The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง - ตอนที่239ไม่ใช่เรื่องทุกเรื่องที่จะชดเชยกันได้
- Home
- The fake แต่งงานหลอกๆ แต่รักฉันของจริง
- ตอนที่239ไม่ใช่เรื่องทุกเรื่องที่จะชดเชยกันได้
ตอนที่239ไม่ใช่เรื่องทุกเรื่องที่จะชดเชยกันได้
นาราพยักหน้า“ ใช่ ฉันกับคณพศมีความแตกต่างกันทางความคิดมาก
เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ที่สำคัญที่ผ่านมาพี่ลั่วเขาได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อฉัน…..“
“ความซาบซึ้งใจกับความรักมันต่างกันนะ ”ไลลาพูดออกมาโดยทันที
“นารา เธอไม่ควรเอาความซาบซึ้งใจมาเป็นความรักนะ ความรักคือการอยู่ด้วยกันจนวันสุดท้าย โรแมนติกมากเลยนะ”
นาราเงียบไปสักพัก ฉันไม่ได้รู้สึกว่า ระหว่างฉันกับคณพศเป็นความรักนะ
แค่เป็นผลพลอยของความอยากเอาชนะของเขา ถ้าเขาปล่อยวางตั้งแต่แรก เรื่องก็จะไม่เป็นแบบนี้
ฟังนาราพูดจบ ไลลาและผิงผิงก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เรื่องของความรู้สึก ก็เหมือนดังการเลือกรองเท้าที่เหมาะกับตัวเอง
รองเท้าใหญ่หรือเล็กไป มีแต่ตัวเราเองที่รู้ดีที่สุด คนรอบข้างเราอาจไม่รู้ดีเท่ากับตัวเราเอง
ความสัมพันธ์ระหว่างนารา คณพศ มิรา คนนอกอย่างไลลาละผิงผิง
ไม่รู้จะออกความคิดเห็นอย่างไร
“นาราไม่ว่าเธอจะเลือกใคร พวกเราขออวยพรให้เธอสมหวังและมีความสุขนะ”
ผิงผิงอวยพรนารา
ไลลาได้พยักหน้า “ใช่ ไม่ว่าใครจะเป็นคนที่แต่งงานกับเธอ ผู้ชายคนนั้นจะต้องเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกเลย
คนที่รักเธอหัวปักหัวปำอย่างเคลลี่ลั่ว ถ้ามีโอกาสฉันอยากจะไปรู้จักเขาหน่อย ดูว่าเขาจะดีกว่าคณพศล้านเท่าจริงมั้ย”
“ไม่มีปัญหา ถ้าฉันกลับไปที่ประเทศอังกฤษ ฉันจะพาเธอไปด้วย พาเธอไปชมปราสาทสไตล์ยุโรป
เธอชอบของแบบนี้ไม่ใช่หรอ ?“นาราตอบตกลงอย่างสบาย
ไลลาที่ได้ยินคำว่าปราสาทสไตล์ยุโรป “เธอก็ได้ตื่นเต้น นาราห้าปีที่ผ่านมาเธออยู่ที่นั่นตลอดเลยหรอ?
ดีมากเลย ถ้าให้ฉันไปอยู่ที่นั่นนะ ถึงจะขังฉัน ฉันก็ยอม”
นารารู้ว่าไลลาชอบปราสาทสไตล์อังกฤษมาก พยักหน้าโดยที่รู้ทันเธอ “รู้แล้วๆ ครั้งหน้าฉันจะพาเธอไป
ฉันจะถามพี่ลั่วด้วยว่าปราสาทเขามีคุกใต้ดินมั้ย เธอจะได้ถูกขังได้สมใจ”
“ฮึ่ม” ไลลาไม่ชอบการกระทำของนาราและทำหน้าที่เย่อหยิ่ง
“ฉันเป็นนางฟ้าน้อยนะ ฉันควรจะนอนที่ห้องของเจ้าหญิงไม่ใช่นอนในคุกใต้ดิน”
ผิงผิงก็ได้หัวเราะและบอกว่า “ใช่ๆ เธอเป็นนางฟ้าน้อยนะ แต่เป็นนางฟ้าน้อยที่ไม่มีปีกนะ”
“พวกเธอสามวันไม่ได้ทะเลาะกัน รู้สึกขันไม้ขันมือใช่มั้ย?“ ไลลาพูดไปได้เอามือไปจั๊กจี้ผิงผิงจนเธอทนไม่ไหว
ผิงผิงก็ได้ชูมือยอมแพ้ ฉันยอมรับว่าเป็นนางฟ้าแล้ว เธอควรที่จะอยู่ที่ปราสาทในห้องของเจ้าหญิง
แบบนี้พอใจหรือยัง?
“ฮึ่ม แบบนี้ถึงจะโอเค ฉันจะไม่ถือโทษเธอ เธอไปได้แล้ว!“
หลังจากที่สามคนทะเลาะกันแล้ว ไลลาและผิงผิงก็ได้ขอกลับไปก่อน โดยที่ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย
ทั้งสามคนทะเลาะจนมั่วไปหมด บรรยากาศที่ครึกครื้นทำให้ความรู้สึกพัวพันและเศร้าใจในใจของนาราลดลง
นาราได้สงทั้งสองคนถึงที่หน้าบ้าน พวกเธอต้องมาที่บ้านฉันทุกวันนะ ไม่งั้นฉันจะปล่อยพวกเธอไปแน่
นาราที่ได้ส่งไลลาและผิงผิงที่หน้าบ้านแล้ว เห็นเงาร่างของพวกเธอหายไป เธอถึงหันหลังกลับเข้าบ้าน
นาราที่ยังไม่ได้ตั้งตัว โดยมิราจกระโดดใส่อย่างแรง “คุณแม่ เล่นเป็นเพื่อนหนูหน่อย”
“ได้ๆๆ แม่จะเล่นเป็นเพื่อน บอกมา ลูกจะเล่นอะไรค่ะ?“ ด้วยความที่นาราได้เจอเพื่อนเก่าทำให้นาราอารมณ์ที่ดีมาก
มิราที่มาขอเล่นด้วยนาราจึงได้ตอบรับอย่างไม่ต้องคิด
“แม่ เรามาเล่นซ่อนหากันดีมั้ย ?ถ้าใครแพ้จะต้องโดนจั๊กจี้ คุณพ่อก็มาเล่นด้วย” มิราก็ได้ไปดึงคณพศที่กำลังอ่านหนังสือพิมนั้นมาเล่นด้วย
คณพศที่กำลังคิดเปลี่ยนวิธีที่จะอยู่ร่วมกันกับนาราและ
มิราที่ไม่รู้เด็กไม่รู้ผู้ใหญ่นั้นได้คิดวิธีที่ดีแบบนี้ออกมา
เธอได้แอบชูนิ้วโป้งให้มิรา มิราสมควรที่จะเกิดมาเป็นลูกพ่อจริงๆ!
มิราได้เงยหน้าอย่างได้ใจ เดินผ่านคณพศไปอยู่ที่ข้างๆนาราและบอกว่า
“แม่ หนูซ่อนก่อนนะ แม่กับคุณพ่อหาหนูก่อน ถ้าหาไม่เจอ จะถูกลงโทษนะ”
นาราได้มองไปที่คณพศอย่างเขินอาย แต่เธอได้รับปากกับมิราไว้แล้ว
จะกลับคำภายหลังไม่ได้ เธอได้พยักหน้าอย่างไม่เต็มใน
“ได้เลย แต่แม่ไม่ได้เล่นเกมนี้มานานแล้ว มันเล่นอย่างไงหรอ?“
มิราได้ทำท่าทางเพื่ออธิบายให้กับนารา “คุณแม่กับคุณพ่อต้องหันหลังเข้าที่กำแพง
และนับหนึ่งถึงห้าสิบ แล้วก็มาหามิราได้เลย ห้ามแอบมองนะ”
พูดจบ มิราก็ได้เดินย่องเบาๆออกไปจากห้องรับแขก และสั่งให้คนรับใช้ที่อยู่หน้าประตูออกไปด้วย
ก่อนที่จะไปแอบ มิราได้มองไปที่คณพศ คุณพ่อหนูได้หาโอกาส
ให้คุณพ่อได้จัดการกับคุณแม่ให้สำเร็จ แต่ถ้าไม่สำเร็จคุณพ่อก็คือคนโง่! สู้ๆนะ!
แต่คณพศไม่เห็นสายตาที่มิราส่งให้เขา เช่นเดียวกันเขาก็ไม่เห็นแววตาที่มิราเชียร์เขา
เช่นเดียวกับนาราที่ไม่เห็นเหมือนกัน
นาราได้นับในใจ นับถึงห้าสิบเธอก็ได้หันตัวกลับไป เตรียมตัวเพื่อที่จะไปหามิรา
เธอที่ได้หันไป ได้เข้าไปชนคณพศและอยู่ในอ้อมกอดของเขา
นารารู้สึกเขินนิดหน่อย เธอตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก พยายามที่จะดิ้นออกมาจากอ้อมกอดของคณพศ
คณพศเห็นนาราที่ตกใจหัวใจทั้งดวงของเขาเธอก็สลาย “นาราเธอรังเกียจฉันมากเลยหรอ?“
นาราเห็นใบหน้าที่เสียใจของคณพศ นาราก็ได้ใจอ่อนและบอกว่า “มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ”
“แล้วมันหมายความว่าอะไร ”นารา เราเป็นสามีภรรยากันนะ เหมือนที่เขาพูดไว้ว่าถ้าแต่งงานเป็นสามีภรรยากันแล้ว ก็จะมีบุญคุณต่อกัน
เธอจะไม่ให้โอกาสฉันแก่ตัวเลยหรอ?
เจอคำถามแบบนี้ นาราเลยเหนื่อยที่จะตอบและอธิบาย เพราะเธอเคยบอกคณพศหลายครั้งแล้ว
เธอกับคณพศกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว แต่เขาไม่เคยที่จะฟัง
“คณพศ นายเคยได้ยินคำว่าน้ำที่ไหลไปแล้วจะไม่ย้อนกลับมามั้ย?” ไม่ใช้ทุกเรื่องที่จะชดเชยกันได้
เอาละ หลีกทางหน่อยฉันจะไปตามหามิรา พูดจบนาราก็ได้เดินอ้อมคณพศไปหามิรา
คณพศทำได้เพียงแค่มองนาราเดินผ่านไป คณพศได้กำหมัดของตัวเอง
ผู้หญิงคนนี้ที่เขารักเข้ากระดูก เอาชนะเขาได้โดยง่ายทุกครั้ง ดูแล้วการจะคืนดีกับนารายังมีหนทางที่ยาวไกล!
คนอย่างคณพศสามารถคลองได้ทั้งโลก แต่ทำไมจะเข้าไปอยู่ในใจของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้!
เขาไม่ยินยอม!
และวันนี้ก็ได้ผ่านไปอย่างเอ้อระเหยโดยที่สามพ่อแม่ลูกทำกิจกรรมร่วมกัน
เมื่อถึงตอนค่ำ กินข้าวเสร็จ นาราที่กลัวจะเจอคณพศ ได้รีบพามิราขึ้นขั้นสองไป
มิราที่ได้เปลี่ยนชุดนอนตั้งแต่แรกแล้วนั้น ก็ได้ไปนอนอยู่ข้างๆนาราเอามือที่เล็กและนุ่มของเขาไปวางไว้ที่คอของนารา
แล้วถามเบาๆว่า “แม่ ไม่ชอบคุณพ่อใช่มั้ย?”
นารารู้สึกอึ้ง ไม่คิดว่ามิราที่อายุห้าขวบจะมีความรู้สึกไวขนาดนี้
นาราได้ช่วยจัดผมให้กับมิราและตอบอย่างอ่อนโยนว่า
“ไม่เลย ทำไมลูกถึงถามแบบนี้ละ?”