The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่124 อย่าร้องไห้เลยนารา ฉันรู้สึกปวดใจ
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่124 อย่าร้องไห้เลยนารา ฉันรู้สึกปวดใจ
บทที่ 124 อย่าร้องไห้เลยนารา ฉันรู้สึกปวดใจ
“เธอไม่มีสิทธิเลือก! เธอจะเป็นเมียฉันตลอดไป อยู่ข้างฉันตลอดชีวิต” เขาอ่านใจคนออกด้วยหรอ?
แหวนเย็นๆพอมาอยู่บนมือเขาแล้วก็อุ่น แล้วส่งต่อมายังนิ้วของเธอ สุดท้ายน้ำตาของเธอก็ไหลลงมา….
มีเสียงปรบมือดังมาจากรอบข้าง คุณพศเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาเธออย่างอ่อนโยน “นารา อย่าร้องไห้! ไม่งั้นฉันจะปวดใจนะ!”
นาราร้องไห้ด้วยความสุข เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เหมือนขึ้นรถไฟเหาะ คุณพศหย่าแล้ว แล้วก็มาขอเธอแต่งงาน เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นเร็วมาก
เร็วจนเธอยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว เธอมองผู้ชายตรงหน้าเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง ก็หัวเราะออกมาเบาๆด้วยความเก้อเขิน
“……” คุณพศไม่รู้ว่าครพูดอะไรต่อ
“พี่สะใภ้ตัวน้อย เดี๋ยวก็ร้องไห้เดี๋ยวก็หัวเราะ ทำให้พี่ชายพวกเราตกใจหมดเลย เหอะๆๆ…….” เด่นภูมิหัวเราะอย่างเก้อเขิน
“พี่สะใภ้ รีบจูบพศซะสิ ปกติการขอแต่งงานมันจะจบด้วยการจูบกันนะ” ยชญ์พูดต่อ
พอนาราได้ยินยชญ์พูดดังนั้น หน้าก็แดงจนถึงหู ตอนนี้เธอยังคงนั่งอยู่บนตักของผู้ชายคนนี้
แล้วผู้ชายคนนั้นก็กำลังจ้องมองใบหน้าที่เขินอายของเธอด้วยสายตาร้อนดั่งไฟ พอเห็นน้ำตาที่คลอเบ้าของเธอนั้น ก็รู้สึกว่ามันน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
เขารีบก้มหน้าลงไปจูบที่ดวงตาของเธอ นารารีบดันเขาออก “อย่า…” เขามาจูบเธอแบบนี้ต่อหน้าเด่นภูมิกับยชญ์ได้ยังไงกัน
คุณพศไม่สนใจอะไร ยื่นมือไปประคองใบหน้าของเธอไว้ แล้วก็จูบลงไปที่รืมฝีปากของเธอ เพื่อไม่ให้เธอมีโอกาสได้พูดต่อ
“อะแฮ่มๆๆ…พศ นายทำจริงๆด้วย โอเค พวกเราโดนทารุณจนจะตายอยู่แล้ว กลายเป็นหมาหัวเน่าแบบเต็มรูปแบบ!” เด่นภูมิกับยชญ์ขนลุกขนชันไปทั้งตัว
นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นพศรักผู้หญิงคนนึงมากขนาดนี้
แต่พศไม่ได้สนใจ จับหน้าของผู้หญิงตรงหน้าไว้และจูบเธออยู่แบบนั้น เสียงของทั้งสองคนด้านข้างกลายเป็นอากาศไป
จนพระอาทิตย์ตกดินพวกเขาถึงกลับมาเป็นเหมือนเดิม
พิมมี่ที่กำลังโดดเดี่ยวอยู่ในบ้านตระกูลวรชัยลภัส เธอกลับมาแล้ว เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอยังไม่ทันได้เซ็นต์ชื่อ คุณพศก็สามารถหย่ากับเธอได้สำเร็จ
เพราะว่าเธอต้องซ่อนตัวอยู่แบบนี้ คุณพศก็เลยไปฟ้องหย่ากับเธอที่ศาล
แล้วผู้ชายเลวๆคนนั้นก็ไปขอนาราแต่งงาน
เธอโมโหจนจะเป็นบ้าไปแล้ว เธอสาบานได้ว่าเธอจะไม่มีวันปล่อยลูกเมียน้อยอย่านาราไปแน่นอน!
“คุณพศ กล้ามาไม้นี้กับฉันนะ!” พิมมี่บีบแก้วในมือแน่น ดวงตาร้อนเหมือนโดนไฟเผา เธอกัดฟันกรอด
“แล้วก็ยัยผู้หญิงชั้นต่ำอย่านารา ฉันจะทำให้ทั้งสองคนไม่ตายดี!” แล้วเธอก็ปาแก้วในมือไปที่กำแพงจนแก้วแตกละเอียด
“คุณหญิง…” คนใช้ต่างมือไม้อ่อนไปหมด เรื่องอารมณ์โมโหร้ายของพิมมี่พวกเขาต่างก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่การที่โกรธขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็น
“ออกไป! พวกแกออกไปให้หมด!” พิมมี่ระบายอารมณ์กับพวกคนใช้
เขมินทร์ที่อยู่ในห้องนอนพอได้ยินเสียงก็รีบวิ่งมา
“ลูกสาวสุดที่รักของแม่ เกิดอะไรขึ้น? เพราะว่ายัยผู้หญิงชั้นต่ำนารานั่นอีกแล้วใช่….”
“แม่! ไม่ต้องพูดแล้ว! ต่อไปนี้แม่ห้ามพูดถึงมันต่อหน้าหนูอีกเข้าใจมั้ย?” เขมินทร์ยังไม่ทันจะพูดจบก็โดนลูกสาวตัดบทก่อน แต่คำพูดพวกนั้นก็ทำให้เธอรู้ทันทีว่าเธอเดาถูก
เขมินทร์รู้สึกว่าหลังจากเกิดเรื่องขึ้นลูกสาวเธอก็กลายเป็นคนละคน!
“แม่ คุณพศเขา…เขาขอยัยนาราแต่งงาน!” ใบหน้าที่บอบบางของพิมมี่นั้นเต็มไปด้วยน้ำตา เธอซบลงไปที่อกของเขมินทร์แล้วก็ร้องไห้โฮ
“ไม่ต้องร้องไห้แล้ว ลูกสาวสุดที่รักของแม่ ลูกเป็นแบบนี้ต่อไปจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แถมยังทำให้แม่ทุกข์ใจอีก” เขมินทร์พูดด้วยความทุกข์
พิมมี่ที่ร้องไห้อยู่ตรงหน้าอกของแม่ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
เขมินท์ลูบหลังของลูกสาวพร้อมกับเช็ดน้ำตาของตัวเองเบาๆ ตั้งแต่เล็กจนโต ลูกสาวของเธอไม่เคยต้องมาไม่ได้รับความเป็นธรรมอะไรขนาดนี้มาก่อน จะไม่ให้เจ็บใจได้ยังไง
“แม่ หนูทำขนาดนี้แล้วยังสู้ยัยนาราไม่ได้ หนูควรจะทำยังไงดี…ตอนนี้ยัยนั่นกลายเป็นภรรยาท่านประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ไปแล้ว หนูพยายามมากมายขนาดนี้ แต่เธอกลับแย่งมันไป ต้องทำยังไงหนูถึงจะหลุดพ้นจากมันซักที! เพื่อมัน คุณพศถึงขั้นยอมฟ้องหย่ากับหนู!”
พิมมี่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ที่อกของเขมินท์ เขมินท์เหมือนว่าจะนึกอะไรออก เธอรีบเช็ดน้ำตาและประคองพิมมี่ขึ้นมา
“ลูกทำไม่ได้ แต่มีคนทำได้” เขมินท์จ้องหน้าพิมมี่ แล้วค่อยๆพูดออกมาชัดๆทีละคำ
พอได้ยินดังนั้นพิมมี่ก็หยุดร้องไห้
“อะไร? ใครหรอ?”
“วิษณุส์!”
“วิษณุส์!”
สองแม่ลูกตะโกนชื่อคนๆเดียวกันออกมาพร้อมกัน
“ แต่ว่าตอนนี้หนูทำบาปกับเขาไว้มาก หนูไม่มีหน้าไปหาเขาหรอก อีกอย่าง หนูทำร้ายเขาอย่าโหดร้ายขนาดนั้น เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมีช่วยหนูอีก” พิมมี่ที่กว่าจะหยุดร้องไห้ได้ไม่ใช่ง่ายๆ พอพูดก็เริ่มจะร้องไห้ขึ้นมาอีกแล้ว
“ยังไงเขาก็ต้องช่วยลูก เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” เขมินท์ทำหน้าเย่อหยิ่ง แล้วยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย
วันนี้พิมมี่รีบตื่นแต่เช้า แต่งหน้าสวยงาม ใส่ชุดเดรสสีแดง ดูสวยหยาดเยิ้มมาก
“ออกมาเจอกันหน่อย” พิมมี่หยิบโทรศัพท์ออกมาพิมพ์ข้อความไม่กี่คำ แล้วก็กดส่ง
วิษณุส์ที่ได้รับข้อความไม่รู้จะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วสินะ ยังมีหน้ามาหาเขาอีก! แค่นี้ยังทำร้ายเขาไม่พออีกหรอ
“ขอโทษที ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับผู้หญิงอย่างเธอ เห็นแก่ที่เธอเป็นแฟนฉันมานาน จะถือว่าปล่อยเธอไปครั้งนึงแล้วกัน” หลังจากวิษณุส์พิมพ์ตอบไปด้วยความโกรธ ก็โยนโทรศัพท์ไปด้านข้าง เขาแค่ไม่อยากจะไปเกี่ยวข้องอะไรกับผู้หญิงคนนี้อีก
ผ่านไปไม่นาน เสียงข้อความเข้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ถ้ายังงั้นนายก็คงไม่มีโอกาสได้โค่นล้มคุณพศอีกตลอดไป ถ้ายังงั้นก็เชิญนายอยู่ภายใต้เขาตลอดไปแล้วกัน วันนี้หกโมงเย็นที่ร้านกาแฟใต้ตึกบริษัท จะมาไม่มาก็ตามใจ” พอพิมพ์ข้อความพวกนี้จบพิมมี่ก็มือสั่น ที่จริงเธอก็ไม่มั่นใจว่าวิษณุส์จะมารึเปล่า ทุกสิ่งที่อย่างที่เธอพูดออกไปเป็นสิ่งที่เขมินท์สอนเธอมาทั้งนั้น วิษณุส์จะงับเหงื่อของเธอหรือไม่นั้น เธอก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน
ร้านกาแฟ หกโมงเย็น
พิมมี่จับแก้วกาแฟของตัวเองด้วยความกังวล ขาทั้งสองข้างสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ นี่มันเลยเวลานัดไปสิบนาทีแล้ว ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของวิษณุส์เลย เธอรู้สึกว้าวุ่นไปหมด
ตอนที่เธอลุกขึ้นกำลังจะกลับ ก็มีรูปร่างที่คุ้นเคยปรากฏตัวต่อหน้าเธอ เป็นวิษณุส์ไม่ผิดแน่
พิมมี่รู้สึกประหลาดใจ แต่เธอก็พยายามซ่อนอารมณ์ของตัวเองไว้
“นายมาจริงๆด้วย” พิมมี่พยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ตอนนี้เธอเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“อย่าพูดมาก มีวิธีอะไรก็รีบพูดมา!” วิษณุส์ดูเหมือนไม่ค่อยมีความอดทน เห็นได้ชัดว่าเขารังเกียจพิมมี่ขนาดไหน และก็เห็นได้ชัดว่าเขารีบที่อยากจะโค่นล้มคุณพศขนาดไหน
“ฉันไม่ได้มีวิธีอะไร ก็เลยมาปรึกษากับนายนี่ไง”
“น่าเบื่อ!” วิษณุส์จ้องหน้าเธอเขม็งด้วยสายตาเกลียดชัง เขาลุกขึ้นและเตรียมจะเดินออกไป
“ตอนนี้พวกเราอยู่บนด้ายเส้นเดียวกันแล้วนะ ถ้านายอยากจะทำลายคู่แข็งที่ยิ่งใหญ่อย่างคุณพศ นายก็ต้องร่วมมือกับฉัน นายไม่มีทางเลือกอื่น!” พิมมี่รีบตามเขาไป