The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 48 คุณต้องการให้ภรรยาไปเรียนเหรอ
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 48 คุณต้องการให้ภรรยาไปเรียนเหรอ
บทที่ 48 คุณต้องการให้ภรรยาไปเรียนเหรอ
พิมมี่เดินไปหาเขา มองเขาอย่างเหยียดๆ “วิษณุส์ คุณไม่ใช่ว่าพูดเหรอว่าจะได้เป็นประธานของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ทำไมตอนนี้ถึงเป็นคณพศล่ะ ฉันขอร้องคุณพ่อเพื่อคุณ แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว”
“พิมมี่ คุณวางใจ ผมจะเอาตำแหน่งประธานกลับมาให้ได้”
เขาพูดอย่างเป็นทุกข์
พิมมี่ค่อยๆเอามือออก “งั้นก็รอคุณได้รับตำแหน่งประธานก่อน ฉันจะมาหาคุณอีกครั้ง” เธอหันหลังแล้วเดินหนีไป
“พิมมี่!” วิษณุส์กระชากมือเธออย่างแรง “คุณหมายความว่ายังไง หรือว่าถ้าผมไม่ได้นั่งในตำแหน่งประธานคุณก็จะเลิกกับผมงั้นเหรอ”
พิมมี่หันกลับไปมองแล้วเห็นเลือดในดวงตาของเขา เธอก้มหน้าลง “วิษณุส์ ฉันคิดว่าคุณจะได้เป็นประธาน ตอนนั้นฉันก็จะถูกบังคับให้หย่ากับคณพศ แต่ตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ในที่นั่งนั้น ฉันก็ยังต้องเป็นภรรยาของคณพศ หลังจากนี้เราก็จะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไป ถ้าคณพศรู้เรื่องนี้ขึ้นมา ตระกูลวรชัยลภัสของฉันก็ต้องประสบกับหายนะแน่”
วิษณุส์มองผู้หญิงของเขาด้วยสายตาว่างเปล่า หัวใจของเขาเย็นชาไปครึ่งหนึ่ง “แทนที่คุณจะพูดว่าเพราะผมไม่ได้นั่งในตำแหน่งก็กลัวว่าคณพศจะสืบหา พิมมี่ คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเป็นผู้หญิงแบบนี้! ผมวิษณุส์ต่อให้ชีวิตนี้ไม่ได้นั่งในตำแหน่งประธาน ทุกคนก็ยังอิจฉาคุณชายสองแห่งบริษัทตระกูลปัญญาพนต์คนนี้ คุณควรจะพูดแบบนี้ออกมามากกว่า!”
พิมมี่เห็นดวงตาของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความโกรธ มือใหญ่ที่จับแขนเธอค่อยๆกระชับแน่นขึ้น เธอหันกลับไปกอดเขาทันที “วิษณุส์ ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันรักคุณค่ะ แต่ตอนนี้ฉันเป็นภรรยาของคณพศ แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง ถ้าเขาไม่ยอมหย่า เราก็ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้นะคะ”
วิษณุส์ก้มลงมองผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา เธอเป็นผู้หญิงที่เขาหลงรักมาหลายปี เขาคิดว่าต่อให้เขาล้มเหลว ผู้หญิงคนนี้ก็จะไม่ทิ้งเขา
แต่ความรู้สึกของพิมมี่กลับต่างออกไป มุมปากของเขายกเล็กน้อย “คณพศจะหย่ากับคุณ ตอนนี้เขารักน้องสาวของคุณมาก ความรู้สึกของทั้งสองคนนั้นไม่เลว ตอนนี้มาอยู่ที่เจหงส์แล้ว ผมเชื่อว่าขั้นตอนต่อไป คณพศก็จะหย่ากับคุณ แล้วให้น้องสาวของคุณเป็นภรรยาตามกฎหมาย”
พิมมี่ได้ยินคำพูดของเขาก็ให้รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า!
เป็นไปได้ยังไงที่พวกนั้นรู้สึกดีต่อกันมาก!
มือของเธอเริ่มสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ พวกนั้นไม่ควรตกหลุมรักกันได้เร็วขนาดนี้ แล้วยิ่งยัยนาราเป็นคนโง่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เป็นไปได้ยังไงที่จะทำให้คณพศชอบ!
ที่เขาควรชอบควรเป็นเธอคุณหนูทองพันชั่งพิมมี่คนนี้ เพราะเขากับวิษณุส์ต่างอยากจะหมั้นกับเธอ เจตนาที่แท้จริงของเขาก็คือชอบตัวเธอ
มองผู้หญิงที่กำลังสั่นอยู่ตรงนี้ วิษณุส์ก็ยืนยันความคิดของเขาได้แล้ว พิมมี่ยังอยากแต่งงานกับคณพศ!
ดวงตาของเขาเป็นสีแดง มือใหญ่จับกระชับแขนของพิมมี่แน่นขึ้นเรื่อยๆ
พิมมี่รู้สึกเจ็บที่แขนก่อนที่จะตอบสนอง “คุณทำฉันเจ็บแล้วนะ วิษณุส์ปล่อยมือ!”
ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยมือ แค่จ้องเธออยู่แบบนั้น “คุณยังอยากแต่งงานกับคณพศใช่ไหม พูด! ใช่ไหม!”
พิมมี่สะบัดมือของเขาออก “คุณปล่อยฉันนะ คุณมันบ้าไปแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นภรรยาตามกฎหมายของเขา ยังไม่ได้หย่า อะไรที่ว่าฉันยังอยากแต่งงานกับเขา!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…ต่อให้คุณอยากจะแต่งงานกับเขามันก็สายไปแล้ว เขาจะต้องการคุณได้ยังไง เขารู้ว่าคุณรักผมมาตั้งแต่เด็กแล้ว แล้วยังเป็นผู้หญิงของผมมาตั้งเก้าปี แล้วคุณยังดูถูกที่เขาพิการ ให้น้องสาวคุณแต่งงานกับเขา เขาเกลียดคุณจนไม่รู้จะเกลียดยังไงแล้ว แล้วเขาจะต้องการคุณไปทำไม พิมมี่ คุณตายใจซะเถอะ เป็นผู้หญิงที่ซื่อสัตย์ของผม แล้วผมจะไม่มีทางทำให้ตระกูลวรชัยลภัสของคุณต้องประสบกับหายนะ!”
วิษณุส์แสดงสีหน้าน่ากลัว พิมมี่มองดูสีหน้าท่าทางอาการดุร้ายของเขา จู่ๆก็รู้สึกหนาวยะเยือกทั่วท้องฟ้า! นี่คือผู้ชายที่เธอรักมานานกว่าสิบปี! เขาช่างน่ากลัว!
เธอชอบวิษณุส์มาตั้งแต่วัยเด็ก ชอบความเย่อหยิ่งของเขา ชอบความเปย์เก่งของเขา ดังนั้นเธอจึงเป็นของเขาครั้งแรกตั้งแต่อายุสิบเจ็ด!
แต่ตอนนี้ดูความน่ากลัวบนใบหน้าของเขานั่นทำให้เธอตัวสั่น
เธอยืนจ้องมองผู้ชายตรงหน้าเธอ วิษณุส์ค่อยๆคลายมือ ก้าวถอยหลัง จากนั้นก็หันหลังและออกจากคฤหาสน์ไป
ห้องทำงานของประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ วิษณุส์ก้าวเดินก้าวใหญ่ๆเข้าไป แต่ถูกขวางไว้โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเลขานุการ
“รองประธานวิษณุส์ คุณไม่สามารถเข้าไปได้”
“หลีกไป! แกทำอะไร! กล้าดียังไงมาขวางฉัน!” เขาเตะพนักงานรักษาความปลอดภัยทันที
ในตอนนี้ประตูห้องท่านประธานเปิดออก เสกข์เดินออกมา สายตาลึกล้ำ “รองประธานวิษณุส์ ท่านประธานมีเรื่องสำคัญที่ต้องหารือผ่านวิดีโอ ถ้าคุณมีเรื่องอะไรอีกครึ่งชั่วโมงค่อยกลับมา”
วิษณุส์จ้องเสกข์อย่างดุดัน “เสกข์ ก่อนหน้านี้ฉันปฏิบัติต่อนายอย่างดี แล้วนายกล้าดียังไงมาขวางฉัน”
“ผมรู้ว่าก่อนหน้านี้คุณดีต่อผม เสกข์จำอยู่ในหัวใจ แต่ตอนนี้ผมทำงานให้ท่านประธาน เสกข์ขอโทษที่หยาบคายกับคุณ!” เสกข์ยืนอยู่ตรงประตูด้วยความเคารพ
วิษณุส์เริ่มรู้ว่าเขาไม่สามารถผ่านประตูเข้าไปได้แน่ ในดวงตาเขามีไฟลุกเหมือนจะเผาประตูนี้
จนในที่สุดเส้นเอ็นที่แขนของเขาก็เผยออกมา “บอกคณพศว่าคืนนี้ฉันจะรออยู่ที่ชั้นบนสุดของปู่ชิง หวังว่าเขาจะมา”
เสกข์ไม่พูดอะไร มองไปที่ด้านหลังของเขาที่หันหลังไป มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
คณพศกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้กับภาพวิดีโอของหัวหน้าบริษัทที่ฝรั่งเศส
จนกระทั่งเสกข์เปิดประตูออก เขาก็จบวิดีโอแล้ว และทันใดนั้นเขาก็ยืนขึ้นและเดินไปที่หน้าต่างบานยาว
เสกข์ตกใจมาก “ท่านประธาน ขาของคุณเป็นปกติแล้วเหรอครับ” เขามองชายหนุ่มยืนขึ้นด้วยขายาวเหยียดตรงและก้าวเท้าเดินไปยังหน้าต่างบานยาว
“อืม อย่าให้ใครรู้ล่ะ สามปีที่แล้วฉันก็สามารถยืนขึ้นได้แล้ว” เขารู้สึกวางใจกับคนที่คุณปู่มอบให้เขา เสกข์รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนสูงตระหง่านอยู่ตรงบานหน้าต่าง
“วางใจเถอะครับท่านประธาน เยี่ยมมากเลยในที่สุดคุณก็หายดีแล้ว ไม่รู้ว่าคุณปู่จะมีความสุขมากแค่ไหนนะครับ” เขาพูดอย่างยินดีมีความสุข
คณพศหันไป “ช่วงนี้ไปหาคนให้จับตาดูวิษณุส์ คุณลังลีจากฝรั่งเศสกำลังจะมาเยี่ยม อย่าให้เขาสร้างปัญหา แล้วไปติดต่อผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยB บอกเขาว่าฉันต้องการเพิ่มคนในคณะดีไซน์ชั้นปีสอง ให้เขาจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จภายในสองสามวัน”
“ครับ ท่านประธาน คุณต้องการให้ภรรยาไปเรียนเหรอครับ เท่าที่ผมรู้ นายหญิงอยู่ชั้นปีสองคณะดีไซน์มหาวิทยาลัยBด้วยเกรดเฉลี่ยดีมาก ครูที่ปรึกษากำลังรอเธอกลับไปเรียนครับ” เสกข์มองเข้าไปยังนัยน์ตาสีดำเข้มของเขา เมื่อพูดถึงนายหญิง แววตาเผยความอ่อนโยน
เขารู้ว่าภรรยาของเขาก็คือนาราที่ต้องออกจากการเรียนอย่างไร้เดียงสา
คณพศพยักหน้า “นายไปเตรียมการ อีกอย่างคืนนี้ฉันจะไปพบคุณภูที่ปู่ชิง เพื่อลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินที่ครงอดง”
“ครับ แต่ท่านประธานครับ รองประธานวิษณุส์ขอนัดให้คุณไปพบที่ปู่ชิงด้วยครับ” เสกข์พูด
“รอฉันเซ็นสัญญากับคุณภูก่อนแล้วจะไปพบเขา” คณพศหันไปนั่งรถเข็น
“ฉันจะกลับก่อน เรื่องอื่นนายก็จัดการไปได้เลย” พูดจบก็ค่อยๆเลื่อนรถเข็นออกจากประตู
เสกข์เปิดประตูให้เขาไปที่ลิฟต์ หันหลังแล้วเดินเข้าไปในห้องผู้ช่วย จากนั้นก็เริ่มทำงาน