The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่191 เธอคือนาราในความทรงจำ
บทที่191 เธอคือนาราในความทรงจำ
คนขับรถเหยียบคันเร่งขับรถอย่างช้าๆ ผ่านไปตามเส้นทางในสวนดอกไม้ของประสาทแฮมป์ตัน
หญิงสาวที่เพิ่งจะได้รับรางวัลจึงอารมณ์ดีมาก เห็นอะไรก็เจริญหูเจริญตาไปหมด
เธอมองผ่านหน้าต่างออกไปข้างนอก ชี้ไปยังทิวทัศน์สวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ในสวนดอกไม้ ” ที่นี่สวยงามมากจริงๆ ”
เคลลี่ลั่วไม่ได้รู้สึกว่ามันสวยอะไรเลย เขารินไวน์ลงในแก้วสองใบอย่างสนอกสนใจแล้วยื่นแก้วหนึ่งให้กับเธอ “ ที่นี่เป็นสวนดอกไม้ที่เป็นทรงเลขาคณิต ต้องมองจากมุมสูงถึงจะสวย ครั้งหน้าฉันจะพาเธอมาดูนะ”
หยิงสาวรับแก้วไวน์มาก่อนพยักหน้าเป็นการขอบคุณ “ ขอบคุณนะคะ แต่ว่าฉันรบกวนคุณนานมากแล้ว เกรงใจจริงๆ “
“ หวาน พูดอย่างนั้นได้ยังไง? ” เคลลี่ลั่วไม่พอใจอย่างมาก “ คุณจะให้ผมพูดอีกกี่ครั้ง คุณคือคู่หมั้นของคุณนะ มีอะไรรบกวนที่ไหนกัน! เพื่อคุณแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรผมก็เต็มใจจะทำทั้งนั้น ”
ใช่แล้ว ผู้กำลังดื่มกับเคลลี่ลั่วอยู่นั้น เธอคือนาราที่ตกลงไปในทะเลนั่นเอง
ห้าปีก่อน นาราที่คิดว่าได้สูญเสียลูกไปแล้วขับรถตกลงไปในทะเล ในขณะเดียวกันนั้นได้พบกับเคลลี่ลั่วที่มาหาเธอที่เมืองธิตกลพอดี
ในตอนที่เรือของเขามาถึงเมืองธิตกล อยู่ๆ ก็เห็นร่างคนลอยอยู่กลางทะเล
เขาส่งคนไปช่วยขึ้นมาได้ทันเวลา ปรากฏว่าร่างนั้นคือนาราที่ได้สูญเสียพลังในการมีชีวิตไป
เขารีบพาเธอกลับอังกฤษทันทีและตามหาแพทย์ที่มีชื่อเสียงเพื่อมาช่วยรักษา!
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมคณพศที่ส่งคนไปค้นหาในทะเลตามหานาราไม่เจอ
ตอนนั้น ในการกู้ชีพขึ้นจากทะเล นาราที่มีลมหายใจคาบเกี่ยวความเป็นความตาย เคลลี่ลั่วได้พาเธอกลับไปยังอังกฤษด้วยเครื่องบินส่วนตัวในเวลาอันรวดเร็ว
ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ชั้นนำของอังกฤษ นารานอนเป็นเจ้าหญิงนิทราถึงครึ่งปีจึงค่อยๆ ฟื้นคืนสติ
ในครึ่งปีนั้น ทุกๆ วันเคลลี่ลั่วเฝ้าแต่หวาดระแวง ทุกๆ วันเขาหวาดกลัวตอนที่ต้องเจอกับแพทย์ที่ดูแลนารา กลัวว่าพวกเขาจะบอกกับตัวเองว่าไม่สามารถช่วยนาราเอาไว้ได้
โชคยังดี ในการวิงวอนของเขา ในที่สุดนาราก็รอดมาได้ แม้ว่าต้องใช้เวลานานกว่าครึ่งปี แต่เธอก็รอดมาจากจุดนั้นได้ ช่างเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากจริงๆ
หลังจากที่นาราได้สติก็ลืมทุกอย่างไปหมด แพทย์บอกว่านี่คือสิ่งที่คนไข้เลือกที่จะปิดผนึกความทรงจำนั้นไว้เอง
เคลลี่ลั่วรู้สึกว่าแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน หวานของเขาลืมไอ้เลวคณพศไปซะคงจะดีกว่า คงช่วยให้เขาไม่ส่งคนไปฆ่าคณพศอีก
นารายกไวน์แดงขึ้นจิบก่อนถามอย่างลังเลเล็กน้อย ” ลั่ว ฉันเป็นคู่หมั้นของคุณจริงๆเหรอ? แล้วทำไม ฉันถึงฝันถึงชายคนหนึ่งอยู่ตลอดเลยล่ะ? ”
หลายปีมานี้ การทุ่มเทของพี่ลั่วที่มีให้เธอ นารามองด้วยสายตาและประทับลงในใจ
เขาสนับสนุนตัวเธอให้ทำในเรื่องที่อยากทำ ไม่ว่าเธอมีความคิดอะไร เขาก็มักจะพยักหน้าให้ความช่วยเหลือเธอก่อนเป็นอย่างแรกเสมอ
งานออกแบบก็ดี วาดภาพก็ดี เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอมีอารมณ์อยากจะทำ เขาก็จะส่งเสริมให้เธอลองอย่างดีอกดีใจ
ภายใต้การส่งเสริมของเขา นาราค่อยๆ เติบโตขึ้นในแต่ละวัน จากการเริ่มต้นใหม่ที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ค่อยๆ ก้าวเข้าสู่เวทีระดับนานาชาติได้อย่างไม่คาดคิด จนได้รับมงกุฎแห่งความฝันของเหล่านักออกแบบ
ความรักอันลึกซึ้งที่เคลลี่ลั่วมีให้กับตัวเธอนั้น นารารู้ดี
แต่ว่า ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อฝันในยามยามเที่ยงคืนหวนกลับมา มักปรากฏชายคนหนึ่งที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลในความฝันของเธอ
ได้ยินนาราพูดอย่างนั้น เคลลี่ลั่วหัวใจเต้นระส่ำ ถามอย่างกังวล ” ผู้ชายคนหนึ่ง? ผู้ชายแบบไหนล่ะ? ”
นารามองเห็นถึงความตึงเครียดของเคลลี่ลั่ว แววตาก็ยิ่งกลายเป็นสับสน ” ลั่ว หรือจะมีผู้ชายคนนั้นอยู่จริงๆ ? ในฝันฉันมองหน้าเขาไม่ชัด แต่ทุกครั้งที่ฝันถึงเขา หัวใจฉันก็จะเจ็บปวดมากๆ เหมือนกับถูกมีดแทงเข้ามา ฉันมักจะรู้สึกว่า ฉันกับผู้ชายคนนั้นจะต้องเคยมีเรื่องราวอะไรกันมาก่อนแน่ๆ ”
เคลลี่ลั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามแสร้งทำเป็นพูดอย่างสงบนิ่ง ” หวาน คุณคงจะกลัวที่ตกลงไปในทะเลครั้งก่อน ถึงได้คิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา มันไม่เคยมีผู้ชายแบบนั้นหรอกนะ ไม่ต้องไปสนใจนักหรอก ”
” จริงเหรอคะ? ” นาราก้มหน้าลงอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง บางทีความทรงจำอาจจะโกหกแต่สัญชาตญาณของหัวใจเธอไม่เคยหลอกได้
ผู้ชายที่ปรากฏตัวในฝันของเธอบ่อยๆ คนนั้น จะต้องมีเรื่องอะไรกับเธอมาก่อนแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเขามาโผล่ในฝันของเธอได้ยังไงกัน
และที่ตอนนี้ลั่วไม่กล้าบอก เพราะกลัวเธอจะจำได้แล้วต้องเสียใจแน่ๆ
หลังจากความพยายามในหลายปีมานี้ นาราคุ้นชินกับเคลลี่ลั่วที่คอยดูแลอยู่ข้างกายเธอ
แม้จะรู้สึกได้รางๆ ว่าตัวเองได้สูญเสียความทรงจำช่วงนั้นไป แต่ถ้าหากจำมันได้แล้วจะต้องเจ็บปวดล่ะก็ งั้นก็ยังไม่ต้องนึกขึ้นมาได้ก็แล้วกัน
นึกถึงตรงนี้แล้ว นาราก็เงยหน้ามองออกไปนอกรถ ท้องฟ้าครามใส ดอกไม้เบ่งบานและต้นไม้เขียวชอุ่ม ใครๆ ก็คงอยากจะใช้ชีวิตในช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ
เมื่อเห็นนาราไม่เอ่ยอะไรอีก เคลลี่ลั่วก็รู้สึกโล่งใจ หากนาราถามออกมาอีก เขาคงไม่กล้ารับประกันว่าตัวเองจะบอกเรื่องในตอนนั้นกับเธอได้ไหม
ตอนนี้เขาเจอเธอแล้ว ก็ไม่ต้องการจะให้เธอมีความทรงจำที่เกี่ยวกับคณพศอีก
เจ้าคนน่ารังเกียจนั่น สำหรับหวานแล้วคงมีให้แค่น้ำตาและความเจ็บปวดไม่รู้จบเท่านั้น! ในตอนนั้นเขาแทบจะอดไม่ได้ที่ฆ่าเขาซะ!
หวานของเขา ควรจะเป็นเจ้าหญิงน้อยที่โลดเต้นอย่างมีความสุขภายใต้แสงอาทิตย์
เคลลี่ลั่วเหลือบมองไปที่นารา เห็นเธอที่ทอดมองไปนอกหน้าต่าง มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยอย่างอดได้
ภาพฉากนี้ ราวกับบทกวีที่เขาเคยอ่านเมื่อก่อน คุณที่ยืนมองทิวทัศน์ที่บนสะพาน คนชมทิวทัศน์จ้องมองคุณจากบนหอ ดวงหน้าราวแต่งแต้มพระจันทร์สุกใส คุณได้แต่งแต้มความฝันให้ใครอีกคน
บทกวีนี้นั้นเขาได้เห็นมันโดยบังเอิญ ประเทศจีนมีถ้อยคำที่สวยงามแบบนี้ด้วยช่างไม่น่าแปลกใจเลย และเขาได้จดบันทึกมันไว้ในใจ
เพราะสำหรับเขาแล้ว นาราคือทิวทัศน์ของเขา แต่งแต้มความฝันอันสวยงามให้กับเขา
เธอดูเป็นเด็กสาวตัวน้อยที่อ่อนแอ แต่กลับมีความดื้อรั้นและกล้าหาญอย่างไม่เข้ากับรูปร่างหน้าตาเอาเสียเลย จิตวิญญาณอันงดงาม ราวดอกไม้หอมหวนโชยกลิ่นดึงดูดเขาจนยากจะหลีกหนี
นารามองไปยังทิวทัศน์นอกหน้าต่าง และเคลลี่ลั่วจ้องมองเธอ เป็นเช่นนั้น
ภายในรถนั้นเปลี่ยนเป็นเงียบสงบและอบอุ่น แม้แต่คนขับรถก็ลังเลที่จะทำลายบรรยากาศนี้ จึงสงบปากสงบคำแล้วขับรถลินคอล์นกลับปราสาทของเคลลี่ลั่วอย่างเงียบๆ
เคลลี่ลั่วนั้นมีปราสาทเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นปราสาทเก่าแก่ที่ตกทอดมาของตระกูลเคลลี่
รถจอดลงอย่างนุ่มนวล เคลลี่ลั่วดึงประตูรถเปิดอย่างระมัดระวัง ก่อนรับนาราออกมา
นาราอาศัยอยู่ที่ชั้นสามของปราสาทหลังนี้ ห้องของเธอมีระเบียงขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นวิวของปราสาทได้ทั้งหมด
ในยามว่าง เธอจะพิงกับขอบหน้าต่างชมทิวทัศน์ วาดภาพ สีเขียวชอุ่มนั้นทำให้เธอรู้สึกสดชื่นได้เสมอ
นอกจากนี้ เธอมักจะรู้สึกว่าฉากที่คุ้นเคยนี้ ราวกับตัวเองในอดีตนานมาแล้ว ก็เคยยืนพิงกรอบประตูแบบนี้ ทอดมองออกไปไกลอย่างเบื่อหน่าย
เพียงแต่ตอนนั้น สิ่งที่เห็นมองเห็นไม่ใช่สีเขียวน่ารื่นรมย์ หากแต่เป็นสีน้ำเงินเงียบสงบของทะเล