The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่160 เขาบอกว่าเมื่อตอนเด็กฉันอยู่ที่อังกฤษ
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่160 เขาบอกว่าเมื่อตอนเด็กฉันอยู่ที่อังกฤษ
บทที่ 160 เขาบอกว่าเมื่อตอนเด็กฉันอยู่ที่อังกฤษ
เมื่อฟังลุงบีมพูดมาถึงตรงนี้ พศก็หัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที รีบกวดถาม “แล้ววันนั้นนาราตอบไปว่ายังไง?”
ลุงบีมมองพศด้วยสายตาประหลาดใจก่อนจะตอบ “จะบอกว่ายังไงได้หล่ะครับ? เธอไม่ไปกับผู้ชายคนนั้นอยู่แล้ว แถมยังให้เขาไปด้วย แต่ชายคนนั้นไม่รามือ ยังทิ้งเบอร์โทรเขาเอาไว้ให้ บอกว่าเขารอเธอได้ทุกเมื่อ
จะหนีหรอ? ฝันไปเถอะ นอกจากเขาจะตายไปแล้วเท่านั้นแหล่ะ เสี้ยวหน้าของพศเต็มไปด้วยความเย็นกระด้าง เขาหันตัวกลับขึ้นบันไดไปในทันที
เมื่อเห็นร่างที่เต็มไปด้วยโทสะของพศ ลุงบีมก็นึกเสียใจขึ้นมาทันที เขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ? เขาไม่ควรลงรายละเอียดมากอย่างนั้นหรอ?
แต่คำพูดพูดไปแล้วมันเอาคืนกลับมาไม่ได้ ช่างมันแล้วกัน คุณชายสามออกจะดูแลใส่ใจนาราขนาดนั้น คงไม่มีทางที่จะทะเลาะกับเธอได้หรอก ไอ้หนุ่มอังกฤษคนนั้นจะเอาอะไรมาสู้!
พอคิดได้ถึงตรงนี้ ลุงบีมก็ส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดออกไป
พศเดินขึ้นบันไดมาก็ตรงไปที่ห้องนอนก่อนจะใช้เท้าถีบประตูให้เปิดออก นั่นทำให้นาราตกใจอย่างมาก
เธอกำลังขมักเขม้นกับชิ้นส่วนหยกอยู่ เธอจึงไม่ได้เตรียมรับมือกับพศที่อยู่ๆก็โผ่เข้ามา ความตกใจนั่นเองจึงทำให้หยกที่อยู่ในมือตกลงกับพื้นไป
โชคดีที่มีผ้าห่มหนาคลุมอยู่ มันจึงไม่แตกสลายไป
นาราก้มลงเก็บชิ้นส่วนหยก ก่อนจะขมวดคิ้วน้อยๆไปที่พศ “คุณเป็นอะไรของคุณอีกเนี่ย?”
พศย่างท้าวเข้ามาหา ก่อนจะพูดเสียงแหบ “บอกมาเลยนะ ว่าไอ้หนุ่มอังกฤษนั่นมันเป็นใคร? ทำไมเขาถึงจะเอาตัวเธอไป มีความสัมพันธ์อะไรกันแน่? ที่แท้เธอก็อยากจะหนีไปกับคนอังกฤษนั่น ไม่น่าหล่ะถึงจะมาหาเรื่องจะเลิกกับฉัน!”
ให้ตายเถอะ เดิมทีเขาคิดว่าเธอหน่ะสนใจเขา เพราะรอยลิปสติกที่ติดเสื้อในคืนนั้นทำให้เขารู้สึกผิด
เมื่อเห็นสีหน้าบอกบุญไม่รับของพศเข้า นาราก็รู้ได้ในทันทีว่าเขารู้แล้วเรื่องที่ ลั่วมาหาเธอเข้าแล้ว
เธอไม่ได้คิดว่าเธอทำผิดอะไร ทำไมพศจะต้องมาคาดคั้นเอากับเธอด้วย?
“เขาบอกว่าตอนฉันยังเด็กฉันอยู่ที่อังกฤษ แล้วเขาก็รู้จักฉัน” นาราพูด ด้วยไม่อยากจะอธิบายอะไรให้ยืดยาว
เพราะสำหรับเธอแล้วเธอไม่ได้รู้จักลั่ว เคลลี่อย่างชัดแจ้ง เธอจึงไม่รู้ว่าจะอธิบายอะไรให้พศเข้าใจ
“รู้จักเธองั้นหรอ? แล้วเธอไปที่อังกฤษตั้งแต่เมื่อไหร่? เห็นได้ชัดเลยว่าเธอหลอก ดูจากที่มาหาถึงบ้านอย่างนี้?” พศใช้แรงจับไหล่เธอดึงเข้ามาหาก่อนที่จะมองลึกเข้าไปในดวงตาของหญิงสาว “บอกมาเดี๋ยวนี้นะ เพราะว่าไอ้คนๆนี้ใช่มั้ยเธอถึงคิดจะหนีฉันไป? แล้วก็ไปอยู่กับมันที่อังกฤษใช่มั้ย?”
นาราเวียนหัวไปหมด ในขณะเดียวกันนั้นใบหน้าของพศก็มองไปที่เธออย่างน่ากลัว
ฮ่าฮ่าฮ่าเนี่ยแหล่ะคือเขา ชอบคิดไปเองฝ่ายเดียว ทั้งยังมาสงสัยคนอื่นอย่างไม่มีเหตุผลอีก
แล้วตัวเขาหล่ะ ไอ้ความสัมพันธ์ที่คลุมเครืออยู่กับณัจยานั่นหล่ะ ตีให้ตายกลับไม่ยอมรับ สองมาตรฐานชะมัดยาด
“บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ เธออยากจะหนีไปกับเขาใช่มั้ย? อยากจะหนีฉันไปใช่มั้ย?” เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากนารา ใจเขาก็อยู่ไม่สุข เขาเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น ดูเหมือนว่านี่จะเป็นวิธีเดียวที่จะกลบไม่ให้เธอรู้ว่าเขากลัวจะเสียเธอไป
“ใช่ ไม่ผิดเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันหล่ะอยากจะหนีไปกับเขาจริงๆ” นาราตอบกลับไปด้วยความดื้อรั้น เผชิญหน้าเขาอย่างกล้าหาญ “ฉันว่าเราไม่เหมาะสมกันหรอก คุณมันเรอค่าเกินไปประธานพศ ฉันเอื้อมไม่ถึงหรอก ปล่อยฉันไป มันจะเป็นการให้อิสระกับตัวคุณเองด้วย”
อยู่ๆเธอก็รู้สึกว่าเธอไม่เหมาะสม เขาคนนี้ไม่ใช่คนที่เป็นบ้านให้แก่เธอในตอนนั้น พูดให้มันจบๆไปทีเดียวเสียเลยดีกว่า เธอจะได้ไม่ต้องเสียทั้งศักดิ์ทั้งศรีในตัวเอง
“ไม่ได้” พศกลัวที่สุดก็คือการที่นาราบอกจะไปจากตน ในตอนที่เขาได้ยินถ้อยยคำเหล่านั้นเขามาที่หู มันทำให้เขาสูญเสียการควบคุมไป “ฉันไม่อนุญาต ฉันไม่อนุญาตให้หนีผมไป นอกจากฉันตายไปแล้วเท่านั้นแหล่ะ เธอคิดว่าอยากจะหนีไปกับไอ้ฝรั่งนั่นก็จะไปได้ง่ายๆงั้นหรอ” พศบีบไหล่ทั้งสองข้างของเธอ ดวงตาฉายแววโทสะเต็มประดา
“แต่ ถ้าให้เป็นแบบนี้ต่อไป เราสองคนจะไม่มีความสุขกันทั้งคู่ไม่ใช่หรอ?” นาราก้มหน้าอย่างหมดหวัง เรื่องอนาคตของเธอกับเขานั้นเธอคิดมามากกว่าหนึ่งครั้ง แต่ผลมันก็ออกมาได้เพียงแค่คำสามคำ ไม่มีหวัง
เขาเป็นประธานของบริษัทตระกูลปัญญาพนต์บริษัทยักษ์ใหญ่และร่ำรวย สามารถเดินเข้าออกที่เมืองธิตกลได้อย่างตามอำเภอใจ ไม่ว่าคิดจะทำอะไรก็จะได้ตามใจนึก
ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่อยากได้เขา แล้วเขาจะมาสนใจอะไรกับผู้หญิงที่ใครก็ไม่ต้องการอย่างเธอ แม้แต่แม่แท้ๆของเธอเองก็ยังไม่ต้องการเธอ เธอยังเหลือค่าอะไรอยู่บ้างหล่ะ
ระหว่างเขากับเธอนั้น มันช่างห่างไกลเหมือนกับพื้นดินกับดาวบนฟ้าก็ไม่ปาน
พอคิดได้มาถึงตรงนี้ นาราก็ฮึดใจสู้ เงยหน้าขึ้นมองพศก่อนจะพูด “คุณพศ คุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ แล้วก็ปล่อยตัวคุณเองด้วย เราสองคนไม่เหมาะสมกันเลย จริงๆนะ”
เมื่อได้ยินนาราพูดให้ปล่อยเธอไปอีกครั้ง หัวใจของเขาก็เจ็บปวดราวกับเอาอะไรมาทุบ
อะไรที่ว่าไม่เหมาะสม อะไรที่บอกให้ปล่อยเธอไป เธอไม่รู้ตัวเลยใช่มั้ยว่าพูดอะไรออกมา!?
เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวบนโลกนี้ที่เขารัก แค่สิ่งนี้ มันก็มากพอแล้ว ที่เธอพูดมันก็เพื่อทำให้เธอสบายใจเอาก็เท่านั้นแหล่ะ
แต่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าเขาจะพูดไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง หญิงสาวก็จะมองมาด้วยความแคลงใจในตัวเขา แล้วนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอไม่เชื่อในรักของเขา จวบจนตอนนี้ เขายังคงรู้สึกว่าเขาไม่ได้รักเธอจริง
เธอทำให้เขาทั้งรักทั้งเกลียดไปในเวลาเดียวกัน เธอทำให้เขาอยากที่จะถลกหนงมังสาเธอออกมาจริงๆ นี่ยังอยากจะไปกับผู้ชายคนอื่นอีก มันจะเป็นไปได้ได้ยังไง
เขามองเธอด้วยสายตาเย็นชา แข็งไปหมดทั้งหัวใจ
ไม่มีความเศร้าไม่มีความสุขในสายตาของเขา การที่จะแยกเขาและเธอออกจากกันนั้นมันเป็นไปไม่ได้และไม่สามารถเอาชนะได้
ในห้วงนาทีนี้ความสับสนวุ่นวายหัวใจเกาะกินใจเขา
เขาสามารถใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีในการตัดสินใจใช้เงินสิบล้านในธนาคาร แต่มันไม่ใช่กับส่งที่อยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้
เธอเหมือนกับสิ่งที่สวรรค์ส่งมาเพื่อลงโทษเขา
นาราเงียบนิ่งอยู่นานเพื่อที่จะรอคำตอบจากพศ จึงลองพูดหยั่งไปอีก “คุณพศ เราสองคน…..อื้อ…..”
พศเองก็รับไม่ได้อีกต่อไปแล้ว คำพูดของเธอมันช่างกรีดหัวใจของเขาจริงๆ
เขาปล่อยให้เธอไปไม่ได้ แค่คิดก็อย่าหวังเลย
เขาก้มลงจุมพิษอย่างไม่ลังเล มันเป็นรสสัมผัสที่ประสมความรักและความเกลียดไปพร้อมๆกัน ทำให้เธอไม่อาจที่จะพูดในสิ่งที่เขาจะต้องโมโหได้อีก
ริมฝีปากร้อนระอุบุกล้อมรอบกรอบปาก ค่อยๆสอดเข้าสัมผัสโคนลิ้นของเธอช้าๆ เนิ่นนานอย่างไม่อาจจะปลีกหนีไปไหนได้
ทุกๆชั่วขณะนั้นเขาไม่อาจจะหยุดยั้งมันเอาไว้ได้
นารารับสัมผัสจูบอันหนักหน่วงและนุ่มนวลจากเขา ฉับพลันทันใดในใจก็พลันไปนึกถึงรูปของณัจยา ทำให้เธอถึงกับยกมือเพื่อดันเขาออกให้ห่างตัว เขาจูบเธออีกแล้ว “ปล่อยนะ……อื้ออื้อ…..ปล่อย….ฉันนะ”
แม้ว่าเธอจะใช้พละกำลังมากพอดู แต่เล็กน้อยแค่นีไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาด้วยซ้ำไป ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของเธอด้วย ด้วยเพราะฮอโมนที่พลุ่งพล่านในตัวเขาทำให้ตัวเธออ่นยวบลง