The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 77 ชีวิตของเธอต้องจบลงไม่ช้าก็เร็ว
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 77 ชีวิตของเธอต้องจบลงไม่ช้าก็เร็ว
บทที่ 77 ชีวิตของเธอต้องจบลงไม่ช้าก็เร็ว
ปู่ของพวกเขา มีอำนาจมาก เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ ไม่ว่าตรัญจะทำยังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
“พวกแก….” ตรัญโกรธมาก สองคนนี้ไม่แม้แต่ไม่ปลอบใจเขา แถมยังมาแหย่เขาแบบนี้อีก เขาโกรธจนสีหน้าเปลี่ยนไปเลย
เขาไม่ควรโมโหโวยวายในบ้านของคุณพศ เลยได้แต่นั่งก้มหน้าไม่พูดอะไรต่อ
แต่ยชญ์ที่อยู่ข้างๆเขากลับเติมเชื้อเพลิงต่อไม่หยุด เขาพูดต่อว่า “เฮ้อ น่าสงสารจริงๆเลย ยังไม่ทันจะได้ลิ้มรสความรักที่งดงาม ก็ต้องลงหลุมซะแล้ว”
ทั้งสามคนที่กำลังรอคุณพศลงมาอยู่ที่ห้องโถง พอพูดถึงเรื่องงานแต่งของตรัญ บรรยากาศก็แปลกๆขึ้นมาทันที
ชั้นบนหลังจากเอาใจกันจนเสร็จแล้ว คุณพศที่กำลังอารมร์ดีมากๆก็ค่อยๆออกจากลิฟต์มา
ก็เห็นตรัญนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ก็รู้ทันทีว่าเขากำลังโกรธอยู่ ก็รีบเข็นวีลแชร์ไปข้างๆเขาทันที
ดื่มชาที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้ แล้วก็เอ่ยปากถามว่า “เป็นอะไรไป? เกิดอะไรขึ้น?”
แต่พอคุณพศถามออกมา ตรัญที่อารมณ์ไม่ดียังไม่ทันจะอ้าปากตอบ
ยชญ์ก็รีบแย่งพูดออกมาก่อนว่า “ตรัญโดนปู่บังคับแต่งงาน เป็นผู้หญิงจากตระกูลวรโช แถมตอนนี้ยังส่งเธอไปอยู่ที่คฤหาสน์ของเขาที่ฝรั่งเศส คิดว่าเพราะเรื่องนี้แหละ เขาถึงกลับมา”
นิสัยของตรัญเป็นยังไง พวกเขาทุกคนย่อมรู้ดีอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนชอบพูดจาอวดดี แต่ที่จริงเขาก็เป็นคนที่จิตใจดีคนหนึ่ง เดาว่าเขาคงไม่กล้าทำอะไรคุณหนูตระกูลวรโชนั่น ก็เลยหนีกลับมา
“อ้อ ก็แค่แต่งงานเอง จะหนีทำไมล่ะ?” พอได้ยินยชญ์พูดแบบนั้น คุณพศก็นึกถึงเขากับนารา
แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างอ่อนโยนออกมา
เขามองตรัญด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข แล้วก็ถามว่า “ทำไม คุณหนูตระกูลวรโชหน้าตาไม่ดีเหรอ ถึงได้หนีมา?”
“มันไม่ใช่ว่าหน้าตาดีหรือไม่ดีหรอก ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าเธอเลยด้วยซ้ำ” ตรัญไม่คิดเลยว่าคุณพศจะพูดแบบนี้ ตอนนี้เขาเลยไม่รู้ว่าจะไประบายความทุกข์กับใคร
แล้วก็เปลี่ยนเป็นท่าทีจริงจัง แล้วสอบพวกเขาทั้งสามคนว่า “มันจะเป็นไปได้ยังไง ฉันยังไม่แม้แต่เคยเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ ความรู้สึกอะไรก็ไม่มี ถ้าเกิดฉันยอมแต่งงานกับเธอล่ะก็ ก็เท่ากับว่าเป็นการไม่รับผิดชอบต่อเธอ และไม่รับผิดชอบต่อตัวเองด้วยไม่ใช่เหรอ?” ตรัญพูดไป พลางส่งสายตาของความช่วยเหลือไปที่คุณพศ
เขาพูดอย่างน่าอนาถว่า “พศ แกเป็นคนที่เข้าใจฉันได้ดีที่สุด ถ้าเกิดว่าเป็นแก แกจะยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่แกไม่รู้จักงั้นเหรอ? แกช่วยไปคุยกับปู่ฉันให้หน่อยเถอะนะ ให้เขายกเลิกงานแต่งนี้ซะ ฉันจำได้ว่าปู่ฉันชอบแกจะตาย แต่ว่าถ้าจะให้ฉันแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นคงเป็นไปไม่ได้”
แต่ไม่ว่าตรัญจะขอยังไงคุณพศก็ไม่เห็นด้วย
แถมยังพูดจาด้วยหน้าตายิ้มแย้มว่า “ถ้าเกิดว่าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ ฉันก็รู้สึกว่าแกพูดถูก แต่ว่าตอนนี้น่ะนะ….”
“ฉันว่าแกแต่งๆไปก่อนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า ไม่แน่หลังจากแต่งงานไปแล้ว อยู่ด้วยกันไปอาจจะรักกันก็ได้ เหมือนกับฉันกับนารา ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อก่อนตอนที่เขาคิดว่านาราคือพิมมี่ ก็รู้สึกเกลียดเธอมาก แต่ว่าตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ชอบเธอเข้าแล้วงั้นเหรอ?
เพราะฉะนั้นน่ะ ในบางทีเราก็ควรจะปล่อยให้โชคชะตานำพาไป
เด่นภูมิดื่มชาอยู่ พลางมองตรัญที่กำลังประสบหายนะ
แต่พอได้ยินคุณพศโน้มน้าวให้ตรัญแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลวรโช นี่มันช่างไม่ใช่นิสัยของเขาเลยนะ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะตอบรับคำขอของตรัญ และไปคุยกับคุณปู่ให้ เพราะว่าเขาเป็นคนแน่วแน่ ไม่มีวันยอมให้เพื่อนต้องทุกข์ใจ
ชาที่เขาพึ่งดื่มเข้าไป กลืนก็ไม่เข้าคายก็ไม่ออก ได้แตติดอยู่ในคอเขาแบบนั้น
ส่วนตรัญที่อยากจะยกเลิกงานแต่งเต็มที พอเห็นว่าคุณพศไม่ช่วยเขา เขาก็รู้สึกยอมแพ้
เขายืนขึ้นแล้วพูดออกมาด้วยความโกรธว่า “ได้ พวกแกไม่ช่วยฉันก็ไม่เป็นไร ฉันจะกลับไปฝรั่งเศสตอนนี้แหละ ยังไงฉันก็ไม่เชื่อว่า ประธานบริษัทอย่างตรัญ จะสู้เด็กผู้หญิงคนนึงไม่ได้! ฉันจะต้องทำให้เธอยกเลิกงานแต่งด้วยตัวของเธอเอง พวกแกรอดูก็แล้วกัน!”
พอพูดจบ ตรัญที่กำลังโกรธมาก
ก็ลุกขึ้น แล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากคฤหาสน์ไป
ยชญ์พึ่งเคยเห็นตรัญโกรธจนไร้สติแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง “ฉันว่าถ้าพวกเราปล่อยไปแบบนี้ ตรัญจะสร้างเรื่องอะไรไหมเนี่ย?”
ถึงแม้ว่าตรัญจะเป็นคนที่มีความสามารถ เป็นประธานกรรมการบริษัทได้แต่อายุยังน้อย แต่สำหรับยชญ์แล้ว ก็ยังคงเป็นห่วงเขาอยู่ดี
ส่วนคนที่พวกเขาต้องห่วงน้อยที่สุดก็คือยชญ์ เขาเป็นคนใช้ชีวิตแบบไม่สนใจอะไร ขอแค่มีผู้หญิง เรื่องอื่นเขาก็ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น
แต่คุณพศนั้นกลับสบายใจ “ไม่กลัวหรอก ตรัญมันรู้จักขอบเขตของมัน”
คุณพศรู้สึกอารมณ์ดีมาก ที่เขาทำให้นารานอนหมดแรงอยู่ด้านบน อยู่ดีๆเขาก็หัวเราะออกมา
แต่ในอีกด้านนึง เขมินท์ที่อยู่ในห้องฉกเฉินของโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้
เห็นพยาบาลเดินเข้าเดินออกห้องฉุกเฉิน เธอก็รู้สึกเจ็บหัวใจเหมือนโดนมีดกรีด
เธอรู้สึกโกรธแค้นอย่างมาก มองไปที่บุรินทร์ที่ยืนอยู่ตรงนั้น และก็ตะคอกออกมา “บุรินทร์คุณไม่ใช่ผู้ชายรึไง? เรื่องแต่งงานของลูกสาวตัวเองแท้ๆ คุณแก้ไขไม่ได้ก็อีกเรื่องนึง นี่ยังปล่อยให้ลูกสาวโดนไอ้เลวพศนั่นรังแกอีกเหรอ! คุณเป็นพ่อประสาอะไร!”
ที่จริงเขมินทร์ไม่เห็นด้วยที่พิมมี่อยากจะตามบุรินทร์ไปหาคุณพศที่บริษัทตระกูลปัญญาพนต์ เพราะว่าเธอยังกลัวเหตุการณ์คราวที่แล้วอยู่
แต่เพราะว่าทนความออดออนของพิมมี่ไม่ไหว ก็เลยยอมให้เธอไป
เธอคิดว่ายังไงบุรินทร์ก็ไปด้วย ไม่ว่าคุณพศจะอาละวาดยังไง แต่ก็คงจะเห็นแก่หน้าตระกูลวรชัยลภัสของพวกเขา
ใครจะไปรู้ว่า บุรินทร์ที่อยู่ตรงนั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไรแม้แต่น้อย แถมยังปล่อยให้พิมมี่เจ็บตัวมากกว่าครั้งที่แล้วอีก แล้วจะไม่ให้เธอโมโหได้ยังไง?
“พอแล้ว! ที่นี่คือโรงพยาบาล ไม่ใช่ที่บ้าน ที่เธอจะอาละวาดยังไงก็ได้!” แค่ที่พิมมี่เจ็บตัว บุรินทร์ก็ปวดใจพอแล้ว
แต่เขมินทร์กลับมายืนโหวกเหวกโวยวายอยู่ตรงนี้ จะให้เขารับได้ยังไงล่ะ?
บุรินทร์ที่กำลังโมโหก็ตะคอกกลับใส่เขมินท์ว่า “ฉันจะบอกอะไรให้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอให้ท้ายพิมมี่มาตั้งแต่เล็ก เลี้ยงเธอให้มาเป็นคนกำเริบเสิบสาน คิดว่าโลกหมุนรอบตัวเธอ เรื่องวันนี้มันมันจะเกิดขึ้นไหม?”
“ตอนแรกให้นาราแต่งงานกับคุณพศแทน แต่ตอนนี้กลับกลับคำพูด ถ้าพวกเธอรู้สึกว่านาราน่ารังแกนั่นมันก็อีกเรื่องนึง แต่พวกเธอคิดว่าคุณพศจะเป็นคนยอมคนเหมือนนารางั้นเหรอ?”
“ฉันจะบอกอะไรให้ ไม่ว่าพิมมี่จะทำอะไรก็ตาม แต่ถ้าเธอไม่ยอมหย่ากับคุณพศ เธอจะต้องตายไม่ช้าก็เร็ว!”
เรื่องวันนี้ที่ห้องทำงานของประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ บุรินทร์ได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของคุณพศแล้ว
คนของตระกูลปัญญาพนต์แต่ละคนต่างมีด้านที่ชั่วร้าย พวกเขาไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปหรอกนะ