The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่135 ใช้ปากป้อนยา
บทที่135 ใช้ปากป้อนยา
“ ทั้งหมดนี้ณัจยาเป็นคนทำ หล่อนจงใจให้นาราเห็นนายกับหล่อนสนิทกันมาก ทำให้เธอเข้าใจผิดว่านายกับณัจยากำลังกลับมาคืนดีกัน มีเกี่ยวกับฉันเลยนะ… “
ผู้หญิงคนนี้โง่จริงๆ พอกลัวก็พูดทุกอย่างออกมาหมด
แต่ด้วยนิสัยของคณพศ เขาเองก็รับประกันไม่ได้ว่าตัวเองจะฆ่าเธอจริงๆ รึเปล่า
คณพศฟังสิ่งที่พิมมี่พูด ก็นึกขึ้นได้ว่าหลายวันมานี้เขาก็เกินไปจริงๆ
ตัวเองก็แต่งงานแล้ว แถมยังมีภรรยาที่ทั้งสวยทั้งน่ารัก ถึงอย่างนั้นก็ยังจะคิดถึงตอนนั้นที่ต้องจากกับณัจยาอยู่อีก
หลายวันมานี้เพื่อผู้หญิงคนนั้น ถึงได้ห่างเหินกับนาราไป บ้าเอ้ย!
การปรากฏตัวของผู้หญิงคนหนึ่งมากวนใจเขา
เขาหันไปเคาะประตูบ้านไลลาทันทีอย่างไม่อาจทนต่อไปได้
ไลลาที่ได้ยินเสียงเคาะประตูก็รู้ว่าคณพศยังไม่ไป ถ้าไปก็แปลกแล้วล่ะ
“ มีอะไรอีก? วันนี้นาราจะนอนกับฉันที่นี่ พรุ่งนี้ค่อยกลับ ” ไลลามองชายหนุ่มอย่างเย็นชา
“ ไม่ได้! ” คณพศก้าวดุ่มๆ เข้าไปในห้องนอน มองหญิงสาวบนเตียง
เขาเลิกผ้าห่มที่ห่อตัวนาราขึ้น ” ที่รัก ไปเถอะ กลับบ้านกัน ”
นารากำลังนอนอยู่บนเตียง ใกล้จะหลับไปด้วยความเสียใจและสับสน ทันใดนั้นร่างของเธอก็ลอยขึ้น
” คณพศ….ปล่อยฉันนะ ” นาราที่เริ่มมีปฏิกิริยาก็เริ่มดิ้นอย่างรุนแรง
” คนดี มีอะไรกลับไปคุยกันที่บ้านนะ ” ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวขึ้นมาโดยไม่อธิบายอะไร ก่อนตรงดิ่งออกจากบ้านของไลลา
นาราไม่อาจกลั้นน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาได้
นึกถึงที่เขาเพิ่งจะกอดผู้หญิงคนอื่นมา เธอดิ้นรน ” ปล่อยฉันลงนะ ฉันเดินเองได้ ”
คณพศอุ้มหญิงสาวไปที่รถโดยไม่ส่งเสียงอะไร
เขาเปิดประตูรถแล้ววางเธอลงไป ก่อนเดินไปฝั่งคนขับ สตาร์ทรถและขับออกไป….
พิมมี่เบิกตามองชายหนุ่มอุ้มนาราจากไป เธอกัดปากอย่างแรง
กลับถึงบ้าน คณพศก็อุ้มนาราเข้าไปในห้องต่อ ก่อนวางเธอลงบนเตียง
นาราหลุดจากเขา ก็ไม่ได้สนใจเขาอีก
ชายหนุ่มยันตัวไปอยู่ข้างๆ ตัวเธอ ” ที่รัก ฟังผมนะ ผู้หญิงคนนั้นคือณัจยา เธอเป็นแฟนตอนสมัยเป็นนักเรียนของผม โธ่ ก็เหมือนความสัมพันธ์ของคุณกับเคนโด้น่ะแหละ ”
คณพศกอดร่างหญิงสาวไว้ ก้มหน้าจูบลงบนริมฝีปากของเธอ คิดอยากจะให้เธอมองเขา แล้วฟังเขาพูด
” ในปีนั้นขาทั้งสองข้างของผมถูกทำลาย เธอไปเกาะฟ้าเป็นเพื่อนผมและดูแลผมอยู่ครึ่งปี ตอนนั้นผมคิดว่าหลังจากนี้ผมกับเธอจะได้อยู่ด้วยกัน แต่จากนั้นเธอก็จากไป ผมเจอเธอครั้งนี้ ก็เพราะอยากจะจัดการเรื่องในตอนนั้นให้ชัดเจนว่าทำไมเธอถึงจากไป เพราะผมเป็นหนี้บุญคุณในครึ่งปีนั้นของเธอ ”
” วันนี้ได้เจอเธอในที่สุดมันก็กระจ่างแล้ว ผมบอกกับเธอว่าผมแต่งงานแล้ว มีภรรยาที่รักมากคนหนึ่ง เธอตอบผมว่าจากนี้เราจะเป็นแค่เพื่อนกัน ที่รัก ในใจของผมมีเพียงคุณ ไม่มีใครอื่น! คุณต้องเชื่อใจผมนะ ”
ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวอย่างใจจดใจจ่อ
ใบหน้าเล็กของเธอไร้สีเลือดฝาด เธอต้องคิดว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้วแน่ๆ ยัยซื่อบื้อเอ้ย!
เขากอดเธอด้วยใจปวดร้าว จูบที่มุมปากของเธอ นาราฟังคำพูดของเขา ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาเอ่อด้วยน้ำใส ” คณพศ ถ้าวันนึงคุณไม่ต้องการฉันแล้ว แค่บอกกับฉันมาก็พอแล้ว อย่าโกหกฉัน อย่าทำร้ายฉันเลย ” เพราะเธอยอมที่จะเจอกับความจริงอันโหดร้าย ดีกว่าคำโกหกสวยหรูของเขา
” คนโง่ ผมจะไม่ต้องการคุณได้ยังไง ผมบอกไปแล้ว ต่อจากนี้ผมจะเป็นคนในครอบครัวคุณและเป็นคนรักของคุณ คุณจะอยู่เคียงข้างผมไปชั่วชีวิต ”
เขากดจูบและบดคลึงริมฝีปากของเธอด้วยความรัก
ความเกลียดชังไม่อาจคุกคามเธอได้ นี่คือผู้หญิงของเขา ภรรยาของเขา เขาจะไม่ต้องการเธอได้ยังไง
นาราในจุมพิศของคณพศ โดยหัวใจที่บอบช้ำยังคงไม่เปิดต้อนรับ
นาราถูกจูบนับครั้งไม่ถ้วน เธอเหนื่อยมากแล้ว จึงหลับไปพร้อมดวงตาที่ปิดลง
คณพศมองใบหน้าแดงเรื่อของเธอ หายใจอย่างสม่ำเสมอในอ้อมกอดของเขา
เขายิ้ม มองการตอบสนองของร่างกาย ก่อนลุกขึ้นเดินเข้าห้องอาบน้ำ
เพราะจูบเธอ เขาต้องการเธออีกครั้ง แต่เมื่อเห็นเธอกำลังหลับสบาย จึงได้เลือกจะอาบน้ำเย็น
เขาออกมาจากห้องอาบน้ำ มองหญิงสาวบนเตียง ก่อนเดินลงบันไดเพื่อเตรียมอะไรให้เธอกิน
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง คณพศขึ้นชั้นบนเรียกนารากินข้าว แต่กลับพบว่าใบหน้าของเธอแดงยิ่งกว่าเดิม
คณพศรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงยื่นมือแตะที่หน้าผากของนารา
ร้อนชะมัด!
จนได้ นารามีไข้แล้ว!
คณพศให้ลุงบีมโทรเรียกแพทย์ของตระกูลมาทันที
หลังจากรอหมอมาดูอาการของนารา “ คุณชายสาม คุณผู้หญิงมีภาวะเครียดจึงทำให้มีไข้ครับ กินยาสักหน่อยก็หายแล้ว ”
“ แล้วยังไม่รีบจัดยาอีก! ” คณพศคำรามต่ำ
“ ครับครับ! ” หมอหยิบยาออกมาวางบนโต้ะ ก่อนบอกปริมาณการกินต่อครั้งแล้วเดินออกไป
คณพศรับน้ำมา มองหญิงสาวที่หลับตาแน่น “ ที่รัก กินยาเถอะ คุณป่วยแล้วนะ ”
นาราลืมตาอย่างสะลึมสะลือ มองที่คณพศ “ ฉันไม่กินยา…..ไม่กินยา ”
“ โธ่….” เห็นหญิงสาวดื้อรั้น คณพศบดยา เติมน้ำเล็กน้อย แล้วดื่มเข้าไปก่อนประทับที่ปากของหญิงสาว
เขาให้ยาไหลเข้าไปในปากของหญิงสาวช้าๆ นาราที่ไม่สามารถหายใจจึงได้แต่ถูกบังคับให้กลืนยาลงไป
เธอขมวดคิ้วด้วยความขม
คณพศให้ยาไหลไปในปากเธอจนหมด แล้วจึงลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูซับน้ำวางบนหน้าผากของเธอ
ผ่านไปสักพัก อุณหภูมิร่างกายของนาราไม่ได้กลับมาเป็นปกติ คณพศร้อนรน เดินเข้าไปในห้องน้ำล้างผ้าขนหนูด้วยน้ำเย็น แล้วกลับมาเช็ดตัวให้นาราอย่างระมัดระวัง อีกผืนวางไว้บนหน้าผาก
พอผ้าขนหนูร้อนขึ้นก็เปลี่ยนอีก อยู่อย่างนั้น คณพศไปมาระหว่างห้องนอนและห้องน้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
จนถึงเช้าตรู่ ในที่สุดอุณหภมูิร่างกายของนาราก็กลับมาเป็นปกติ หัวใจที่กริ่งเกร็งของคณพศจึงปล่อยวางลงได้
เขาล้มตัวลงบนเตียง แล้วหลับไปพร้อมกับนาราไปอ้อมแขน
กว่าจะรู้สึกตัวตื่นก็เที่ยงเข้าไปแล้ว นาราขยี้ตาพร้อมหาวว่อด
ลืมตาได้ไม่นาน นาราก็ต้องตกตะลึงไป คณพศ? ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ ทำไมเธอถึงนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา? เขาไม่ไปทำงานรึไง?
เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานได้อย่างละเอียด เขาบอกว่าเขารักเธอ จะไม่รักใครคนอื่น และเป็นแค่เพื่อนกับณัจยา
สุดท้ายเธอก็เป็นไข้ และเขาป้อนยาเธอ….
ทันใดนั้นนาราก็รู้สึกอับอายขึ้นมา เรื่องที่ตัวเองทำเมื่อวาน อย่างกับลูกสะใภ้ขี้อิจฉาไม่มีผิด
เธอขยับมือเล็กน้อย คณพศตื่นขึ้น
เมื่อรู้สึกว่าคนในอ้อมแขนขยับตัว คณพศจึงลืมตาช้าๆ
“ อรุณสวัสดิ์ ที่รักของผม ”
นารานึกถึงตอนที่ณัจยากอดกับเขาเมื่อวาน เขาไม่ได้ผลักหล่อนออก งั้นก็ชัดเจนแล้วว่าเขายังมีใจอยู่
เธอยิ้มอย่างขมขื่น จริงๆ แล้วเธอแคร์ที่เขาไม่ผลักผู้หญิงคนนั้นออกต่างหาก!
“ คณพศ ฉันรู้ว่าฉันไม่คู่ควรกับคุณ ฉันเคยบอกแล้ว ถ้าคุณไม่ต้องการฉัน ก็แค่บอกมา แล้วฉันจะจากไป ” เธอของตาเขา เอ่ยอย่างเย็นชา
“ ที่รัก คุณพูดอะไรน่ะ? ผมบอกแล้วว่าไม่มีทางทิ้งคุณ อย่าคิดเพ้อเจ้ออีกเลย! ” เขาขมวดคิ้ว มองหญิงสาวในอ้อมกอด
นารานึกขึ้นว่าอ้อมแขนของเขาได้กอดผู้หญิงคนอื่นมาเมื่อวาน ในใจก็เกิดการต่อต้านขึ้นทันที
เธอออกแรงผลักเขาออก ก่อนลุกเข้าห้องน้ำไป