้ พวกเราเรียกคุณลุงตำรวจมาจับคุณพ่อดีไหมคะ”
คำพูดที่ไร้เดียงสาของรุ่งอรุณ สะเทือนจนกาก้าตัวสั่น ชั่วครู่หนึ่งที่แม้แต่เสียงสะอื้นก็ถูกลืมไว้เบื้องหลัง
ใช่ เธอสิ้นหวังอย่างที่สุด ไม่อยากให้วิษณุส์ต้องได้รับความเจ็บปวดแม้เพียงเล็กน้อย
เพราะเธอรักวิษณุส์ไปแล้ว แม้ว่าเขาจะสร้างความอัปยศอดสูให้มากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่เต็มใจยอมให้เขาได้รับบาดเจ็บหรือถูกตำหนิแม้แต่นิดเดียว
กาก้ามองใบหน้าเล็กที่คล้ายคณพศ และดวงตาสีฟ้าจางเฉกเช่นนาราของรุ่งอรุณ แล้วลุกขึ้นยืนและมองออกไปนอกหน้าต่างที่พระอาทิตย์ตก ในใจค่อยๆ เกิดทางเลือก
เธอก้มลงหยิบการ์ดบนพื้น อุ้มรุ่งอรุณที่ไม่รู้เรื่อง มุ่งหน้าออกไปจากวิลล่าโดยไม่หันกลับ
ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว กาก้าอุ้มรุ่งอรุณน้อยเดินไปบนถนนอย่างไร้จุดหมาย
เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะไปไหน ถนนของดูไบมีความหรูหราและเจริญรุ่งเรือง แต่ไม่มีที่ไหนเลย จะสามารถรองรับเธอกับรุ่งอรุณน้อยได้
กาก้าอุ้มรุ่งอรุณเดินไปอย่างท่อนไม้ ไม่รู้ว่าเดินไปนานแค่ไหน รุ่งอรุณก็ยังคงตบไหล่ของเธออย่างฉลาดน่ารัก โดยที่ไม่เอ่ยอะไรออกมาสักเสียง
รุ่งอรุณเป็นเด็กที่ฉลาดจริงๆ หลายครั้งมากที่กาก้าเฝ้าหวัง ว่าถ้าเป็นลูกสาวจริงๆ ของเธอกับวิษณุส์ มันคงจะดีมากแค่ไหนกันนะ
แต่ไม่รู้ว่าสวรรค์ต้องการลงโทษพวกเขาหรืออย่างไร ตั้งแต่เธอแต่งงานกับวิษณุส์มา กลับไม่สามารถมีลูกได้เลย
ทุกครั้งที่ร่วมรักกับวิษณุส์ เขาทำมันอย่างรีบร้อน ไม่เคยโอบกอดเธอ เขาดวงตาเย็นชาราวกับกำลังมองคนแปลกหน้า แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีวี่แววว่าขาจะมีความรักใคร่ให้
กระทั่งวันนี้กาก้าถึงได้เข้าใจ ว่าที่แท้ในสายตาของวิษณุส์ ตนเป็นแค่ทางผ่านไม่ได้สลักสำคัญ เขาทำไปเพื่อให้แผนการของตัวเองสำเร็จลุล่วงถึงได้แต่งงานกับเธอ
ที่แท้การอยู่ร่วมกับเธอมาหลายปี กลับทำให้เขารู้สึกแย่
ฮ่าฮ่า นี่คือผู้ชายที่เธอทุ่มเททั้งชีวิตแลกมา!
ขณะที่กาก้าเดินไปก็คิดในใจไปด้วย น้ำตารินหลั่งพรั่งพรู ไม่นานก็ทำให้ไหล่ของรุ่งอรุณเปียกชื้น
รุ่งอรุณที่ซบศีรษะอยู่บนไหล่ของกาก้าอย่างน่ารัก รู้สึกได้ว่าไหล่ของตัวเองเปียก จึงรู้ว่าแม่ของตนกำลังร้องไห้
เธอเงยหน้าขึ้นช่วยเช็ดน้ำตาให้กาก้า ก่อนจะพูดเสียงเล็กว่า “คุณแม่คะ หนูหิวแล้ว”
กาก้าที่เดิมทีหัวใจเจ็บปวดมาก ถูกการกระทำที่ใกล้ชิดสนิทสนมของรุ่งอรุณปัดเป่าให้อบอุ่นขึ้นอย่างมาก เธอจูบใบหน้าเล็กของรุ่งอรุณด้วยความรักใคร่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ที่แท้รุ่งอรุณก็หิวแล้ว อยากทานอะไร คุณแม่จะพาหนูไปทานดีไหม”
“ดีค่ะ” รุ่งอรุณยิ้มหวาน “คุณแม่พารุ่งอรุณไปทานข้าวผัดกุ้งได้ไหมคะ”