The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่ 91 เป็นเบื้องหลังให้กับเธอให้เธอได้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่ 91 เป็นเบื้องหลังให้กับเธอให้เธอได้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
บทที่ 91 เป็นเบื้องหลังให้กับเธอให้เธอได้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
พูดว่าเธอมาชิงตำแหน่งของพิมมี่อะไรนั้น ไม่ใช่พิมมี่หรอที่เป็นฝ่ายทอดทิ้งคณพศเพราะพิการของเขา นี้คงเห็นว่าคณพศอยู่ในตำแหน่งประธานแล้ว ก็เลยคิดจะกลับมาเป็นเมียประธาน
สรุปก็คือ ในสายตาของตระกูลวรชัยลภัส นาราเดิมทีก็แค่หมากตัวนึงเท่านั้น!
พอเขมินทร์เห็นว่าตัวเองไม่สามารถทำอะไรกับนารายัยคนนี้ได้ เธอก็ร้องห่มร้องหายต่อหน้านาราจนน้ำตาไหลเป็นทาง นาราขมวดคิ้วขึ้น ไม่คิดว่าเธออยู่ๆ จะร้องขึ้นมา
เขมินทร์นั่งบนโซฟาแล้วชี้หน้านารา “ยัยนี้ปากดีจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอชักนำให้คณพศลงมือกับพี่สาวของเธอ แล้วเขาจะหยิบปากกาแทงพี่สาวเธอได้ยังไง? เธอรู้มั้ยว่าอีกนิดเดียว พี่สาวของเธออาจไปสวรรค์ได้เลยนะ!”
พอนึกถึงภาพที่ลูกรักของตนเองเกือบโดนลคณพศฆ่าตาย นี่เหมือนกับหยิบมีดเล่มหนึ่งมาแทงเข้าหัวใจของเธอเลย
แล้วตัวบงการยังก็เป็นคนที่เธอเกลียดเข้ากระดูกดำอย่างนาราอีก เธออดทนได้ไง?
“อะไรนะ? คณพศลงมือกับพิมมี่แล้วเหรอ?” คิดไม่ถึงเลยว่าเขมินทร์จะพูดแบบนี้ออกมา นาราก็รู้สึกตกใจไม่น้อย เพราะว่าเรื่องนี้นั้น คณพศไม่เคยได้พูดกับเธอมาก่อนเลย แล้วเธอยังสงสัยอีกว่าทำไมช่วงนี้พิมมี่ไม่มาเอาเรื่องกับเธอแล้ว
ถ้าเกิดเรื่องนี้มันรุนแรงจริงๆอย่างที่เขมินทร์พูดแบบนั้น งั้นครั้งนี้พิมมี่ก็คงจะถูกคณพศทำร้ายอย่างหนักแน่ๆ
เห็นว่าเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่คิดว่านารายังกลับแสร้งทำเป็นทำตัวราวกับเธอไม่รู้เรื่องนี้เกิดขึ้นมาอีกด้วยซ้ำ
เขมินทร์เกลียดจนกัดฟัน แล้วพูดขึ้น “เธอช่วยลดความเสแสร้งแกล้งแสดงหน่อยเถอะ” แล้วก็เช็ดน้ำตาออก
“เรื่องนี้ต้องเป็นเพราะเธอบงการให้คณพศทำแบบนี้ ถึงตอนนี้แล้วเธอยังมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีก เธอคิดว่าพวกฉันจะเชื่อเหรอ?”
ทั้งโลกคงจะมีแค่คนโง่อย่างบุรินทร์เท่านั้นที่จะเชื่อว่านาราเป็นคนดี
แต่นาราที่เพิ่งจะมีข้อครหาให้กับเขมินทร์กลับไม่เห็นด้วย
เพราะช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เรื่องที่ทำให้พิมมี่ขายหน้าหรือไม่ก็ข่าวเสียๆ หายๆ ทั้งหมด ท้ายสุดแล้วเธอนั้นแหละที่ต้องกลายมาเป็นแพะรับบาป เธอชินก็มันหมดแล้ว
ดังนั้นเมื่อได้ฟังเรื่องที่เขมินทร์เล่าแล้ว นาราก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น “เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อแล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับฉัน อีกอย่างฉันก็ไม่ได้สร้างปัญหานี้ขึ้นมา”
“ส่วนทำไมคณพศถึงต้องเอาปากกามาแทงพิมมี่ ฉันคิดว่าความอดทนของเขาก็ต้องมีขีดจำกัด คนคนนึงคงจะไม่รู้ผิดชอบชั่วดีตลอดไม่ได้หรอก แล้วยิ่งคณพศไม่ใช่คนชั่วๆ อะไร นี่ต้องเป็นเพราะพิมมี่ทำอะไรซักอย่างให้เขาต้องโกรธแน่ๆ !”
เธอหันหลังกลับ “กลับไปซะ!”
พอพูดคำนี้เสร็จ นาราก็เบื่อหน่ายที่จะมาเข้าใจสิ่งเหล่านี้ที่เขมินทร์มาเอะอะโวยวายใส่ แล้วจึงพูดกับคนใช้ข้างๆ อย่างเย็นชา “ส่งแขกด้วย”
พูดเสร็จแล้ว เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากอะไรเลย แล้วก็หันหลังเดินจากห้องรับแขก
เดิมทีจะมาหาเรื่องก็ไม่สำเร็จ แล้วยังโดนเธอยอกย้อนใส่อีกอย่างเขมินทร์ มองแผนหลังของนาราที่เดินจากไป แล้วขบฟันสบถเบาๆ :“นารา รอฉันก่อนเถอะ จะบอกไว้ให้นะ เธอโอหังแบบนี้ได้ไม่นานหรอก!”
ในที่สุดครั้งนี้นาราก็กู้ศักดิ์ศรีเธอมาได้ ไม่ถูเขมินทร์รังแกอีกเหมือนก่อนหน้า
คณพศที่ฟังรายงานจากลุงบีมก็ได้นั่งลงบนโซฟาแล้วยิ้มขึ้นอย่างสะใจ ผู้หญิงของเขาดูไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วย ไม่คิดว่าจะพูดให้เขามากขนาดนั้น นับวันเริ่มเหมือนเขาเรื่อยแล้ว!”
จากนั้นก็พูด :“ถือว่าเธอพัฒนาขึ้น รู้สึกว่าสองสามเรื่องที่รุมเล้าเธอก็ไม่ได้ปล่อยให้มันเข้ามาเฉยๆ อย่างนี้แล้วฉันก็ไม่ต้องกังวลว่าหลังจากนี้พิมมี่จะมารังแกเธอีกอ”
ตอนนั้นนาราก็บอกกับลุงบีมแล้วว่าเรื่องที่เขมินทร์มาหาห้ามไปบอกกับคณพศ เพราะไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วง แต่พอเสร็จจากเรื่องนี้ลุงบีมยังคงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับคณพศอย่างไม่ตกล้นแม้ซักคำ
เพราะนี่เป็นหน้าที่ของเขาเอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทั้งหมดเขาจะต้องรายงานกับคณพศ
คงเป็นเพราะเรื่องอันตรายครั้งที่แล้ว คนที่ถูกใจนารายิ่งขึ้นอย่างลุงบีมพอได้ยินว่าคณพศชมนารา ก็ได้เอ่ยบอกชื่นชมเธอ :“ใช่แล้วครับ คุณนายน้อยดูต่างจากเหมือนเมื่อก่อนมากๆ อยู่กับคุณชายมานาน เธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนเด็ดเดี่ยวไปแล้ว สายตาของเธอตอนนั้นทำเขมินทร์กลัวจะไม่กล้าจะทำอะไรต่อเลยครับ!
คณพศอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ในหัวก็มัวแต่นึกภาพที่นาราจะทำหน้ายังไงให้เขมินทร์กลัว ใบหน้าเล็กๆ นั้นช่างน่ารักเกินไปแล้ว!
ตอนนั้นที่นาราแต่งงานมาอยู่บนเกาะฟ้า เธอเป็นเหมือนดอกไม้สีขาวเล็ก ๆ ที่ไม่รู้จักโลก ถึงแม้ว่าเธอจะสวยและจิตใจดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ให้คนชอบเธอไม่น้อย แต่การที่จะมาเป็นภรรยาของคณพศ ความดีกับความสวยคงเปล่าประโยชน์
ยังดีที่นาราฉลาดพอ คอยเรียนรู้อยู่เรื่อยๆ จนเข้มแข็งมากขึ้น
แต่นี่ยังคงต้องฝึกฝนแบบนี้อีกต่อไปบวกกับการปกป้องของเขา เธอก็เริ่มปรับตัวให้เข้ากับตำแหน่งคุณนายของประธานของเธอได้ดีขึ้น ดูเหมือนหลังผ่านเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ลุงบีมยิ่งรักเอ็นดูนาราให้มากขึ้นแล้ว
คณพศยังพูดอีก “คราวหน้าอย่าให้คนของตระกูลวรชัยลภัสเข้าคฤหาสน์เจหงส์อีก ฉันไม่อยากให้คนพวกนั้นมาทำร้ายจิตใจคุณนายของฉัน”
รอให้บาดเจ็บครั้งนี้ของเขาหายดีและจัดการเรื่องพิมมี่ให้เสร็จเรียบร้อย ตระกูลวรชัยลภัสกับนาราก็ไม่มีความสัมพันธิ์อะไรอีกแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นพิมมี่หรือว่าเขมินทร์ หรือคนหน้าซื่อใจคดอย่างบุรินทร์ก็ตาม พวกเขาไม่คู่ควรมาเป็นครอบครัวกับคุณนายที่รักของเขา
“ได้ครับคุณชาย ผมเข้าใจแล้วครับ” ฟังคำสั่งของคณพศชัดแล้ว ลุงบีมจึงพยักหน้าตอบรับ
คณพศที่วางใจแล้วยังออกคำสั่งกับลุงบีมอีกอย่าง :“ไปบอกเด่นภูมิกับยชญ์ให้เข้ามาหา ฉันมีหลายเรื่องอยากจะคุยกับพวกเขา”
เพราะครั้งก่อนได้รับบาดเจ็บตอนที่อยู่วิลล่า เขาก็รักษาตัวอยู่ที่บ้านตั้งนานแล้ว คิดแล้วอาชัญคนชั่วช้าสามานร์คนนั้นครั้งนี้คงจะลำพองน่าดู เพราะเขาก็รู้เรื่องที่เขาบาดเจ็บหนักก็เลยไปบริษัทไม่ได้มาจากเด่นภูมิแล้ว
ตอนนี้อาชัญก็ได้เริ่มทำการฉ้อโกงในบริษัทแล้ว เพียงแค่เขาคิดว่าคณพศไปบริษัทไม่ได้ เลยไม่รู้แผนการของเขา
“ครับ คุณชาย” รู้ว่าคุณชายพักรักษาตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลานาน ส่วนเรื่องของวันนั้นเขาจะต้องลงมือจัดการแน่
ดังนั้นลุงบีมก็เลยไม่พูดอะไร ได้แต่รับคำสั่งแล้วก็หันหลังพร้อมเดินออกจากห้องของคณพศ
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว เด่นภูมิและยชญ์ก็เข้ามาอย่างรีบร้อน
“คณพศคุณจะเริ่มลงมือแล้วเหรอ? อาชัญไอ้คนหน้าเลือดคนนั้น ผมคิดจะจัดการกับมันตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณห้ามเอาไว้ ผมทนไม่ไหวมานานแล้ว!”พอถึงห้องของคณพศ ยชญ์ก็อดไม่ไหว เตรียมไม้เตรียมมืออย่างจะลองดูซักตั้ง ซึ่งเดิมทีการทำตัวของอาชัญก็ไม่เข้าตาเขามาตั้งนานแล้ว
เรื่องที่เขาทำไปครั้งแล้วครั้งเล่าก็คืออยากทำให้คณพศตาย คนแบบนี้เขาเรียกว่าศัตรู! และก็ไม่เข้าใจว่าความอดทนของคณพศทำไมถึงดีขนาดนั้น ยังให้เขาอยู่ถึงตอนนี้ได้ คาดว่าคงจะพะว้าพะวังอยู่กับคุณท่านตระกูลปัญญาพนต์
เพราะคุณท่านก็อายุมากแล้ว ถ้าหากเห็นคณพศกับอาชัญสองพี่น้องต้องมาฆ่ากัน จะต้องกระทบกับสุขภาพของท่าน นี่คงเป็นเหตุผลเดียวที่คณพศไม่ลงมือกับอาชัญมานาน