The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่108 นายมันสัตว์ชั้นต่ำ
บทที่108 นายมันสัตว์ชั้นต่ำ
คำของคณพศ ดูเหมือนจะช่วยวิษณุส์อธิบาย
แต่คนทที่เห็นกับตาฟังออก เขาระบุได้ วิษณุส์คือคนที่วางแผนทำร้ายเขา
เหมือนเก้าปีมานี้ วิษณุส์ตั้งใจผลักเขาเข้าไปในกองไฟ เช่นเดียวกับการจ้างฆาตกรรม ล้วนแต่เจตนา!
แต่วิษณุส์ได้ยินคณพศพูดแบบนี้ ก็ยิ่งโกรธ
ตะคอกเสียงดังใส่เขา “คณพศนายใส่ร้ายฉันให้มันน้อยๆหน่อย ฉันผลักนายที่ไหนกัน?”
พูดเพยีงแค่นี้ วิษณุส์ก็หันไปมองกษาปณ์ ออกแรงอธิบาย “ปู่ไม่ต้องไปฟังเขานะครับ ผมไม่ได้ผลักเขา ผมไม่ได้ผลักเขาจริงๆ!”
“รองประธานวิษณุส์ยังไม่ยอมรับอีกเหรอครับ พวกเรามากมายขนาดนี้เห็นหมดนะคะ ว่าคุณตั้งใจผลักประธานชัดๆ ถ้าท่านประธานคณะกรรมการไม่เชื่อ ก็ไม่ดูที่กล้องวงจรปิดได้เลยค่ะ!”
ทำเรื่องชั่วต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ คาดไม่ถึงวิษณุส์ยังมีหน้าไม่ยอมรับ
เสกข์ดูต่อไปไม่ได้จริงๆ จึงเปิดเผยคำโกหกของเขา
ถึงแม้ท่านประธานจะเป็นพวกเย็นชา แต่เรื่องร้ายดีก็เป็นเรื่องที่ส่งผลต่ออารมณ์จิตใจ
เหมือนกับคนชั่วใจเหี้ยมอย่างวิษณุส์คนนี้ยังไงกัน ทำกับน้องแท้ๆตัวเอง ยังโหดเหี้ยมขนาดนี้ได้ลง ครั้งนี้เขาเห็นกับตา!
ได้ยินเสกข์พูดแบบนี้ กษาปณ์ก็รู้แน่นอนว่าอะไรคือเรื่องจริง
เขาค่อยๆลุกขึ้น เงยหน้ามองวิษณุส์ เขาค่อยๆก้าวเท้ามาที่หน้าวิษณุส์
“เปี๊ยะ!”หนึ่งฝ่ามือหนักๆ ลงบนหน้าของเขา “ชั้นต่ำ!ยังไม่เจียมตัว นายคิดว่านายทำเรื่องไว้เยอะขนาดนี้แล้วฉันจะไม่รู้เหรอ?ฉันไม่คิดเลยนะว่าจะเป็นคนในสายเลือดตระกูลปัญญาพนต์ น้องชายนายดวงแข็ง!ไม่ถูกนายฆ่าตายหรอก!”
กษาปณ์มือสั่นทั้งสองข้าง นึกถึงคณพศที่ได้รับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจตั้งแต่เด็ก พอโตมาก็ถูกพี่ชายคนนี้วางแผนฆ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเสียสุดขีด!
กษาปณ์เอาบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ยื่นใส่มือเขา ไม่ใช่แค่เพื่อเติมเต็มเขา แต่เพื่อบริษัทตระกูลปัญญาพนต์หลังจากนี้ จะมีการพัฒนาขึ้นไปกว่านี้ด้วย เขารู้ทุกเรื่องที่วิษณุส์ทำตั้งนานแล้ว
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าวิษณุส์จะเห็นประโยชน์ของตัวเอง ถึงกับลงมือฆ่าคณพศครั้งต่อครั้ง
อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ อุบัติเหตุที่คณพศต้องเจอ ทั้งหมดเป็นเพราะสัตว์ชั้นต่ำตัวนี้ทำ!
“ไม่ ไม่ ปู่ครับ ปู่มองผมผิดแบบนี้ไม่ได้นะครับ ปู่เชื่อแค่คำที่คณพศพูดไม่ได้นะครับ แล้วก็เข้าใจผิดผม!”ต่อหน้าคนมากมาย ถูกกษาปณ์ตบเข้า
วิษณุส์รู้สึกเสียหน้าจริงๆ จึงตะโกนเสียงดังขึ้นมา
ในใจเองก็โกรธแค้น มองกษาปณ์นิ่งๆ เอาอะไรตั้งแต่จนโต ปู่ก็เข้าข้างคณพศพิการคนนี้มาตลอด?เขาเทียบกับไอ้พิการคนนี้ไม่ได้ตรงไหน?
เห็นวิษณุส์ที่ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตาแบบนี้ กษาปณ์โกรธมากจริงๆ จึงตะโกนด้วยความโกรธ “นี่ยังไม่ยอมรับผิดอีก นายนี่มันยาอะไรก็ช่วยไม่ได้แล้ว!”
ถึงตอนนี้เขายังคงหลงงมในความผิด เขาบอกว่าคณพศให้ร้ายเขา ทุกคนในห้องโถงมองเขาผิด กล้องวงจรปิดคงไม่ได้ให้ร้ายเขาหรอกใช่ไหม?
นิสัยเดิมของวิษณุส์ เขาที่เป็นปู่คนนี้รู้ดี แต่เขาเข้าใจว่าเขาแก่แล้ว พร่ามัว อะไรก็มองไม่ออก
“ผม……”ไม่คิดว่ากษาปณ์จะไปดูกล้องวงจรปิดจริงๆ วิษณุส์จึงพูดอะไรไม่ออกทันที
ร็ว่าตัวเองไม่ว่าจะพูดยังไง ก็หลุดไม่พ้นเจตนาการตัดสินใจของกษาปณ์ที่สืบเสาะเรื่องนี้
ดังนั้นวิษณุส์ที่ไร้หนทาง ก็ตู้มลง คุกเข่าลงต่อหน้ากษาปณ์ พูดเสียงจะร้องไห้ “ผมผิดไปแล้งครับปู่ ผมไม่สมควรผลักน้องสาม ”
“แต่ผมพลั้งมือไปจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะผลักเขา เป็นเพราะเขาตั้งใจยั่วผม ทำให้ผมสูญเสียสติ จนกลายเป็นอย่างนี้ ”
เห็นว่าวิษณุส์แก้ไขสถานการณ์ต่อหน้าปู่ ไม่เพียงแต่ยอมถูกตำหนิ แถมยังคุกเข่าต่อหน้าคน
คณพศที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ยิ้มอย่างเย็นชาขึ้นมา
แล้วพูดเสียงเบา “พ่อสอง ใครยั่วใครกันแน่ เมื่อกี้พี่เพิ่งจะอยู่ในห้องทำงานพี่อยู่เลย กับภรรยาอย่างถูกต้องของคณพศอย่างผม พิมมี่ อยู่กับพิมมี่สองคน ”
“ตะโกนออกปาก สวมเขาผม ผมยังคิดว่าพี่เป็นพี่สองของผม ไม่ลงไม้ลงมือกับพี่ เป็นอย่างนี้แล้ว ตอนนี้พิมมี่ เป็นภรรยาตามกฎหมายของคณพศอย่างผม เรายังไม่หย่ากัน พี่กับเขาทำกันมันไม่เกินไปหน่อยเหรอ!”
วิษณุส์อยากจะบอกกับคณพศให้เป็นเหตุเป็นผล ช่างเหมือนไข่ในหิน
สถานการณ์นี้มีตาหลายดวง เขายังอยากเห็นว่าครั้งนี้ ว่าเขายังจะเล่นลิ้นยังไงต่อหน้าคุณปู่
“นายมันสัตว์ชั้นต่ำ!”ได้ยินคณพศพูด กษาปณ์ก็ยิ่งโกรธทับเข้าไปอีก
เขาเห็นว่าข้างๆมีผู้จัดการแผนกออกแบบถือไม้เข้ามาพอดี จึงรีบเข้าไปออกแรงยกไม้ขึ้นแล้วฟาดไปที่หลังของวิษณุส์
ความเจ็บปวดและความโกรธบนใบหน้า พัง นี่มันเรื่องอัปยศในบ้านชัดๆ มีที่ไหนเมียน้องชายกับพี่ผัวเรื่องอย่างว่า
ขายหน้าจริง!
คณพศคือหลานชายที่เหมือนกษาปณ์เขามากที่สุด ตั้งแต่เด็กเขาจึงฝากความหวังกับคณพศไว้สูง
แต่ตอนที่เขาเด็กมากอยู่นั้น ถูกไฟครอกเข้าที่ขา จนสุดท้ายเข้าไปอยู่ที่เกาะฟ้า ปกปิดตัวมาหลายปี
แต่ที่ไหนได้วิษณุส์คนชั้นต่ำคนนี้ ไม่เพียงพอสำหรับเขา
ที่คณพศกลับมาบริษัทช่วงนี้ อุทิศคุณูปการที่ทำทั้งหมด วิษณุส์เขาทำได้ไหม?ตัวเองไม่มีความสามารถ แล้วยังไม่ยอมหลีกให้คนอื่นอีก!
กษาปณ์ถือไม้อยู่ ภาพที่ออกแรงทุบวิษณุส์นั้นแรงมาก
คณพศไถลวีลแชร์เข้าไป จับมือท่านตระกูลไว้ “ปู่ครับ ช่างเถอะ ปู่ตีเขาไปเขาก็ไม่เจ็บหรอก ร่างกายปู่สำคัญมากนะ อย่าเหนื่อยเลย ผมไม่เป็นไร!เราไปกันเถอะครับปู่!”
ในที่สุดกษาปณ์ก็หยุดไม้ตีวิษณุส์ โยนลงพื้นอย่างแรง และเดินออกไปปจากโถงชั้นสองกับคณพศ
คณพศเดินไปพร้อมหันหน้ามามองวิษณุส์ที่คุกเข่าถูกตีอย่างแรงอยู่บนพื้น มุมปากยิ้มขึ้น วิษณุส์นะวิษณุส์ ทีแรกฉันไม่คิดว่าฉันจะจัดการนายเร็วขนาดนี้ แต่ใครใช้ให้นายหาเรื่องใส่ตัวเองล่ะ
คณพศและกษาปณ์พากันไปที่สำนักงานบริษัท ทั้งสองคุยกันสักพัก บอดี้การ์ดก็ส่งท่านตระกูลกลับบ้าน เขาตักเตือนหลายพันรอบ ให้เขาระวังตัวเอง
คณพศพยักหน้าตอบรับ “ปู่สบายใจเถอะครับ ผมจะระวังตัวเอง และจะทำให้บริษัทรุ่งเรือง!”
หลังจากกษาปณ์ไปคณพศก็ออกจากบริษัทเหมือนกัน วิ่งตรงไปที่เจหงส์
นาราเพราะเสียใจเมื่อกี้ จึงอยู่แต่ในห้องตัวเองไม่ไปไหน
ความรู้สึกของเธอดาวน์ นั่งอยู่บนระเบียง นั่งมองพระอาทิตย์สีเลือด
ทีแรกเธอเข้าใจว่า ต่อให้ตัวเองพลัดพรากจากแม่มาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังดีที่มีพ่ออยู่ ถึงแม้พ่อจะไม่ได้เป็นเสาหลักของบ้าน แต่พ่อก็รักเธอจากส่วนลึกของหัวใจ
แต่เมื่อเธอเห็นได้ชัดในตอนนี้ ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เธอเพิ่งได้พบว่าแท้จริงแล้วบนโลกที่หนาวเหน็บใบนี้ คนที่สนใจนารานั้นไม่ได้มีเลยสักคน ตกลงจริงๆแล้วแม่ของเธออยู่ที่ไหนกันแน่?
“แกร็ก……” ขณะที่นารากำลังคิดอย่างสิ้นหวัง คิดว่าตัวเองมีชีวิตอยู่บนโลกกใบนี้ ตอนที่โดดเดี่ยวไม่มีใคร