The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่163 ไล่กลับอังกฤษ
บทที่163 ไล่กลับอังกฤษ
ทันใดนั้นเขานั่งตัวตรงขึ้นมา ราวกับกษัตริย์ที่ปกครองโลกทั้งใบ เขามองต่ำลงไปยังเคลลี่ลั่วด้วยดวงตาของพญาอินทรีที่น่าหวั่นเกรง
เขาโบกมือเบาๆ บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเดินเข้ามาทันที ” คุณเคลลี่ เชิญ! ”
เคลลี่ลั่วจ้องคณพศเขม็ง ” คุณคณพศ นี่คุณกำลังไล่ผมสินะ ผมมาที่นี่โดยผ่านการอนุมัติและคุ้มครองของทางสถานทูต คุณไม่มีสิทธิที่จะไล่ผมไป และผมจะต้องพาหวานไปด้วยให้ได้ เธอคือคู่หมั้นของผม! ”
เคลลี่ลั่วยืนขึ้นพูดกับคณพศเสียงดังลั่น แต่ข้อมือของเขากลับถูกบอดี้การ์ดทั้งสองตรึงไว้ก่อนพาออกไป
เขากดปุ่มบนนาฬิกาที่ข้อมือทันที ไม่ทันเดินถึงประตู ก็ได้ถูกคนชุดดำห้าหกคนขวางเอาไว้
แต่ก่อนที่คนเหล่านั้นจะทำอะไร ลำคอของเขาก็ถูกจ่อด้วยปากกระบอกโลหะเย็นเฉียบ
เคลลี่ลั่วมองบอดี้การ์ดยี่สิบกว่าคนที่ถือปืนจ่อมาที่เขา เขาขมวดคิ้ว
” คณพศ นี่มันผิดกฎหมายนะ! จะบอกให้ ผมมั่นหมายตัวหวานไว้ก่อน เธอถูกคุณบังคับให้แต่งงาน ผมเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ภรรยาของคุณควรจะเป็นพิมมี่…… ”
ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ก็ถูกบอดี้การ์ดของคณพศยัดเข้าไปในรถ รถวิ่งอย่างบ้าคลั่งไปจนถึงสนามบิน
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นเครื่องบินของเคลลี่ลั่วจากเมืองธิตกลก็บินขึ้นข้ามโค้งเหนือศรีษะ
คณพศนวดวนที่ขมับ เจ้าฝรั่งน่ารังเกียจนั่นถูกส่งกลับไปสักที
เขาไม่อนุญาตให้ใครมายุ่มย่ามกับภรรยาของเขาอย่างเด็ดขาด ครั้งนี้เขาส่งหมอนั่นกลับไป ถ้าครั้งหน้ายังกล้ากลับมา คงจะไม่ได้กลับง่ายๆ แบบนี้อีก
หลังจากส่งเคลลี่ลั่วไปแล้ว จิตใจที่ร้อนรนของคณพศก็ค่อยๆ สงบลง แม้แต่บริษัทเขาก็ไม่ไป แต่ตรงกลับคฤหาสน์ไปทันที
เขาเดินเข้าไปไม่เห็นเด็กสาว ” นารายังไม่ออกมาอีกเหรอ? ”
ลุงบีมพยักหน้า ” คุณชาย คุณผู้หญิงรู้สึกไม่ดี ไม่ยอมทานอาหารมาสองวันแล้ว ” จริงๆ แล้วลุงบีมเองก็ปวดใจไปกับนาราเช่นกัน
คณพศเดินขึ้นชั้นบนไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง เขาไปดูที่ห้องหนังสือก่อน ไม่มีคน
เขาผลักประตูห้องนอนออก เด็กสาวร่างบางนั่งอยู่บนระเบียง ร่างเล็กของเธอจมลงไปในเก้าอี้ ดูราวกับจะถูกลมพัดปลิวไปได้ง่ายๆ
คณพศเดินเข้าไปใกล้เธอแล้วย่อตัวลงมองเธออย่างเงียบๆ เธอมองออกไปยังที่ไกลลับตา ดูเหมือนกำลังไร้ซึ่งทางใดๆ อีกแล้ว
หัวใจของคณพศราวกับถูกเข็มทิ่งแทงจนเลือดหลั่งริน
” ที่รัก เมื่อคืนขอโทษนะ ผมอดทนไม่ได้ ที่รัก อย่าเป็นอย่างนี้สิ เรากลับไปดีกันอย่างเมื่อก่อนไม่ได้เหรอ? ” เขากุมมือเล็กที่เย็นเยียบของเธอไว้อย่างอ่อนโยน
ในที่สุดนาราก็ถอนสายตามาจากสถานที่อันไกลโพ้น มองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเย็นชา
” ยังกลับไปได้งั้นเหรอ? คณพศ จริงๆ แล้วฉันเคยคิดว่าคุณคือทั้งชีวิตของฉัน แต่แล้วคุณทำอะไรลงไป? คุณไม่ให้ฉันเรียน คุณเอาหยกที่แม่ทิ้งไว้ให้ของฉันไป คุณ‘ขืนใจ’ฉัน…..”
หยดน้ำอุ่นไหลรินลงมาจากดวงตาของเธอ คณพศยืนขึ้นอุ้มเธอขึ้นมา กอดเธอไว้ในอ้อมแขนแน่น
” นารา ผมขอโทษ อย่าพูดว่าขืนใจเลยนะ! ผมรักคุณ ฉันรักคุณจนสุดหัวใจ คุณอยากไปเรียนผมก็จะส่งคุณไปเรียนทันที แล้วหยกนั่นแม่คุณไม่ได้ทิ้งไว้ให้หรอกนะ มันเป็นของที่ทายาทตระกูลเคลลี่เป็นผู้ถือครอง ผมช่วยคุณคืนกลับไปให้เขาแล้ว ที่รัก ขอโทษนะ ต่อจากนี้ไปผมจะไม่บังคับให้คุณทำอะไรอีกแล้ว นะ…. ” คณพศเจ็บปวดจนไม่อาจหายใจ
เขาปาดน้ำตาของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า กอดร่างเล็กนั้นไว้ในอ้อมกอด เขาอยากจะเก็บเธอไว้ในกล่อง ไม่ให้เธอจากไปไหนอีก
แต่นารากลับดิ้นขลุก มองชายหนุ่มด้วยสีหน้าอันขมขื่น ” คณพศ ฉันยังจะเชื่อคำพูดของคุณได้อีกอย่างนั้นเหรอ? ปากก็บอกว่ารักฉัน แต่ก็ยังไม่ชัดเจนกับณัจยา ปล่อยฉันไปเถอะ ถือว่าช่วยฉันเถอะนะคณพศ โลกกว้างใหญ่ ฉันต้องการแค่ชีวิตที่ปกติธรรมดา ”
คณพศได้ยินคำพูดของเธอ ราวกับถูกฟ้าผ่า เขามองเด็กสาวในอ้อมแขนอย่างเลื่อนลอย เธอช่างดื้อรั้นเหลือเกิน
เขาไม่ชัดเจนกับณัจยาเมื่อไหร่กัน? เธอไม่สามารถเชื่อใจเขา เธอตัดสินใจจะจากไป ไม่ยังไงเขาก็รั้งเธอไว้ไม่ได้
อยู่ๆ เขาก็มองเธออย่างเย็นชา ” คุณยังคิดถึงชายอังกฤษคนนั้นอยู่ใช่ไหม? ” ดวงตาของเขาดั่งมีไฟลุกไหม้ ขณะมองนาราหัวใจก็สั่นไหว
ถึงตอนนี้เขาก็ยังเอาความผิดไปให้คนอื่น นาราขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เงยหน้ามองเขา ” ใช่ ฉันอยากจะไปกับเขา ฉันอยากไปหาแม่ของฉัน! ”
” อย่าแม้แต่จะคิด! คุณอยากตามหาแม่ผมช่วยคุณได้ จากนี้ห้ามติดต่อกับเขาอีก! ” เขายกเธอขึ้นพาดบ่า
นาราสะดุ้งโหยง เธอจะตกลงไปจึงกอดคอเขาไว้ทันที คณพศมองใบหน้าซีดเผือดของเธอ ก่อนวางเธอลงบนเตียง หลับตาลงแล้วจูบเธอ
นาราเมินหน้าไปอีกด้าน เขาพรมจูบลงบนใบหน้าด้านข้างของเธอและเขาก็ไม่ได้รังเกียจ เขาจูบลงบนคางและลำคำของเธอ
นาราต่อต้านจูบของเขา ชายหนุ่มหลับตาลงขมวดคิ้ว ” นารา ผมไม่เลิกกับคุณเด็ดขาด และไม่มีวันยอมให้คุณเจอกับชายอังกฤษคนนั้นอีก ถ้าคุณยืนกราน ก็ไม่ต้องไปเรียน เราจะย้ายกลับไปเกาะฟ้า ที่นั่นคงเหมาะกับคุณมาก ”
นาราตื่นตะลึงไปอีกครั้ง เธอนิ่งค้างมองชายหนุ่มตรงหน้า เธอเคยสาบานว่าจะรักเขาไปตลอดชีวิต แต่วันนี้เขาคิดจะขังเธอไว้ที่เกาะฟ้า นี่คือคำพูดของผู้ชายที่บอกว่ารักเธองั้นเหรอ
เธอจ้องมองเขา ไม่ขัดขืนใดๆ อีก ราวกับว่าเธอได้สูญเสียกำลังและยอมแพ้ไปแล้ว
คณพศจุมพิศเธออย่างลึกซึ้ง รับรู้ถึงความอ่อนโยนของเธอ เงยหน้ามองเด็กสาว เขาไม่ได้ทำอะไรต่อ เพียงแค่กอดเธอไว้ในอ้อมแขน
” ที่รัก ถ้าหากคุณว่าง่ายสักหน่อย ผมก็ไม่ต้องทำกับคุณแบบนี้ ผมเหนื่อยมาก คุณเชื่อว่าเรากับเมื่อก่อนนี้จะเหมือนกันไหม? ”
นาราหลับตาลงในอ้อมกอดของเขา เธอปล่องวาง ไม่คิดเรื่องอะไรอีก ไม่นานก็หลับไป
คณพศมองเด็กสาวในอ้อมแขน เขาจูบลงที่หน้าผากเรียบเนียนของเธอ ลามไล้จนถึงใต้ใบหูเธอ ” ขอเพียงที่รักไม่คิดจากไปไหน ผมก็ไม่มีวันจำกัดอิสระของคุณ ”
ราวกับนาราได้ยินเสียงของเขาในห้วงความฝัน ดวงตาปิดสนิท ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
ค่ำคืนแห่งฝันหวาน วันต่อมานาราลืมตาขึ้น เธอมองแสงแดดนอกบานหน้าต่าง ก่อนลุกขึ้นนั่งอย่างเกียจคร้าน
ขณะเธอกำลังจะลงจากเตียง ประตูห้องนอนก็ถูกผลักออก ผ้าอ้ายเดินเข้ามามองเธอพลางยิ้มแฉ่ง
” คุณผู้หญิงนารา ตื่นแล้วเหรอคะ รีบมาทานข้าวเถอะค่ะ พ่อบ้านจะได้ส่งคุณไปโรงเรียน ”
อะไรนะ? คณพศให้เธอไปเรียนแล้วเหรอ?
เขาไม่ได้พูดว่าจะไม่ให้เธอไปเรียนไม่ใช่เหรอ แล้วยังจะให้เธอจองจำเป็นไว้ที่เกาะฟ้าอีก?
” พูดจริงเหรอ? ”
” จริงสิ คุณผู้หญิงรีบลุกขึ้นเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเข้าเรียนสายซะก่อน ” ป้าอ้ายพูดด้วยรอยยิ้ม
นารารีบลุกเดินเข้าห้องน้ำไปทันที เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนลงบันไดไปชั้นล่าง
บนโต๊ะได้ถูกจัดเตรียมอาหารเช้าเอาไว้อย่างดี เธอนั่งลงเต็มฮะเก๋าเพิ่มอีกชิ้น
ป้าอ้ายมองเธอกินไปไม่น้อย ทั้งยังเดินตามหลังไปส่งเธอออกจากคฤหาสน์ แล้วจึงโทรศัพท์ไปหาคณพศ
” คุณชาย คุณผู้หญิงนารากินข้าวเสร็จไปวิทยาลัยแล้วค่ะ ”
” อืม ” คณพศที่ยืนอยู่หน้าบานกระจกใหญ่ในห้องทำงานยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย