The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่140 เต้นรำ
บทที่140 เต้นรำ
เมื่อเห็นคณพศยืนขึ้นอย่างโงนเงน ณัจยาก็รู้สึกว่าสถานการณ์มันไม่ค่อยถูกต้อง ” คณพศ นายแน่ใจนะว่าจะไปเต้นน่ะ? ”
คณพศมีแววตางุนงงเล็กน้อย เอ่ยอย่างเมามาย ” เต้นสิ ทำไมจะไม่เต้นล่ะ? วันนี้เป็นงานฉลองของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ ไม่เต้นได้ไง ไปเถอะ! ”
” ก็ แค่เต้นกันสักเพลง ไม่สลักสำคัญอะไรหรอก ” ณัจยารีบเข้าไปช่วยพยุงแขนของคณพศ
แต่กลับถูกเขาผลักออก ” หลีกไป ฉันยังเดินเองได้น่า ”
เด่นภูมิส่ายหน้าอย่างเอือมระอา คณพศหมอนี่บ้าจริงๆ คนโง่มาเห็นยังรู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นอยากจะรื้อถ่านไฟเก่า เขายังจะเปิดโอกาสให้เธอมาตื๊อได้อีก
ชายหนุ่มที่ดื่มอยู่ทนไม่ได้ ในยามปกติคณพศจะไม่แตะเนื้อต้องตัวผู้หญิง เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก
ถึงคณพศจะอารมณ์เสียเป็นไฟ เด่นภูมิก็ไม่พูดอะไรมาก และพวกเขาไปด้วยสายตา
คู่เต้นรำต่างก้าวเท้าไปพร้อมกันในฟลอร์เต้นรำ ท่ามกลางเสียงเพลงอันงดงามและลึกซึ้ง
ณัจยาหลงเสน่ห์เขาจนแทนอยากตะครุบตัวคณพศเสียอย่างนั้น ปากหอบเบาๆ ” แฮ่ก พศ นายเต้นเก่งจัง ”
คณพศดื่มไปหนักมาก จึงไม่ได้ยินว่าณัจยากำลังพูดอะไร จู่ๆ นั้นเขาก็ไม่อยากเต้นรำแล้ว ” ช่างเถอะ ไม่เต้นแล้ว เราไปร้องเพลงกัน ”
ซึ่งสอดคล้องกับความตั้งใจของณัจยาพอดี บนหน้าของเธอปรากฏรอยยิ้มมีเลศนัยขึ้นมาทันที เธอพยุงคณพศเดินไปยังห้องร้องเพลง
หึหึ พื้นที่ส่วนตัว เป็นที่ที่เหมาะสมจะทำเรื่องส่วนตัวที่สุดล่ะนะ! เธอไม่เชื่อ ว่าทักษะยอดเยี่ยมของเธอ จะทำอะไรนารายัยลูกเมียน้อยนั่นได้
เพียงแค่ได้เป็นผู้หญิงของคณพศ หลังจากนั้นทั้งหมดก็จะอยู่ในกำมือเธอ ผู้ชายของเธอ เขาจะต้องกลับมาแน่!
ณัจยาพิงคณพศ รู้สึกได้ถึงท่อนแขนแกร่งของเขาภายใต้เนื้อผ้า ทั้งสองเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมา เธออยากจะลากเขาไปเปิดห้องแทบไม่ไหว
เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะถูกรบกวน ณัจยาจงใจพยุงคณพศเข้าไปในห้อง
คณพศไม่คาดคิดว่า ทั้งหมดนี้ จะถูกมือถือเครื่องหนึ่งบันทึกวิดิโอเอาไว้แล้วทั้งหมด
ผู้บันทึกวิดิโอนั้นคือพิมมี่
ตั้งแต่ที่คณพศและณัจยาเต้นรำด้วยกัน ก็ถูกวิษณุส์ที่มาด้วยกันกับพิมมี่เห็นแล้ว
เธอจะพลาดโอกาสที่จะทำลายนาราไปได้ยังไง เธอดึงมือถือออกมาบันทึกวิดิโอที่พวกเขาโอบกอดกันในฟลอร์เต้นรำเอาไว้ จากนั้นก็ส่งให้นารา
แน่นอน ตอนที่เธอถ่ายนั้นระวังมาก พยายามที่จะไม่โฟกัสใบหน้าที่ไม่มีความสุขของคณพศ และจงใจถ่ายให้ทั้งสองดูคลุมเครือมาก
โดยเฉพาะฉากที่คณพศถูกณัจยาโอบและพากันออกไปหาห้องร้องเพลง
นาราในตอนนั้นอยู่ที่กวดวิชากับไลลาพอดี ไม่กี่คนนั้นกำลังคุยเรื่องการไปร่วมนิทรรศการภาพวาดที่ฝรั่งเศส
“ นารา เราสามคนไปเข้าร่วมการแข่ง จะได้ไปหาผิงผิงด้วยเลย ” กับการไปร่วมนิทรรศการที่ฝรั่งเศสครั้งนี้ไลลาลิงโลดสุดๆ
นาราลังเลเล็กน้อย “ ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะได้ไปรึเปล่า ” เพราะเธอยังไม่ได้ปรึกษากับคณพศเลย เธอกลัวว่าเขาจะไม่ให้ไป
ความจริงเธอเองก็ไม่อยากจากคณพศไปเหมือนกัน อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ แม้ว่าบางครั้งจะผิดใจกันไปบ้าง แต่คณพศก็ใส่ใจเธอมาก เธอทิ้งเขาไปฝรั่งเศสไม่ลง
“ โอ้ย โอกาสดีขนาดนี้ เธอไม่ไปได้ยังไง!” ไลลาตะโกนใส่นาราที่นั่งอยู่ที่โซฟา ก่อนยื่นมือไปเขย่าเธอเบาๆ “ ไหนบอกมาซิ นี่เพราะเธอไม่อยากจากประธานคณพศนั่นไปใช่ไหม? ”
“ ที่ไหนกันล่ะ ” ในที่สุดนาราก็หลุดจากกรงเล็บของไลลา นั่งด้วยความอึดอัด ใบหน้าแดงเรื่อด้วยสีเลืดฝาด “ เปล่าสักหน่อย พูดมั่วซั่ว ”
“ งั้นเหรอ? ฉันพูดมั่วไปจริงๆ งั้นเหรอ?” ไลลายิ้มพลางยิ้มตาให้นารา “ บอกมาเร็ว ครั้งก่อนท่านประธานอุ้มเธอไปซะเกรี้ยวกราดขนาดนั้น พวกเธอกลับไปไม่เปิดศึกกันสักร้อยครั้งได้เหรอ? ”
เห็นรอยยิ้มซุกซนของไลลา นาราก็หน้าแดงเห่อยิ่งกว่าเดิม มองค้อนไลลาอย่างเคืองๆ “ เธอเป็นเด็กผู้หญิงรึเปล่า พูดอะไรน่าเกลียดออกมาได้ ไม่คุยด้วยแล้ว”
เมื่อเธอพูดจบ เสียงแจ้งเตือนข้อความของมือถือก็ดังขึ้น
“ ดูสิ ต้องเป็นข้อความเจ้าชู้จากท่านประธานของเธอแน่เลย รีบไปหวานกันเถอะไป” ไลลายิ่งยิ้มร่าเข้าไปอีก
รอยยิ้มของเธอยิ่งทำให้นาราทำอะไรไม่ถูกเข้าไปใหญ่ วันนี้เธอไม่ได้ไปร่วมงานฉลองของบริษัท แค่เพราะเธอไม่ชอบสถานที่แบบนั้น แถมยังต้องไปร่วมแข่งที่ฝรั่งเศสอีก เธอไม่รู้ว่าเขาจะโกรธไหม
แต่เธอก็อยากจะดู ใครจะส่งข้อความมาหาเธอในเวลานี้ได้ ถ้าเผื่อว่า เป็นคณพศจริงๆล่ะ?
ความหวานชื่นฟุ้งอยู่ในใจของนารา เธอหยิบมือถือก่อนเดินไปที่ระเบียง ซึ่งความจริงเพราะกลัวไลลาจะเอาแต่ล้อเธอ
เมื่อเปิดหน้าจอมือถือ มีคลิปวิดิโอหนึ่งเด้งขึ้นมา เป็นพิมมี่ที่ส่งมา
หล่อนจะส่งอะไรดีๆ มาให้เธอได้ยังไง นาราเตรียมจะลบทิ้งไปโดยไม่ต้องคิดให้มาก แต่มือถือกลับถูกไลลาที่ยองมาข้างหลังเธอเงียบๆเข้ามาแย่ง “ ไหนดูซิ จะหวานเลี่ยนสักขนาดไหน ”
เดิมทีไลลาแค่อยากแกล้งให้นาราตกใจเล่นแค่นั้น ไม่ได้คิดจะฉกไปจริงๆ นาราเอี้ยวตัวหลบ นิ้วมือบังเอิญไปกดเล่นคลิปวิดิโอเข้า
ในคลิปส่งเสียงดนตรีในงานเลี้ยง ดึงดูดให้นารากับไลลายืนดูอย่างเป็นระเบียบ
เพราะแสงสีอุ่นสลัวในฟลอร์เต้นรำ คลิปวิดิโอนี้จึงไม่ชัดมาก
แต่กระนั้น นาราก็มองอกในทันที ว่าณัจยาขยับโยกไปกับคณพศ
สองคนโอบกันในห้องบอลรูม ณัจยาสวมชุดเว้าหลังเซ็กซี่ อยู่ในอ้อมแขนของคณพศอย่างแนบชิด และมือใหญ่ของคณพศนั้นวางอยู่บนผิวเปลือยเปล่าของณัจยา
ทันใดนั้น ความขมขื่นอันไร้ที่สิ้นสุดถาโถมเข้ามาสู่หัวใจของนารา
เธอพยายามสะะกดกลั้นความเจ็บปวดภายในใจ มือทั้งสองเริ่มสั่นเทา
ที่แท้ เขาก็ยังชอบผู้หญิงคนนั้น เขากอดหล่อนไว้ในอ้อมแขน เพราะเธอไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยง ก็เลยหาณัจยามาเป็นคู่หู….
ฮ่าฮ่าฮ่า….. ใจของเธอเหมือนถูกแทงจนพรุน เจ็บเกินจะพูดออกมา
ที่แท้ ที่เขาบอกว่ารักเธอคนเดียวก็หลอกลวงสินะ
ที่แท้ ทั้งหมดคือเธอหลอกตัวเอง
ใช่แล้ว เธอก็ไม่ใช่คุณหนูตัวจริงสักหน่อย แม้แต่งานเลี้ยงฉลองก็ไม่กล้าไปร่วม แล้วจะไปคู่ควรกับประธานบริษัทตระกูลปัญญาพนต์ที่สูงส่งได้ยังไง
นาราร่างสั่นเทา ดวงตานั้นพยายามจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ เธอพิงผนังด้านหลังจากไร้เรี่ยวแรง
ไลลาเอาวิดิโอนั้นมาดูให้ชัดๆ เธอกอดนาราไว้อย่างเดือดดาล “ เกินไปแล้วจริงๆ ! นารา คณพศไม่ได้ชัดเจนกับผู้หญิงคนนั้น! เธอไม่ต้องเศร้า ผู้ชายหลายใจไปเรื่อยแบบนี้ ไม่ต้องเอาหรอก!”
นาราไม่ส่งเสียงอะไรออกมา เธอยิ้มอย่างขมขื่น ใช้รอยยิ้มนี้ปิดบังความสับสนของตัวเอง หัวใจของเธอกำลังหลั่งเลือด เจ็บปวดจนไม่มีกำลังจะส่งเสียงร้อง
ไลลามองรอยยิ้มที่ดูไม่ได้ยิ่งกว่าตอนร้องไห้ของนารา โอบแขนกอดเด็กสาวเอาไว้ แล้วลูบหลังนาราเบาๆ “ นารา อย่าทำร้ายตัวเองเลย อยากจะร้องก็ร้องเถอะ อย่าเก็บมันไว้ในใจ เพื่อผู้ชายหลายใจแบบนี้ มันไม่คุ้มหรอก”